มุ่งยกระดับกระบวนการทำงานให้ถูกต้องแม่นยำรวดเร็ว พร้อมรุกตลาด Healthcare และ Insurance

พร้อมเสนอขายผู้ถือหุ้นกู้ CPALL23OA วันที่ 9-11 ต.ค. และประชาชนทั่วไปวันที่ 26-30 ต.ค. 66 มั่นใจกระแสตอบรับดี ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือ A+” แนวโน้ม “Positive”

ยกระดับที่อยู่อาศัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกที่ยั่งยืน

‘บีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค’ (BNSP Smart Tech) บริษัทร่วมทุนระหว่าง ‘บ้านปู เน็กซ์’ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ‘เอสพี กรุ๊ป’ ผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก ประกาศความสำเร็จคว้าสิทธิ์ออกแบบ พัฒนา และบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ที่ครบครันด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ในโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซนซี หากติดตั้งเสร็จคาดว่าระบบนี้จะช่วยประหยัดค่าพลังงานในโครงการฯ ได้กว่า 40 ล้านบาทต่อปี หรือลดลงกว่า 20% และลดการปล่อย CO2 ได้ปีละกว่า 3,000 ตัน เมื่อครบระยะเวลาสัญญา 20 ปี จะสามารถลดการปล่อย CO2 เทียบเท่ารถยนต์สันดาปประมาณ 20,000 คัน*

เมื่อติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางเสร็จในปี 2566 จะสามารถทำความเย็นสูงสุดถึง 14,000 ตันความเย็น (RT) สร้างความเย็นหมุนเวียนให้กับโครงการฯ โซนซี ซึ่งมีพื้นที่รวม 660,000 ตารางเมตร โดยบีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค จะนำความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของบ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป มาใช้ในการออกแบบ ดำเนินงาน และดูแลรักษาระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางเพื่อให้สามารถผลิตและกระจายน้ำเย็นไปยังพื้นที่ทุกส่วนภายในโครงการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน และมั่นใจในบริการได้ทุกขั้นตอน พร้อมนำเสนอบริการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร โดยนอกจากการติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางแล้ว ยังมีแผนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้บริการในพื้นที่โครงการอีกด้วย

ที่สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้กับโครงการฯ โซนซี บ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป จะจัดหาโซลูชันพลังงานสะอาดอื่น ๆ มาพัฒนาโครงการรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการต่อขยายระบบทำน้ำเย็น รถบัสไฟฟ้า การติดตั้งระบบโซลาร์ และระบบกักเก็บพลังงาน

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “เมกะโปรเจกต์ระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางภายในโครงการฯ โซนซี ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบ้านปู เน็กซ์ บริษัทลูกของบ้านปู ที่จะก้าวเป็น Net-Zero Energy Provider ให้กับทุกองค์กรทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมพัฒนาให้เป็น Smart Enterprise เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือครั้งนี้ยังตอกย้ำความเชี่ยวชาญในธุรกิจจัดการพลังงานของบ้านปู เน็กซ์ ที่มอบบริการแบบครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมอนิเตอร์ได้เรียลไทม์”

นายสแตนลีย์ หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสพี กรุ๊ป กล่าวว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของเอสพี กรุ๊ป ในการรุกตลาดระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางในไทย ทั้งยังสะท้อนความมุ่งมั่นในการนำโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนมาเร่งขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน Net-Zero ให้กับประเทศไทย โดยเอสพี กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการบริหารต้นทุนและประสิทธิภาพด้านพลังงานด้วยบริการระบบผลิตความเย็นแบบครบวงจร (Cooling as a Service) เราพร้อมที่จะขยายเครือข่ายและขับเคลื่อนการใช้ระบบความเย็นที่ยั่งยืนในภูมิภาค ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืนด้วยโซลูชันอันล้ำสมัยและการผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่ง”

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development กล่าวว่า “DAD มีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีระดับเอเชียแปซิฟิกของ บีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค (BNSP Smart Tech) ด้านการบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System: DCS) ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและระบบสาธารณูปโภคให้กับศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี และเป็นการเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาเมือง DAD จึงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 อย่างยั่งยืน”

