กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับงาน Pet Fair South East Asia 2023 (เพ็ท แฟร์ เซาท์ อีสต์ เอเชีย)

นิว บาลานซ์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารงานของผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จํากัด โดยแฟลกชิปสโตร์ของนิว บาลานซ์ แห่งแรกซึ่งตั้งอยู่ในเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ นำเสนอคอนเซ็ปต์ใหม่ของพื้นที่ที่พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยความสดใหม่ เติมเต็มทั้งความสนุกสนานและการเข้าถึงได้ง่ายสำหรับลูกค้าผู้หลงใหลในผลิตภัณฑ์สปอร์ตแฟชั่นโดยเฉพาะ

แฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ของนิว บาลานซ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 233 ตารางเมตรภายในเซ็นทรัลเวิลด์ นำเสนอคอนเซ็ปต์การออกแบบและตกแต่งร้านแบบ “Flex” ซึ่งหมายความถึงความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการตกแต่งเพื่อนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ง่ายและบ่อยเท่าที่ต้องการ โดยมีผนังและอุปกรณ์ติดตั้งอเนกประสงค์ที่สามารถถอดปลี่ยนได้ พร้อมทั้งมีการจัด Energy Zone เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลต์หรือแคมเปญพิเศษในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ยังมีโซฟาขนาดใหญ่ให้ลูกค้าสามารถนั่งรอเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวลองสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย แฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ยังนับว่าเป็นร้านนิว บาลานซ์ สาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่พร้อมสร้างภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมสปอร์ตแฟชั่นจากนิว บาลานซ์ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งด้วยคอลเลกชันคัดสรรสุดพิเศษจากนิว บาลานซ์ ที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอลเลกชัน MADE U.S. เสื้อผ้าไลฟ์สไตล์ รองเท้าผ้าใบ และชุดกีฬา

มร.ดีพัค โทมา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด กล่าวว่า “ความนิยมของนิว บาลานซ์ ในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจอย่างสูงจากลูกค้าที่ชื่นชอบทั้งแฟชั่นแนวสตรีทและสปอร์ตแฟชั่น การเปิดร้านแฟลกชิปแห่งแรกของนิว บาลานซ์ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นโลเคชันที่ถือว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่สำคัญบนเส้นทางของการเชื่อมต่อกับลูกค้าของเรา พร้อมทั้งยังเป็นการนำเสนอช่องทางใหม่ ให้พวกเขาได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์ของนิว บาลานซ์ มากขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าร้านแฟลกชิปแห่งใหม่นี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการนำเสนอแบรนด์นิว บาลานซ์ และมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

การเปิดตัวร้านแฟลกชิปแห่งใหม่นี้ นิว บาลานซ์ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการเติบโตของผลิตภัณฑ์ในหมวด Performance Running ผ่านแคมเปญ “RUN YOUR WAY” ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ระดับสากลที่ใช้กันทั่วโลก (global key message) เพื่อเฉลิมฉลองตัวตนที่เป็นตัวของตัวเองของทุกคน ด้วยแนวคิดที่ว่า ‘หากคุณออกวิ่ง คุณก็คือนักวิ่ง' (if you run, you are a runner.)

นิว บาลานซ์ ยังเผยธีมของแบรนด์ที่ว่า “วัฒนธรรมกีฬาคืออัตลักษณ์ของเรา” (Sport culture is our identity) ซึ่งเป็นธีมที่อยู่ตรงกลางระหว่างวัฒนธรรมกีฬาและวัฒนธรรมรองเท้าผ้าใบ โดยบอกเล่าผ่านเรื่องราวของนักกีฬาในหลากหลายประเภทกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของนักเทนนิส “โคโค่ กอล์ฟ”, นักกีฬาโอลิมปิก “ซิดนีย์ แมคลาฟลิน”, นักบาสเกตบอล “คาเมรอน บริงค์” และนักเบสบอล “โชเฮอิ โอทานิ” พร้อมยังคงรักษาโมเมนตัมกับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญโมเดล Craftmanship ที่เพิ่มมูลค่าให้กับ   แบรนด์

นอกจากนี้ นิว บาลานซ์ ยังได้พัฒนารองเท้าวิ่งที่ดีที่สุด 2 รุ่น ได้แก่ “Fresh Foam X” ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่นของการรองรับแรงกระแทกได้อย่างดีที่สุด จึงเหมาะสำหรับการสวมใส่เพื่อการวิ่งในทุกระยะทาง ในขณะที่รุ่น “FuelCell” เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนเรื่องความเร็วและตอบสนองต่อการส่งพลังงานกลับในทุกท่วงท่า

