เอสซีจี โลจิสติกส์ ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Digital Driven Logistics เดินหน้าใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อาทิ Object Recognition, Robotic Process Automation (RPA) และ Chatbot ตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมขยายการให้บริการสู่ตลาดอาเซียน และจีน ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 22,000 ล้านบาท ในปี 2562 หรือเติบโตร้อยละ 12 พร้อมตอบโจทย์กลุ่ม SMEs มุ่งเป็น One Stop Logistics Solution อย่างครบวงจร ด้วยบริการ Fulfillment by SCG Logistics ที่ให้บริการจัดเก็บ บรรจุหีบห่อ และจัดส่งสินค้าทุกขนาด สามารถรับบริการผ่าน  www.scglogistics.co.th

นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัว เนื่องมาจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตของตลาด E-commerce ที่มีผู้ประกอบการรายใหม่จำนวนมากในตลาด ส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรงเช่นเดียวกัน โดยเอสซีจี โลจิสติกส์ มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.5 ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

จากปัจจัยดังกล่าว เอสซีจี โลจิสติกส์ในฐานะผู้นำด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์ ที่ให้บริการอย่างครบวงจร (End to End Service) มีความพร้อมก้าวสู่ธุรกิจในรูปแบบ Digital Driven Logistics ด้วยการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลที่นำสมัยมาใช้ในกระบวนการให้บริการตลอดทั้ง Supply Chain อาทิ Object Recognition, Robotic Process Automation (RPA), Chatbot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตลอดกระบวนการทำงาน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกิดความถูกต้อง รวดเร็ว และปลอดภัย อีกทั้ง ยังช่วยบริหารต้นทุนให้มีอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการให้บริการลูกค้าทั้งภายในและภายนอกเอสซีจี ทั้งในประเทศไทย อาเซียน และ จีน โดยในปี 2562 นี้ เอสซีจี โลจิสติกส์ ตั้งเป้าสร้างยอดขาย 22,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 12

สำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการบริการโลจิสติกส์ที่ เอสซีจี โลจิสติกส์ นำมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและบริการลูกค้าตลอดทั้ง Supply Chain เช่น เทคโนโลยี Robotic Process Automation  (RPA) หรือ ระบบการจัดการข้อมูลภายในคลังสินค้าที่ช่วยบันทึกข้อมูล เอกสารต่างๆ เพื่อความรวดเร็ว ถูกต้อง ตลอด 24 ชั่วโมง เทคโนโลยี Object Recognition หรือ ระบบตรวจจับและวิเคราะห์วัตถุ โดยระบบสามารถตรวจจับตัวเลขข้างรถเพื่อบันทึก และตรวจสอบความถูกต้องของรถขนส่ง เทคโนโลยี Route Optimization หรือ ระบบการจัดการเส้นทางการจัดส่ง เพื่อช่วยคำนวนเส้นทางที่รวดเร็ว และสามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และ Chatbot ที่สามารถโต้ตอบผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวก และสร้างความมั่นใจในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง ตรงตามเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ ด้วยการเติบโตของธุรกิจ E-commerce ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 3.2 ล้านล้านบาท และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) จำนวนมากในยุคดิจิทัล และมีความต้องการด้านการจัดการโลจิสติกส์ที่ครบวงจร เอสซีจี โลจิสติกส์ เห็นถึงโอกาสดังกล่าว จึงได้นำเสนอบริการ Fulfillment by SCG Logistics ในรูปแบบ One Stop Logistics Solution ช่วยผู้ประกอบการออนไลน์ให้เติบโต ด้วยบริการจัดการคลังจัดเก็บสินค้า บรรจุหีบห่อ และจัดส่งสินค้าทุกขนาด ตั้งแต่สินค้าขนาดเล็ก เช่น เครื่องสำอาง จนถึงสินค้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอรขนาดใหญ่ อีกทั้ง ยังมีบริการเสริม (Value Added Service) ที่ช่วยตอบสนองความต้องการพิเศษของลูกค้า ได้แก่ บริการบรรจุสินค้าตามความต้องการของลูกค้า (Customize) เช่น แนบการ์ด ผูกโบว์ ก่อนบริการจัดส่ง บริการ White Glove ส่งและติดตั้งสินค้ามูลค่าสูงที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ บริการ Reverse Logistics รับสินค้ากลับโรงงงาน หรือนำมาซ่อมเบื้องต้น รวมถึงบริการเสริม Data Analytic วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถตรวจเช็คสต็อคสินค้า และสถานะสินค้าได้จากระบบออนไลน์”

