นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา (ขวา) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พบปะหารือนายจอห์น รัทเทอร์ฟอร์ด (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายตลาดเงินภาครัฐ ธนาคาร แบงโค บิลเบา วิซคาญ่า อาร์เจนตาเรีย เอส.เอ. (บีบีวีเอ) หนึ่งในธนาคารระดับโลกที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน เกี่ยวกับแนวทางสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองธนาคาร รวมทั้งการแสวงหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ในงานสัมมนาสำหรับนักลงทุนและผู้ออกตราสารหนี้ภาครัฐ ครั้งที่ 8 จัดโดยบีบีวีเอ ณ เมืองปอร์โต โปรตุเกส เมื่อเร็วๆ นี้

เคทีซี ร่วมกับ ยูเนี่ยนเพย์ สร้างประสบการณ์สุดประทับใจกับทุกการใช้จ่ายในจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ยุโรป และทั่วโลก เปิดตัวบัตรเครดิต “เคทีซี ยูเนี่ยนเพย์” ครั้งแรกกับ 3 ประเภทบัตร: แพลทินัม / ไดมอนด์ และเอเชีย เพรสทีจ ไดมอนด์ คุ้มค่าด้วยสิทธิประโยชน์คะแนน KTC FOREVER สูงสุด 3 เท่า และรองรับการชำระเงินแบบ Contactless ที่ร้านค้าเครือข่ายยูเนี่ยนเพย์ทั่วโลก สมาชิกสมัครบัตรง่าย ไม่เสียค่าธรรมเนียม คาดสิ้นปีมีจำนวนสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เคทีซียึดแนวทางการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับเรื่อง Customer Experience เป็นหลัก โดยระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ใช้จ่ายผ่านบัตรในจีน ฮ่องกง  มาเก๊า และไต้หวัน ไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เคทีซีก็ได้รับทราบถึงความไม่สะดวกสบายในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มประเทศจีน จึงเป็นที่มาของการจับมือกันระหว่างเคทีซี และยูเนี่ยนเพย์ ผู้นำด้านเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก  เปิดตัว “บัตรเครดิตเคทีซี     ยูเนี่ยนเพย์” เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สุดประทับใจให้กับสมาชิกเคทีซีที่เดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศจีน ยุโรป และทั่วโลก ด้วย 3 ประเภทบัตรเครดิต ประกอบด้วย บัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ แพลทินัม (สำหรับผู้ที่มีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป) บัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ไดมอนด์ (รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป) และบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ เอเชีย เพรสทีจ ไดมอนด์ (ได้รับเชิญเท่านั้น) โดยหน้าบัตรเครดิตทั้ง 3 ประเภทได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างบนพื้นฐานของความเป็นจีนสากลที่งดงาม

สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ จะได้รับสิทธิพิเศษสูงสุด x3 คะแนน KTC FOREVER ตามรายละเอียดดังนี้

  1. รับ x2 คะแนน KTC FOREVER เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ แพลทินัม เป็นสกุลเงินท้องถิ่นที่จีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน (CNY/HKD/MOP/TWD)
  2. รับ x2 คะแนน KTC FOREVER เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ไดมอนด์ เป็นเงินสกุลต่างประเทศทั่วโลก
  3. รับ x2 คะแนน KTC FOREVER เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ เอเชีย      เพรสทีจ ไดมอนด์ เป็นเงินสกุลต่างประเทศทั่วโลก และรับ x3 คะแนน KTC FOREVER เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ประเทศไทยในหมวดร้านอาหาร ช้อปปิ้ง และ/หรือท่องเที่ยวครบทุก 600,000 บาท
  • ส่วนลด และสิทธิพิเศษจากร้านอาหารชื่อดังกว่า 100 ร้านค้าทั่วประเทศไทย เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นเซน (Zen) ระหว่างวันที่1 มิถุนายน 2562 – 30 กันยายน 2562 /  ร้านไมเซน (Maisen) / ร้านอาหารเอส แอนด์ พี (S&P) และร้านวานิลลา (Vanilla Restaurant) เป็นต้น ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 – 30 พฤศจิกายน 2562

