บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการ Education Institute Support Activity (eisa) ได้รับเกียรติจาก ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางสาวราตรี พิศุทธิ์ชโลทร กรรมการผู้จัดการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีประจวบคีรีขันธ์ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ร่วมงานและให้การต้อนรับคณะอาจารย์-นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลสังเกตการณ์รวมถึงเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมทอผ้า ภายใต้กิจกรรมCreative Young Designer Season4 ปีการศึกษา 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ในการต่อยอดการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองของนักศึกษาให้กับศูนย์หัตถกรรมทอผ้าบ้านเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ผ่านมา

มูลนิธิพลังน้ำใจไทย โดยนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ที่ปรึกษามูลนิธิพลังน้ำใจไทย, นายประวิช สุขุม กรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยภาคีภาคเอกชน 12 บริษัท, เครือข่ายโครงการ eisa (Education Institute Support Activity) ร่วมลงพื้นที่โรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษก เพื่อส่งมอบอาคารสาธารณูปโภคที่ได้สนับสนุนการซ่อมแซมจากอุทกภัยน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา ให้กับนางสาวนุชนารถ ยิ้มจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษก ในงานได้จัดกิจกรรม Football Clinic มอบโอกาสแก่นักเรียนได้เข้าร่วมฝึกทักษะฟุตบอล/ Workshop ศิลปะสร้างสรรค์คิดดีทำ (ได้) ดี และศิลปินมาร่วมขับร้องเพลงสร้างความสุขแก่น้องๆ อาทิ แช่ม แช่มรัมย์, แสน นากา, โอม ภวัต จิตต์สว่างดี, ฟอร์ด อรัญญ์ อัศวสืบสกุล ณ โรงเรียนพรหมบุรีรัชดาภิเษก จังหวัดสิงห์บุรี ที่ผ่านมา

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 โดยมีนายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร นายพีระพงศ์ จรูญเอก นายกสมาคมอาคารชุดไทย นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงาน พร้อมเหล่าตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้การต้อนรับ โดยงานฯ จะจัดขึ้นระหว่าง 2-5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ในพิธีเปิด นายชัชชาติได้กล่าวถึงความสำคัญของงานมหกรรมบ้านและคอนโดว่าเป็นงานที่มีผลโดยตรงต่อการพัฒนาเมืองและรายได้ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปี 2566 นี้ สามารถจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้าที่กำหนด นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงการทำงานเพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ อาทิ การกำกับดูแลในเรื่องความโปร่งใสในการอนุมัติ EIA หรือรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเตรียมที่จะออกมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาฯ ในเร็วๆ นี้

โดยพานาโซนิคและจุฬาฯ เตรียมทดลองกับบ้านจริงครั้งแรกที่โครงการเสนา แกรนด์ โฮม ตอกย้ำแนวคิดการพัฒนาบ้านพลังงานเป็นศูนย์ เพื่อการใช้ชีวิตดีๆ ที่รักษ์โลก

จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์กรภาครัฐ และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) หรือ บีเคพี ภายใต้กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรให้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดตัว โครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” สนับสนุนคู่ค้าผู้รวบรวมและจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เครือข่ายของบีพีเค ในเขตภาคเหนือ ใช้ข้อมูลจากระบบตรวจสอบย้อนกลับและภาพถ่ายดาวเทียมติดตามการเผาแปลง และร่วมดูแลห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ปลอดการเผาตอซัง

ในงานเปิดตัวโครงการฯ ได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดฯ โดยมี นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้ง ผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และคู่ค้าพันธมิตรในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมงาน ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จ.เชียงใหม่ให้ความสำคัญสูงสุดหมอกควันแลทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง ในการจัดการสถานการณ์หมอกควันและฝุ่น PM 2.5 และโครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” เป็นความร่วมมือขององค์กรเอกชนที่นำเทคโลยีภาพถ่ายดาวเทียมในการตรวจจุดความร้อน เข้ามาช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในภาคการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองในระยะยาว สอดคล้องกับนโยบายจัดการปัญหาฝุ่นควันในภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนของรัฐบาล และจังหวัดเชียงใหม่

