×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 7637

การปลูกฝังและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ทำความรู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญและเป็นรากฐานที่ดีให้พวกเขาได้ค้นหาและรู้จักตัวเอง ตลอดจนเตรียมตัวใฝ่หาทักษะความรู้ที่จำเป็นจากทั้งในและนอกห้องเรียน เพื่อให้พร้อมต่อการมุ่งสู่อาชีพที่ใช่และเหมาะสมกับตนเองต่อไป โครงการสนับสนุนการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Banpu Education for Sustainability หรือ BES) ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2547 โดย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก จึงสานต่อ กิจกรรม Career Dayเปิดโลกอาชีพ ปูเส้นทางสู่อนาคต ในปีที่ 2 สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4 ของโรงเรียน 6 แห่งทางภาคเหนืออันเป็นพื้นที่ที่บ้านปูฯ เคยดำเนินธุรกิจ ได้แก่ โรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม และโรงเรียนบ้านสระ จังหวัดพะเยา โรงเรียนสบปราบพิทยาคม โรงเรียนแม่ทะพัฒนศึกษา และโรงเรียนแม่ทะวิทยา จังหวัดลำปาง โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา จังหวัดลำพูน รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน เพื่อแบ่งปันความรู้ในสาขาวิชาชีพต่างๆ และสร้างแรงบันดาลใจในการค้นพบตัวเองพร้อมกรุยทางสู่อาชีพที่ตรงใจ

นางอุดมลักษณ์ โอฬาร ผู้อำนวยการสายอาวุโส - องค์กรสัมพันธ์ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเลือกสายการเรียนต่อหรือการคิดฝันถึงอาชีพในอนาคตของเด็กๆ ที่ไม่ได้เล่าเรียนในเมืองใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ตัดสินใจไม่ง่ายเลย อาชีพใกล้ตัวหรือพบเห็นในท้องถิ่นเองก็ไม่หลากหลาย 
ถ้าลองไปถามเด็กว่าโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร อาชีพที่พวกเขาพอจะนึกออกได้ก็คือ ครู ทหาร หมอ เป็นต้น บ้านปูฯ จึงจัดกิจกรรม Career Day: เปิดโลกอาชีพ ปูเส้นทางสู่อนาคต เพื่อให้เขามีโอกาสได้รู้จักกับอาชีพที่มีอยู่มากมาย รวมไปถึงอาชีพใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของโลกในปัจจุบัน สำหรับกิจกรรมนี้จัดเป็นปีที่ 2 แล้ว ก็มีการปรับกิจกรรมหลายๆ ตัวเพื่อดึงดูดให้เด็กๆ เพลิดเพลินกับการค้นหาตัวเอง มีกิจกรรมที่น่าสนใจและสนุกสนานมากขึ้น พี่ต้นแบบอาชีพที่มาแบ่งปันประสบการณ์ก็มีถึง 10 อาชีพ ซึ่งหลากหลายและเข้มข้นน่าสนใจยิ่งขึ้น”

กิจกรรม Career Day: เปิดโลกอาชีพ ปูเส้นทางสู่อนาคต ปีที่ 2 ได้สร้างสรรค์กิจกรรมที่มีทั้งเนื้อหาและความสนุก เริ่มด้วยเกม ‘สร้างเมือง’ ซึ่งใช้พื้นที่สร้างเมืองจำลองขนาดย่อมขึ้นแล้วนำการ์ดเกมมาประกอบการเล่น เพื่อช่วยละลายพฤติกรรมพร้อมๆ กับเพิ่มพูนความรู้ในด้านทักษะและสายการเรียนที่จำเป็นสำหรับแต่ละอาชีพ กิจกรรมนี้ทำให้เด็กนักเรียนตื่นตัวกับอาชีพที่หลากหลาย มีคลังความรู้เรื่องอาชีพมากขึ้น ปูพื้นฐานสู่การค้นหาอาชีพที่เข้ากับตัวเอง และเลือกเข้าฟังแนะแนวอาชีพที่ตรงกับสายการเรียนและความถนัดของตัวเองที่สุด ก่อนเข้าสู่ช่วงกิจกรรมแนะแนวอาชีพที่ได้เชิญพี่ต้นแบบอาชีพ 10 คน 10 อาชีพ ซึ่งล้วนมีความสามารถและมีใจรักในอาชีพของตน มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ในวิชาชีพ แนวทางการทำงาน รวมถึงทักษะความรู้ความสามารถที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพอย่างเป็นกันเอง

