เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ คว้า 3 รางวัลด้านการบริหารองค์กรและทรัพยาการบุคคล ได้แก่ รางวัล ‘HR Asia: Best companies to work for’ รางวัล Most Caring Company Awards และ รางวัล ‘Diversity Equity & Inclusion (DEI) Awards’ จากทาง HR ASIA ซึ่งเป็นเวทีใหญ่ของเอเชีย สะท้อนความสำเร็จและการันตีความเป็นเลิศด้านการบริหารองค์กรและทรัพยากรบุคคลระดับสากล   

นางสาวสายฝน คงจิตต์งาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและสนับสนุนองค์กร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตพนักงานอันเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราพยายามพัฒนา ส่งเสริมให้พนักงานของเรามีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในทุกมิติ ไม่เฉพาะเพียงเฉพาะที่ทำงาน เรามีนโยบาย Hybrid Workplace ที่ให้พนักงานสามารถบริหารจัดเวลาเข้าทำงานที่บริษัทและที่บ้านได้ เราปลูกฝังวัฒนธรรมที่เปิดกว้างทางความคิดและการแสดงออกอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง มีการส่งเสริมองค์ความรู้ ทักษะใหม่ๆ ให้พนักงานสามารถเรียนรู้และเติบโตในสายงาน มีนโยบายที่เน้นเรื่องความรวมถึงการจัดสรรสวัสดิการที่สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ส่งผลให้เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กลายเป็นอีกหนึ่งในองค์กรที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมงานมากที่สุดองค์กรหนึ่ง จนได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากเวที HR Asia ที่มอบให้องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการดูแลและบริหารทรัพยากรบุคคลและองค์กร”

โดยในปี 2023 นี้ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้คว้าถึง 3 รางวัลใหญ่จากเวที HR ASIA ได้แก่ รางวัล HR Asia Best companies to work for 2023’ ที่มอบให้สุดยอดองค์กรที่น่าทำงานมากที่สุด รางวัล Most Caring Company Awards 2023 หรือองค์กรเป็นเลิศในด้านความใส่ใจพนักงาน และ Diversity Equity & Inclusion Awards 2023 องค์กรที่ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมของพนักงาน ซึ่งนับเป็นรางวัลที่สะท้อนความสำเร็จและการันตีความเป็นเลิศด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลระดับสากลได้เป็นอย่างดี

“เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ถือเป็นองค์กรที่อยู่ในธุรกิจด้านการให้บริการ ทั้งด้านประกันชีวิต และประกันวินาศภัย การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ และทรัพยากรบุคคลนั้นถือที่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่สุดที่จะผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า นอกจากนี้ ยังได้ปรับนโยบายด้านสวัสดิการให้แก่พนักงาน เพื่อให้เอื้อต่อรูปแบบสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ  สิทธิในการลาคลอดบุตร (ทั้งคุณแม่และคุณพ่อ) สิทธิในการลาสมรสที่ครอบคลุมทุกเพศ เพื่อให้พนักงานได้รับประโยชน์สูงสุด  ซึ่งการได้รับรางวัลในทุกเวที ไม่ว่าจะเป็น HR Asia Awards และ HR Excellence Awards Thailand จึงนับเป็นเกียรติและเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของเรา” นางสาวสายฝน กล่าว

โดยรางวัล HR Asia Awards : Best Companies to Work for จัดขึ้นเพื่อยกย่องบริษัท และองค์กรที่ได้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของพนักงาน และความเป็นเลิศในสถานที่ทำงาน รวมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล และความเอาใจใส่ต่อพนักงานในมิติต่างๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในเอเชีย โดยงานมอบรางวัล ได้จัดขึ้นที่ True ICON SIAM เมื่อเร็ว ๆ นี้

พร้อมเปิดตัวแคมเปญ คัดมาแต่รถโดนๆ ที่รถโดนใจ รวบรวมรถคัดพิเศษ 5 ประเภทมาไว้ที่นี่ที่เดียว 

ชูเทคโนโลยี Hyper-localized ยกระดับชีวิต ธุรกิจ และนักพัฒนาก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย 

เมื่อเร็ว ๆ นี้  เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาคที่มุ่งเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัย จากงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ร่วมสร้างวัฒนธรรมไทยเชิงป้องกันสู่ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และความผาสุกที่ยั่งยืน (Forward Culture of Prevention for Safety Thailand) จัดโดยกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 หรือ EIA Monitoring Awards 2023 จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นโรงงานเชิงนิเวศที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดูแลชุมชน และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน  

รางวัลองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัย (Zero Accident Campaign 2023) โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด (ROC) และบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (MOC) รับโล่ประกาศเกียรติคุณในกิจกรรมการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ประจำปี 2566 (Zero Accident Campaign 2023) ระดับแพลตินัม ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) กระทรวงแรงงาน โดยมีเกณฑ์การพิจารณาจากสถานประกอบการที่สามารถรักษาชั่วโมงการทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน ไม่ถูกดำเนินคดีด้านความปลอดภัย ไม่มีลูกจ้างประสบอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ในช่วงเวลา 2 ปี ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานเกิน 3 วัน อีกทั้งยังเป็นสถานประกอบกิจการที่เป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการ มีระบบมาตรฐานสากล และเป็นองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัยฯ

รางวัลสถานประกอบการด้านสิ่งแวดล้อม (EIA Monitoring Awards 2023) โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ได้แก่ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด และ บริษัท ไทย เอ็มเอ็มเอ จำกัด  รับรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 หรือ EIA Monitoring Awards 2023 ระดับยอดเยี่ยม และดีเด่น (ตามลำดับ) ประเภทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการจัดการและรักษาสิ่งแวดล้อมตามมาตรการของ EIA จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการเห็นความสำคัญถึงการป้องกัน และติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เพื่อให้สถานประกอบการได้ยกระดับและพัฒนากลไกการจัดการสิ่งแวดล้อมของตนเอง เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สถานประกอบการอื่น ๆ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร EXIM BANK ให้การต้อนรับนางสาวรัชฎา อสิสนธิสกุล รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมโครงการพิเศษ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ นางสาววลีพร ธนาธิคม ผู้ชำนาญการด้านรางวัลคุณภาพแห่งชาติ คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และลูกค้า EXIM BANK ที่ร่วมออกร้านแสดงสินค้าในกิจกรรม Learning and Sharing with Winner Organizations จัดโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ เพื่อศึกษาดูงานการบริหารจัดการของ EXIM BANK ในฐานะองค์กรที่ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านลูกค้า (Thailand Quality Class Plus : Customer) ประจำปี 2565 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566

ในโอกาสนี้ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้ร่วมบรรยายหัวข้อ “ปรับโมเดลธุรกิจให้รุ่ง มุ่งโฟกัสที่ลูกค้า ฝ่าวิกฤต Digital Disruption” เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดในการบริหารจัดการองค์กรโดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ ภายใต้บทบาท Thailand Development Bank” ที่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย โดยใช้กลยุทธ์ 4P : People, Planet, Productivity, and Profit” ยึดหลัก People before Profit” ให้ความสำคัญกับ “คน” ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนา ไม่ใช่แค่คนในองค์กรแต่หมายรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมทั้งลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตในทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ EXIM BANK ยังปรับโฉมองค์กรครั้งใหญ่ใน 3 มิติ ได้แก่ Business, HR และ Digital Transformation พร้อมประยุกต์ใช้กรอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับศักยภาพการบริหารจัดการและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

เปิดบ้านเอสซีจี ทุ่งสง นครศรีธรรมราช โชว์ธุรกิจกรีน ด้วยกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่ง Net Zero

สมาคมนักศึกษาเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จับมือ คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ FAMZ ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัวชั้นนำของประเทศไทย จัดหลักสูตร “Family Business the sustainable success บริหารกงสีให้สำเร็จอย่างยั่งยืน“ ให้กับสมาชิก โดยเรียนในวันเสาร์ที่ 23, 30 กันยายน 2566 ที่คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ทั้งนี้ คุณชุมพล ปทานุคม นายกสมาคมนักศึกษาเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงการจัดหลักสูตร “Family Business the sustainable success บริหารกงสีให้สำเร็จอย่างยั่งยืน“ ครั้งนี้ว่า “เนื่องจากสมาคมฯ ​มุ่งทำกิจกรรมในมิติต่างๆ ให้ครอบคลุมอย่างหลากหลาย นอกเหนือจากขอบเขตทางด้านวิศวกรรม อาทิ การทำประโยชน์กับสังคม การให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาตลอดหลักสูตรปริญญาตรี ตลอดจนการให้ความรู้ในวงกว้างทั้งด้านวิศวกรรมและด้านที่นอกเหนือจากวิศวกรรม (Engineering & Non-Engineering) รวมทั้งการจัดอบรมทางด้านธุรกิจครอบครัวในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นองค์ความรู้ที่นอกเหนือจากวิศวกรรม และเป็นประเด็นที่หลายครอบครัวให้ความสำคัญ นับแต่การจัดโครงสร้างธุรกิจครอบครัว จนถึงการวางแผนเพื่อให้ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน ซึ่งหากมีการวางรากฐานที่ดีก็จะทำให้การสืบทอดธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่น”

