นายนพพร กีรติบรรหาร (กลาง) Deputy Chief Marketing Officer - Marketing and Branding Cement and Green Solutions Business – เอสซีจี ผู้นำนวัตกรรมปูนซีเมนต์ตราเสือจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 108 ปี พร้อมด้วย นายธีระยุทธ พันธ์มีเชาว์ (ขวาสุด) Technical Service Strategy Director บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จํากัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว “สถาบันเทคโนโลยีผนังและพื้น ตราเสือ” จ.สระบุรี  (Tiger Wall and Floor Technology Center) อย่างเป็นทางการ  แหล่งรวมองค์ความรู้เทคนิคการก่อสร้าง งานปูนซีเมนต์ งานผนังและพื้นอย่างครบวงจรแห่งแรกของอาเซียน เติมองค์ความรู้ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยอัพสกิลมาตรฐานฝีมือแรงงาน กับหลักสูตรฝึกอบรมกว่า 15 หลักสูตร ผ่านช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Virtual Reality โปรแกรมจำลองเสมือนจริง หวังแก้ปัญหาการขาดแคลนช่างฝีมือแรงงานและสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการฝึกอบรมทักษะวิชาชีพงานปูนซีเมนต์ชั้นสูง มุ่งยกระดับมาตรฐานฝืมือทักษะวิชาชีพของช่างก่อสร้างไทย เพิ่มมูลค่าในงานผนังและพื้นปูนซีเมนต์ ให้แข่งขันและทัดเทียมได้ในเวทีโลก ทั้งนี้ในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “Technology for Modern Construction” โดยแขกรับเชิญพิเศษจาก บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC ASSET) บริษัท ที.ที.เอส.เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัด (TTS) บริษัท หาดทิพย์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (HAAD THIP) และบริษัท รอยัล สยาม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (The Prego) อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าอบรมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน https://tech.tigerbrandth.com/  รวมถึงยังมีหน่วยรถโมบายเคลื่อนที่ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ (Smart Tiger Team)  พร้อมบริการถึงหน้าไซต์งานครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ  สนใจรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันฯ และหลักสูตรอบรม ได้ที่ SCG Contact Center 02 586 2222

มุ่งสร้าง Soft Skill ปลดหนี้ครัวเรือน พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันภัยพนัน ท้องถิ่นขานรับ “นี่คือทักษะชีวิตที่จำเป็นของทุกคน”

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มาเป็นประธานพิธีสงฆ์ ในงานครบรอบวันสถาปนา ก้าวสู่ปีที่ 72 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 โดยมี ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คณะกรรมการบริษัท ที่ปรึกษา ผู้บริหาร และพนักงาน พร้อมผู้นำองค์กรผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตร ร่วมงาน ณ ชั้น 25 อาคารทิพยประกันภัย สำนักงานใหญ่

สำหรับพิธีในช่วงเช้าผู้บริหารและพนักงานร่วมทำบุญตักบาตร บวงสรวง ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ณ ลานอนุสาวรีย์เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกันนี้ได้รับเมตตาจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มาเป็นประธานพิธีสงฆ์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 8 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารและจตุปัจจัยไทยธรรม และให้สัมโมทนียกถา อำนวยอวยพรแก่ผู้บริหารและพนักงาน พันธมิตร คู่ค้า และผู้ร่วมงาน พร้อมทั้งมอบผ้ายันต์ พระพุทธชินราช 666 ปี ให้ผู้ที่มาร่วมงาน ถือเป็นสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง  หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์  ดร.สมพร สืบถวิลกุล ได้มอบรางวัลให้กับพนักงานที่มีอายุการทำงานตั้งแต่ 10 ปี , 15 ปี , 20 ปี , 25 ปี และ 30 ปี รวมถึงมอบทุนการศึกษาให้บุตร-ธิดาพนักงาน ที่เรียนดี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้บริจาคเงินสมทบทุนให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา และผู้ที่มาร่วมภายในงานสามารถร่วมมอบเงินบริจาคให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการพัฒนาอื่นๆ ส่งเสริมการพัฒนา สงเคราะห์และช่วยเหลือประชาชนในด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป

