×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 7637

รศ.นพ.ทวีกิจ นิ่มวรพันธ์ (ที่ 3 จากขวา) รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี รับมอบเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จำนวน 250,000 บาท จากการจัดกิจกรรม เดิน-วิ่ง การกุศล CPF BANGNA CHARITY RUN 2018 ที่จัดโดยชมรม ซีพีเอฟ รันนิ่ง คลับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์แก่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี นายนิธิพงศ์ นงค์นาค (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกบางนา กม.21 ซีพีเอฟ พร้อมทีมงาน เข้ามอบ ณ มูลนิธิรามาธิบดี/.

ศูนย์จักษุ อาร์เอสยู เฮลล์แคร์ ศูนย์ตรวจรักษาและผ่าตัดโรคตาในเครือมหาวิทยาลัยรังสิต เปิดให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดต้อกระจกในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2561 เนื่องในวันสายตาโลก เพื่อเป็นการรักษาและป้องกันการสูญเสียดวงตา “ตรวจตาล่วงหน้า ตาไม่บอด” สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์จักษุ อาร์ เอส ยู เฮลท์แคร์ โทร. 0-2610-0300 ต่อ 300 Line@: @rsuhealthcare

นายปิติ ตัณฑเกษม ในฐานะประธานกรรมการ มูลนิธิทีเอ็มบี รับมอบเงินสนับสนุนมูลค่ากว่า 1.4 ล้านบาท จากนายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการทหารไทย (TMBAM) ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในโครงการไฟ-ฟ้า เพื่อจุดประกายเยาวชนและชุมชน โดยเงินสนับสนุนดังกล่าวมาจาก 10% ของค่าบริหารจัดการ (Management Fee) กองทุนรวมหุ้น ทีเอ็มบีธรรมมาภิบาลไทย โดยรับมอบในงาน “ เด็กธรรมดา คือสิ่งที่สวยงาม” ณ ทีเอ็มบี สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน

บี.กริม ร่วมกับ WWF-ประเทศไทย และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เสริมทักษะให้แก่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลาน จำนวน 39 คน ด้วยการฝึกอบรมการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol) หลักสูตรเทคนิคการลาดตระเวน ภายใต้ “โครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร”

บี.กริม ซึ่งเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 140 ปี ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า และพร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือเพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทฯได้ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์เสือโคร่ง เพราะในศตวรรษที่ผ่านมา จำนวนประชากรเสือโคร่งในผืนป่ารอบโลกลดลงอย่างน่าใจหาย บี.กริม จึงได้ให้การสนับสนุนโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง ร่วมกับ WWF-ประเทศไทย โดยเน้นการสร้างเสริมประสิทธิภาพและเทคนิคการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าติดต่อกันเป็นระยะมากว่า 4 ปีแล้ว

โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในผืนป่าของไทย เพราะการมีเสือโคร่งในผืนป่า คือ ดัชนีชี้วัดที่บอกได้ว่าผืนป่าของประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์และน่าภูมิใจเพียงใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนต้องเผชิญกับผู้กระทำความผิดที่มาพร้อมวิธีการแปลกใหม่และทวีความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น การสนับสนุนด้านการฝึกอบรมเทคนิคลาดตระเวนเชิงคุณภาพให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถือเป็นการเสริมสร้างทักษะ ช่วยให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ทั้งด้านความเข้มแข็ง ระเบียบวินัย สมรรถนะทางด้านร่างกายและจิตใจ เทคนิคการป้องกันตัว การใช้ทัศนสัญญาณในการสื่อสาร การจับกุมผู้กระทำผิด ตลอดจนการใช้และดูแลรักษาอาวุธอย่างถูกวิธี โดยมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่นำความรู้และเทคนิคที่ได้ไปใช้ในงานด้านการป้องกันและรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาจนำไปถ่ายทอดให้กับเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ในหน่วยงานต่อไป

นอกจากนั้น ยังได้มอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการปฏิบัติงานลาดตระเวนภาคสนามให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั้งสองอุทยาน ฯ ด้วย เช่น เป้สนาม เปลมุ้ง ฟลายชีท ถุงกรองน้ำ เครื่องระบุทางภูมิศาสตร์ (GPS) แบตเตอรี่ กล้องถ่ายรูป แก๊สกระป๋อง เป็นต้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นระยะยาว คือการจัดการฝึกอบรมให้มีความต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกคนได้รับการฝึกฝนอย่างทั่วถึง ตลอดจนจัดหายุทโธปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีขวัญกำลังใจในการทำงานและสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

