จากผลการจัดอันดับความยั่งยืนของบริษัทชั้นนำทั่วโลกประจำปี 2566 ของ S&P Global ในดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) หรือดัชนีชี้วัดความยั่งยืนของดาวโจนส์นั้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ด้านความยั่งยืนของโลก (DJSI WORLD) และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) และยังได้คะแนนสูงสุดด้านมิติสังคมในกลุ่มการบริการทางการแพทย์

ดัชนี DJSI นี้ เน้นการประเมินความยั่งยืนของธุรกิจใน 3 ด้าน ได้แก่ การรักษาสิ่งแวดล้อม การดูแลสังคม และการกำกับดูแลบนหลักธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นหลักดำเนินธุรกิจที่ BDMS ให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพื่อส่งมอบบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาโดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบ ตามกลยุทธ์ขององค์กรที่สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้แก่ การสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง (BDMS Innovative Healthcare) การบริการแพทย์ทางไกล เพื่อสุขภาพใจ (BeDee Tele Mental Health) และการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (BDMS Green Healthcare) เป็นต้น

กลยุทธ์ BDMS Innovative Healthcare ที่นับเป็นความสำเร็จด้านนวัตกรรมที่น่าภาคภูมิใจนั้น ได้แก่ การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม ด้วยเทคนิคใหม่ที่ไม่ตัดกล้ามเนื้อ หรือ Direct Anterior Approach Hip Replacement (DAA) วิธีใหม่นี้ช่วยลดระยะเวลาฟื้นตัวของผู้ป่วยได้มากกว่าร้อยละ 50 ทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้เข้ารับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว BDMS ยังจัดตั้งโครงการอบรมเทคนิคนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ด้วยเทคนิคใหม่ที่ไม่ตัดกล้ามเนื้อ โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีแพทย์ที่ผ่านการอบรมแล้วกว่า 180 ราย ใน 170 โรงพยาบาล พร้อมทั้งสนับสนุนการเผยแพร่องค์ความรู้นี้ไปสู่เวทีวิชาการในระดับนานาชาติ ทั้งในรูปแบบของบทความวิชาการ การอบรมแพทย์เฉพาะทาง ตลอดจนถ่ายทอดสดการผ่าตัด (Live surgery) ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำถึงความสามารถในการรักษาพยาบาลของประเทศไทย อันสอดคล้องกับนโยบาย ของชาติในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลาง การรักษาพยาบาลของโลก ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติแล้วมากกว่า 750 ราย

สำหรับนวัตกรรมการบริการการแพทย์ทางไกล BDMS ได้พัฒนา BeDee Tele Mental Health เพื่อดูแลสุขภาพใจ โดยร่วมกับมูลนิธิเวชดุสิต ฯ ขยายโอกาสในการดูแลสุขภาพให้กับพนักงานในเครือ ฯ และ นักศึกษาหลักสูตรวิทยาการสุขภาพ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมบริการการแพทย์ในอนาคต โดยมุ่งหวังสร้างบุคลากรที่มีพลังกาย และพลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อสามารถส่งมอบบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้รับบริการได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมการแพทย์เพื่อสังคม

และในส่วนของ BDMS Green Healthcare นั้น เป็นการตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารจัดการ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการดําเนินงานสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ. 2593 (BDMS Net Zero 2050) นอกจากนี้ โครงการ BDMS Green Healthcare ยังเน้นการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งของโรงพยาบาล และธุรกิจในเครือ ฯ ทั้งการจัดการขยะครบวงจรทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นขยะทั่วไป ขยะติดเชื้อ รวมถึงขยะที่ถูกนำไปรีไซเคิล การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และบำบัดน้ำเสียอย่างเหมาะสม พร้อมทำงานร่วมกับชุมชน และประชาคมรอบข้างด้วยความรับผิดชอบ ปัจจุบัน มีโรงพยาบาล และธุรกิจในเครือ ฯ ที่ผ่านการประเมินเกณฑ์ BDMS Green Healthcare แล้วกว่า 20 หน่วยงาน