“ปัญหาฝุ่นละออง เป็นปัญหาระดับชาติ ต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนและประชาสังคมผนึกกำลังลงมือทำอย่างจริงจัง อย่างที่บีเคพีริเริ่มโครงการเพื่อลดการเผาในภาคการเกษตร  เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ด้าน นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานคณะผู้บริหาร บีเคพี กล่าวว่า บีเคพีเป็นบริษัทแรกของไทยที่นำระบบตรวจสอบย้อนกลับมาใช้ในการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ปี  2559 และเพื่อให้ระบบตรวจสอบย้อนกลับของซีพีเป็นต้นแบบอุตสาหกรรม รวมถึงการจัดการกับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงพ่อค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เข้ามาช่วยดูแลเกษตรกรและแปลงข้าวโพดในห่วงโซ่อุปทานของซีพี โดยใช้ประโยชน์จากข้อมูลจุดความร้อนจากดาวเทียม ช่วยลดปัญหาการเผาตอซัง

“บีเคพีจะขยายผลการดำเนินโครงการฯ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2566 นี้ โดยบริษัทฯ จะแบ่งปันข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจุดความร้อนในพื้นที่รับซื้อข้าวโพด เพื่อให้คู่ค้าเป็นเครือข่ายติดตามแปลงเพาะปลูกที่ยังมีการเผา หากพบว่าเกษตรกรรายใดมีการเผาแปลง ทางบริษัทและคู่ค้าพร้อมร่วมมือกันเข้าไปดูแล ให้ความรู้และคำแนะนำ เพื่อให้เกษตรกรร่วมมืองดการเผาตอซัง และหาวิธีการจัดการที่เหมาะสมทดแทน” นายไพศาล กล่าว

ภายในงาน บริษัทฯ ยังร่วมมือกับ กรมวิชาการเกษตร กรมควบคุมมลพิษ และ GISTDA จัดอบรมสัมมนา ถึงสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน และแนวทางการปรับตัวขององค์กรธุรกิจและภาคประชาชน ตลอดจนการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับควบคู่กับระบบติดตามการเผาแปลง

โครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเครือซีพีในสร้างความร่วมมือระหว่างคู่ค้าของบริษัทฯ เพื่อร่วมจัดการกับปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งเป็นวาระสำคัญของประเทศ  พร้อมกับการพัฒนาขีดความสามารถคู่ค้าพันธมิตรในกระบวนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อโลก และสนับสนุนเครือซีพีและบริษัทในเครือฯ ให้บรรลุเป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050

ประกันสุขภาพตอบโจทย์แม่และเด็ก จากงาน Amarin Baby & Kids Awards 2023

โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

ร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' โดยความร่วมมือระหว่าง CPFGS จับมือ อูโอริกิ เปิดจำหน่ายอาหารทะเล 2 สาขาแรกในไทย ‘โลตัส สุขุมวิท 50-แม็คโคร ศรีนครินทร์’ เสิร์ฟความสดใหม่ คุณภาพพรีเมียม ระดับโอมากาเสะ ให้คนไทยได้ลิ้มลองใกล้บ้าน ไม่ต้องบินไกลถึงญี่ปุ่น

บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด (CP UORIKI) เปิดตัวร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' 2 สาขาแรกในไทย ปักหมุด ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 และห้างแม็คโคร ศรีนครินทร์ คัดสรรวัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพระดับร้านโอมากาเสะตามฤดูกาล จากตลาดปลาทั่วประเทศญี่ปุ่น อาทิ บลูฟินทูน่า ราชาปลาดิบ แซลมอนจากอาโอโมริ ปลาบุรีจากคาโกชิมา โฮตาเตะจากฮอกไกโด และอูนิจากอิวะเตะ ให้คนไทยได้ลิ้มลองความอร่อย สดใหม่ แบบพรีเมียม พร้อมถ่ายทอดวัฒนธรรมการบริโภคอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS กล่าวว่า ซีพี อูโอริกิ เป็นการร่วมทุนผสานความแข็งแกร่งระหว่างความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายอาหารของ CPFGS กับความเป็นผู้นำระดับโลกด้านปลาสดและอาหารทะเลมากกว่าร้อยปีของ อูโอริกิ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้ ตามวิถีญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ เหมือนไปรับประทานถึงแดนปลาดิบ โดยบริษัทฯ มีการส่งเชฟไปฝึกอบรมและเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 เดือน พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากอูโอริกิ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า จะได้รับสินค้าที่มีมาตรฐานและการบริการชั้นเลิศเทียบเท่าระดับโอมากาเสะ

