กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ประสานพลังความร่วมมือกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. นำความเป็นเลิศของทั้งสองสถาบันสร้างความเข้มแข็งให้กับ Tech Ecosystem ของประเทศไทย ผ่านการสนับสนุนด้านการศึกษา งานวิจัย การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการแบ่งปันความรู้และโอกาสให้กับนักศึกษา ชุมชน และสังคม เพื่อต่อยอดการเติบโตของทั้งสองสถาบัน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่โลกอนาคตอย่างยั่งยืนด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม

ดร. วศิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยตลาดแรงงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ Tech Talent มีความต้องการสูง ขณะที่โอกาสในการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติงานจริงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถของนักศึกษาให้พร้อมสำหรับตลาดแรงงาน กรุงศรี และบริษัทในเครือ ได้แก่ กรุงศรี ฟินโนเวต กรุงศรี นิมเบิล กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ จึงพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งด้านความรู้ และประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับนักศึกษาและบุคลากรของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง รวมถึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาต่อยอดความรู้ความสามารถ และได้ลงมือทำงานในสภาพแวดล้อมจริง แก้ไขปัญหาไปกับทีมงาน ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่จะสร้างให้บัณฑิตแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ กรุงศรี ยังพร้อมส่งเสริมงานวิจัยทางด้านเทคโนโลยี เพื่อนำไปต่อยอดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อเป้าหมายในการสร้าง Tech Ecosystem ที่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจและประเทศต่อไป”

ด้าน รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า  “การร่วมมือกับกรุงศรี ในครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ สจล. ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก หรือ The World Master Of Innovation และด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม วิจัย สจล. พร้อมเดินหน้าร่วมสร้างเครือข่ายการทำงานทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เพื่อผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคู่จริยธรรม และรักษาไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมอันดีของประเทศ ในโอกาสนี้ ต้องขอขอบคุณ ผู้บริหาร และผู้ทำงานทุกภาคส่วน ที่ทำให้เกิดความร่วมมือนี้บนพื้นฐานความเข้าใจอันดีต่อกัน และประสานผลประโยชน์ในการพัฒนาความรู้ทางวิชาการ งานวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป”

สำหรับโครงการความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาและบุคลากรของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางปัญญาระหว่างสองสถาบันอย่างเป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดตั้งโครงการศึกษาและวิจัยร่วมกัน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งโปรแกรมการฝึกอบรม สัมมนา พัฒนาบุคลากรและนักศึกษาร่วมกัน เพื่อยกระดับทักษะและการสร้างทักษะใหม่ให้เท่าทันปัจจุบัน การสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ (Startup) ให้แก่นักศึกษาและบุคลากรจากทั้งธนาคารและบริษัทในเครือ และสจล. เป็นต้น โดยมุ่งหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะช่วยสร้าง Tech Ecosystem ที่สมบูรณ์เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่โลกอนาคตได้อย่างยั่งยืน

พร้อมเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด กรณีบริษัท “สินมั่นคงประกันภัย” ฟื้นฟูกิจการ

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้อัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ความเสี่ยงส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ (Market Earnings Yield Gap; MEYG) ลดลง แนะนักลงทุนเตรียมเก็บหุ้นปันผลสูงและยั่งยืนเข้าพอร์ต

จากสถานการณ์และทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯและไทย ที่ดูน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ความเสี่ยงเรื่องส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ (Market Earnings Yield Gap, MEYG) ลดลง ซึ่งปัจจุบัน MEYG ของ SET Index กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี  อยู่ที่ 3.95% สูงกว่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ 3.6% จึงมีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตลาดหุ้นได้มากขึ้นในไตรมาส 1

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทีมวิจัยหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (MST Research) เชื่อว่าหุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน หรือ หุ้นที่จ่ายปันผลสูง สม่ำเสมอ และมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จะเป็นเป้าหมายสำหรับกระแสเงินลงทุนรอบใหม่ที่กำลังเข้ามา โดยแนะนำ 3 หลักเกณฑ์ในการคัดกรองหุ้นเพื่อลงทุน เก็บเข้าพอร์ต ดังนี้

  • เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอและมากกว่า SET Index ในช่วง 2563-2565 หรือหุ้นที่จ่ายปันผลในปี 2566 มากกว่า 5%
  • เป็นหุ้นที่คาดว่าจะมี EPS Growth ปี 2567 เติบโต (EPS Growth 2567F > 0)
  • เป็นหุ้นที่ ESG Rating มากกว่าระดับ A ขึ้นไป

ซึ่งจาก 3 หลักเกณ์ดังกล่าว พบว่าได้หุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน 10 บริษัท ประกอบด้วย  SAT TISCO SCB TCAP AP ICHI SABINA PTT INTUCH และ SCC อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมตามตารางด้านล่างนี้  

ตาราง รายละเอียดหุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน

 

“Celebrate living สำหรับผมคือการใช้ชีวิตแบบที่ชอบในสไตล์เรา คือ การฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ทำในสิ่งที่เราสนุกไปกับมัน ไม่ทำให้ตัวเองต้องมานึกเสียใจทีหลังว่า รู้อย่างนี้น่าจะทำแบบนั้น” ไมตี้ – ธีรเดช วราภาพงษ์ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเซนต์
คาเบรียล School band วง White Lie
มาร่วมบอกเล่าประสบการณ์โชว์พลังเสียง ในงาน FWD Music Live Fest 2 #ชีวิตติดคอนฯ ฟรีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ใจกลางเมืองหน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ จัดขึ้นโดย FWD ประกันชีวิต ที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบ

งาน FWD Music Live Fest 2 #ชีวิตติดคอนฯ เป็นงานคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ของ FWD ประกันชีวิต ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ผ่านการทำกลยุทธ์ Brand Experience เพื่อให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่จับต้องได้ และเข้าไปอยู่ในใจและไลฟ์สไตล์ของผู้คน ด้วยการสื่อสารแบรนด์ผ่าน Music Experience ซึ่งเป็นสื่อกลางในการคอนเนคให้คนทุกเจเนอเรชั่นที่มีความชอบในดนตรีมาเจอกัน โดยมาในรูปแบบของฟรีคอนเสิร์ตใหญ่กลางเมืองที่จัดต่อเนื่อง 3 วันเต็ม และยังขยายพื้นที่ความสุขให้มากกว่าเดิม เพื่อให้คนทุกเจเนอเรชั่นได้ร่วม Celebrate living ด้วยกันมากขึ้น นอกจากนี้ ในคอนเสิร์ตทุกครั้ง FWD ประกันชีวิต ยังได้เปิดโอกาสให้น้องๆ School Band ที่มีใจรักทางด้านดนตรีได้มีพื้นที่ในการปล่อยพลังความสามารถ พิสูจน์ฝีมือของตนเอง และร่วมสร้างความสนุกบนเวทีเดียวกับศิลปินชั้นนำของเมืองไทย จึงเกิดเป็นบรรยากาศความสนุกและคึกคักเป็นอย่างมาก ถือเป็นการให้น้องๆ ได้เพิ่มพูนประสบการณ์ พัฒนาศักยภาพทางดนตรี และสานต่อความฝันสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพในอนาคต

อาย –ณัฏฐณิชา เมฆกมล นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน นักร้องนำจากวง Eye Rice บอกว่า “การที่พวกเรามารวมตัวกันเป็นวงนี้ขึ้นมาได้ เพราะพวกเรามีความฝันที่อยากจะเป็นศิลปิน แนวดนตรีของวงเราจะเป็น Pop Rock และมี Sound Electronic เข้ามาร่วมด้วย การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน FWD Music Live Fest ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆ ที่ทาง FWD ประกันชีวิต เปิดโอกาสให้พวกเราได้แสดงความสามารถ พวกเราเคยได้ติดตามงาน FWD Music Live Fest ที่จัดขึ้นครั้งแรกที่สยามสแควร์ จากตรงนั้นจึงจุดประกายความฝันของพวกเราที่อยากจะมีโอกาสขึ้นเวทีนี้สักครั้ง พวกเราตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มาเล่นดนตรีและยังมีโอกาสได้เจอศิลปินที่เราชื่นชอบอีกด้วย พวกเราได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ใจดี และยังได้รับประสบการณ์ซึ่งมีคุณค่ามากๆ  ที่ได้ทำในสิ่งที่เราชอบ ไม่ปิดกั้นตัวเอง และเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อตัวเรา”    

      