“โพลีเฮอร์บ” ยกทัพนักธุรกิจกว่า 1,000 คน เยี่ยมชมอาณาจักรคุ้มแสนสุข จ.เชียงราย พร้อมเผยผลประกอบการปี 2561 และทิศทางการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกของปี 2562 อีกทั้งยังได้เปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2562 ทำยอดขาย 1,000 ล้านบาท

นายทองเปลว ศิริพรพิทักษ์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท มิลลิเมด จำกัด และประธานที่ปรึกษา บริษัท โพลีเฮอร์บ เน็ตเวิร์ค จำกัด และ ดร.สุภัตรา แปงการิยา ประธานบริหาร บริษัท โพลีเฮอร์บ เน็ตเวอร์ค จำกัด ยกทัพนักธุรกิจกว่า 1,000 คนเยี่ยมชม “อาณาจักรคุ้มแสนสุข” บนพื้นที่ 2,500 ไร่ ณ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย

โดย โพลีเฮอร์บ เน็ตเวอร์ค ได้จัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อ "Poly Herb ร้อยใจพันดาว" เพื่อต้อนรับคณะผู้ร่วมงาน พร้อมเผยผลประกอบการปี 2561 และทิศทางการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกของปี 2562 ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ เตรียมรุกหนักด้วยการเปิดแผนกคอลเซ็นเตอร์รับมือสมาชิกที่เติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 รหัส คาดสิ้นปีนี้ทำได้ 100,000 รหัส วางแผนเปิดซุปเปอร์โมบาย 1 อำเภอ 1 ซุปเปอร์โมบาย ทำหน้าที่สาขาย่อย เริ่มปีนี้ 100 แห่งทั่วประเทศ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนฮาลาลขยายฐานกลุ่มมุสลิม รวมทั้งใช้การประชาสัมพันธ์ธุรกิจออกสู่วงกว้างมากขึ้น

โดยภายในงานมีการแสดง แสง สี เสียง การแสดงศิลปะล้านนาร่วมสมัยจากทัพนักแสดงกว่า 100 คน และการแสดงจากศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง “หญิงลี ศรีจุมพล” ที่มามอบความบันเทิง สร้างรอยยิ้ม อย่างสนุกสนาน ปิดท้ายด้วยกิจกรรมจับรายชื่อผู้โชคดี แจกรางวัลต่างๆ มากมาย

นอกจากนี้ โพลีเฮอร์บ เน็ตเวอร์ค ยังได้ทำการมอบลูกฟุตบอลจำนวน 200 ลูก แก่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เพื่อสนับสนุนกิจกรรมกีฬาของเยาวชนในจังหวัดเชียงราย โดยมี “โค้ชเอก เอกพล จันทะวงษ์ ทีมหมูป่าอคาเดมี่” เป็นตัวแทนในการรับมอบลูกฟุตบอล และในโอกาสเดียวกัน โพลีเฮอร์บ เน็ตเวอร์ค ได้มอบทุนสนับสนุนกิจกรรมมูลค่า 50,000 บาท แก่วงโยธวาทิต โรงเรียนอนุบาลเชียงของ จังหวัดเชียงราย อีกด้วย

โออิชิ อีทเทอเรียม” (OISHI EATERIUM) นิยามใหม่ของร้านอาหารญี่ปุ่น เอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่น คอซูชิ พร้อมเสิร์ฟเมนูพิเศษ!! 2 สุดยอดซูชิเนื้อวัว ที่โดดเด่นด้วยรสชาติเข้มข้นจาก ฮารามิ (Harami) หรือเนื้อพื้นท้อง...เนื้อนุ่ม มันน้อย สัมผัสรสชาติที่พาคุณเดินทางสู่ญี่ปุ่นผ่านซูชิหน้าใหม่ ๆ ทั้ง “นิกุสไปซี่ ซูชิ” (Niku Spicy Sushi) ข้าวปั้นหน้าเนื้อฮารามิผัดซอสพริกญี่ปุ่น และ “ทามาโกะนิกุ ซูชิ” (Tamago Niku Sushi) ข้าวปั้นหน้าเนื้อฮารามิผัดซอสยากินิกุ และไข่นกกระทา อร่อยได้ไม่อั้นที่ โออิชิ อีทเทอเรียม ทุกสาขา ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 – 31 มีนาคม 2562 เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกแฟนเพจโออิชิฟู้ดสเตชั่น: www.facebook.com/OishiFoodStation หรือค้นหาสาขาใกล้บ้านคลิกโออิชิฟู้ดดอทคอม: www.oishifood.com