บ้านปู เน็กซ์ และเอสพี กรุ๊ป มีประสบการณ์นำเสนอโซลูชันทำความเย็นที่ล้ำสมัยและยั่งยืน โดยบ้านปู เน็กซ์ ได้พัฒนาและติดตั้งระบบทำน้ำเย็นให้กับหลายโครงการชั้นนำในประเทศไทย อาทิ จามจุรีสแควร์, แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และอาคารล็อกซเล่ย์ ขณะที่เอสพี กรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโครงการในพอร์ตโฟลิโอทั่วเอเชียรวมทั้งสิ้นกว่า 228,000 ตันความเย็น (RT) ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายระบบการทำความเย็นจากส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในพื้นที่ระดับแลนด์มาร์คอย่างมารีน่า เบย์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะสามารถให้บริการทำความเย็นให้กับ 32 อาคารในย่านดังกล่าวภายในปี พ.ศ. 2570 นอกจากนี้ เอสพี กรุ๊ป ยังดูแลระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางให้กับโครงการฟื้นฟูเมืองเชิงบูรณาการให้กับย่านแทมปิเนส (Tampines) ติดตั้งระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับภาคอุตสาหกรรมในสิงคโปร์ให้กับบริษัทเอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (STMicroelectronics) รวมไปถึงอีกหลายโครงการในประเทศจีน อาทิ กลุ่มอาคารราฟเฟิลส์ ซิตี้ ฉงชิ่ง, ศูนย์ออกแบบผังเมืองนานาชาติ เฉิงตู และโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้กว่างโจว

ทีมงานผู้บริหารธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณนที เหลืองอรุณโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ เข้าร่วมกิจกรรม Joint European Networking จัดโดยสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์ (EABC) ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นประธานในงาน เพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์โครงการนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในทำเลยุทธศาสตร์พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการดำเนินธุรกิจโรงงาน คลังสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง และอุตสาหกรรมทั่วไป ซึ่งปัจจุบันโครงการได้พัฒนาพื้นที่เสร็จแล้ว 100% รวมทั้งยังมีบริการ One stop Service ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการให้บริการแบบครบวงจร ทั้งนี้ผู้สนใจโครงการสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-050-5555-895, 094-555-9546

อลิอันซ์ อยุธยา โดย จันทนา ชินวรรโณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคล บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รับรางวัลสุดยอดองค์กรที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2566  HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2023 อลิอันซ์ อยุธยา ได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำการเป็นองค์กรที่มีการบริหารทรัพยากรบุคคลที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเยี่ยม มีการปรับปรุงออฟฟิศให้โมเดิร์น สวยงาม การรับความคิดเห็นข้อเสนอแนะของพนักงาน การสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความสามารถที่ออกแบบได้เอง  และการมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

นอกจากนี้ ยังสามารถคว้ารางวัล HR Asia Diversity, Equity & Inclusion Awards 2023 มาครองได้อีกรางวัล แสดงให้เห็นว่า อลิอันซ์ อยุธยา เป็นองค์กรที่เคารพความหลากหลาย และการยอมรับซึ่งกันและกันภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และสร้างผลลัพธ์การทำงานที่ดียิ่งขึ้น

งานนี้จัดโดย HR Asia นิตยสารชั้นนำด้านทรัพยากรบุคคลของภูมิภาค โดยการตัดสินพิจารณาจากการสำรวจความคิดเห็นของตัวแทนพนักงาน ที่ส่งผลต่อความผูกพันขององค์กรในหลายแง่มุม ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ไอคอนสยาม

เอสซีจีได้คะแนนสูงสุดจากดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ หรือ DJSI ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “สินเชื่อสำหรับธุรกิจ” ในหลักสูตรเครือข่ายผู้บริหารองค์กร จัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อสำหรับธุรกิจ และแนวทางการบริหารจัดการสภาพคล่องและบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมทั้งเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยส่งออกได้ (Go Global) และมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว (Go Green) เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีการค้าโลกยุคใหม่ ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ สีลม เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566

นวัตกรรม แรงบันดาลใจ การอุทิศตน และความบันเทิง เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนเท่านั้นที่ทำให้คนในเมืองร่วมมือร่วมใจกันเพื่อขับเคลื่อนความสนใจและการดำเนินการเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) 17 ประการของสหประชาชาติ ในการแสดงความสามัคคีอย่างยอดเยี่ยมนี้ บรรดาผู้นำองค์กร, องค์การนอกภาครัฐ, เด็กนักเรียนในท้องถิ่น, กลุ่มคนพิเศษ, อินฟลูเอนเซอร์ และนักเรียนนักศึกษาจากทั่วมาเลเซียมากกว่า 22,000 คน ทั้งหมดมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยซันเวย์ ในเมืองซันเวย์ซิตี้ เพื่อเข้าร่วมงานสัปดาห์เทศกาลและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุน SDGs 17 ประการของสหประชาชาติ โดยงานดังกล่าวมีชื่อว่า Campus With A Conscience - Local Action for Global Goals 2023 (วิทยาเขตพร้อมด้วยจิตสำนึก - การดำเนินการในท้องถิ่นเพื่อเป้าหมายระดับโลกปี 2566) จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่ผ่านมา