"การเปิดร้านถาวรในไทยครั้งแรก CPFGS ได้ผนึกกำลังกับบริษัทในเครือซีพี เปิดร้านในแหล่งช้อปปิ้งย่านที่พักอาศัย ได้แก่ ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจ รองรับผู้บริโภคชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ส่วนสาขาแม็คโคร ศรีนครินทร์ เป็นห้างค้าส่งย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่มีลูกค้ามาจับจ่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายอีก 10 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นห้าง Lotus’s, Makro, Gourmet Market และ Tops เพื่อครอบคลุมความต้องการและเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค และตั้งเป้าสู่ 100 สาขา ภายใน 5 ปี" นายสุจริต กล่าว

ภายในงาน นายมาซายูกิ ยามาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ผู้สืบทอดกิจกรรมรุ่นที่ 3 ได้โชว์แล่ปลาทูน่า ตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นมากกว่า 100 ปี

ด้าน นายมาซายูกิ ยามาดะ เปิดเผยว่า หลังจากการลงนามความร่วมมือระหว่าง CPFGS และ อูโอริกิ ทั้ง 2 บริษัทฯ มีการหารือและแลกเปลี่ยนการทำงานมาโดยตลอด จนกระทั่งกลายเป็นร้าน ‘ซีพี อูโอริกิ’ ที่พร้อมจำหน่ายปลาสดและอาหารทะเลคุณภาพพรีเมียม สำหรับการเปิดร้าน 2 สาขาแรกในประเทศไทย รู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่ อูโอริกิ มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบประสบการณ์การรับประทานปลา ตามวิถีชาวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมให้แก่คนไทยได้สัมผัสถึงรสชาติความอร่อย ความสด และยังส่งเสริมสุขภาพ หวังว่า ทุกๆ สินค้าที่เราคัดสรรมาเป็นพิเศษจากน่านน้ำทั่วประเทศญี่ปุ่น จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

ร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' พร้อมเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่น สัมผัสกับประสบการณ์ความอร่อย สดใหม่ ทุกวันที่ ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. และ ห้างแม็คโคร ศรีนครินทร์ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.

บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด เป็นการร่วมทุนจัดตั้งระหว่าง CPFGS ผู้จัดจำหน่ายอาหารสดและอาหารแปรรูป ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และ อูโอริกิ (UORIKI) ผู้จำหน่ายปลารายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลสดแช่เย็น-แช่แข็ง ซูชิ ซาชิมิ มากิ และเครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึง สินค้าแปรรูปจากอาหารทะเล มุ่งเน้นการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการรับซื้อปลาจากชาวประมงโดยตรง เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาปลา ตลอดจนส่งเสริมการรับประทานปลาตามฤดูกาล เพื่อสร้างสมดุลทางธรรมชาติ

FWD ประกันชีวิต ผู้นำด้านนวัตกรรมและการให้บริการ คว้ารางวัลรวม 9 รางวัล พร้อมตำแหน่งสุดยอดคอนแท็คเซ็นเตอร์แห่งปี 2023 จากการประกวด TCCTA Contact Center Awards 2023 ในประเภทองค์กรที่มีพนักงานคอนแท็คเซ็นเตอร์มากกว่า 100 คน จัดโดยสมาคมการค้าธุรกิจศูนย์บริการทางโทรศัพท์ไทย การันตีคุณภาพการบริการ ที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ตอบโจทย์ลูกค้าได้ในทุกช่องทาง

นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต หรือ “FWD ประกันชีวิต”)  เปิดเผยว่า “นับเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จของ FWD ประกันชีวิต ที่ได้รับรางวัล สุดยอดคอนแท็คเซ็นเตอร์แห่งปี 2023 หรือ The Best Contact Center of the Year จาก TCCTA Contact Center Awards 2023 ซึ่งในปีนี้เราสามารถคว้ารางวัลทั้งประเภทองค์กรและประเภทบุคคลมาครองรวมกันถึง 9 รางวัล ซึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงความสำเร็จจากแนวทางการทำงานที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (customer led) และเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างต้องแม่นยำ ฉับไว ทันต่อความต้องการ เราจึงพลิกโฉมและออกแบบเครื่องมือในการให้บริการ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ (Digital by design) บูรณาการทุกช่องทางการบริการไว้บนแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่รวดเร็ว และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงใจ”