ทิพยประกันภัย อยู่เคียงข้างสังคมไทยมากว่า 72 ปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประกันวินาศภัย มุ่งมั่นตั้งใจเดินหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการบริการที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขายร่วมกับพันธมิตรและยกระดับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจประกันภัยในอนาคต ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมในมิติต่างๆ สอดคล้องกับแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับคณะของนายโอโนะ โมโตฮิโระ (Mr.OHNO Motohiro) ผู้ว่าราชการจังหวัดไซตามะ พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคเอกชน และผู้แทนสถาบันการเงินประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสการเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงาน Saitama-Thai Network Exchange Meeting 2023 โดยหลังการต้อนรับได้มีการหารือทั้งสองฝ่ายเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการลงทุนในอุตสาหกรรมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยข้อมูลภายหลังการหารือว่า ภาคเอกชนของประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจในการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเอกชนญี่ปุ่นให้ความสนใจขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่ได้จากการหารือขณะนี้พบว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นลำดับแรก จากศักยภาพความพร้อมในด้านทรัพยากร การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของทั้งสองประเทศ

“ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่นเข้าลงทุนในประเทศไทยแล้ว 262 บริษัท กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับรัฐบาลกลางญี่ปุ่น 4 แห่ง และรัฐบาลท้องถิ่นญี่ปุ่น 24 แห่ง ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกที่ประสานความร่วมมือกับส่วนท้องถิ่น (Local to Local) ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับจังหวัดไซตามะ ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรของทั้งสองประเทศ”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวด้วยว่าได้มีการจัดตั้งโต๊ะญี่ปุ่น (DIPROM Japan Desk) แลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ของทั้งไทยและญี่ปุ่นเข้าเข้าปฏิบัติงานเพื่อประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกผสานความร่มมือการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่น ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับพันล้านและยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย  กระทรวงอุตสาหกรรม ประเทศไทย และผู้องค์กรธุรกิจภาคเอกชนญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นและด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ จะสามารถยกระดับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการลงทุนในทุกมิติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใจลงทุน เสริมสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมร่วมกัน

สำหรับจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนประชากรกว่า 7.3 ล้านคน ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเติบโตด้านอุตสาหกรรมสูงสุดมูลค่า 5.7 ล้านล้านบาท ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุนการผลิต กำไรต่อไร่เพิ่มและสุขภาพดี คณะวิจัยฯ หวังต่อยอดดันสู่นโยบายภาครัฐ สร้างการเปลี่ยนแปลงการผลิตภาคเกษตรไทย

ดร.สมพร  สืบถวิลกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  และ พันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคม แห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมลงนามในสัญญาเปิดตัวโครงการเน็ตบ้านอุ่นใจ NT Fiber HOME PREMIUM สำหรับลูกค้าที่ได้รับการติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง  ของบริษัท โทรคมนาคม แห่งชาติ จำกัด (มหาชน)  ในโครงการเน็ตบ้านอุ่นใจ NT Fiber HOME PREMIUM จะได้รับความคุ้มครองประกันอัคคีภัยจากบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) ด้วยวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 400,000 บาท /ปี เพื่อความอุ่นใจสำหรับลูกค้าผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของ NT

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า “NT นำร่องความร่วมมือกับทิพยโดยนำบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มาเพิ่มโซลูชั่นให้กับกลุ่มลูกค้าและพนักงานของทั้งสององค์กรให้ได้รับสิทธิพิเศษระหว่างกันมากยิ่งขึ้น  โดยร่วมกันจัดแคมเปญมอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าที่ติดตั้งอินเทอร์เน็ต NT Fiber HOME PREMIUM สามารถรับฟรีประกันอัคคีภัย คุ้มครองนาน 12 เดือน ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้บริการที่จะได้รับหลักประกันในการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการดำเนินธุรกิจของ NT ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา Digital Service ในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับทุกความต้องการที่เพิ่มขึ้นในโลกปัจจุบัน  พร้อมกับมุ่งเน้นเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นในบริการที่มีให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนในวงกว้าง