ในปัจจุบัน กว่าร้อยละ 50 ของโรงพยาบาล และธุรกิจในเครือ ฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 10,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 50,000 ต้น จากความสำเร็จนี้ BDMS จึงตั้งเป้าหมายการประเมิน BDMS Green healthcare และขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้พลังงาน ทางเลือกในพื้นที่โรงพยาบาล และธุรกิจในเครือ ฯ ให้ครบ 100% พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณขยะทั่วไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้มากกว่าร้อยละ 26 ภายในปี 2026

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนเป็นผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายเดียวกัน BDMS มีพันธกิจสำคัญคือ “ผู้นำบริการด้านสุขภาพที่ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีบนวิถีแห่งความยั่งยืน” ซึ่งสอดคล้องกับหลักการดำเนินธุรกิจยั่งยืนตามแนวทาง ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อีกทั้งมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์อย่างมีคุณค่าแก่ผู้ใช้บริการด้วยความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม โดยลดความเลื่อมล้ำการเข้าถึงการให้บริการด้านสุขภาพได้ด้วยมาตรฐานที่ทัดเทียมระดับสากลตามเจตนารมย์

 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการ “Collaboration towards excellence in lung cancer

นำร่องที่โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ มุ่งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาเสริมการปิดช่องว่างในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งปอด รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้แก่ภาคประชาชนในการประเมินความเสี่ยงและเข้ารับการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย และรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อร่วมรณรงค์ไปกับแคมเปญ Close the care gap ขององค์การอนามัยโลก (WHO) วันมะเร็งโลก สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ในฐานะโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยแบบครบองค์รวมในทุกขั้นตอนการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม และการตรวจหาสารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งในร่างกาย เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ชูความเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็งแห่งเอเชียแปซิฟิก (Center of Excellence - Cancer)

นอกจากด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาของโรงพยาบาลที่ครบครัน แอสตร้าเซนเนก้า เป็นหนึ่งในสมาชิกของ The Lung Ambition Alliance (LAA) เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาคีพันธมิตรระดับนานาชาติ 4 องค์กรที่มีการดำเนินกิจกรรมใน 50 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เพื่อร่วมกันสานต่อเป้าหมายในการเพิ่ม ‘อัตราการรอดชีวิต 5 ปี’ ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดให้เป็น 2 เท่า ภายใน พ.ศ. 2568 พร้อมศึกษาทำความเข้าใจถึงวิวัฒนาการของโรค พัฒนาเทคนิคระดับก้าวหน้าเพื่อการดูแลรักษาโรคมะเร็งปอด ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น

 

ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพวัฒโนสถ กล่าวว่า “งานแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการรณรงค์วันมะเร็งโลกหรือ World Cancer Day ซึ่งในปีนี้องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ให้ความสำคัญกับการ “Close the care gap” หรือการปิดช่องว่างในการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งทางโรงพยาบาลเน้นในเรื่องของมะเร็งปอด เนื่องจากปัจจุบันเราพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดสูงขึ้นเป็นอย่างมากในคนที่ไม่สูบบุหรี่ และมีภัยคุกคามต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอดในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ เช่น ฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในผู้ที่มียีนกลายพันธุ์ EGFR หรือ KRAS และในปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองในมะเร็งปอดในกลุ่มที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ดังนั้น การที่จะปิดช่องว่างหรือ Close the care gap ในเรื่องนี้ จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเสริม เช่น การนำปัญญาประดิษฐ์หรือ A.I. มาช่วยในการวินิจฉัยภาพเอกซเรย์รังสีทรวงอกในผู้ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี และโรงพยาบาลนำชุดตรวจหาสารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งในร่างกายจากเลือด (Circulating Tumor DNA : ctDNA) โดยใช้เทคโนโลยี Next-Generation Sequencing ที่สามารถตรวจหามะเร็งหลายชนิดพร้อมกัน เพื่อค้นหาโรคมะเร็งตั้งแต่ก่อนเป็นจนถึงระยะเริ่มต้น ซึ่งช่วยเสริมการตรวจคัดกรองประเมินความเสี่ยงโรคมะเร็งเฉพาะบุคคล พร้อมทั้งช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย

 

นายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โรคมะเร็ง หากรู้เร็ว สามารถรักษาได้ โรคมะเร็งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคที่แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทยให้ความสำคัญมาตลอดระยะเวลา 40 ปี เราพร้อมเดินหน้าประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข องค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมคนไทยหันมาตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมากขึ้น ทั้งนี้ ในฐานะบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เรามุ่งมั่นในการนำวิทยาศาสตร์มาต่อยอดและพัฒนาการดูแลสุขภาพของประชาชนมาโดยตลอด ล่าสุดกับการนำเสนอการใช้เทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องเอกซเรย์ปอด เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบเงาของก้อนเนื้อในปอดซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้มะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นที่อาจมีขนาดเล็กหรือมองเห็นได้ยากภายในระยะเวลา 3 นาที ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและสามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดอัตราการเสียชีวิต เพิ่มอัตราการรอดชีวิต 5 ปีของผู้ป่วยมะเร็งปอดได้มากยิ่งขึ้น”

 

พญ.เมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 1 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กว่า 10 ปีของโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรามุ่งมั่นให้การบริการทางด้านสุขภาพและศูนย์แห่งความเป็นเลิศในโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง รองรับผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยส่งเสริมศักยภาพของโรงพยาบาล ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิชาการทางคลินิกวิทยาศาสตร์ ร่วมกับสถาบันมะเร็งระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงการถ่ายทอดนวัตกรรม และความเชี่ยวชาญขั้นสูงให้แก่ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและทีมสหสาขาวิชาชีพ (Multi-disciplinary team – MDT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกับแนวทางการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ส่งเสริมให้โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็งแห่งเอเชียแปซิฟิกในอนาคต

ความร่วมมือของทั้งสององค์กรในครั้งนี้ จะช่วยปิดช่องว่างการตรวจวินิจฉัย และดูแลเติมเต็มทุกการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง Close the Care Gap ให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนคนไทยและทุกเชื้อชาติ ห่างไกลจากโรคมะเร็ง และข้ามผ่านการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ร่วมกันปิดช่องว่างและเติมเต็มศักยภาพเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปอด World Cancer Awareness Month 2024: Close the Care Gap

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ออกแสดงบูธในงาน “Thailand Mega Fair 2023” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 16 ธันวาคม 2566 ณ ดิ อารีนา ริยาด กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชนไทยจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวม 30 ราย นำโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสด้านการค้า และการลงทุน ระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย

BDMS ได้ออกบูธแสดงสินค้าร่วมกับโรงพยาบาลในเครือ ฯ ที่มีความพร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ BDMS Wellness Clinic พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมบริการด้านสุขภาพและความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ดร. มาจิด บิน อับดุลลาห์ อัลกัสซาบี (H.E. Dr. Majid bin Abdullah Alkassabi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าเยี่ยมชม โดยมี นายบุรณัชย์ ลิมจิตติ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ส่วนการตลาดต่างประเทศ โฆษณาและประชาสัมพันธ์ BDMS ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ BDMS ในฐานะที่เป็น Trusted Healthcare Partner หลักของงาน ได้จัดสัมมนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “Wellness Tourism in Thailand” โดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานกรรมการผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic และ BDMS Wellness Resort และหัวข้อ “Wellness on Holiday” โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ จีรี ดโวชัค ที่ปรึกษาของคลินิกดูแลกล้ามเนื้อและศูนย์ฟื้นฟู BDMS Wellness Clinic เพื่อตอกย้ำศักยภาพด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยให้กับบรรดานักธุรกิจที่เข้าร่วมงาน โดยได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค อีกทั้งยังเน้นย้ำการท่องเที่ยวเพื่อเชิงสุขภาพในประเทศไทย และการใช้วันหยุดพักผ่อนเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ที่ปัจจุบันหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้นด้วย