นายเหวินฮุ่ย หยาง ผู้จัดการทั่วไป ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับยูเนี่ยนเพย์ เรามุ่งมั่นที่จะมอบสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของแคมเปญการตลาด การเป็นสปอนเซอร์กิจกรรมที่น่าสนใจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การร่วมมือกับเคทีซีในครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญของ ยูเนี่ยนเพย์ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ยูเนี่ยนเพย์เปิดตัวบัตรเครดิต 3 ประเภทพร้อมกันในประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น บัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ยังรองรับวิธีการชำระเงินที่ครอบคลุมตั้งแต่การชำระเงินออนไลน์ไปจนถึงการชำระเงินแบบ Contactless ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความตั้งใจของเราในการสร้างความผูกพันกับกลุ่มผู้บริโภคไทยที่กว้างยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย”

“การเปิดตัวครั้งนี้ยังนับเป็นครั้งแรกที่ผู้บริโภคไทยจะได้สัมผัสกับสิทธิประโยชน์เหนือระดับของ 2 ประเภทบัตรระดับพรีเมี่ยมของยูเนี่ยนเพย์ คือ บัตรเอเชีย เพรสทีจ ไดมอนด์ และบัตรไดมอนด์ โดยสมาชิกสามารถรับสิทธิพิเศษของยูเนี่ยนเพย์กว่า 1,000 รายการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึง U Collection ซึ่งรวบรวมสิทธิประโยชน์และส่วนลดบริการไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟทั่วโลก ครอบคลุมทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดัง และร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ นอกจากนี้ บัตรเครดิตทั้ง 3 ประเภทยังจะช่วยให้ผู้บริโภคไทยสามารถใช้จ่ายอย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยได้ที่ร้านค้ากว่า 55 ล้านแห่งในเครือข่ายของยูเนี่ยนเพย์ รวมถึงการทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม 3 ล้านเครื่อง ใน 174 ประเทศและเขตการปกครองอีกด้วย”

“ยูเนี่ยนเพย์ มุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินที่ทันสมัย และร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาด เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายฐานผู้ถือบัตรเครดิต และยอดการใช้จ่ายของลูกค้าไทย”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 เว็บไซต์ www.ktc.co.th หรือสมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่: http://bit.ly/2FnvYSj #สุขไม่จำกัด กับบัตรเคทีซี

ศาสตราจารย์.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผย ภายหลังรับรางวัลนักวิจัยผู้ได้รับรางวัลวิจัยเด่น ด้านพาณิชย์ ประจำปี 2561จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จากผลงาน "ไก่ 3 Low อาหารคุณภาพ เกาต์กินได้" ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนกว่า 13 องค์กร ว่า งานวิจัยดังกล่าว เริ่มต้นจากปัญหาสุขภาพที่พบว่าคนทั่วโลกมีอัตรการป่วยเป็นเกาต์เพิ่มมากขึ้น ปัญหาการวิจัย คือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคทานเนื้อไก่โดยลดอาการเกาต์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใต้การสนับสนุนทุนจาก สกสว. จึงได้พัฒนาไก่สายพันธุ์ KKU ONE ผสมสายพันธุ์ระหว่าง ไก่พื้นเมือง (เนื้อเหนียว) กับไก่ทางการค้า (เนื้อหยุ่ย) ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มแน่นกำลังดีเพราะมีจำนวนและขนาดของกล้ามเนื้ออยู่ระหว่างไก่เนื้อทางการค้าและไก่พื้นเมือง ทั้งนี้เมื่อใช้เครื่องมือแสงซินโครตรอน ที่สามารถบ่งชี้ปริมาณสารพิวรีน ซึ่งสัมพันธ์กับกรดยูริค อันเป็นสาเหตุการเกิดโรคเกาต์ในมนุษย์

