สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ระดมเครือข่ายนักวิชาการนานาชาติจากมหาวิทยาลัย ชุมชนธุรกิจ สถาบันวิจัยและพัฒนา และหน่วยงานภาครัฐ ผลักดันความร่วมมือในงาน ‘เนเธอร์แลนด์-ไทย : เทคโนโลยีอวกาศ 2023 เพื่อการเกษตรยั่งยืนและระบบอาหารที่มั่นคง’ (The Netherlands – Thailand Space Technology Forum 2023 : Space Technology for Resilient Agriculture and Food System) เพื่อเป้าหมายยกระดับการทำเกษตรและระบบอาหารที่ยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว พัฒนาการเกษตรดาวเทียม โดยมี รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. และนายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ ห้อง The Crystal Box เกษรทาวเวอร์ ราชประสงค์

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ระบบการเกษตรและอาหารทั่วโลกอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากจำนวนประชากรโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสุดขั้ว (Climate Change) ความท้าทายของระบบเกษตรกรรมและอาหารของประเทศ ไม่เพียงต้องผลิตอาหารด้วยวิธีที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่จะต้องมุ่งเป้าประกันความมั่นคงด้านอาหาร (Food Security) ได้อย่างเพียงพอสำหรับทุกคนด้วย ‘งานเนเธอร์แลนด์-ไทย: เทคโนโลยีอวกาศ 2023 เพื่อการเกษตรยั่งยืนและระบบอาหารที่มั่นคง’ ตอกย้ำความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ ในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เชิงพื้นที่ ‘เทคโนโลยีอวกาศ’ (Space Technology) และ ‘เกษตรกรรมดาวเทียม’ (Satellite Agriculture) เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของทั้งสองประเทศ นับเป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ภูมิสารสนเทศ และผู้มีส่วนกำหนดนโยบาย 140 คน ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยโซลูชั่นที่ก้าวล้ำ และกำหนดภูมิทัศน์ใหม่ของ ‘เทคโนโลยีอวกาศ’ และ ‘เกษตรกรรมที่ชาญฉลาดต่อสภาพภูมิอากาศ’ อาทิ การใช้ข้อมูลและภาพจากดาวเทียมเพื่อการพยากรณ์อากาศ การวิเคราะห์ดิน และการจัดการพืชผลแบบเรียลไทม์ได้ปฏิวัติการเกษตรกรรมสู่ยุคใหม่ เพิ่มขีดความสามารถสร้าง ‘มาตรฐานสากลเกษตรยืดหยุ่นและยั่งยืน’ ในการทำ ‘เกษตรอัจฉริยะ’ ผ่านปัญญาประดิษฐ์ IoT และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ SDG2 – ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security), SDG3 - ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ตลอดจน SDG11 – ชุมชนและเมืองที่ยั่งยืน เราจะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจอวกาศ ด้วยนวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจของความร่วมมือไทย – เนเธอร์แลนด์ ในการผลักดันขยายองค์ความรู้และการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นความท้าทายระดับโลก

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (Remco van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ‘วิทยาศาสตร์ภูมิสารสนเทศ’ มีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา การวางแผนการเดินทาง พยากรณ์อากาศ และอื่นๆ ข้อมูลเชิงพื้นที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายภาคส่วน เช่น เกษตรกรรม การวางผังเมือง การจัดการทรัพยากร (ป่าไม้ น้ำ แร่ธาตุ) และเพื่อการออกแบบระบบที่จะลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภัยพิบัติ อันเป็นความท้าทายของโลกปัจจุบัน เช่น อุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยแล้ง น้ำท่วม การตัดไม้ทำลายป่า การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ มลภาวะทางอากาศ ฯลฯ ล้วนเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน และต้นกำเนิดและผลที่ตามมามักจะทับซ้อนกันทางภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ภูมิสารสนเทศช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเราในการคิดค้นวิธีแก้ปัญหาและการตัดสินใจที่ดีขึ้นเพื่อสังคมและโลกอีกด้วย การประชุมเทคโนโลยีอวกาศเนเธอร์แลนด์ – ไทย 2023 ครั้งนี้  มุ่งเน้นไปที่การนำ ‘เทคโนโลยีอวกาศ’ เข้ามามีส่วนในการทำ ‘ระบบการเกษตรและอาหาร’ ที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัวและยั่งยืนมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศจึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้