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอยู่ใน 5 อันดับแรกของโลก ประกอบด้วย 6 กลุ่มโรงพยาบาลหลัก ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ประเทศกัมพูชา) บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจด้าน Healthcare แบบครบวงจร อาทิ บริษัท N Health ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ทางการแพทย์ บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด ผู้ผลิตยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โรงงานผลิตยาและเวชภัณฑ์ ANB และร้านขายยา Save Drug เป็นต้น

30 พฤศจิกายน 2566 - บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS คว้ารางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย” ประจำปี 2566 (Kincentric Best Employer Thailand 2023) พร้อมได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำที่สร้างความผูกพันในองค์กร ประจำปี 2566 (Kincentric Thailand's Engaging Leaders Special Recognition 2023) จัดโดย บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลชั้นนำระดับโลก ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนี้ แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ดร. ดวงใจ สินธุสังข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการบริหารทรัพยากรบุคคลกลาง BDMS และ แพทย์หญิงเมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 BDMS และผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมพิธีมอบรางวัล ฯ ในงาน Kincentric Best Employers Learning Conference 2023 ณ ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

รางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566” เป็นเครื่องยืนยันว่า BDMS ให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลพนักงาน อีกทั้งยังมีการพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ของ BDMS ในการบริหารจัดการองค์กรที่พัฒนาสู่ความยั่งยืน ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการบริหารธุรกิจ นโยบายด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนให้องค์กร อันจะแสดงให้เห็นถึงองค์กรที่มีการบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพ และการดำเนินงานธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ

นอกจากนั้น รางวัลพิเศษด้านการเป็นผู้นำที่สร้างความผูกพันในองค์กร ประจำปี 2566 (Kincentric Thailand's Engaging Leaders Special Recognition 2023) ยังสะท้อนว่าองค์กรสามารถทำให้พนักงานเห็นภาพทิศทางที่จะขับเคลื่อนไปในอนาคต สื่อสาร และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงมีส่วนร่วมในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานส่งต่อการบริการที่ดีต่อไป

 

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการดำเนินธุรกิจ BDMS ให้ความสำคัญกับการดูแลและเอาใจใส่พนักงาน ให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพและทักษะในวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานสามารถส่งต่อการดูแลเอาใจใส่เหล่านี้ไปยังผู้รับบริการอย่างเข้าอกเข้าใจและมีประสิทธิภาพ ในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์อย่างครบวงจร BDMS ตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วนล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนให้องค์กรให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ BDMS จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำองค์กร อีกทั้งยังได้บรรจุให้ People Strategy เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่ายังไม่มีเครื่องมือ ไม่มี AI หรือเทคโนโลยีใหม่ใด ๆ ที่จะมาทดแทนพลังบุคลากรของเราได้ และ BDMS จะดูแลพนักงานของเราอย่างดีที่สุด”

ในโอกาสนี้ แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ยังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Culminating Courageous Leaders to Realign People-Centric Commitment” หรือสุดยอดผู้นำที่ต้องปรับตัวจากการเป็นผู้สั่งการไปเป็นผู้สนับสนุน เพื่อให้พนักงานในองค์กรรู้จักถึงพลังในตัวเอง

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ อธิบายถึงแนวคิดในฐานะผู้บริหารว่าการบริหารงานของ BDMS ผู้บริหารทุกกลุ่มจะให้ความสำคัญกับพนักงานทุกส่วน และทำให้การสื่อสารเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนจะต้องเชื่อมั่นในแนวคิด และให้โอกาสพนักงานทุกระดับชั้น เนื่องจากผู้บริหารอาจไม่ทราบถึงปัญหา และข้อเท็จจริงดีเท่ากับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ซึ่งจะเห็นถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบัน คนรุ่นใหม่นั้นมีศักยภาพในการเรียนรู้มากกว่าอดีต บางท่านมีความสามารถและต้องการโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดทางความคิด ซึ่งหลายไอเดียสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงภายในองค์กร ตราบใดที่ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการสื่อสารต่อพนักงาน กระบวนการนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และอยากมีส่วนร่วม (Engagement) กับองค์กรของตัวเองมากยิ่งขึ้น

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click