แต่ละอาชีพต้นแบบที่นำมาแบ่งปันให้แก่เด็กๆ ผ่านการคัดสรรโดยคำนึงถึงความหลากหลายที่จะส่งเสริมให้เด็กๆ จากทั้ง 6 โรงเรียน เห็นโลกอาชีพที่กว้างขึ้น นอกจากอาชีพทั่วไปที่เด็กรู้จักและให้ความสนใจ อาทิ พยาบาล แล้ว บ้านปูฯ ยังเฟ้นหาอาชีพที่อยู่นอกเหนือจากบทเรียน เช่น นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ นักกายภาพบำบัด และแพทย์แผนไทย เป็นต้น รวมถึงอาชีพแห่งศตวรรษ 21 ที่มาจากการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่อยอดกับความชอบหรือความถนัดจนเกิดเป็นอาชีพ ได้แก่ นักพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้า เกษตรกรยุคใหม่ และนักเขียนเชิงท่องเที่ยว โดยพี่ต้นแบบอาชีพได้นำเสนอเรื่องราวอาชีพของตนเพื่อให้เด็กๆ เข้าใจรายละเอียดการทำงานและคุณสมบัติที่จำเป็นของแต่ละอาชีพ อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนค้นหาอาชีพที่เกิดจากใจรัก ลงมือสานฝันตามเส้นทางอาชีพด้วยความสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จด้วย

นอกเหนือจากความรู้ด้านอาชีพแล้ว ทักษะชีวิตและระบบความคิดเชิงบวกคือสิ่งที่บ้านปูฯ ต้องการบ่มเพาะและปลูกฝัง เพื่อให้เด็กพร้อมเปิดรับ คิดวิเคราะห์ และตัดสินใจได้ด้วยตนเอง “ผมรู้สึกขอบคุณพี่ต้นแบบมากๆ ครับที่มาให้ความรู้ในวันนี้ เพราะช่วยเปลี่ยนความคิดของผมโดยสิ้นเชิง จากเดิมคิดว่าเกษตรกรเป็นอาชีพที่จน ต้องทำงานหนัก ตากแดดตัวดำ ไม่เคยคิดอยากจะทำเลย พอฟังพี่ต้นแบบเกษตรกรแล้วทำให้ผมคิดใหม่ว่าจริงๆ แล้วคนทำเกษตรก็หาเงินเยอะได้ ถ้าเรารู้จักนำภูมิปัญญาในท้องถิ่นมาใช้คู่กับความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ และเกษตรกรยังเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจอีกด้วย” นายศราวุธ อินมณี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา จ.ลำพูน เผยความรู้สึกหลังร่วมกิจกรรม

“บ้านปูฯ เชื่อในศักยภาพของคนและการสร้างคนโดยการให้โอกาสในการเรียนรู้ เพราะว่าความรู้จะอยู่ติดตัวของเรา การเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุดทั้งในห้องเรียน นอกห้องเรียน และทักษะชีวิตต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราก้าวทันตามโลกยุคใหม่และดูแลตัวเองได้ อันเป็นรากฐานที่ดีแก่ทั้งตัวเองและสังคม ดังความเชื่อของบ้านปูฯ ที่ว่า “พลังความรู้ คือ พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา” และแน่นอนว่าอนาคตนับจากนี้จะมีความรู้ใหม่ๆ รวมถึงอาชีพแปลกใหม่เกิดขึ้นอีกมากมาย บ้านปูฯ คาดหวังว่าเยาวชนยุคใหม่จะใฝ่รู้และพยายามขวนขวายหาข้อมูล เพื่อให้มีความรู้เพียงพอต่อการตัดสินใจ โดยเฉพาะการเลือกอาชีพที่ใช่ให้กับตนเอง” นางอุดมลักษณ์กล่าวปิดท้าย

X

Right Click

No right click