เทศกาลสุดพิเศษเจ้าแรกในเอเชียแห่งนี้ได้กลับมาจัดขึ้นอีกครั้งเป็นปีที่สอง พร้อมด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การเสวนา การแสดง เวิร์กช็อปแบบอินเทอร์แอคทีฟ และการจัดแสดงต่าง ๆ เกี่ยวกับความยั่งยืนจากองค์กรและแบรนด์ผู้บุกเบิก เช่น Blueshark, Uniqlo, The Body Shop และ Aquaria นอกจากนี้ ยังมีขบวนแห่งธงประจำวัน การสาธิตบนเวที ตลาดแห่งความยั่งยืน และพื้นที่ทำความรู้จักกับเหล่าผู้นำ, ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง, นักเคลื่อนไหว, ภาคเอกชน ตลอดจนการแสดงดนตรีสด

เทศกาลเริ่มต้นขึ้นด้วยแฟชั่นโชว์อบอุ่นหัวใจที่คำนึงถึงความหลากหลาย ประกอบด้วยกลุ่มผู้สูงอายุจากชุมชนซูบังจายาและกลุ่มเด็กพิเศษที่ได้สร้างความประทับใจและตราตรึงใจแก่บรรดาผู้ชมในมหาวิทยาลัย

สำหรับบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมงานประกอบด้วยผู้ทรงเกียรติจากนานาประเทศ รวมถึง ฯพณฯ ดร. Peter Blomeyer เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำมาเลเซีย, ฯพณฯ Ailsa Terry ข้าหลวงใหญ่สหราชอาณาจักรประจำมาเลเซีย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาครั้งนี้อย่างเป็นทางการครั้งแรก, ฯพณฯ มร. Sami Leino เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำมาเลเซีย และมิส Karima El Korri ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไนดารุสซาลาม

ในโอกาสสำคัญครั้งนี้ มกุฎราชกุมารแห่งรัฐสลังงอร์ Tengku Amir Shah ibni Sultan Sharafuddin Idris Shah เสด็จฯ เยือนการจัดงาน ณ วิทยาเขตมหาวิทยาลัยซันเวย์ และทรงแสดงความยินดีกับทุก ๆ คน สำหรับความสำเร็จของงานในครั้งนี้

ภายในงานได้จัดจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ให้บุคลากรและนักเรียนนักศึกษาสามารถทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ต้องการแล้วได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ มีการเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากกว่า 35,000 กิโลกรัม

บรรดาเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศได้รับเชิญให้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรม "Treasure Our Planet Trail" (เส้นทางสมบัติล้ำค่าแห่งโลกของเรา) เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงใหม่ ๆ เกี่ยวกับ SDG 17 ประการขณะเดินไปตามเส้นทางทั่ววิทยาเขต โดยแต่ละย่างก้าวของการเดินทางสู่การตื่นรู้นี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่า คนรุ่นใหม่จะยังคงสานต่อเป้าหมายเหล่านี้และดำเนินการต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้แล้ว สมาชิกของทีมสเปเชียลโอลิมปิกของมาเลเซียยังได้มีส่วนร่วมในขบวนแห่ธงและเชิญธงบนเวทีอีกด้วย นำโดยผู้อำนวยการประจำชาติ คุณ Jacque Kok Lee Min

ในทุก ๆ วันตลอดงานจะมีการสาธิตบนเวที รวมถึงกิจกรรมสาธิตการอัปไซเคิลอย่างสร้างสรรค์ หรือการเปลี่ยนของเก่าให้เป็นของใหม่และมีประโยชน์ โดยมีคุณ Maslisa Zainuddin จากมหาวิทยาลัยซันเวย์ เป็นผู้นำจัดกิจกรรม นอกจากนี้แล้ว ภายในวิทยาเขตยังเป็นเจ้าภาพจัดแสดงรถพยาบาลแห่งความยั่งยืนคันแรกของมาเลเซียอีกด้วย

