ด้วยรากฐานกว่า 80 ปี รวมกับความไว้วางใจของลูกค้าในประเทศไทย ทำให้เอไอเอ ประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อดูการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตทั้งตลาดในปี 2561 จะเห็นว่า เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกหดตัวลง 7.2 เปอร์เซ็นต์ แต่เบี้ยประกันแบบจ่ายครั้งเดียวเพิ่มขึ้น 31.0 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ เอไอเอ ประเทศไทย สามารถทำผลงานได้โดดเด่นกว่าตลาดโดยรวม โดยมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกถึง 8.6 เปอร์เซ็นต์ และเบี้ยประกันแบบจ่ายครั้งเดียวที่เติบโตถึง 32.2 เปอร์เซ็นต์

เอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า เหตุที่เอไอเอสามารถทำผลงานได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง มาจากการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอของเอไอเอเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาตัวแทนที่เป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน หรือ AIA Financial Advisor รวมถึงการผลักดันนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและพัฒนาการบริการในด้านต่างๆ

แนวโน้มประกันชีวิต ปี 2562 สมาคมประกันชีวิตไทยประเมินว่าตลาดประกันชีวิต ในภาพรวมปี พ.ศ. 2562 จะเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น เอกรัตน์มอง 4 แนวโน้มที่น่าจับตามองของธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ซึ่งประกอบด้วย

ดิจิทัลจะเพิ่มความสำคัญ

แม้ธุรกิจประกันชีวิตจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกระแสดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเช่นที่เกิดขึ้นแล้วในหลายอุตสาหกรรม แต่จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในบางอุตสาหกรรมทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะได้รับบริการในรูปแบบใกล้เคียงกัน จึงเป็นโจทย์ที่บริษัทประกันชีวิตต้องเตรียมรับมือเอไอเอ ตั้งเป้าหมายจะเป็น Leading Digital Insurer ของประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น “การนำเทคโนโลยีมาช่วยให้กระบวนการภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จะกลับไปเป็นบริการที่ดีขึ้น คืนให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น”

การตลาดแบบการแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation Marketing)

จากแนวโน้มที่การสื่อสารการตลาดแบบมุ่งกระจายในวงกว้างไม่จำเพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพลดลงในยุคปัจจุบัน เพราะผู้บริโภครุ่นใหม่มีช่องทางรับข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์รวมถึงวิธีการทำการตลาดจากข้อมูลที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ

เอกรัตน์ยกตัวอย่าง เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) และ เอไอเอ เพรสทีจ (AIA Prestige) ว่า เป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เอไอเอสามารถทำผลงานได้อย่างชัดเจน โดย เอไอเอ ไวทัลลิตี้ เป็นโปรแกรมที่มีลูกค้าที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพและใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองเข้าร่วมแล้วถึง 250,000 ราย ทำให้บริษัทสามารถลงทุนเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ เอไอเอ เพรสทีจ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ซึ่งได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดย เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตเจ้าแรกของประเทศไทยที่ทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูงอย่างเป็นรูปธรรม และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เปิดตัวโครงการ เอไอเอ เพรสทีจ คลับ เพื่อมอบเอกสิทธิ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งได้รับสนใจจากลูกค้ากลุ่มนี้อย่างมาก ทำให้ปัจจุบัน มีลูกค้าที่อยู่ในโครงการมากกว่า 70,000 ราย ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันของเอไอเอ

การดูแลข้อมูลส่วนบุคคล

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำลังจะประกาศใช้เป็นกฎหมายในประเทศไทยซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจประกันชีวิตต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจโดยเอไอเอจะมีการพัฒนาการจัดการข้อมูลของลูกค้า ให้รองรับกฎหมายที่กำลังจะออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละคนจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้อง และมีการป้องกันข้อมูลสำคัญต่างๆ เป็นอย่างดี

บทบาทของ ‘ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการการเงิน’ จะเพิ่มขึ้น

จากการที่ธุรกิจประกันชีวิตมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ซึ่งในหลายผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อนต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ และนี่คือบทบาทของที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน (AIA Financial Advisor) ที่จะเข้ามาช่วยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทที่ทำเรื่องนี้ได้ดีก็จะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ เอกรัตน์มองว่า ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเอไอเอ เพราะตัวแทนกลุ่มนี้มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและการวางแผนการเงินอย่างลึกซึ้ง สามารถช่วยเหลือให้คำปรึกษากับลูกค้าในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยบริษัทมีการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ AIA Financial Advisor สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเสนอแบบประกันชีวิต การชำระเงิน การตรวจสอบสถานะการเคลม ซึ่งตัวแทนทำได้เองบนแท็บเล็ทเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

เอกรัตน์สรุปว่า ในปี 2562 เอไอเอจะมีการพัฒนาทางด้านกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลที่ดีขึ้น และจะมีการพัฒนาตัวแทนให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้าให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนแต่ละ กลุ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เอไอเอจะยังเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภคต่อไป

ขณะเดียวกัน เอไอเอ ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท ผ่านโครงการเพื่อตอบแทนสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นให้ประชากรในประเทศไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ในปีนี้นอกจากการไปร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานวิ่งต่างๆ เอไอเอ ประเทศไทย จะมีการจัดงานวิ่งต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยจะมีการประกาศรายละเอียดในช่วงกลางๆ ปีนี้ พร้อมกันนี้ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี เอไอเอ ประเทศไทย ก็ยังมีการเปิดโรงเรียนศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เอไอเอ ประเทศไทย ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคำขอบคุณที่ เอไอเอ ประเทศไทย มอบให้แก่สังคมเพื่อร่วมพัฒนาบุคลากรและสังคมที่มีคุณภาพให้กับประเทศไทยต่อไป

นายป้อมเพชร รสานนท์ (กลาง) รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัวทีมสินเชื่อรถยนต์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ธนาคารธนชาตครองความเป็นที่ 1 ในธุรกิจมาได้อย่างยาวนาน พร้อมประกาศแนวคิด Drive Your Progress มุ่งมั่นขับเคลื่อน ความก้าวหน้า ให้ลูกค้าตลอดเส้นทางชีวิต และเดินหน้ารักษาตำแหน่งผู้นำตลาด เผยกลยุทธ์รุกดิจิทัลแพลตฟอร์ม ควบคู่กับการขยายฐานพันธมิตรออนไลน์ งานแถลงข่าวมีขึ้น ณ ห้องจามจุรี 1 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ

บมจ.ทิพยประกันภัย ปลื้มผลงานไตรมาส 1 ปี 62 กำไรสุทธิรวมเฉียด 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.67% ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับรวม 4,882.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.76% ด้านเอ็มดี “ดร.สมพร สืบถวิลกุล” ประกาศกลยุทธ์เชิงรุกบูรณาการระบบดิจิทัลครบวงจร จับมือธุรกิจกับพันธมิตรบุกตลาดขยายฐานลูกค้าองค์กรและรายย่อย

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2562 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 519.91 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.87 บาท หรือกำไรสุทธิขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 10.67% จากไตรมาสแรกปีก่อนกำไรสุทธิ 469.77 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.78 บาท

สำหรับไตรมาส 1/2562 ทิพยประกันภัย มีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวนทั้งสิ้น 4,882.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 4,368.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 513.83 ล้านบาท หรือ 11.76%

ทั้งนี้ เบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย เบี้ยประกันอัคคีภัย 371.51 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 116.58 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 870.57 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 3,523.50 ล้านบาท

ด้านฐานะการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 มีสินทรัพย์รวมที่ 42,490.75  ล้านบาท หนี้สินรวม 34,123.67 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 8,367.08 ล้านบาท