ดร. นพดล สุกแสงปัญญา ผู้เชี่ยวชาญ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สจล. กล่าวถึงการใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในการวิเคราะห์และติดตามสังเกตการณ์ ‘ภัยแล้ง’ ในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทย แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1. ภัยแล้งเชิงอุตุนิยมวิทยา 2. ภัยแล้งเชิงอุทกภัย 3. ภัยแล้งเชิงเกษตรกรรม เพื่อให้หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลและภาพไปใช้ในการวางแผนและบริหารจัดการภัยแล้งได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้องค์ประกอบต่างๆ อาทิ ระดับปริมาณน้ำฝน อุณหภูมิของหน้าดิน สภาพอากาศความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์พืช ระบบชลประทาน และความชื้นของดิน เพื่อใช้ในการวางแผนทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ผลักดันเครือข่ายในประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์ในการใช้ ‘เทคโนโลยีอวกาศ’ มาช่วยทางด้าน ‘เกษตรแม่นยำ’ และระบบอาหารที่มั่นคงเพียงพอ  หากเกษตรกรสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้จริงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพียงแต่ในปัจจุบันยังขาดการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้ นอกจากนี้ควรออกมาตรการเพื่อความยั่งยืนในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ เสริมสร้างเกษตรกรที่ไม่ทำลายป่าและไม่ทำการเพาะปลูกมากเกินจนล้นความต้องการของผู้บริโภค

ศาสตราจารย์ ดร. วิคเตอร์ เจตเทน คณะวิทยาศาสตร์สารสนเทศภูมิศาสตร์และการสังเกตการณ์โลก (ITC) มหาวิทยาลัยทเวนเต้ (University of Twente) เนเธอร์แลนด์  กล่าวว่า การวิเคราะห์ความมั่นคงทางอาหารใน ‘สภาพอากาศสุดขั้ว’ (Extreme Climatic Conditions) ด้วยเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกล หรือ Remote Sensing จากดาวเทียม สามารถช่วยระบุปริมาณผลิตผลที่ชัดเจน ปัญหาการผลิตในเวลาและสถานที่ได้อย่างแน่นอน เราสามารถระบุพื้นที่มีปัญหาเพื่อวางแผนรับมือกับจุดอ่อนได้ทันท่วงทีและแม่นยำ ทั้งนี้เราต้องเข้าใจความซับซ้อนของระบบการเกษตร ความยืดหยุ่น ความเป็นจริงและข้อจำกัดของเกษตรกร จึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือในทางปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานครั้งนี้ ประกอบด้วยความร่วมมือของ 11 องค์กร ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL), คณะวิทยาศาสตร์สารสนเทศภูมิศาสตร์และการสังเกตการณ์โลก (ITC) มหาวิทยาลัย Twente, สำนักงานภูมิภาค FAO ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ประเทศไทย (GISTDA), กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กรมป่าไม้ ประเทศไทย, ศูนย์ภูมิสารสนเทศสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT), คาดาสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เนเธอร์แลนด์, ปีเตอร์สัน เทคโนโลยี เนเธอร์แลนด์ และชมรมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

เอไอเอ ประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัลแห่งเกียรติยศAIA Hospital Awards 2023” ภายใต้ธีม Thai Night แก่สุดยอดโรงพยาบาลคู่สัญญาทั่วประเทศซึ่งมีความเป็นเลิศในด้านการบริการ การสนับสนุนธุรกิจประกันภัย ตลอดจนการบริการจัดการสินไหมประกันสุขภาพยอดเยี่ยม เพื่อมุ่งส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยมีคณะผู้บริหาร แพทย์ และพยาบาลจากกว่า 30 โรงพยาบาลทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยเข้าร่วมงาน ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล โดยมีคณะผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย ให้การต้อนรับ นำโดย นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด นายแพทย์ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ พญ.นุสรา อรรฆศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ นพ.สมสกุล ศรีพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการแพทย์ ฝ่ายประกันสุขภาพ 1 และนางสาวญดา วงศ์ทองคำ รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า พร้อมกับร่วมขึ้นมอบรางวัลบนเวที เพื่อสนับสนุนคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งพิธีมอบรางวัล AIA Hospital Awards 2023 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท 

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในนามของเอไอเอ ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับโรงพยาบาลทั้งกว่า 30 แห่งจากทั่วประเทศ ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ AIA Hospital Awards 2023 และขอขอบคุณทุก ๆ โรงพยาบาลที่ให้การดูแลลูกค้าเอไอเออย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ซึ่งเอไอเอ ถือเป็นผู้นำในตลาดประกันสุขภาพ โดยเรามีลูกค้าผู้ถือสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพมากที่สุดจำนวนกว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ* และให้การบริการเคลมสินไหมสุขภาพมากกว่า 9,000 เคสต่อวัน เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีอยู่ทั้งหมด 885 โรงพยาบาล รวมถึงคลินิกอีก 304 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งได้มอบการรักษาพยาบาลและดูแลด้านสุขภาพให้กับลูกค้าเอไอเอ ประกอบกับการให้ความร่วมมือกับเอไอเออย่างดีมาตลอด เพื่อร่วมกันยกระดับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือคนไทยทั่วประเทศ”

