ผศ.ดร.โอปอล์ สุวรรณเมฆ กับแนวคิดเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ที่ตอบโจทย์ Disruptive Education

June 05, 2019 8367

หลักสูตร “Made to Order” ของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คณะการบริหารและจัดการ สจล. เน้นการเรียน การสอนวิชาเศรษฐศาสตร์เชิงประยุกต์ ให้นักศึกษาเก่ง ทั้งวิชาการและการใช้เครื่องมือเศรษฐศาสตร์รวมถึงการสร้างความพร้อมในการทำงาน ทั้งเรื่องวิชาการและความแข็งแรงในวิชาชีวิต เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมธุรกิจและการแข่งขันในโลกการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

ผศ. ดร. โอปอล์ สุวรรณเมฆ หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คณะการบริหารและจัดการ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร MBA ถึง หลักสูตรการเรียนการสอนของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ของสจล. ที่รองรับกับยุค Disruptive Education ว่า จากจุดเด่นของการแบ่งวิชา

เศรษฐศาสตร์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มวิชา คือ

  1. เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
  2. เศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
  3. เศรษฐศาสตร์ธุรกิจเกษตรและอาหาร

ซึ่งมีข้อดีที่ว่า นักศึกษาสามารถเลือกวิชาที่สนใจได้ตามที่ต้องการ เพราะไม่ได้กำหนดวิชาเป็นเมเจอร์ ซึ่งจะเป็นการจำกัดกรอบจนเกินไป และเห็นว่าการเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสวงหาความรู้อื่น ๆ มาเสริมได้ รวมไปถึงการเพิ่มพูนความรู้จากคอร์สอบรมอื่น ๆ นั้น จะช่วยเพิ่มศักยภาพในเส้นทางการเดินไปในอนาคตของนักศึกษาได้อย่างดี

ในปัจจุบันเรามีการออกแบบหลักสูตร โดยทำงานกับภาคธุรกิจที่ร่วมกันคิดโจทย์ออกมาเป็นหลักสูตร “Made to Order” ซึ่งจะทำให้นักศึกษาที่จบออกมามีความรู้ความสามารถตรงตามความต้องการของธุรกิจและเป็นผู้ประกอบการที่มีเหตุผล นอกจากนี้ยังมีการไป Plug in กับประชาคมภายนอกทั้งวิสาหกิจชุมชน ภาคเอกชนต่าง ๆ และยังขยายวงกว้างไปถึงความร่วมมือกับต่างประเทศ

ผศ. ดร. โอปอล์ ย้ำถึงอีกจุดเด่นที่สำคัญมากของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คือ การเรียนที่ไม่เน้นแต่เพียงทฤษฎีเหมือนที่อื่น แต่เป็นเศรษฐศาสตร์ที่อาศัยเครื่องมือมาใช้ในการบริหารจัดการ ตั้งแต่ระดับบุคคลขึ้นไป และยังสามารถนำมาประยุกต์เป็นหลักการทำงาน เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมมหภาค หรือแม้แต่การแข่งขันภายนอกที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

เพราะการเป็นนักเศรษฐศาสตร์เชิงประยุกต์ด้านเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการนั้น ในฐานะของคนที่สนับสนุนนโยบายหรือกลยุทธ์ขององค์การธุรกิจ จะมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เกิดการตัดสินใจอย่างเหมาะสม สามารถแนะนำธุรกิจให้ปรับตัวได้ ซึ่งการปรับตัวที่ว่านั้นจะรู้ได้จากสัญญาณที่มาการตัดสินใจอย่างเหมาะสม ซึ่งการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ จะเป็นส่วนสนับสนุนให้ได้คำตอบที่ชัดเจน สามารถวัดผลได้ ทำให้เตรียมความพร้อมเพื่อการปรับตัวทางธุรกิจที่จำเป็นได้

สำหรับการบ่มเพาะความรู้ความสามารถของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ คณะการบริหารและจัดการ สจล.นั้น ที่นี่จะสร้างความพร้อมในการทำงาน ทั้งเรื่องวิชาการ รวมถึงการดึงศักยภาพเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ที่มีอยู่แล้วมาใช้ เช่น การดูอัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) การพยากรณ์ (Forecasting) โดยใช้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมหภาคมาใช้ หรือการประยุกต์คณิตศาสตร์เข้ามาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจข้อมูลต่าง ๆ นอกเหนือจากการสร้างความแข็งแรงในวิชาชีวิต และยังด้านความคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี ตัวเลข และสถิติต่าง ๆ ซึ่งเมื่อมีโจทย์หรือปัญหา หรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติเกิดขึ้นมา นักศึกษาจะรู้ถึงวิธีการจัดการอย่างไรกับตนเอง และกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ เพื่อที่จะวางแผนกำหนดทิศทางในการรับมืออย่างไรต่อไป