สำหรับรางวัลที่ได้รับในประเภทองค์กร จำนวน 7 รางวัล ประกอบด้วย เหรียญทอง 3 รางวัล ได้แก่

  • รางวัล The Best Effective Technology Contact Center (Gold Award) เป็นการนำเทคโนโลยี AI Voice Bot หรือเสียงสนทนาอัจฉริยะ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สามารถให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอสาย ครอบคลุมข้อมูลการชำระเบี้ย การเคลม การขอเอกสาร รวมถึงมูลค่าเวนคืนและมูลค่าเงินสดในกรมธรรม์ และจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบคำถามเชิงลึกได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
  • รางวัล The Best Effective Software Contact Center (Gold Award) เป็นการนำเสนอการบริการรูปแบบใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน Omne by FWD ให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะขอเอกสาร จัดการข้อมูลกรมธรรม์ กู้เงินในกรมธรรม์ ยื่นเคลมออนไลน์ และได้รับเงินคืนภายในไม่กี่นาที ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ลูกค้าสะดวก ให้เรื่องประกันเป็นเรื่องง่าย ที่จัดการได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
  • รางวัล The Best Workflow Contact Center (Gold Award) เป็นการนำเทคโนโลยี Robotics Process Automation (RPA) เข้ามาช่วยทำให้งานเป็นระบบอัตโนมัติ และเชื่อมโยงทุกช่องทางการบริการไว้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้ตอบคำถามและให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ฉับไว เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและการบริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • รางวัลเหรียญเงิน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัล The Best Social Media Contact Center (Silver Award) ศูนย์บริการสื่อสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม และ The Best Facilities Contact Center (Silver Award) รางวัลสถานที่ปฎิบัติงานและสภาพแวดล้อมยอดเยี่ยม
  • เหรียญทองแดง 1 รางวัล รางวัล The Best Human Care Contact Center (Bronze Award) รางวัลสร้างเสริมความผูกพันบุคลากรยอดเยี่ยม

นอกจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านบุคลากร และได้รับรางวัลประเภทบุคคล จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลชมเชย The Best Contact Center Agent of the Year 2 รางวัล และรางวัลดีเด่น The Best Contact Center Support Professional of the Year ซึ่งพิจารณาจากความใส่ใจในบริการและมีทักษะการแก้ไขปัญหาที่โดดเด่น

เรามุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม และยกระดับการให้บริการสู่มาตรฐานระดับโลก เพื่อทำให้เราเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าในการให้บริการ” นายเดวิด กล่าวทิ้งท้าย

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมให้การต้อนรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน ที่มาร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสวันสถาปนาธนาคาร ก้าวสู่ปีที่ 58 และรับมอบเงินสมทบทุน เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรหลานเกษตรกร ผ่านมูลนิธิอาจารย์จำเนียร สาระนาค เพื่อให้เยาวชนที่ด้อยโอกาสในภาคชนบทได้มีโอกาสในการศึกษา และกลับมาพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง

นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์วันสถาปนา ธนาคารยังมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ จำนวน 19 รูป การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้พนักงาน ธ.ก.ส. ได้ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสร้างสิริมงคลแก่ชีวิต กิจกรรมบริจาคโลหิต รวมถึงกิจกรรมบรรยายพิเศษในหัวข้อ เล่าสู่กันฟัง BAAC Run Together โดยผู้จัดการธ.ก.ส. ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ในการนำองค์กรในยุค Digital Disruption การปรับตัวขององค์กรและพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง การรับมือกับความหลากหลายในองค์กร รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ และการจัดตลาดนัด BAAC Farmers Market ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาร่วมงานได้ชม ชิม ช้อป ของดีมีคุณภาพที่ส่งตรงจากฟาร์มของเกษตรกรโดยตรง อาทิ ผลไม้ตามฤดูกาล อาหารพร้อมทาน ข้าวสาร เสื้อผ้าพื้นเมือง และเครื่องประดับเงิน-มุก เป็นต้น โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2566 ณ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพมหานคร

X

Right Click

No right click