สำหรับรางวัล AIA Hospital Awards 2023 ครั้งนี้ ได้จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ Thai Night เพื่อถ่ายทอดถึงความเป็นไทยผ่านเอกลักษณ์ของผ้าไทยที่มีความงดงาม แสดงถึงความมุ่งมั่นที่เอไอเอต้องการสนับสนุนให้คนไทยทั่วทุกภูมิภาคได้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งทุกรางวัลได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแบ่งรางวัลออกเป็นแต่ละภูมิภาคดังนี้

  • รางวัล โรงพยาบาลที่มีการสนับสนุนธุรกิจประกันภัยเพื่อการทำประกันภัยยอดเยี่ยม (Best Insurance Support)
    • กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 3
    • ภาคกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์
    • ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่
    • ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม
    • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา
  • รางวัล โรงพยาบาลที่มีการบริหารทรัพยากรทางการแพทย์ยอดเยี่ยม (Best Medical Utilization)
    • กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 1
    • ภาคกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1
    • ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง
    • ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
  • รางวัล โรงพยาบาลที่มีการบริหารจัดการสินไหมยอดเยี่ยม (Best Claim Management)
    • กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
    • ภาคกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลนนทเวช
    • ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี
    • ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่
    • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร
  • รางวัล โรงพยาบาลที่เปิดรับและตอบรับนวัตกรรมทางดิจิทัลยอดเยี่ยม (Best Digital Transformation)
    • กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
    • ภาคกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
    • ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลทักษิณ
    • ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ โรงพยาบาลพะเยาราม
    • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
  • รางวัล โรงพยาบาลที่ลูกค้าและตัวแทนได้รับประสบการณ์การบริการสินไหมประกันสุขภาพยอดเยี่ยม (Best Claim Experience)
    • กรุงเทพมหานคร ได้แก่ โรงพยาบาลบางปะกอก 1
    • ภาคกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
    • ภาคใต้ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์
    • ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค
    • ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี
  • รางวัล โรงพยาบาลที่มีการบริการกลุ่มลูกค้าเอไอเอ เพรสทีจ คลับ ยอดเยี่ยม (Best AIA Prestige Club Experience Awards)
    • รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
    • รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโลพหลโยธิน
  • รางวัล โรงพยาบาลที่มีการบริการด้านการประกันภัยและการบริการสินไหมประกันสุขภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด (Best AIA Healthcare Partner 2023)
    • ชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลศิครินทร์
    • รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ
    • รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

หมายเหตุ:

*ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566

ลุ้นเป็นหนึ่งใน 10 สุดยอดเยาวชน บินลัดฟ้าเข้าแคมป์ฯ ที่ Liverpool FC International Academy ประเทศอังกฤษ

แอกซ่าประกันภัย ตอกย้ำความสำเร็จร่วมจัดแสดงบูธต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ซึ่งในปีนี้ แอกซ่าได้จัดเตรียมกิจกรรมและข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย พร้อมนำรถยนต์โบราณอันทรงคุณค่า Overland Model 40 Roadster ปีค.ศ. 1910 อันเป็นต้นแบบในการพัฒนาของรถยนต์ในยุคปัจจุบัน มาจัดแสดงในบูธอีกด้วย

มร. โคลด เซนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การร่วมมือครั้งสำคัญในปีนี้ นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จ อันสอดคล้องกับพันธกิจของแอกซ่าในการมุ่งมั่นดูแลลูกค้าให้ได้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ แม้ความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ ผ่านแนวคิดการสื่อสาร Why should the future be a risk?” ให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงในอนาคตได้อย่างอุ่นใจ ด้วยแผนประกันภัยที่สามารถกำหนดปัจจัยความเสี่ยงได้ตรงตามความต้องการ

ภายในงาน แอกซ่าได้จัดเตรียมกิจกรรมและข้อเสนอสุดพิเศษ พร้อมโชว์รถยนต์โบราณอันทรงคุณค่า ให้กับลูกค้าและผู้เข้าร่วมงานที่บูธแอกซ่า ตั้งอยู่ที่แถว D03 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันวันนี้ – 11 ธันวาคม 2566

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมงานแถลงข่าว “Smart Hospital ผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อลูกค้าประกัน”