ทีเอ็มบี หรือ ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวกลยุทธ์เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนไทยภายใต้ “TMB Strive MORE for You to Get MORE : ทีเอ็มบี พยายามมากกว่าเพื่อให้คุณได้มากกว่า”

โดยนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงการพยายามตั้งคำถามเพื่อค้าหาคำตอบที่ตรงใจ พัฒนาโซลูชั่นที่ดีกว่า ตั้งเป้าหมายให้เกิดการบริการที่ครอบคลุม ทำให้ที่ผ่านมา ทีเอ็มบี กลายเป็นสถาบันการเงินที่ก้าวหน้าเป็นผู้นำหลายๆ แนวคิดที่ช่วยขับเคลื่อนคนไทยให้เดินหน้าไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ทันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

10 ปีที่ผ่านมาโลกหมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกกว่าที่เคย นางณัฐวรรณ อภิรัตนพิมลชัย หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารกลุ่มลูกค้าบุคคลระดับกลาง ทีเอ็มบี กล่าวถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เข้ามาเป็นปัจจัยหลักส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทุกความต้องการต้องง่ายและตรงใจ ทีเอ็มบี จึงมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี (TMB All Free) ทีเอ็มบี ทัช (TMB Touch) และ ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port) เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มความคล่องตัวในการใช้ชีวิต ได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและสามารถสร้างความมั่งคงในระยะยาวให้ลูกค้าได้

ท่องเที่ยวปลอดภัยไร้กังวลกับ ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี (TMB All Free)

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคาร เผยถึงโซลูชั่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์นักเดินทาง ซึ่งบ่อยครั้งต้องปวดหัวกับการแลกเงิน ต้องพกเงินสดไปต่างประเทศจำนวนมากจนกังวลเพราะกลัวถูกโจรกรรม เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ยุ่งยากและทำให้เสียเวลา ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะ ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี (TMB All Free) บัตรเดียวสามารถพกไปใชจ่ายในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน 2.5% (FX Rate) เท่ากับว่ารูดเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น เพียงเดือนเดียวที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ก็ทำให้ยอดใช้จ่ายในต่างประเทศผ่านบัตรเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า มีการใช้จ่ายใน 117 ประเทศ จาก 166 สกุลเงินที่ให้บริการ และในวันที่ 6 มีนาคม 2562 ลูกค้าจะสามารถออกบัตร TMB All Free ที่มีชื่ออยู่บนบัตรหรือออกบัตรสำรองได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน มีการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายสูงสุดให้จุใจถึง 2 ล้านบาท และในช่วงตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2562 ลูกค้านักเดินทางจะได้รับความคุ้มครองจากการเดินทาง (Travel Insurance) ในวงเงิน 1,000,000 บาททันที นอกจากนี้ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันคุ้มครองวงเงินในบัญชีกรณีอุบัติเหตุให้กับลูกค้าที่มีบัญชีและบัตรเดบิต ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี ทุกคนกว่า 3 ล้านบัญชีโดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันใดๆ เพิ่มเติม

ลงทุนจัดพอร์ตง่ายกว่าที่คิดด้วย ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port)