นิว บาลานซ์ ยังมีบทบาทที่โดดเด่นในตลาดรองเท้าในฐานะผู้นำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คลาสสิกผ่านซีรีส์รองเท้าที่ตอบสนองความต้องการตามลำดับความสำคัญ นำโดยรุ่น MADE U.S., 1906, 550, 2002R และรุ่นอื่น ๆ อาทิ 327 และ 574 classic ฯลฯ

แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา วางเป้าหมายที่จะเปิดร้านสาขาแบบสแตนด์อโลนของนิว บาลานซ์ จำนวน 8 สาขาในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2566 สอดคล้องไปกับกลยุทธ์การเติบโตของนิว บาลานซ์ ที่ต้องการก้าวเข้ามาเป็นผู้นำในตลาดด้วยร้านค้าแบบสแตนด์อโลน 30-35 แห่งภายในปี 2568 และร้านแบบช็อปอินช็อปภายในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ อีกมากกว่า 100 แห่ง นอกจากนี้ คอนเซ็ปต์การนำเสนอร้านแฟลกชิปแห่งใหม่นี้ยังจะถูกจำลองไปใช้ในร้านสาขาอื่น ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วประเทศในปีต่อ ๆ ไป โดยบริษัทฯ ยังมีแผนจะเปิดตัวเว็บไซต์ New Balance Thailand ในเดือนธันวาคม 2566 เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ให้กับผู้บริโภคในประเทศไทยมากขึ้นด้วย

พบกับ “New Balance Flagship Store” แห่งใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 โซนเอเทรียม สำหรับข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ เพจเฟซบุ๊คของนิว บาลานซ์ ประเทศไทย “New Balance TH"

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่งทีมสำรวจภัย TIP Smart Assist และ หน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหลังเกิดฝนตกหนักส่งผลให้ภาคเหนือและภาคอีสานได้รับผลกระทบ มีน้ำท่วมขัง ดินสไลด์บางพื้นที่ น้ำป่าไหลหลาก ถนนถูกตัดขาดหลายสาย  มีผลกระทบครอบคลุมบริเวณภาคเหนือ คือ  แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ตาก ลำปาง และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทางทีมฯ ได้ลงพื้นที่ จ. ลำปาง เป็นพื้นที่แรกเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยมอบถุงยังชีพ น้ำดื่ม พร้อมจัดบริการรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่น้ำท่วมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าและประชาชน  สำหรับท่านใดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมาที่สายด่วน 1736 กด1

โครงการ “ TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง” โดยบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สนามที่ 2  

มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีมอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นและเกียรติคุณสารสิน ประจำปี 2565

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่ายทั้งภาคการศึกษาและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ วิทยาศาสตร์บูรณาการสำหรับอาหารดูแลสุขภาพเชิงรุก : นวัตกรรมเนื้อหมูชีวา มีโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ ตอกย้ำความพรีเมียม ยกระดับมาตรฐานอาหารสุขภาพของไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.พัชราณี ภวัตกุล หัวหน้าภาคโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันเวชศาสตร์การป้องกันเป็นที่แพร่หลายในทางการแพทย์ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการวิจัยและศึกษานวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพเชิงรุก ซึ่งโอเมก้า 3 เป็นอีกสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคนทุกวัย มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง สายตา ระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี รวมถึงลดการอักเสบ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ

 

ดร.อนันตวัฒน์ กุลธนเตชานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า หมูชีวา ถือเป็นนวัตกรรมที่ยกระดับอาหารไทยไปอีกขั้น เริ่มจากการศึกษาและวิจัย ทำให้สามารถคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีที่สุด เลี้ยงด้วยสูตรอาหารธรรมชาติที่เลือกสรรพิเศษที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 สูง อาทิ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) น้ำมันปลาทะเลลึก และสาหร่ายทะเลลึก เป็นต้น รวมถึงมีส่วนผสมของโปรไบโอติก (Probiotic) อยู่ภายในฟาร์มระบบปิดที่มีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ลักษณะคอกขังรวม (Group Pen Gestation) ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ส่งผลให้หมูชีวาอยู่สบาย แข็งแรง ไม่ป่วย ได้การรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF จากประเทศสหรัฐอเมริกา รับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ จึงไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า หมูชีวาเป็นแหล่งโอเมก้า 3 สูง สามารถรับประทานได้ทุกวัน และช่วยดูแลสุขภาพเชิงรุก

