ธนาคารกรุงไทย เทศบาลนครระยอง และกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การวางแผนทางการเงิน เตรียมความพร้อมสู่วัยเกษียณ” โดยให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนที่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุ (อายุ 45 -59 ปี) ในประเด็นรู้ทันภัยการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ สนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถปรับตัวอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข ณ ห้องสมุดประชาชน เทศบาลนครระยอง

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยได้นำจุดแข็งในด้านความรู้ทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน ผ่านการดำเนินงานของสาขาในแต่ละพื้นที่ และการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยส่งมอบองค์ความรู้การเงินขั้นพื้นฐาน แนวทางการจัดการหนี้ การเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน รายรับรายจ่าย เพื่อปลูกฝังและวางรากฐานความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการเงินและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้จ่ายและป้องกันปัญหาภัยคุกคามทางการเงิน ตลอดจนส่งเสริมให้คนไทยเห็นความสำคัญเรื่องการออม และมีวินัยทางการเงิน อันจะส่งผลดีต่อภาพรวมในการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”

 

คุณคันฉัตร จุนาศัพท์ ผู้จัดการส่วนอาวุโส ฝ่ายธุรกิจธนาคาร 2 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณปรมา ลาภณรงค์ชัย ผู้จัดการสำนักงานเขต สำนักงานเขตปัตตานี ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดตัวบัตรอัตลักษณ์รูปมัสยิดกลางปัตตานี บัตรเดบิตกรุงไทย แคร์  ที่มอบสัญญาตะกาฟุลอุบัติเหตุส่วนบุคคล และ คุ้มครองภัยจากการถูกโจรกรรมเงินที่กดจากตู้ ATM โดยได้รับเกียรติจาก ท่านแวดือราแม มะมิงจิ  ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี  และ ท่านรอย๊ะ หวันโส๊ะ  อีหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี  ร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าว

พร้อมกันนี้ คุณกฤษฎา กิตติพรไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์ขยายงานการรับประกันภัยตะกาฟุล ได้มอบสัญญาตะกาฟุลอุบัติเหตุส่วนบุคคล ขยายภัยก่อการร้าย ให้แก่ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี  และ อีหม่ามประจำมัสยิดกลาง เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและ สร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ประกันภัยตะกาฟุลให้กับมุสลิมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี

ธนาคารกรุงไทยร่วมงาน BOT Bangkok Digital Finance Conference 2023 โชว์ศักยภาพการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ชูบริการ “PromptBiz” ตอบโจทย์การทำธุรกิจจนถึงซัพพลายเชน และ “เป๋าตัง” ซูเปอร์แอปฯ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นในทุกวัน

ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทันสมัยอย่างทั่วถึง ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นได้ในทุกวัน โดยธนาคารเข้าร่วมงาน BOT Bangkok Digital Finance Conference 2023 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Building Ecosystem for Responsible Innovation หรือ การพัฒนาระบบนิเวศการเงินดิจิทัลอย่างรับผิดชอบ ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2566 ที่ศูนย์การเรียนรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ภายในงาน ธนาคารตอกย้ำศักยภาพบริการทางการเงินดิจิทัลด้วยแนวคิด "Empower Infinite Innovation for All Thais" โดยนำเสนอบริการ “PromptBIZ” ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม Krungthai BUSINESS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการทำธุรกรรมการค้าและการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ในที่เดียว ช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน จัดการเอกสารการค้าได้ครบวงจร พร้อมจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมการทำรายการหักและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องออก 50 ทวิให้กับคู่ค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวก รวดเร็วภายใต้ต้นทุนที่เป็นธรรม

ธนาคารยังนำเสนอศักยภาพของ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซูเปอร์แอปฯ ที่ถูกพัฒนาเป็น Thailand Open Digital Platform เปิดกว้างให้ประชาชนทุกคนใช้บริการได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐ ผ่าน G-Wallet และปฏิวัติการลงทุนของประเทศ ทั้งการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ผ่านบริการ “วอลเล็ต สบม.” บริการซื้อขายหุ้นกู้ดิจิทัล บริการซื้อขายทองคำ ผ่าน “Gold Wallet” พร้อมบริการด้านสุขภาพ ผ่าน “Health Wallet” เชื่อมต่อกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ให้ประชาชนตรวจสอบและเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพ

นอกจากนี้ บริษัท อะไรส์ บาย อินฟินิธัส จำกัด (Arise by Infinitas) องค์กรสำหรับคนดิจิทัล ได้นำเสนอโอกาสสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาตนเอง ด้วย Program Talent Incubator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับคนไทยทั้งประเทศ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยให้คนไทยมีประสบการณ์การใช้บริการดิจิทัลที่ดี ภายใต้แนวคิด Make Digital Life Possible for ALL

ธนาคารกรุงไทย เปิดเกมรุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล เพิ่มช่องทางเข้าถึงสินเชื่อ “กรุงไทยใจป้ำ” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ช่วยคนไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้สะดวก รวดเร็ว

ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกกลุ่มให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง

ธนาคารกรุงไทย มีนโยบายรุกตลาดสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ที่ต้องการความเร็ว สะดวก และไม่ต้องเดินทางได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปี 2565 ธนาคารให้บริการสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT โมบายแบงกิ้งที่ให้บริการแบบครบวงจร และสามารถขยายบริการของธนาคารในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างก้าวกระโดด โดยได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มผู้มีรายได้ประจำ และผู้ประกอบการรายย่อย โดยปี 2566 ตั้งเป้าสินเชื่อดิจิทัล ประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้สะดวกยิ่งขึ้น ธนาคารจึงเพิ่มช่องทางการสมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน ด้วยการออกแบบขั้นตอนในแอปฯให้ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล และช่วยลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการทางการเงิน ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เป็นการตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Goals) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แก่ เป้าหมายส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่ มีผลิตภาพ และการมีงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน (Decent Work and Economic Growth) และเป้าหมายลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ (Reduced Inequalities)

สำหรับจุดเด่นของสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ คือ กู้ง่าย ไม่มีบัญชีเงินเดือนกับกรุงไทยก็กู้ได้ เพียงเปิดบัญชีออมทรัพย์ “เป๋ามีตัง” ผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยไม่มีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ อนุมัติไว ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน กรณีได้รับอนุมัติสินเชื่อ และกดยอมรับสินเชื่อในเวลาทำการของธนาคาร จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันที ได้เงินก้อน วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน และผ่อนสบาย เฉลี่ยหมื่นละ 10 บาทต่อวัน นานสูงสุด 60 เดือน สำหรับอัตราดอกเบี้ย บุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ อัตราดอกเบี้ย 20% ต่อปี ผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 22% ต่อปี ผู้สนใจสมัครสินเชื่อได้ที่ https://paotang.onelink.me/UDQF/cnpvp5sw หรือ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/link/jaipump-pr

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย และ นายสุเมธ ภิญโญสนิท ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP) พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์กรพันธมิตร ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง “โครงการร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการก๊าซเรือนกระจก ในรูปแบบแพลตฟอร์มจัดการก๊าซเรือนกระจกครบวงจรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ที่บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด (โรงงานข้าวนครหลวง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566

ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินเพื่อตอบโจทย์คนไทยทุกกลุ่ม และสนับสนุนการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เพื่อมุ่งสู่แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยแพลตฟอร์มจัดการก๊าซเรือนกระจกนี้ ธนาคารคาดหวังว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ มีต้นทุนที่เหมาะสม และมีกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยธนาคารและพันธมิตรจะร่วมกันศึกษาและพัฒนา แนวทางการดำเนินธุรกิจในด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กรอย่างครบวงจร เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยและสามารถนำมาใช้ได้จริง

นอกจากนี้ มีการเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านมาตรฐานการวัดค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการรับรองกิจกรรม ภายใต้การดำเนินการโครงการความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อให้เกิดกลไกการชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและสากล ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตของแต่ละองค์กร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ภายใต้มาตรฐานโครงการการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายหรือนโยบายที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในเป้าหมายที่ 13 (Climate Action) เรื่องการปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น

Page 1 of 11
X

Right Click

No right click