ผุดแบรนด์ HAUS 24 KHUKHOT STATION บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสองชั้นซีรีส์ใหม่ สไตล์โมเดิร์น ในราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท* พร้อมชมบ้านตัวอย่างแล้ววันนี้

วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบกรีนสมาร์ทซิตี้ใจกลางกรุงเทพฯที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ พัฒนาโดย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด The Heart of Bangkok เมืองที่ใช้ใจสร้าง โดยยึดเอา “หัวใจ” ของผู้คนเป็นศูนย์กลาง โดยล่าสุด ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด นำคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงจากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงผู้บริหารจาก ซีบีอาร์อี (CBRE) และ เจแอลแอล (JLL) ตัวแทนจัดหาผู้เช่าอาคารสำนักงานของโครงการฯ และทีมผู้บริหารของบริษัทผู้ดูแลรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการฯ เยี่ยมชมความคืบหน้าพร้อมตรวจสอบรายละเอียดความเรียบร้อยในทุกขั้นตอน โดยในส่วนอาคารสำนักงานซึ่งเป็นอีกหัวใจสำคัญของโครงการ ในขณะนี้ได้ดำเนินงานเสร็จสิ้นตรงตามแผนการก่อสร้างที่วางไว้  

นางสาว ทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า เรามั่นใจว่ากลุ่มอาคารสำนักงานที่นี่จะเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของบริษัทชั้นนำทั้งไทยและระดับโลกที่มองหาพื้นที่สำนักงานคุณภาพสูง ออกแบบโดยคำนึงถึงสุขภาวะที่ดี ความยั่งยืน และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เป็นพื้นที่ทำงานที่ส่งเสริมให้ผู้คนทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในทุกมิติด้วยองค์ประกอบต่างๆ ภายในโครงการ โดยหลังจากประเดิมเปิดให้เช่าอาคารแรกบนพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 95,000 ตร.. จำนวน 50 ชั้น เพียง 1 ปี  (ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2565 ถึงปัจจุบัน) กวาดยอดจองทะลุเป้าสูงถึงกว่า 50 % คาดว่าจะสามารถปิดยอดจองได้ถึง 80% ภายในไตรมาส 2 ปี 2567 ขณะที่อาคารสำนักงานที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตร.. จำนวน 48 ชั้น คาดว่าจะมียอดจองถึง 55% ภายในช่วงเวลาเดียวกันและในส่วนของอาคารสำนักงานที่ 3  ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม 97,000 ตร.. จำนวน 35 ชั้น ก็ได้เริ่มเปิดให้จองแล้วเช่นกัน

วัน แบงค็อก นำเสนอมาตรฐานใหม่ของการทำงานแห่งโลกอนาคต ที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ประกอบด้วยอาคารสำนักงานระดับพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 500,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดกับพระราม 4 พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และยังมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด รวมถึงทางเชื่อมตัดตรงเข้าสู่ทางด่วนซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยมุ่งหวังที่ช่วยบรรเทาปัญหาจราจรบริเวณรอบโครงการฯ

อาคารสำนักงานทั้ง 5 อาคาร พร้อมด้วยความครบครันของ วัน แบงค็อก ตอบโจทย์ทุกความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้อาคาร รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรอบด้าน ที่เชื่อมต่อทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน และการพักผ่อน (Live, Work, Shop, Stay) ได้อย่างลงตัว ครบ จบในที่เดียว นอกจากนั้นภายในโครงการ วัน แบงค็อก ยังมีพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียว กว่า 50 ไร่ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโครงการฯ และมีทางเดินปกคลุมด้วยร่มไม้กว่า 5 กม. รวมถึง  Art Loop พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะสาธารณะและความคิดสร้างสรรค์ โดยรอบโครงการกว่า 2 กม.

โครงการวัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED for Neighbourhood Development ระดับ Platinum และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ดังนั้น พื้นที่สำนักงานภายในโครงการฯ จึงได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงสุขภาวะของผู้ใช้อาคารเป็นสำคัญ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะที่ล้ำสมัยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอาคารให้เหนือกว่ามาตรฐานของอาคารสำนักงานทั่วไป เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้อาคาร ไม่ว่าจะเป็น การนำกระจกฉนวนกันความร้อน หรือกระจกอินซูเลทที่สามารถกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้กว่า 75% มาใช้กับอาคารสำนักงานในโครงการฯ ทำให้อาคารสามารถปกป้องผู้คนในอาคารจากสภาพภูมิอากาศที่สูงขึ้น นอกจากนี้ โครงการฯยังได้ติดตั้งระบบระบายอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่อาคารสูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 30% โดยนำมาผ่านแผ่นกรองอากาศระดับพรีเมียมพร้อมฉายรังสียูวีฆ่าเชื้อโรค เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์และสะอาดหมุนเวียนในอาคารมากขึ้น

เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะครอบคลุมทุกพื้นที่ เป็นกลุ่มอาคารสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน WiredScore Platinum และ SmartScore Platinum ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของ WiredScore โดยมี District Command Center หรือศูนย์ควบคุมการสั่งการที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดเพื่อตรวจสอบระบบต่างๆภายในอาคาร รวมถึงความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ และยังมีซูเปอร์แอปฯ แอปพลิเคชันที่รวมเอาหลากหลายบริการเข้าไว้ด้วยกัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้อาคารอย่างครบครัน เช่น การเข้าออกอาคาร การสำรองที่จอดรถ ระบบค้นหาตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

วัน แบงค็อก ยังเป็นโครงการฯแรกในไทยที่มีรูปแบบการเช่าพื้นที่สำนักงานแบบ Green Lease โดยผู้ให้เช่าและผู้เช่าพื้นที่ร่วมกันกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และในปัจจุบัน อาคารสำนักงานใน วัน แบงค็อก ได้รับการตอบรับและความสนใจจากองค์กรระดับโลกมากมายในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทหลักทรัพย์ สำนักงานกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านความบันเทิง ธนาคารต่างประเทศ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามระดับโลก อาทิ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด (Baker McKenzie, Ltd.), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI Securities (Thailand)), และ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ (Estee Lauder Companies) เป็นต้น ล่าสุดเปิดให้เยี่ยมชมโครงการ โดยมี ซีบีอาร์อี (CBRE)  เจแอลแอล (JLL) ผู้นำด้านบริการและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ระดับโลกเป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่า

คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมโอกาสต่อยอดสู่การเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพ

พร้อมเปิดโพยเด็ดกองทุนลดหย่อนภาษี รับโค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อการลดหย่อนภาษีที่คุ้มค่า พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับรายการ The First Ultimate พาลูกค้าคนสำคัญท่องเที่ยวพร้อมอิ่มบุญ อิ่มท้องและอิ่มใจ กิจกรรม “1 Day Trip พามู กินปู ดูวิว ที่ สมุทรสาคร” นำโดย คุณภาสิกา นาเมืองรักษ์ Head of Digital Media and Content บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (คนกลาง แถวหน้า) ให้เกียรติกล่าวต้อนรับลูกค้าและเปิดงาน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ต่อยอดจากแคมเปญลดหย่อนภาษี “ใช้ชีวิตไหลลื่น ยื่นภาษีได้เต็มสิทธิ” ที่ช่วยให้คนไทยได้เตรียมพร้อมในการลดหย่อนภาษีได้เต็มสิทธิ พร้อมความคุ้มครองชีวิต อาทิ แบบประกัน Life Ready ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตสูง นานถึงอายุ 99 ปี นำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท แบบประกัน Life Super Save 14/5  รับเงินคืนทุกปีสูงสุด 10% ครบสัญญารับเงินก้อนโต 548% ของทุนประกัน ลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 100,000 บาท และแบบประกันบำนาญ Bumnan Ready รับเงินบำนาญตั้งแต่อายุ 60 ยาวจนถึงอายุ 88 สูงสุดปีละ 25% ของทุนประกัน เบี้ยประกันสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท*

กิจกรรมสุดพิเศษนี้ได้มอบประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าคนสำคัญ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ ทำบุญที่วัดโกรกกรากที่มีอายุกว่า 200 ปี พร้อมไปดูวิวริมทะเลอ่าวไทยที่จุดชมวิวปลาโลมา หรือ สะพานแดง อิ่มอร่อยกับร้านอาหารซีฟู้ด ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวลูกค้าได้รับความสุข สนุกสนานตลอดกิจกรรม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่มีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง และพร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ หรือกิจกรรมลูกค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

* เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพกร

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางศรัณยา เทียนถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นตัวแทนรับรางวัล Thailand’s Employee Experience of the Year ประเภทธุรกิจประกันชีวิต จากงาน Asian Experience Awards 2023 ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอ ประเทศไทย ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยอดเยี่ยมและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่พนักงานในธุรกิจด้านการเงินและการประกันภัย ตลอดระยะเวลา 85 ปีที่ผ่านมา จึงนับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับเอไอเอ ประเทศไทย ตลอดจนยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอที่ต้องการดูแลผู้คนทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้วยความเข้าใจและความจริงใจ สอดคล้องตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’