ไอซ์ - ณฐยา เหลาผา นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี นักร้องนำจากวง Market Feel เล่าเสริมว่า “นับเป็นครั้งที่สองที่พวกเราได้มีโอกาสมาขึ้นเวที FWD Music Live Fest ครั้งนี้ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก เพราะว่าเวทีใหญ่มาก คนดูก็เยอะกว่าเดิม พวกเรามีความฝันที่อยากจะเล่นดนตรีที่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์มาก่อนอยู่แล้ว และยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ยังได้มาเล่นเป็นวงเปิดให้กับศิลปินที่เราชอบอีก พวกเราอยากจะขอขอบคุณ FWD ประกันชีวิต ที่เปิดโอกาสให้พวกเราที่เป็นนักเรียนที่มีความฝันอยากจะเล่นดนตรีได้มีโอกาสนี้ อยากจะฝากบอกทุกคนที่อยากจะมีโอกาสแบบพวกเรา อยากจะให้ทุกคนตั้งใจและทำให้เต็มที่ และทำอย่างมีความสุข ถ้าเราฝึกฝนหมั่นซ้อมและตั้งใจ ยังไงโอกาสมันจะต้องมาถึงเราแน่ๆ ค่ะ”

ด้าน พฤกษ์ - มรรษกร ขุนพานเพิง นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนบึงกาฬ มือกีตาร์วงแดนสนธยา กล่าวว่า “วงของเราเป็นแนวเพลงที่มีความเป็นอีสาน หมอลำที่โมเดิร์นดูทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นอีสานในสไตล์ของพวกเรา เราดีใจและภูมิใจมากๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่คิดว่าอายุแค่นี้จะได้มาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ งานนี้ถือเป็นงานแรกของพวกเราที่มาเล่นเปิดตัวต่อสาธารณะ นอกเหนือจากการแข่งประกวด อยากจะขอบคุณ FWD ประกันชีวิต จากใจเลยครับ ที่เปิดโอกาสให้พวกเราได้มาเล่นบนเวทีเดียวกับศิลปินหลายๆ คนที่เป็นไอดอลของวงเรา พวกเราซ้อมกันมาอย่างหนักและเต็มที่เพื่องานนี้ การใช้ชีวิตในแบบที่ชอบของพวกเรา คือ การคิดบวก ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองมีความสุข และปล่อยใจไปกับมันอย่างเช่นการเล่นดนตรี เพราะว่าดนตรีจะพาคุณไปในที่ๆ คุณไม่เคยไป”

น้ำหวาน - ปัณชณัช ไตรหัตถการ นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ มหาวิทยาลัยบูรพา มือกีตาร์วง Sweet Danger กล่าวว่าวงของเราตั้งขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่พวกเราเรียนอยู่ชั้นป.5 อาจารย์เห็นว่าอยากจะลองทำวงดนตรีหญิงล้วน ก็เลยจับพวกเรารวมตัวกัน การที่ได้มีโอกาสมาเป็นส่วนหนึ่งของเวที FWD Music Live Fest พวกเรารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ และขอขอบคุณทุกคนที่มาดูพวกเราในวันนี้ พวกเราทำเต็มที่มาก และก็มีความสุขที่เห็นทุกคนสนุกไปกับพวกเรา เวทีนี้เป็นเวทีใหญ่ที่มีคนมาดูเยอะมากๆ และการมาเล่นในวันนี้ก็ถือเป็นการเล่นเป็นวงเปิดให้กับศิลปินเป็นครั้งแรกของวงพวกเราด้วยค่ะ พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ มันเป็นความฝันของพวกเราอย่างหนึ่งที่จะได้เล่นบนเวทีเดียวกับศิลปิน ส่วนการใช้ชีวิต Celebrate living ในมุมของพวกเรา คือ การปลดปล่อยอารมณ์และสร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยการเล่นดนตรี โดยเฉพาะดนตรีแนวร็อก ทำให้เราได้ปลดปล่อยอารมณ์ได้แบบสุดๆ เลยค่ะ”