หนึ่งในสิ่งพิเศษสุดภายในงานปีนี้คือกำแพงอธิษฐานที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ โดยบนกำแพงมีคำอธิษฐานที่เขียนโดยเด็ก ๆ 280 คนจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าท้องถิ่นและสถานที่พักพิงผู้ลี้ภัย และเพื่อให้ความปรารถนาเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ชุมชนซันเวย์จึงได้เชิญชวนให้บริจาคผ่านตู้จำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศลเครื่องแรกในมาเลเซีย งานดังกล่าวไม่ทำให้ผิดหวังด้วยคำอธิษฐานทั้ง 280 ข้อได้กลายเป็นจริงแล้ว โดยตู้จำหน่ายสินค้านี้ได้รับสต็อกสินค้าและได้รับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจจาก Advanced Food Technologies (AFT)

งานสัปดาห์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และถือเป็นการประกาศศักดาครั้งยิ่งใหญ่ของมาเลเซียในด้านความยั่งยืนระดับโลก โดยศาสตราจารย์ ดาโต๊ะ Elizabeth Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Sunway Education Group กล่าวว่า "กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความร่วมมือระยะยาวและการนำผู้คนมารวมตัวกัน เป็นเวทีที่เน้นย้ำถึงบทบาทที่เราทุกคนมีในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ในปัจจุบัน โดยมีประเด็นหลักอยู่ที่สุขภาพของโลก และการทำให้ชุมชนซันเวย์ของเราเรียนรู้ในเรื่องแนวทางปฏิบัติในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน และความจำเป็นในการแก้ปัญหาเพื่อจัดการกับความท้าทายสำคัญ ๆ ระดับโลก"

ด้านศาสตราจารย์ Sibrandes Poppema อธิการบดีมหาวิทยาลัยซันเวย์ กล่าวเสริมว่า "ด้วยกิจกรรมนี้ เราสามารถจัดหาช่องทางให้กับองค์กร ชุมชน และองค์กรการกุศลต่าง ๆ ได้เผยแพร่ความตระหนักรู้และระดมทุน รวมถึงให้แบรนด์ระดับโลกได้แสดงโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน"

นอกจากนี้ ตัวแทนของแบรนด์ต่าง ๆ ที่ร่วมจัดแสดงภายในงานยังได้แบ่งปันช่วงเวลาน่าตื่นเต้นในงาน ดังนี้

"เป้าหมายหลักของโครงการ Re.UNIQLO Studio ในสัปดาห์นี้คือเวิร์กช็อป Repair and Remake (ซ่อมแซมและทำใหม่) เราตั้งเป้าให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษาและชุมชนในวงกว้างเกี่ยวกับความสำคัญของการยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้า UNIQLO ของพวกเขา" Uniqlo

"หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือการสื่อสารกับนักศึกษาวิทยาเขตซันเวย์ การแบ่งปันประสบการณ์ของเรากับพวกเขา และการให้พวกเขาได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Lost Food Project" The Lost Food Project

"เรายินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ และเราหวังว่าจะมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อความยั่งยืนผ่านกิจกรรมเช่นนี้ในอนาคต" Stand Pie Me

"เราได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเราขอขอบคุณซันเวย์ที่ให้โอกาสเราได้แบ่งปันคุกกี้ของเรากับชุมชน" GOLD

งาน Local Action for Global Goals 2023 เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่โลกจะต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายระดับโลกภายในปี 2573 ผ่านกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ และกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจสำหรับทุกเพศทุกวัย กิจกรรมนี้ได้นำผู้นำระดับโลก, ผู้กำหนดนโยบาย, ผู้มีอำนาจตัดสินใจ, ผู้นำธุรกิจ, หุ้นส่วน, นักวิชาการ, นักวิทยาศาสตร์, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย, นักเคลื่อนไหว และผู้สนับสนุนจากทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อทำความรู้จัก ศึกษาแนวทางแก้ไข ค้นหาเส้นทางข้างหน้า และทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายระดับโลกในช่วงเวลาสำคัญ

มาเลเซียภาคภูมิใจในเทศกาลซันเวย์สุดพิเศษนี้และการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในการบรรลุเป้าหมายระดับโลก

ลิงก์วิดีโอ: https://fb.watch/na1jKvGRnA/?mibextid=cr9u03 

ศูนย์วิจัย SCB EIC ชี้อสังหาฯ ปี66 ฟื้นตัวอย่างช้าๆ เหตุภาวะเศรษฐกิจ ต้นทุน ฉุดราคาสูงเกินกำลังซื้อของลูกค้า

X

Right Click

No right click