“บี.กริม เห็นว่า ปัจจุบันประชากรเสือโคร่งในประเทศไทย ลดลงกว่าร้อยละ 97 มีสาเหตุหลักมาจากการถูกล่าเพื่อความเชื่อและนำอวัยวะใช้ทำยา รวมถึงสัตว์ที่เป็นอาหารของเสือโคร่งก็ถูกล่าเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าที่ส่งผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของผืนป่า เราเห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานลาดตระเวนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จึงอยากช่วยให้เขามีทักษะในการทำงานอย่างถูกต้องและปลอดภัย จึงให้การสนับสนุนโครงการนี้”

ทางด้าน ดร.รุ้งนภา พูลจำปา ผู้จัดการโครงการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลาน กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF-ประเทศไทย) กล่าวว่า เสือโคร่งเป็นสัตว์ผู้ล่าที่คอยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ หากป่าใดมีเสือโคร่งแสดงว่าป่านั้นมีความอุดมสมบูรณ์ เพราะเสือโคร่งเป็นสัตว์ที่อยู่สูงสุดบนห่วงโซ่อาหาร หากเสือโคร่งอยู่ได้ สัตว์ชนิดอื่น ๆ ก็อยู่ได้ การอนุรักษ์เสือโคร่งจึงเปรียบได้กับการอนุรักษ์สัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ และอนุรักษ์ระบบนิเวศไปด้วยพร้อม ๆ กัน ปัจจุบัน ประชากรเสือโคร่งมีจำนวนลดลงจากในอดีต เหลือประมาณ 3,890 ตัว จาก 13 ประเทศทั่วโลก

“ประเทศไทย มีประชากรเสือโคร่งอยู่ประมาณ 150 - 200 ตัว การนำเทคนิคลาดตระเวนเชิงคุณภาพมาอบรมแก่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า โดยช่วยให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ ความมั่นใจในการการปฏิบัติงานซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งสุดท้ายจะสามารถช่วยในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือโคร่งซึ่งถือป็นสัตว์ที่ถูกคุกคามและมีประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง” ดร.รุ้งนภา กล่าว

ในโอกาสที่ เอไอเอ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 80 ปี ในปีนี้ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเอไอเอ ประเทศไทยเตรียมส่งพนักงานและพลังตัวแทน 8 ท่าน เพื่อร่วมงาน Oxfam Trailwalker งานวิ่งเทรลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฮ่องกงซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้ Oxfam Trailwalker เป็นกิจกรรมวิ่งเพื่อระดมทุนให้กับ Oxfam ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล ซึ่งเอไอเอ ฮ่องกงได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 และได้ร่วมระดมทุนให้กับ Oxfam แล้วรวมกว่า 14 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 80 ปี เอไอเอ ประเทศไทย ไม่พลาดที่จะส่งตัวแทนนักวิ่งน่องเหล็ก 8 ท่าน นำโดย มร.ตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมกับพนักงานและตัวแทนอีก 7 ท่าน ร่วมท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง กับการวิ่งเทรลระยะ 100 กิโลเมตร ข้ามผ่านภูเขากว่า 23 ลูก เพื่อพิชิตเส้นทางธรรมชาติที่มีความชันสะสมสูงถึงกว่า 4,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง อีกทั้งยังถือเป็นการแสดงพลังเพื่อมีส่วนร่วมในการระดมทุนสนับสนุนองค์กรเพื่อสังคมต่างๆ ให้ได้นำเงินบริจาคเหล่านี้ไปใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในยามจำเป็น นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น “Healthier, Longer, Better Lives” ซึ่งสำหรับผู้ที่ประสงค์ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเพื่อนำเข้ามูลนิธิ Oxfam ในครั้งนี้ สามารถคลิกบริจาคให้กับทีมนักวิ่งจากเอไอเอ ประเทศไทยได้ที่ http://bit.ly/AIATHTeam1 หรือ http://bit.ly/AIATHTeam2

X

Right Click

No right click