ดร.สมพร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 62 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งในแง่ของความสามารถการทำกำไร และเบี้ยประกันภัยรับรวม ที่เพิ่มขึ้นกว่า 10% ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวของเบี้ยประกันภัยรับรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบที่คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 - 6% เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับแผนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นั้น ดร.สมพร กล่าวว่าบริษัทฯ จะยังคงสานต่อนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการให้บริการอย่างทั่วถึงตลอด Insurance Value Chain ตั้งแต่กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการให้บริการสินไหมทดแทน และบริการหลังการขาย เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากที่สุด

พร้อมกันนี้ บริษัทยังดำเนินกลยุทธ์ในเชิงรุกด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทั้งกลุ่มองค์กรและรายย่อยเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ทิพยประกันภัยได้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท PVI Insurance Corporation ซึ่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำของประเทศเวียดนาม เพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอีกด้วย

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานกรรมการบริหาร (แถวบน คนที่ 4 จากซ้าย) และดร.อุกฤษฎ์ ศรีดโรมนต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายตัวแทน พร้อมคณะผู้บริหาร และตัวแทนกว่า 100 ท่าน ร่วมทริปสุดพิเศษ 2018 Agency Grand Switzerland Convention” ซึ่งเป็นทริปที่จัดขึ้น เพื่อเป็นรางวัลและกำลังใจให้กับตัวแทนที่ทุ่มเท และมุ่งมั่นสร้างผลงานคุณภาพยอดเยี่ยมตลอดปีที่ผ่านมา โดยทริปดังกล่าวเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลินกับความสวยงามที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ ภูเขา ทะเลสาบ และสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ พร้อมประสบการณ์สุดเอ๊กซ์คลูซีฟ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("พรูเด็นเชียล ประเทศไทย") เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ “We DO” เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงต่อลูกค้าภายใต้แนวคิด “เรารับฟัง เพื่อเข้าใจ และลงมือทำ”  ซึ่งเป็นแนว คิดใหม่ล่าสุดที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาและภาพลักษณ์ที่ทันสมัย

“We DO” นับเป็นแบรนด์แคมเปญที่เราขอร่วมชื่นชมยืนดีกับการที่ผู้คนมีแรงผลักดันและทัศนคติเชิงบวกในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งพรูเด็นเชียล ประเทศไทย มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันชีวิตควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของคนไทย

มร. อามัน คาพัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารลูกค้าและการตลาด พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “แบรนด์แคมเปญ “We DO” แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อการดูแลชีวิตลูกค้า เราจึงยังเดินหน้าเติมเต็มคำสัญญาของเราอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด  “เรารับฟัง เพื่อเข้าใจ และลงมือทำ”  โดยมุ่งให้ความสำคัญด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ความเรียบง่าย และการนำเสนอนวัตกรรมรูปแบบใหม่ อีกทั้งยังเป็นคู่คิดที่มั่นคงตลอดทุกช่วงการดำเนินชีวิตของลูกค้า

แนวคิด  “เรารับฟัง เพื่อเข้าใจ และลงมือทำ”  มีความหมายดังนี้

  • มุ่งให้ความสำคัญต่อลูกค้าอย่างสูงสุด โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลและบริการได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  • นำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุมสำหรับการให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ การออม และแผนการเกษียณอายุ
  • ส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า

นอกจากนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังมีกิจกรรมสำหรับพนักงานที่สอดคล้องกับแคมเปญ “We DO” ที่มุ่งกระตุ้นและสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพที่แข็งแรง

“We DO” นับเป็นแบรนด์แคมเปญที่มีการใช้สื่อแบบผสมผสานและครอบคลุมทุกช่องทางการสื่อสารใน 10 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมถึงประเทศไทย โดยแนวคิดหลักในการนำเสนอแคมเปญนี้ คือเรื่อง นวัตกรรม การเงิน และสุขภาพ ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองแบบครบวงจรทั้งด้านสุขภาพและการวางแผนการลงทุน สำหรับภาพยนตร์โฆษณาสามารถรับชมได้ที่ https://youtu.be/uQK2JxRQbsQ

 

 

X

Right Click

No right click