ภูผา ใจสงเคราะห์ นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ มือกีตาร์ วง Sixth Floor กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณ FWD ประกันชีวิตมากๆ ที่ให้โอกาสพวกเรามาเล่นอีกครั้ง รอบที่แล้วพวกเราก็สนุกกันมาก เป็นเวทีอีกเวทีหนึ่งที่เราจดจำไว้ในใจเป็นอย่างดี การให้นักเรียนได้มาเล่นบนเวทีแบบนี้ เอาจริงๆ เป็นไปได้ยากมากที่จะได้มาเล่นบนเวทีเดียวกับศิลปิน ซึ่งเป็นเวทีที่ใหญ่มากๆ อย่างลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ และยังเป็นโอกาสที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เวทีนี้เป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดสำหรับวงเราเลยครับ สำหรับวิธีการใช้ชีวิตในแบบที่ชอบของพวกเรา คือ การใช้ชีวิตให้เต็มที่ ทำทุกอย่างที่อยากทำ โดยไม่ต้องกังวลอะไร และก็ไม่รบกวนผู้อื่น”

นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุปว่า “Music Experience เป็นหนึ่งในรูปแบบของการสร้าง Brand Experience ที่สามารถสร้างการรับรู้ และการจดจำแบรนด์ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพในการสร้างคอนเนคชั่นให้เกิดขึ้นร่วมกันของคนทุกเจเนอเรชั่นได้เป็นอย่างดี เราดีใจที่ได้เปิดโอกาสให้น้องๆ แสดงความสามารถทางด้านดนตรีเป็นครั้งที่สองของปีนี้ การแสดงดนตรีของน้องๆ ทุกวง ได้สร้างโมเม้นท์และสีสันของความสนุกสนาน และความประทับใจ ที่เกิดขึ้นบนเวที FWD Music Live Fest 2 #ชีวิตติดคอนฯ” ความสามารถของน้องๆ ที่เราเห็นจากงานในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ผู้ที่มีใจรักด้านดนตรีได้ลองออกไปทำในสิ่งที่ชอบ เช่นเดียวกับ Brand Promise ของ FWD ประกันชีวิต ที่สนับสนุนให้ทุกคน Celebrate living ได้ในทุกๆวัน และหวังว่าเวทีแห่งโอกาสนี้จะเป็นประสบการณ์ ที่สร้างความทรงจำที่ดีให้กับเยาวชนคนรักดนตรีต่อไป”

พร้อมมอบนโยบายการทำงานกรมพัฒน์ฯ ย้ำ!! ทุกภารกิจต้องทำเพื่อประชาชน และประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนซ้าย) และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนขวา) คว้ารางวัลบริษัทที่น่าทำงานที่สุด หรือ Dream Company to Work for ประจำปี พ.ศ.2566 จาก Business Leader of The Year Awards 2023 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจยิ่งของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการดูแลพนักงานเสมือนคนในครอบครัว ถือเอาสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ และให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาความสามารถและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วัฒนธรรมองค์กร Inclusive Workplace ที่เน้นถึงความเท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของ AXA’s Employer Brand Promise คือ “ปลุกศักยภาพในตัวพนักงาน มุ่งสู่ความสำเร็จ” พร้อมทั้งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่พร้อมทั้งเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย คุณสรัสวดี คุปตพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแผนกทรัพยากรบุคคลเพื่อพันธมิตรธุรกิจ (Chief Human Resources Business Partner Officer) รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลองค์กรที่สนับสนุนการจ้างงานคนพิการ ประจำปี 2566 “ระดับดี” โดย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานมอบรางวัล

รางวัลเกียรติยศดังกล่าว จัดโดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2566 มอบให้แก่องค์กรที่สนับสนุนการจ้างงานคนพิการอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีการจ้างงานคนพิการให้ปฏิบัติงานในส่วนต่างๆ มีการดูแลพนักงาน อย่างสมดุลทั้งด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัว มีการฝึกอบรมและให้ความช่วยเหลือในการทำงาน จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐาน เพื่อสร้างอาชีพให้กับผู้พิการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวหรือต่อยอดทำกิจการอื่นได้ ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม และยอมรับความแตกต่างที่หลากหลายของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ ภายใต้วัฒนธรรมองค์กร Inclusive Workplace ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของ AXA’s Employer Brand Promise คือ “ปลุกศักยภาพในตัวพนักงาน มุ่งสู่ความสำเร็จ” ที่พร้อมทั้งเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

นักวิ่งเทรลรวม 400 ทีมเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก ตอกย้ำความมุ่งมั่นสนับสนุนคนทั่วเอเชียแปซิฟิก มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives’