เมื่อนำมาผสานกับจุดแข็งของสจล. ในความเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเข้มแข็ง ในสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความร่วมมือจากรุ่นพี่ในภาคอุตสาหกรรมมาช่วยรุ่นน้อง และยังมีกลุ่มความร่วมมือจากต่างประเทศ ซึ่งมีที่มาจากการแนะนำในเครือข่ายของคณาจารย์ จากการประชุมวิชาการ เป็นต้น

ในด้านการตั้งเป้าหมายของภาควิชาเศรษฐศาสตร์เชิงประยุกต์ ซึ่งในวาระที่ ผศ.ดร.โอปอล์ เข้ามารับตำแหน่งใหม่นั้น จะมุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนาและการเติบโต ที่เป็นไปตามนโยบายหลักของ ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดีคณะการบริหารและจัดการ ที่ต้องการไปให้ถึงเป้าหมายใหม่ ๆ เช่น การสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและอุตสาหกรรม การพัฒนาความร่วมมือกันเพื่อก้าวไปสู่ระดับนานาชาติมากขึ้น

ดังนั้นสิ่งที่ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เชิงประยุกต์ จะปฏิบัติเพื่อตอบสนองนโยบาย ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นหลักการที่ทำอยู่ เช่น การปรับหลักสูตร การทำหลักสูตรเป็น Module การทำสหกิจศึกษาร่วมกับเครือข่ายภายนอกในกลุ่มต่าง ๆ โดยนำโจทย์จากภาคธุรกิจมาช่วยแก้ปัญหา ร่วมกันระหว่างนักศึกษา อาจารย์ และพี่เลี้ยง นอกจากนี้การสนับสนุนความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่าย และมีการพึ่งพากันที่แข็งแรงต่อไป

แรงบันดาลใจในการทำงานด้านวิชาการ

ผศ. ดร. โอปอล์ บอกว่า ในชีวิตของอาจารย์ ไม่ได้มีแต่เฉพาะงานวิชาการเท่านั้น เราต้องเป็นตัวอย่างให้กับนักศึกษาและลูกศิษย์อีกหลายคนที่จะเติบโต เราจึงต้องมีทางเลือกให้เขามาก ๆ ภาควิชาเองก็ควรมีทางเลือกให้มากกว่าการเรียนแต่ในห้องเรียน คนที่อยากท้าทายตัวเอง ไปรับโจทย์จากภาคอุตสาหกรรมมา หรือจะไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ นี่เป็นตัวอย่างในการเพิ่มช่องทาง ทางเลือกที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาเพิ่มพูนความรู้ ในขณะเดียวกันก็สร้างให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และมีความพร้อมในการอยู่กับสังคมที่เป็นดิจิทัลในทุกวันนี้ ซึ่งจำเป็นต้องมีทั้ง 2 Skills คือ วิชาชีพ และวิชาชีวิตที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย

ดังนั้นการเป็นอาจารย์ จึงไม่ใช่แค่งานวิชาการ การเรียนการสอน งานวิจัยของอาจารย์เท่านั้น แต่เราเป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้ของเด็กทั้งหมด สิ่งที่อยากฝากก็คือ น้อง ๆ นักศึกษาไม่ได้มาแค่เรื่องของวิชาการ แต่น้อง ๆ ต้องเข้ามาฝึกทักษะการมีชีวิตของตนเอง และทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นด้วย ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคณะหรือภาควิชาใดของสถาบัน เรามีจุดร่วมกัน คือปั้น “คนดี คนเก่ง” สู่สังคม นอกจากนั้นอยากให้สนใจเศรษฐศาสตร์ประยุกต์มากขึ้น เพราะเป็นศาสตร์ที่มีอยู่รอบตัวเรา แล้วจะเห็นความสนุกของเศรษฐศาสตร์ที่มี รวมทั้งยังมีโอกาสในการทำงานและการเรียนต่อที่กว้างขวางขึ้นด้วย


เรื่อง : ชนิตา งามเหมือน    

ภาพ : ฐิติชญาน์ แปลงกูล

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Friday, 08 July 2022 07:23
X

Right Click

No right click