นางกิดาการ ชัฎสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ทีเอ็มบี กล่าวถึงสถิติที่พบว่ามีคนไทยเพียง 1 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 70 ล้านคนที่มีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ ซึ่งถือเป็นอัตราที่น้อยมาก โดยสาเหตุที่ทำให้คนไทยมีเงินไม่เพียงพอเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ทีเอ็มบี จึงมองเห็นปัญหาในส่วนนี้และต้องการเข้ามาช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น สามารถสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นพาร์ทเนอร์จาก บจล.ระดับโลก มาคอยช่วยจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมมีประสิทธิภาพ ทีเอ็มบี สมาร์ท พอร์ต (TMB Smart Port) เป็นบริการด้านการลงทุนระดับ Private Wealth ที่จะมาช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการจัดพอร์ตได้มากขึ้น โดยมีความร่วมมือระหว่าง TMB และ Amundi บริษัทจัดการกองทุนระดับโลก ซึ่งจะมีการผสมผสานเทคโยโลยีเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทำให้ได้เป็น Total Solution ที่ช่วยจัดสรรการลงทุนให้สอดคล้องกับทุกสถานการณ์ตลาดโดยมีเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100,000 บาทเท่านั้น

โมบายล์แบงก์กิ้งแอปพลิเคชันเสริมประสบการณ์ให้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้นจาก ทีเอ็มบี ทัช (TMB Touch)

นายสหชัย ลิ้มอำไพ เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารช่องทางบริการดิจิทัล เผยถึงการพัฒนาการใช้บริการที่หลากหลาย เสริมประสบการณ์การใช้งานที่ดีและมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ทีเอ็มบี ทัช (TMB Touch) โดยถือเป็นแบงก์กิ้งแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูง มีการใช้ระบบ Bot เฝ้าระวังระบบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลาและแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาได้ทันที ตั้งเป้าเพิ่มความเร็วการใช้งานจาก 5 วินาทีเหลือเพียง 2 วินาที พร้อมกับความสามารถในการรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาในอนาคตได้มากถึง 3 เท่า ผ่านการออกแบบหน้าจอด้วยหลัก 3 ง่าย คือ รูปแบบเรียบง่าย หาเจอง่าย และใช้งานง่าย พ่วงมาด้วยบริการคะแนนสะสม ทีเอ็มบี ว้าว (TMB WOW) และรางวัลทรงเกียรติจากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย “TAB Digital Inclusive Awards” ที่เป็นเครื่องการันตีถึงความมุ่งมั่นที่ต้องการจะทำให้ผู้ใช้บริการทุกคนได้รับความสะดวกสบายจาก ทีเอ็มบี ทัช (TMB Touch)

ปิดท้ายงานด้วยการตอกย้ำปรัชญาของทีเอ็มบี Make THE Difference นายรูว์ ไฮซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย ทีเอ็มบี ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น โดยได้ศึกษาพฤติกรรมทางการเงินของคนไทยและพบว่าข้อมูลที่น่าสนใจว่า คนไทย 5 ใน 10 คนเท่านั้นที่มีเงินเพียงพอหลังเกษียณ 6 ใน 10 คนยังไม่มีกรรมธรรม์ประกันชีวิต และกว่า 9 ใน 10 คนยังไม่มีการลงทุนเพื่อให้งอกเงยใดๆ ทำให้เห็นว่าคนไทนยังขาดหลักประกันพื้นฐานของตัวเองและลูกค้าก็อาจจะยังไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เขาควรมี ดังนั้น ทีเอ็มบี ในฐานะสถาบันทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง จึงต้องการที่จะให้กลุ่มลูกค้าที่ยังไม่มีตัวช่วยทางการเงินเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยในปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ทีเอ็มบี ได้มอบดอกเบี้ยส่วนต่างที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไปให้ลูกค้ากว่า 2,400 ล้านบาท มอบความคุ้มครองผ่าน ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรีแล้ว 625,000 ล้านบาท และ ทีเอ็มบี ทัช ที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้มากถึง 12,500 ปี ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและทำให้ลูกค้าได้รับสวัสดิภาพทางการเงินอย่างมั่นคง

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายสุรชัย รัศมี (ที่ 2 จากขวา) รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เกษตรกรยุคใหม่ ก้าวไกลในตลาดโลก (Smart Farmer to Global)” ส่งเสริมความรู้แก่ผู้ประกอบการภาคการเกษตรด้านการส่งออกและกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงในการส่งออก พร้อมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพิ่มโอกาสขยายการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้

X

Right Click

No right click