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เนรมิตปรากฏการณ์แห่งแสงสี ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดยิ่งใหญ่ตระการตากับงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2023” ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 จัดเต็มเทคนิคสมัยใหม่ สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่งดงามจากแนวของสายน้ำที่คดโค้งไหลผ่านวัดวาอารามและย่านสำคัญ 7 พื้นที่ที่แสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำสู่แลนด์มาร์กของประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปี 2566 คาดปั๊มรายได้ท่องเที่ยวสะพัดกว่า 600 ล้านบาท

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2022 มีผู้สนใจทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน 252,282 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 470 ล้านบาท ปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. จึงได้ต่อยอดจัดงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2023” ตลอดเดือนธันวาคม 2566 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ปี 2566 และต่อเนื่องถึงปี 2567 ภายใต้ความร่วมมือแบบ 360 องศา กับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมุ่งสู่การเป็นประเทศที่สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ผ่านการนำเสนอต้นทุนทางวัฒนธรรม Soft Power อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแสง สีและการแสดงทางวัฒนธรรมในยามค่ำคืน รวมทั้ง ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น ธุรกิจเรืออาหาร เรือนำเที่ยว โรงแรม ที่พัก ตลอดจนร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 600 ล้านบาท ตลอดระยะการจัดงาน

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า งาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2023” เป็นอีกหนึ่งบิ๊กอีเวนต์ภายใต้โครงการ Thailand  Winter Festivals ที่ ททท. ตั้งใจให้เป็นหนึ่งปรากฏการณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่และอลังการกว่าที่เคย โดยปีนี้ ททท. ขยายเวลาการแสดงเป็น 1 เดือนเต็มตลอดเดือนธันวาคม  2566 ซึ่งจะแต่งแต้มสีสันแนวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนด้วยนวัตกรรม แสง สี และสื่อผสมสมัยใหม่ ทั้ง Projection Mapping & Lighting ควบคู่กับการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ให้มีความทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสและอยากเดินทางกลับมาอีกครั้ง เช่น การประดับไฟ การฉายภาพบนตัวอาคาร การแสดงพลุ การแสดงทางวัฒนธรรม ฯลฯ ณ บริเวณสถานที่สำคัญ         ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงระหว่างสะพานกรุงธน - สะพานพระราม 3 กรุงเทพมหานคร ร้อยเรื่องราวของความงามดั่งวิจิตรเจ้าพระยา ซึ่งได้คัดเลือกพื้นที่จัดการแสดงที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมที่งดงามจากแนวของสายน้ำที่คดโค้งไหลผ่านวัดวาอาราม และย่านสำคัญ จำนวน 7 พื้นที่ริมน้ำของกรุงเทพมหานคร ได้แก่  สะพานพระราม 8 และสวนสันติชัยปราการ, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, ป้อมวิไชยประสิทธิ์, สะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพระพุทธยอดฟ้า), River City Bangkok, ICONSIAM และ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เดสติเนชั่น ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวยามค่ำคืนอันอัศจรรย์ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีรายละเอียดกิจกรรมที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. สะพานพระราม 8  จัดแสดงภายใต้คอนเซปต์ “วิจิตร แสงแห่งสยามกับ การแสดง 2 ชุด
  • การแสดงเลเซอร์ 3D ประกอบ Light & Sound จัดแสดงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ รอบละ 5 นาที ได้แก่ เวลา 00 น., 19.30 น., 20.00 น., 20.30 น, 21.00 น. และ 21.30 น.
  • การแสดงทางวัฒนธรรม ชุด “มหัศจรรย์เมืองไทย” ณ สวนสันติชัยปราการ ในวันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 วันละ 4 รอบ ได้แก่ เวลา 30 น., 20.00 น., 20.30 น. และ 21.00 น.
  1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร จัดแสดงภายใต้คอนเซปต์ “วิจิตร อรุณแห่งธารา” กับ การแสดง 2 ชุด
  • การแสดง Light & Sound พระปรางค์วัดอรุณราชวรรามฯ จัดแสดงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ รอบละ 5 นาที เวลา 00 น., 19.30 น., 20.00 น., 20.30 น, 21.00 น.และ 21.30 น.
  • การแสดงโดยผสมผสานระบบเทคนิคพิเศษ Light & Sound ประกอบการแสดงทางวัฒนธรรม ชุด “เล่าขานตำนานยักษ์วัดแจ้ง เทพสถิต วิจิตรคู่สองฝั่งเจ้าพระยา” จัดแสดงวันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 จำนวน 3 รอบ เวลา20 น., 19.40 น. และ  20.20 น.
  1. ป้อมวิไชยประสิทธิ์ จัดแสดงภายใต้คอนเซปต์ “วิจิตร ชาญชัยแห่งปฐพี” พบกับ การแสดง Projection Mapping และม่านน้ำประกอบ Light & Sound ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ รอบละ 5 นาที ได้แก่ เวลา 19.15 น., 19.45 น., 20.15 น., 20.45 น., 21.15 น. และ 21.45 น.
  2. สะพานพระพุทธยอดฟ้า จัดแสดงภายใต้คอนเซปต์ “วิจิตร เจิดจรัสแห่งนภา” กับ การแสดง 2 ชุด
  • การแสดง Illumination ประกอบ Light & Sound จัดแสดงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ รอบละ 5 นาที ได้แก่ เวลา 00 น., 19.30 น., 20.00 น., 20.30 น., 21.00 น. และ 21.30 น.
  • การแสดงพลุประกอบการแสดง ในวันที่ 1-2, 7-9, 15-16, 22-23 และ 29-30 ธันวาคม 2566 วันละ 1 รอบ รอบละ 3 นาที ในเวลา 45 น.