จากผลการวิจัยพบว่า ไก่สายพันธ์ KKU ONE พบปริมาณกรดยูริคต่ำกว่าไก่เนื้อทางการค้าที่เลี้ยงในโรงเรือนปรับอากาศ เนื่องจากอาหารของไก่เนื้อมีสารพิวรีนสูง ในขณะเดียวกันพบว่า สายพันธุ์ KKU ONE พบไขมันในช่องท้องต่ำ และมีโปรตีนชนิดย่อยง่ายสูง มีปริมาณคอเลสเตอรอลต่ำกว่าไก่ทางการค้าลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ฉะนั้นด้วยคุณสมบัติของการผสมสายพันธุ์ระหว่างไก่เนื้อกับไก่พื้นเมือง จึงได้สายพันธุ์ไก่ที่ตอบทุกโจทย์ปัญหาสุขภาพ นำไปสู่การขับเคลื่อนตลาดเชิงพาณิชย์ " KKU ONE เหมาะเป็นอาหารผู้สูงวัย นักกีฬา ซึ่งปัจจุบันโลกก็ก้าวสู่สังคมสูงวัยและผู้รักสุขภาพ ปัจจุบันมีการขยายไก่พันธุ์ KKU ONE ให้แก่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่วนในประเทศได้ทำข้อตกลง เป็นไก่ประชารัฐ ตลาดร้านอาหารตำมั่วขึ้นห้าง ฟู้ดแลนด์ สร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยประชารัฐส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่นกว่า20อำเภอให้เลี้ยง และประชารัฐรับซื้อ เกษตรกรจะได้ 20 บาทต่อกิโลกรัม การันตีรายได้ขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท ต่อเดือน โดยใช้เวลา เลี้ยงเพียง 35 วัน โดยไม่ต้องมีโรงเรือนปรับอากาศ ประชารัฐจะหักต้นทุนค่าอาหาร และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเกษตรกร ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีเกษตรกรขาดทุน แต่กำลังการเลี้ยงไม่ทันต่อความต้องการของตลาด ซึ่งต้องการ 5 พันตัวต่อสัปดาห์

ศาสตราจารย์.ดร.มนต์ชัย กล่าวด้วยว่า หากสามารถขยายพันธุ์ไก่ ตอบสนองต่อตลาด ทั้งภายในและนอกประเทศใน 5 ปี ซี่งมีความต้องการ 5 ล้านตัว หรือราว 200 ล้านบาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจชาติได้อย่างดี ทั้งนี้ยืนยันว่าสายพันธุ์ไก่พันธุ์ต้นแบบถูกเพาะเลี้ยงสายพันธุ์แท้จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างไรก็ตามกรดยูริคนั้น ควบคุมด้วยสายพันธุ์มากกว่าอาหาร โดยมีแนวโน้มจะพัฒนาสายพันธุ์ทำให้ยูริคในไก่ต่ำกว่านี้ในอนาคต นำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพ และขับเคลื่อนชาติด้วยวิจัยและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ต่อไป

พฤกษาผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย คว้ารางวัล “BCI Asia Top 10 Developer Awards” ในงาน BCI Asia Awards 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดยมีเกณฑ์การพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาพรวมของโครงการ แนวคิดการออกแบบโครงการที่โดดเด่น และความคุ้มค่าของโครงการ ซึ่งในปีนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษาได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ เดอะรีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์, แชปเตอร์ วัน โฟลว์ บางโพ และพลัมคอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์

โดย นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท - พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนของบริษัทฯ เข้ารับมอบรางวัลจาก BCI Asia ซึ่งเป็นศูนย์กลางข้อมูลธุรกิจก่อสร้างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และ FuturArc Journal รางวัลนี้ถือเป็นเครื่องการันตีด้านการใส่ใจคุณภาพการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของพฤกษามาอย่างต่อเนื่อง

บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผนึกความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน Smart SME EXPO 2019 ภายใต้แนวคิด "ชี้ช่องรวย ที่เดียวจบพบทางรวย" รวบรวมไฮไลท์ 5 โซนธุรกิจเด่น ทั้งแฟรนไชส์ธุรกิจน่าลงทุน  ความงามและสุขภาพ ร้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อดัง  นวัตกรรมเทคโนโลยี  และการเงิน  ที่ยกทัพแบบจัดเต็มกับแคมเปญพิเศษ พร้อมกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังยกขบวนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารกว่า 10 แห่ง เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีให้เติบโตและต่อยอดได้  คาดเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และมีความต้องการสินเชื่อ SMEs ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

 