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการถ่ายภาพจากประเทศญี่ปุ่น ประกาศเซ็นสัญญาเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหม่ทัพ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำศึกไทยลีก อย่างเป็นทางการ ภายใต้วิสัยทัศน์มองอนาคตในยุคดิจิทัล ไม่หยุดยั้งพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง และความสามารถที่หลากหลายในระดับพรีเมียม พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน โดยเป็นอีกส่วนหนึ่งในการผลักดันสโมสรฟุตบอลไทยสู่ระดับท็อปของเอเชีย รวมถึงประสบความสำเร็จในแง่ผลงานในสนามอีกครั้ง

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทองธานี ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเซ็นสัญญาเปิดตัวผู้สนับสนุนรายใหม่ ฤดูกาล 2023/24 ระหว่างสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการถ่ายภาพชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น โดยในงานได้รับเกียรติจาก มร.ยูตะ คาวามูระ Assistant to Managing Director (AMD) and Head of Electronic imaging, Asia Pacific บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด, คุณวิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด, คุณรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมนักฟุตบอล ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน รวมถึงการรับชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องสโมสรเมืองทองฯ Official Fanpage และ YouTube เป็นจำนวนมาก

ทางด้าน มร.ยูตะ คาวามูระ Assistant to Managing Director (AMD) and Head of Electronic imaging, Asia Pacific บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฟูจิฟิล์ม รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับต้นของประเทศไทย อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการต่างๆ มากมาย ตลอดจนผลักดันผู้เล่นให้ก้าวสู่การค้าแข้งในลีกชั้นนำไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย ฟูจิฟิล์มนั้นตั้งปณิธานในการเป็นอีกหนึ่งกลไกในการสนับสนุนทีมฟุตบอลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการสนับสนุนผลงานในด้านต่างๆ ระหว่างกันแล้ว ในแง่ของแฟนฟุตบอล เราเชื่อมั่นว่าโซลูชันการถ่ายภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิทัล เลนส์ และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมรองรับการถ่ายภาพกีฬาด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจากฟูจิฟิล์ม ความเหนือระดับจากเซนเซอร์ความเร็วสูง เมื่อทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลภาพความเร็วสูง ทำให้การถ่ายภาพต่อเนื่องและการถ่ายวิดีโออัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพ เปิดประสบการณ์ถ่ายภาพกีฬาอันน่าทึ่ง ให้ช่างภาพมืออาชีพเก็บช็อตสำคัญได้อย่างไม่มีพลาด”

ขณะที่คุณวิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวแสดงความขอบคุณ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ที่เข้าร่วมเป็นหนึ่งในการช่วยยกระดับสโมสรครั้งนี้ว่า "ในนามตัวเเทนสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ขอยินดีต้อนรับ ฟูจิฟิล์ม สู่การเป็นพาร์ทเนอร์รายใหม่ ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติสโมสรของเราเป็นอย่างมาก โดยฟูจิฟิล์มถือเป็นแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกด้านการถ่ายภาพมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าการเข้ามาร่วมสนับสนุนของฟูจิฟิล์ม จะช่วยให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด มีทีมที่พร้อมและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ยังต่อยอดไปสู่แฟนบอล ที่จะได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์สินค้าคุณภาพจากทางฟูจิฟิล์มได้ง่ายขึ้น ทั้งในส่วนของการออกบูธในแมตช์การแข่งขันที่ธันเดอร์โดมสเตเดี้ยม เมืองทองธานี รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ของสโมสรฯ"

สำหรับบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 เป็นบริษัทย่อยภายใต้บริษัท ฟูจิฟิล์ม เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในหลากหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ และธุรกิจด้านการถ่ายภาพ โดยเฉพาะในธุรกิจด้านการถ่ายภาพฟูจิฟิล์มนำเสนอรูปแบบของการถ่ายภาพที่หลากหลาย ทุกผลิตภัณฑ์พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเก็บรักษาความทรงจำและช่วงเวลาดีๆ ทั้งในรูปแบบถ่ายภาพและภาพฟิล์ม เพิ่มความมีชีวิตชีวาและสานความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

โดยสโตร์ อิเกีย แห่งที่ 4 ในไทย ณ ดิ เอ็มสเฟียร์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป

หนุนการพัฒนาศักยภาพ นร.ไทยสู่ยุคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมมอบทุนการศึกษาและเงินรางวัลกว่า 50 รางวัล

ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการเร่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน นำประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน

ชวนทำความสะอาดผิวแบบมืออาชีพ พร้อมบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์

X

Right Click

No right click