ขณะที่ รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดี คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้อำนวยการ ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัว และผู้ก่อตั้ง FAMZ Co., Ltd. ที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัวชั้นนำของประเทศไทยได้กล่าวถึงหลักสูตร “Family Business the sustainable success บริหารกงสีให้สำเร็จอย่างยั่งยืน” ว่า “รายละเอียดของหลักสูตรนี้เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่เตรียมส่งต่อกิจการให้กับลูกหลาน ผู้บริหารธุรกิจกงสี ลูกหลานที่เตรียมสืบทอดกิจการ และผู้สนใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจ การจัดโครงสร้าง การรักษาอำนาจในการบริหาร/ควบคุมธุรกิจครอบครัว ตลอดจนถึงการทำธรรมนูญครอบครัว การสร้างแผนสืบทอดธุรกิจและการส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น”

นอกจากนี้ หลักสูตร “Family Business the sustainable success บริหารกงสีให้สำเร็จอย่างยั่งยืน“ ยังมีวิทยากรรับเชิญ ซึ่งประกอบด้วย

  • วันที่ 23 กันยายน 2566 : คุณพีระศิลป์ ตั้งกิจงามวงศ์ บริษัท ลายวิจิตร จำกัด เรื่อง How to Build a Family’s Golden Rules กฎเหล็กของบ้าน
  • วันที่ 30 กันยายน 2566 : คุณอังคณา มาศรังสรรค์ โรงเรียนพ่อ – แม่ – ลูก เรื่อง ทัศนคติกับการสื่อสาร เพื่อความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว และคุณสุระ ชัยวณิช Investment Expert เรื่อง Road to Public Company

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) นำโดย นายกฤตภัค สุวรรณผ่อง (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล และนางสาวศรีสุดา นิตติวัฒน์ (ที่สองจากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารความสัมพันธ์กับธุรกิจ ร่วมด้วยคณะผู้บริหารกรุงศรี คว้า 2 รางวัลแห่งความภาคภูมิใจจากงาน “HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023” ประกอบไปด้วย รางวัล HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 องค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย และรางวัล HR Asia Most Caring Company Awards 2023 องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจใส่พนักงานทั้งในส่วนของการใช้ชีวิตและการทำงาน ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุด (The Best Place to Work for)

งานมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย นิตยสาร HR Asia ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชีย ณ ทรูไอคอน ฮอลล์  ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ LPN นำโดย นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ ประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้าร่วมพิธีขอบคุณและมอบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ประจำปี 2566  ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. โดยประเมินผลจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆของบริษัทตลอดทั้งปี มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร พร้อมทั้งเป็นการเปิดเผยข้อมูลและรายงานผลการดำเนินงานในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านรายงาน 56-1 One Report อันเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบด้าน และสิ่งสำคัญที่สุดคือการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดอุณหภูมิโลก ตามพันธกิจของบริษัทฯ ซึ่งมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)  เป็นผู้มอบประกาศนียบัตร ณ ห้องอบรม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เมื่อวันก่อน

นอกจากนี้ LPN ยังมีแผนการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างจริงจังและต่อเนื่องในหลายมิติ อาทิ การติดตั้งแผง Solar Cell ที่สำนักงานขายทุกโครงการเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า, ก่อตั้งโครงการ แยก แลก ตัง ร่วมกับ Wake Up Waste เพื่อบริหารจัดการขยะจากต้นทางถึงปลายทาง อีกทั้งยังช่วยสร้างรายได้ให้กับพนักงานจากการขายขยะรีไซเคิล และเข้าร่วมโครงการ Care The Bear และ Care The Whale ซึ่งสนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น

นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  ด้านการขายและการตลาด 1 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการออม และด้านการวางแผนการประกันภัยแก่สมาชิกกองทุนฯ เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและการจัดการความเสี่ยงภัยต่างๆ ให้กับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ณ กองทุนการออมแห่งชาติ อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์

X

Right Click

No right click