ดร.อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงโลกยุคดิจิทัลซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเอสเอ็มอีว่า “ขณะนี้โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม เอสเอ็มอีไทยจึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน 1 ก้าวเข้าสู่เวทีการค้าในโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง ขอชื่นชมผู้จัดงาน Smart SME EXPO 2019 ในครั้งนี้ ที่ได้บุกเบิก ก่อตั้ง สานต่อ และผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยได้มีเวทีเป็นของตัวเอง และยังเป็นตัวกลางเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานพันธมิตร นำโซลูชั่นดี ๆ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ดังคอนเซปท์ที่ผู้จัดงานนำมาใช้ในปีนี้คือ รวมสุดยอดธุรกิจแห่งปี ภายใต้แนวคิด “ที่เดียวจบพบทางรวย”  ซึ่งเป็นการรวมทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอี ในการเชื่อมโยงเพื่อมุ่งไปสู่การ “Transforms” ธุรกิจของตนเองไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อก้าวสู่การแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน”    

ด้านนายพิสิษฐ์  ประกิจวรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด  กล่าวถึงกิจกรรมเด่นในงาน Smart SME EXPO 2019 ในครั้งนี้ว่า "สำหรับปีนี้ Smart SME EXPO 2019 คัดสรรธุรกิจเด่นน่าลงทุนให้คุณเลือกช็อปแบบเต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น  ตู้เติมน้ำมันออสซี่ ออยล์, ซีพี รีเทลลิงค์, ชายสี่หมี่เกี๊ยว, โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง ชาร์ม เนเชอรัล โปรดักส์ แอนด์ สปา , Zaza by charm ,ลาลามูฟ, แอพจองคิว QueQ, Milk Land โดยไทยเดนมาร์ก, คัฟฟ่าคอฟฟี่เมคเกอร์   นอกจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยังส่งแฟรนไชส์ในสังกัด 40 แบรนด์หลากหลายประเภทธุรกิจเข้าร่วมอีกด้วย"

อีกทั้งยังมีกิจกรรม Business Matching ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบช่องทางในการจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าชื่อดังของไทยและต่างประเทศ พิเศษปีนี้เราใช้เครื่องมือ Mobile Application ภายใต้ชื่อ SMART SME เป็นตัวช่วยสนับสนุนทางการตลาดและการขายสำหรับผู้ประกอบการในงาน Smart SME EXPO 2019 โดยนำเสนอสินค้าหรือบริการ ร่วมในแคมเปญส่งเสริมการขายในชื่อ “โปรว้าว” และ “โปรพ้อยท์” โดยผู้ใช้จะสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการภายในงานได้ในราคาโปรโมชั่นพิเศษ และยังเป็นการดึงดูดลูกค้าให้เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย และช็อปธุรกิจในงานมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จะมีเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท 

ด้านธนาคารและสถาบันการเงินก็พร้อมใจส่งสินเชื่อแคมเปญเด็ดคัดพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีรวม 10 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น บสย.อาสาเป็นหมอหนี้ช่วย SMEs, ธนาคารออมสินบริการสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในอัตราพิเศษ, ธนาคารกรุงเทพร่วมมือ บสย. จัดสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ไม่มีหลักประกัน ผ่อนได้ยาว 5 ปี , SME D Bank คัดสินเชื่ออัตรดอกเบี้ยพิเศษ 3-5 % ต่อปี, กสิกรไทยจัดโปรโมชั่นพิเศษเมื่อสมัครสินเชื่อ SME, ทีเอ็มบีชวนผู้ประกอบการตรวจเช็คสุขภาพธุรกิจ, ธนชาตพาเหรดสินเชื่อเข้าถึง SMEs ทุกกลุ่มในอัตรดอกเบี้ยพิเศษ, ธ.ก.ส.เสนอสินเชื่อ SMEs ทางการเกษตร ดอกเบี้ย 4% ต่อปี, ยูโอบีสนับสนุนสินเชื่อให้ SMEs ที่ไม่มีหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนได้ยาว 4 ปี, ธ.อ.ส. เสนอโครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยในปีนี้คาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อ SMEs ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท 

งาน Smart SME EXPO 2019 ยังจัดต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ -7 กรกฎาคม 2562 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

X

Right Click

No right click