ทั้งนี้ผมมองว่าความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิดผลในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดที่ทั้งสองหน่วยงานร่วมกันพัฒนาให้เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต”

สถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยและสำนักงานพาณิชย์ อิตาเลียน ร่วมกันจัดเทศกาลสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลกครั้งที่ 8 ภายใต้ธีม  “ตำหรับอาหารอิตาเลียน: กินอยู่สุขภาพดีอย่างมีรสอร่อย” (At the Table with Italian Cuisine: Well-being with Taste) โดยในปีนี้มี ร้านอาหารอิตาเลียน 12 แห่งได้รับรางวัล Ospitalita Italiana 2023  ในกรุงเทพมหานคร ร่วมนำเสนอเมนูเด็ดๆพร้อมโปรดีๆ ตลอดสัปดาห์ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 นี้

สัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลก หรือ The Week of  Italian Cuisine in the World เป็นกิจกรรมประจำปีที่จัดขึ้นในนานาประเทศในช่วงเวลาใกล้เคียงกันทั่วโลกเพื่อเชิดชูและส่งเสริมวัฒนธรรมด้านอาหาร รวมถึงไวน์อิตาเลียนในระดับสากลเป็นงานสำคัญของประเทศอิตาลี เพื่อนำเสนอความเป็นเลิศของอาหารอิตาเลียนและเผยแพร่วัฒนธรรมที่โดดเด่นนี้ไปทั่วทุกมุมโลก

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยเปิดเผยว่า“ด้วยธีมของเทศกาลสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลกในปีนี้ ที่ว่า ‘At theTable with Italian Cuisine: Well-being with Taste’ เราจึงมุ่งนำเสนอเรื่องราวของ  สุขภาวะที่ดีในวิถีชีวิตตลอดจนเรื่องราวของผลิตภัณฑ์จากอิตาลีที่มีคุณภาพอันเป็นเลิศและผลดีที่เกิดต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยเราไดัรับเกียรติ จากเชฟชาวอิตาเลียนระดับ   ตำนาน คือ เชฟ เอนริโก เดอฟลิงเกอร์ (Enrico Derflingher)  เจ้าของรางวัล “สุดยอดเชฟโลก” (Best Chef in the World year 2008) และอีกหลายๆ รางวัลสำคัญของวงการรวมทั้ง Michelin Star และตำแหน่ง ประธานสมาคมเชฟยุโรปบินตรงจากอิตาลีมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ แสดงฝีมือการปรุงอาหารอิตาเลียน ที่สามารถดื่มด่ำในรสชาตและมีสุขภาพดีไปพร้อมๆกัน และสร้างสรรค์เมนูร่วมกับ เชฟระดับดาวมิชลินชาวไทย  แห่งภัตตาคาร”นุสรา” ได้แก่ “เชฟต้น” ธิติฏฐ์ ทัศนขจร เจ้าของร้านอาหารไทยหลายแบรนด์ดังนอกจากนั้นยังจะนำเสนอเมนูซิกเนเจอร์ในงาน UNIT WINE DINNER ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย และเข้าร่วมอีกหลากหลายกิจกรรมด้วย”

ท่านทูตยังกล่าวต่ออีกว่า ในสัปดาห์ที่จะถึงคือ 19-26 พฤศจิกายน 2566 นี้ จะมีการจัดสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลก ณ ประเทศกัมพูชาโดยมีหลายภัตตาคารร่วมสร้างสรรค์เมนูพิเศษ และจะมีซอมเมอลิเยร์ (S ommelier) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ตัวจริงไปร่วมบรนยาย ในมาสเตอร์คลาสเจาะลึกโลกไวน์อิตาเลียนสำหรับผู้สนใจอีกด้วย