ด้าน นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประชากรโลกมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการวิจัยและพัฒนาอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพเชิงรุก โดยคำนึงถึง 3 ปัจจัย ได้แก่  นวัตกรรม (Innovation) สุขภาพ (Wellness) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Planet) อย่าง หมูชีวา ถือเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่พัฒนาตั้งแต่สายพันธุ์ อาหารที่เลี้ยง ตลอดจนวิธีการเลี้ยง เพื่อให้มีโอเมก้า 3 สูง โดยได้รับการรับรองจากงานวิจัยต่างๆ รวมถึงมาตรฐานระดับนานาชาติ  เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงความปลอดภัยทางอาหาร พร้อมกับสร้างความมั่นคงทางอาหารและการบริโภคอย่างยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์ 'หมูชีวา' เป็นเนื้อหมูคุณภาพพรีเมียม เลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน การันตีด้วยรางวัลสุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2023 หรือ Superior Taste Award 2023 ระดับ 1 ดาว โดยเชฟชั้นนำกว่า 200 คน จาก International Taste Institute รางวัล SET Awards 2021 ในกลุ่ม Business Excellence ด้านนวัตกรรมดีเด่น (Outstanding Innovative Company Awards) โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร และรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรมระดับโลก จากงาน THAIFEX – Anuga Asia 2020 วางจำหน่ายแล้วใน ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ The Mall, Tops, Villa Market, Foodland, MaxValu หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ufarmthailand.com/cheeva_pork 

สำหรับ งานสัมมนาวิชาการ The International Conference for Public Health, Environment, and Education for Sustainable Development Goals and Lifelong Learning มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 ด้านสาธารณสุข สุขภาพ การส่งเสริมและความเป็นอยู่ที่ดี โภชนาการและวิทยาศาสตร์การอาหาร อนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างอนาคตที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สรายุทธ สุภาพรรณชาติ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารสินทรัพย์ เป็นประธานในพิธีเปิด และ รองศาสตราจารย์ ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมด้วย

เฟ้นหาสุดยอดนักรบไซเบอร์รุ่นใหม่จาก 2,323 คน จัดเต็มที่สุดในไทยและอาเซียน

ปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่มักต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีเวลาจำกัด โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 0-6 ปี ที่จำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลานาทีทองที่จะส่งผลต่ออนาคตของเด็กไปตลอดชีวิต และจากความสำคัญดังกล่าว ทำให้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จับมือกันเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลเด็กในช่วงปฐมวัย เพื่อสร้างรากฐานชีวิตที่ดีให้แก่คนในสังคม ผ่านกิจกรรม “เลี้ยงถูก ลูกดี” ที่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ยุคใหม่ได้เติมเต็มความรู้ในการเลี้ยงลูกและได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกันในครอบครัว

ความสำคัญของ “นาทีทอง” ที่มีต่อพ่อแม่และเด็ก

.ดร.นุชนาฏ รักษี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงความสำคัญของเด็กในวัย 0-6 ปี ว่า เป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาสูงสุด โดยเด็กในวัยนี้จะเหมือนกับฟองน้ำที่พร้อมดูดซับความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้จากการอบรมเลี้ยงดู ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมอง อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ต่อยอดไปถึงทักษะการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์ และการเข้าสังคมของเด็ก รวมทั้งยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อทัศนคติ บุคลิกภาพ และพฤติกรรมในอนาคตเมื่อเป็นผู้ใหญ่

เลี้ยงลูกให้ “เก่ง ดี มีสุข” ด้วยการสร้างประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมที่ดี

เป้าหมายสูงสุดของพ่อแม่ทุกคน คือการเห็นภาพลูกเติบโตไปอย่างมีคุณภาพ สามารถเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ได้ แก้ปัญหาเป็น รวมทั้งรู้จักแยกแยะถูกผิด มีคุณธรรม และระเบียบวินัย ในขณะที่มีสุขภาพจิตใจมั่นคงแข็งแรง และมีความสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) พันธุกรรม 2) สุขภาพ โภชนาการ และ 3) ประสบการณ์การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม แม้พันธุกรรมจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่องค์ประกอบอื่นอย่างอาหารการกินเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถคัดสรรให้เพียงพอและถูกต้องตามหลักโภชนาการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องประสบการณ์การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมที่พ่อแม่เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดคุณภาพและรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับลูกในแต่ละช่วงวัย ซึ่งองค์ประกอบข้อนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของสมอง ซึ่งถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่จะส่งผลต่อเด็กในด้านอื่น ๆ 