พฤกษา เผยได้รับกระแสตอบรับอย่างดี จากการเปิดพรีเซลโครงการใหม่ เดอะแพลนท์ บางนา กม.5 – ศรีนครินทร์  กับแบบบ้าน Bowery บ้านแฝด 2 ชั้น ดีไซน์โมเดิร์นบาร์นเฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ที่ผสานกำลังธุรกิจในเครือเพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดีและการใช้ชีวิตที่ไร้รอยต่อ ภายใต้แนวคิด “อยู่ดี มีสุข” นำโดย นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการเป็นจำนวนมาก พร้อมประกาศความสำเร็จ สามารถปิดการขายเฟสแรกภายในวันแรกของการเปิดพรีเซล และเตรียมเดินหน้าเปิดขายเฟส 2 กับแบบบ้าน Breezy ในช่วงต้นปี 2567

โครงการ เดอะแพลนท์ บางนา กม.5 – ศรีนครินทร์ เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นบาร์นเฮ้าส์ ดีไซน์ 2 รูปแบบ ได้แก่  1) บ้าน Bowery พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 1 ห้องครัว 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  2) บ้าน Breezy พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยโครงการฯ ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ “ชีวิตใหม่ ในแบบที่คุณเลือกเอง” ตั้งอยู่บนทำเลทองย่านบางนาที่เชื่อมต่อด้วย 4 ถนนหลัก ได้แก่ ถนนบางนา-ตราด ถนนศรีนครินทร์ ถนนเทพารักษ์ ถนนกิ่งแก้ว และสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีเหลือง รวมถึงทางพิเศษต่าง ๆ  อีกทั้งโครงการฯ ได้ดึงจุดแข็งของธุรกิจในเครือพฤกษา โฮลดิ้ง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้อยู่อาศัย โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุตเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาล และร่วมมือกับซินเนอร์จี โกรท ธุรกิจดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน MyHaus ที่เข้ามารองรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ เช่น การควบคุมการเข้าถึงอุปกรณ์ภายในบ้านผ่านมือถือ การสั่งเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า การตรวจเช็กประวัติการเข้าออก การแจ้งเตือนความปลอดภัย เพื่อตอบโจทย์วัยทำงาน Gen X - Gen Y ให้ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบเพื่อความยั่งยืนด้วย Passive Design ที่ระบายอากาศได้ดี ปูฉนวนหลังคาป้องกันความร้อน มีการใช้โซล่าเซลล์ และใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

FWD ประกันชีวิต ร่วมงาน MONEY EXPO 2023 BANGKOK YEAR-END คัดสรรผลิตภัณฑ์เด่น และบริการที่ตรงใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งการวางแผนการเงิน การเกษียณ ลดหย่อนภาษี พร้อมดูแลสุขภาพและโรคร้ายแรง คุ้มครองชีวิตครบวงจร เพื่อให้ลูกค้า Celebrate living ในแบบที่ชอบได้โดยไม่ต้องกังวล พบกันวันที่ 14-17 ธันวาคม 2566 ณ Hall 7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.

นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต” หรือ “FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงาน “Green Finance for Green Living การเงินสีเขียวเพื่อชีวิตสีเขียว” เราจึงมุ่งลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือ Carbon Footprint ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบบูธด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการลดใช้กระดาษและยกระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน Omne by FWD  ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องยื่นเอกสาร อาทิ การจัดการข้อมูลกรมธรรม์ การกู้เงินในกรมธรรม์ การยื่นเคลมออนไลน์ ที่ได้รับเงินคืนภายในไม่กี่นาที พร้อมด้วยฟีเจอร์  Play-to-Earn ที่เปลี่ยนคะแนนสะสมจากการใช้งานแอปพลิเคชันเป็นเงินสนับสนุนในการดูแลต้นไม้ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้เทคโนโลยีอีกด้วย

ภายในงานนี้ FWD ประกันชีวิต ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต เพื่อเป็นทางเลือกในการวางแผนการเงินทั้งระยะสั้น และระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเกษียณกับ FWD Savvy Pension 90/9, 90/60 ที่มอบเงินบำนาญเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดสูงสุดถึง 28% ของทุนประกัน และพิเศษยิ่งกว่ากับ CI Modular Series  นวัตกรรมประกันโรคร้ายแรงที่ให้ลูกค้าเลือกความคุ้มครองเสริมเพิ่มเติมจากผลประโยชน์เงินก้อนที่ได้รับจากประกันโรคร้ายแรงหลักได้ตามความต้องการ ด้วย “CI Cash A Day” แบบประกันค่าชดเชยรายวันเมื่อต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในจากการเจ็บป่วยด้วย 50 โรคร้ายแรง และ “CI Med-ALL” ค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายหลังจากเจ็บป่วยด้วย 50 โรคร้ายแรง ที่ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป และอุบัติเหตุ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เราคัดสรรมาเพื่อให้ลูกค้าวางแผนการเงินและสุขภาพ พร้อมทั้งลดหย่อนภาษีได้แบบครบวงจร

มาเลือกสรรแบบประกันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ พร้อมรับคำแนะนำโดยทีมงานขายมืออาชีพ ได้ที่บูธ FWD ประกันชีวิต ในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 6 MONEY EXPO 2023 BANGKOK YEAR-END ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2566 ณ Hall 7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด  (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้คะแนนสูงสุดจากดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices(DJSI) ปี 2023 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร  (Food Products) จากการประเมินของ S&P Global และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) สะท้อนการรักษามาตรฐานความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร และให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน บนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ผลการประเมินดังกล่าว สะท้อนการรักษามาตรฐานของความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่เกษตรกร คู่ค้าธุรกิจ ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน พนักงาน  ชุมชน   เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovation Management) ที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพและโภชนาการที่ดี (Health & Nutrition)สำหรับผู้บริโภค โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้  ตลอดจนใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุด ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Resource Efficiency and Circularity) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ CPF คือ Climate People และ Food Security ที่มีพันธกิจสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในภาวะปกติและวิกฤติ

"ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์เป็นครัวของโลกที่ยั่งยืน ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยึดมั่นในปรัชญาสามประโยชน์สู่ความยั่งยืน ตามดำริของประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ คือ มองประโยชน์ของประเทศ ประชาชน และบริษัท เป็นแนวทางขับเคลื่อนองค์กร   มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร   ส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีโภชนาการ และรสชาติอร่อย  ให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก "นายประสิทธิ์ กล่าว          

บริษัท ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตั้งแต่กระบวนการ ผลิตอาหารสัตว์ (Feed) การเลี้ยงสัตว์ (Farm) และการแปรรูปอาหาร (Food)อาทิ นำนวัตกรรมโปรไบโอติกมาใช้ในอาหารสัตว์ ทั้งสุกร ไก่ กุ้ง ช่วยสร้างสมดุลลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง  ไม่ป่วย  จึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ และมุ่งมั่นยกระดับเนื้อไก่ไทยสู่มาตรฐานความปลอดภัยระดับอวกาศ (Space Food Safety Standard)ในโครงการ"ไก่ไทยจะไปอวกาศ" เป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์อาหารของไทยก้าวสู่มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงที่ไม่ใช่แค่ระดับโลก แต่เป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศสามารถรับประทานได้  ตามหลักเกณฑ์ของ Space Food Lab อีกถึงมากกว่า 40 การตรวจสอบ  

นอกจากนี้ ในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง ปัจจัยเสี่ยงและความท้าทาย บริษัทฯ เตรียมความพร้อมรับมือสู่การเปลี่ยนผ่านในทุกมิติ อาทิ การบริหารความเสี่ยงองค์กรรอบด้าน กำกับดูแลด้านการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยด้านข้อมูลเทคโนโลยีดิจิทัล  จัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ  ตลอดจนการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศที่ดีให้แก่โลก การบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีความผูกพันที่ดีกับองค์กร ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ เสริมสร้างทักษะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ส่งเสริมวัฒนธรรมการเป็นคนดีของสังคม  ปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ยอมรับความหลากหลายและแตกต่างโดยไม่เลือกปฏิบัติ       

ซีพีเอฟกิจการในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ  ได้ประกาศเจตนารมณ์เป็นองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์(Net-Zero) ภายในปี 2050 และเป็นผู้ผลิตอาหารรายแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามหลักการทางวิทยาศาสตร์  สอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture Guidance (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคเกษตรและอาหารจากองค์กร The Science Based Targets initiative (SBTi) องค์กรไม่แสวงหากำไรระดับโลกที่สนับสนุนและให้การรับรองอย่างอิสระในการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแก่ภาคธุรกิจเพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ

ปัจจุบัน ซีพีเอฟมีการลงทุนและร่วมลงทุนใน 17 ประเทศ  ส่งออกไปมากกว่า 40 ประเทศ ครอบคลุมประชากรมากกว่า 4,000 ล้านคน  บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน จากการประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ทั้งในด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ตอกย้ำการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว และเติบโตอย่างมั่นคงพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้วิสัยทัศน์ "ครัวของโลกที่ยั่งยืน"

ดึงคนในท้องถิ่นร่วมเชื่อมโยงธุรกิจตามแนวเส้นทางท่องเที่ยว ดัน Thai SELECT และสินค้าชุมชน ‘Smart Local’ เป็นไฮไลท์สร้างความประทับใจ ดึงรายได้เข้าชุมชน เพิ่มพันธมิตรการค้า กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

X

Right Click

No right click