ด้านคุณเปาลา กุยด้า ข้าหลวงพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย ผู้เข้ารับตำแหน่งใหม่ กล่าวเสริมว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมนำเสนอกิจกรรมดีๆ ที่เชิดชูความเป็นเลิศของวัฒนธรรมอาหาร เครื่องดื่ม อิตาเลียนให้แก่คนไทยผ่านกิจกรรมมากมาย ที่มีประโยชน์ทั้งในด้านของสังคมและด้านการค้า“ในโอกาสนี้ เรายังได้เชิญคณะนักธุรกิจการค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาวกัมพูชา และเมียนมา มาร่วม กิจกรรมต่างๆและพบปะคู่ค้าชาวอิตาเลียน และไทยในกรุงเทพฯด้วย”

สำหรับโปรแกรมไฮไลต์ในประเทศไทย ได้จัดขึ้นในหลากหลายรูปแบบ ดังนี้

วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน 2566: กาลาดินเนอร์ที่ร้านนุสราร้านอาหารไทยแถวหน้า ที่สุดยอดเชฟอิตาเลียน Enrico Derflingher ร่วมกับ เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เชฟชื่อดังของไทย ที่ได้พิชิตหลายดาว มิชลินมาแล้วเช่นกัน มาร่วมปรุงแต่งและนำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียน และอาหารไทยในแบบสร้างสรรค์จนเกิดความลงตัว พร้อมการจับคู่กับไวน์อิตาเลียนที่เข้ากันดีเพื่อนำเสนอแก่แขกผู้ร่วมงาน 

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566: UNIT Wine Tour 2023 Thailand กิจกรรมทางการค้า จัดขึ้นสำหรับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการในสายไวน์ เครื่องดื่ม ในประเทศไทย ให้ท่องโลกไวน์อิตาเลียนนานาชนิดที่โรงแรม  แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ มีการจัดไวน์ในมาสเตอร์คลาส เพื่อเรียนรู้เจาะลึกเรื่องไวน์ที่นำมาจัดแสดง และการพบปะกับผู้ผลิตไวน์ชาวอิตาเลียนกว่า 20 แห่ง จากกว่า10 แคว้นในอิตาลี  ส่วนภาคค่ำเป็นการ เฉลิมฉลองความมหัศจรรย์เกินจินตนาการกับอาหารและเครื่องดื่มอิตาเลียน ที่The Food School Bangkok ภายใต้ชื่อ “Unexpected Dinner” ถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหาร อิตาเลียน ผ่านฝีมือปรุงอาหาร ของทั้งเหล่าอาจารย์เชฟจาก ALMAสถาบันศิลปะการปรุงอาหารอันโด่งดังของอิตาลีที่สอนประจำอยู่ที่โรงเรียนสอนทำอาหารแห่งนี้และ “ทูตอาหารอิตาเลียน” (Ambassador of Italian Cuisine in the World) เชฟ Enrico Derflingher นอกจากนี้ ยังมีไวน์ ไอศกรีมอิตาเลียน หรือ Gelato กาแฟและคอกเทล ตามตำรับอิตาเลียนแท้ ไว้ต้อนรับผู้ร่วมงานจนจุใจ

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2566: เรียนรู้การทำอาหารใน CookingMasterclass กับเชฟกิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรการทำอาหารของสถาบันศิลปะการปรุงอาหารALMA แห่งอิตาลี ที่ The Food Schoolได้เรียนรู้เทคนิคการปรุงอาหารกับเชฟรับเชิญชื่อดังในตำนานอย่างเชฟ Enrico Derflingher