5 หลักการดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ (Nurturing Care Framework)

Nurturing Care Framework (NCF) เป็นหลักการดูแลเอาใจใส่เด็กทั้ง 5 ด้าน ที่องค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟได้จัดการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพื่อวางกรอบการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้สามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. สุขภาพที่ดี หมายถึงสุขภาพที่ดีทั้งของเด็กและของผู้ดูแล ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น การตรวจสุขภาพเด็กเป็นประจำ การฉีดวัคซีน และการส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อเป็นการออกกำลังกาย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย จะช่วยให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมเรียนรู้และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
  2. โภชนาการที่เพียงพอ ทั้งร่างกายและสมองต่างต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและพอเหมาะ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการเติบโต หากเด็กได้รับสารอาหารน้อยหรือมากเกินไป อาจมีภาวะทุพโภชนาการได้ เช่น โรคขาดสารอาหาร หรือ โรคอ้วน ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในระยะยาว รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ
  3. คุ้มครองให้ความปลอดภัยและมั่นคง หมายถึงสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและครอบครัว เพราะเด็กเล็กไม่สามารถป้องกันตนเองได้และมีความเปราะบางต่ออันตรายต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงการเลี้ยงดูเด็กโดยไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งจะช่วยให้เด็กรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย เพราะการปกป้องให้ลูกรู้สึกปลอดภัยเพียงพอ รับรู้ถึงความรัก ความผูกพันมั่นคง เน้นการให้กำลังใจ จะสร้างความพร้อมให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ดีในอนาคต
  4. ให้โอกาสในการเรียนรู้ ในขวบปีแรกๆ เด็กจะเรียนรู้และได้รับทักษะและความสามารถจากการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นผ่านรอยยิ้ม การสบตา การพูดคุย ร้องเพลง การเลียนแบบ และการละเล่นง่าย ๆ เช่น โบกมือบ้ายบายหรือจ๊ะเอ๋ เมื่อเด็กโตขึ้น ควรมีกิจกรรมและการเล่นกับลูก อย่างการอ่านนิทาน การปั้นดินน้ำมัน หรือการวิ่งเล่น ที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ กระตุ้นพัฒนาการ และจุดประกายความใคร่รู้ รวมทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น
  5. มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก การที่พ่อแม่คอยตอบสนองลูกอย่างเอาใจใส่ และรับฟังความต้องการของลูกอย่างใกล้ชิด เปรียบเสมือนการวางรากฐานชีวิตที่มั่นคงแข็งแรงให้กับลูก ทำให้พัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามวัยสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนคือ ความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจที่จะหลอมรวมกันจนกลายเป็นตัวตนของเด็ก และติดตัวจนโตเป็นผู้ใหญ่ไปตลอดชีวิต

เปลี่ยนพลังเป็นโอกาสด้านสุขภาพ โภชนาการ และการเรียนรู้ให้น้อง

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ พัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าของอลิอันซ์ อยุธยา  ง่าย ๆ สำหรับลูกค้าประกันชีวิต กดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่น My Allianz หรือ Healthy Living และลูกค้าประกันภัย กดรับสิทธ์ผ่านเว็บไซต์ www.azay.co.th  เพื่อรับฟรี...ชุดคอมโบ้เซ็ท 1 ชุด มูลค่า 235 บาท

ประกอบด้วย ป๊อปคอร์นขนาด 64 ออนซ์ 1 กล่อง พร้อมเครื่องดื่มขนาด 32 ออนซ์ 1 แก้ว ไปอร่อยกันทันที สามารถเข้าไปกดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2566 จำนวนจำกัด 5,000 สิทธิ์ หรือจนกว่าสิทธิ์หมด (ลูกค้าประกันกลุ่มไม่สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวได้) โดยนำรหัสที่ได้ไปแลกรับชุดคอมโบ้เซ็ทได้ที่ จุดจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม (Concession) โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขาทั่วประเทศ

X

Right Click

No right click