  1. River City Bangkok (ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก) จัดแสดงภายใต้คอนเซปต์ วิจิตร อะเมซิ่งไทยแลนด์ พบกับการแสดง Projection Mapping ประกอบ Light & Sound จัดแสดงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 6 รอบ รอบละ 5 นาที ได้แก่ เวลา 19.00 น., 19.45 น., 20.15 น., 20.45 น., 21.15 น. และ 21.45 น.
  2. ICONSIAM (ไอคอนสยาม) พบกับการแสดง Light & Sound จัดแสดงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 วันละ 3 รอบ รอบละ 10 นาที ได้แก่ เวลา 18.30 น., 20.00 น. และ 21.00 น.

  1. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เดสติเนชั่น พบกับการแสดงโดรน วันที่ 9, 16 และ 23 ธันวาคม 2566 จำนวน 1 รอบ ในเวลา 19.50 น.

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมสีสันบรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำในแต่ละพื้นที่ หรือริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจุดที่ทำการแสดงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566  เวลา 19.00 – 22.00 น. หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : Vijit Chao Phraya 2023

บริษัท ทิพยประกั นภัย จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประกันภัย จัดโปรแรงส่งท้ายปีพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ยกทัพผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายและออกแบบความคุ้มครองที่ครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Motor Expo 2023 โดยมี ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการขายและการตลาด 2 คุณไชยพร จันทรเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจประกันภัยรถยนต์ พร้อมผู้บริหาร บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดบูธในงาน

ภายในงาน ทิพยประกันภัย ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย อาทิ TIP Lady ประกันภัยที่เข้าใจผู้หญิง , TIP Rainbow ประกันภัยที่เข้าใจความเป็นคุณ , TIP Up to mile ประกันภัยสำหรับคนใช้รถน้อย เป็นต้น เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน พร้อมการให้บริการที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกระดับ

“TIP Get More ลดเกินคาด...ได้เกินคุ้ม”  กับแผนประกันภัยรถยนต์ พร้อมข้อเสนอที่ให้มากกว่า อาทิ

  • ลด เบี้ยประกันภัย สูงสุด 15% สำหรับลูกค้าใหม่
  • รับ ของสมนาคุณ รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท
  • ลุ้น ชิงทอง รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท
  • ชิง Mitsubishi Attrage มูลค่า 529,000 บาท

พร้อมรับสิทธิ์ ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พิเศษ! ลูกค้าต่ออายุประกันภัยรถยนต์ในงาน  รับบัตร Lotus’s สูงสุด 1,000 บาท

รับข้อเสนอสุดพิเศษได้ที่บูธทิพยประกันภัย (J34, J35) ในงาน Motor Expo 2023 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 11 ธ.ค. 66

X

Right Click

No right click