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดในโอกาสสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลก ที่จะมาพูดถึงแนวคิดสุขภาวะที่ดีผ่านวัฒนธรรมอาหาร อิตาเลียนอาหารซึ่งได้รับการเสนอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินอาหารจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ร่วมอภิปราย ที่นั่งมีจำกัดแต่สามารถสอบถามทางอีเมลได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ผู้สนใจทั่วไป สามารถร่วมเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมและดื่มด่ำกับรสชาติอันเป็นเลิศของอาหารอิตาเลียนในสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลกครั้งที่8  โดยการไปอิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษและโปรโมชั่นเด็ดๆ ที่ 12 ภัตตาคารและร้านอาหารอิตาเลียนที่ได้รับรางวัล Ospitalita Italiana 2023ระหว่างวันที่ 13-19 พฤศจิกายนนี้ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: ITA Bangkok

ตอกย้ำผู้นำตลาดนมทางเลือก เสริมความแข็งแกร่งรุกตลาดสินค้าฮาลาล

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนที่ 3 จากซ้าย) และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนที่ 3 จากขวา) ร่วมแสดงความยินดีกับพนักงานผู้โชคดีจากกิจกรรม “สัปดาห์แห่งการทำความดี Week For Good” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกบริษัทของแอกซ่าทั่วโลกจัดขึ้นพร้อมกัน โดย กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งมีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด 1 ใน 5 บริษัทกลุ่มแอกซ่าทั่วโลก และได้รับสิทธิ์จากกลุ่มแอกซ่า ในการคัดเลือกพนักงานผู้โชคดีที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษ พร้อมรับชมการแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญระหว่าง Liverpool vs Brentford  ที่สนามแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ จำนวน 4 ท่าน

ทั้งนี้ สัปดาห์แห่งการทำความดี ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคม อีกทั้งยังทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นแรงผลักดัน และขับเคลื่อนเกี่ยวกับสิทธิสตรี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพของบริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 18 (Money Expo 2023 Chiangmai) และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานบรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และประธานการจัดงาน Money Expo 2023 Chiangmai ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566

ทั้งนี้ EXIM BANK ร่วมออกบูท (บูท E1)  EXIM Green Start” สอดคล้องกับแนวคิด Green Finance for Green Living” งาน Money Expo 2023 Chiangmai ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2566 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต โดยเปิด “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” ให้คำปรึกษาปัญหาการเงิน แก้หนี้ เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุนให้แก่ SMEs และบุคคลทำธุรกิจที่สนใจจะเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจส่งออก รวมทั้งจำหน่ายสินค้าส่งออกโดยลูกค้าของ EXIM BANK บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานจากผลผลิตเกษตรกรชาวเหนือ ภายใต้แบรนด์ KC

โปรโมชันพิเศษ อาทิ สินเชื่อ EXIM GREEN START วงเงินสูงสุด 200 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำสุด 4.50% ต่อปี พิเศษ! ลงทะเบียนในงาน ลดดอกเบี้ยปีแรก เหลือเพียง 4.25% ต่อปี  สินเชื่อเอ็กซิมเติมทุนส่งออก สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.75% ต่อปี พิเศษ! ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดดอกเบี้ยปีแรก เหลือเพียง 4.50% ต่อปี สินเชื่อ EXIM Personal Biz วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท ใช้เพียงหนังสือค้ำประกัน บสย. พิเศษ! ลงทะเบียนในงาน ลดดอกเบี้ยปีแรกเงินกู้หมุนเวียนเหลือเพียง 9.99% (จาก 12.75% ต่อปี) และบริการประกันส่งออก EXIM for Small Biz ป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อต่างประเทศ อัตราความคุ้มครอง 70% ของมูลค่าความเสียหาย คุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าและความเสี่ยงทางการเมือง ครอบคลุมกว่า 134 ประเทศทั่วโลก พิเศษ! ลงทะเบียนในงาน รับฟรี ค่าเบี้ยประกันการส่งออก 1 ราย มูลค่า 1,800 บาท วงเงินผู้ซื้อ 3 แสนบาท

X

Right Click

No right click