กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) นำโดย ดร.วศิน อุดมรัชตวนิชย์ (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล และทีมผู้บริหารกลุ่มงานทรัพยากรบุคคล ประกาศความสำเร็จ คว้า 4 รางวัลยอดเยี่ยมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลแห่งปี จากเวทีระดับสากล ประกอบไปด้วย รางวัล Thailand Best Employer Brands Awards 2024 ใน 3 สาขา ได้แก่ Best Employer Brands, Diversity Impact และ Excellence in Learning and Development จาก World HRD Congress และรางวัล Top 50 Employers in Thailand 2024 หรือ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2567 จาก Work Venture โดยได้รับการเสนอชื่อติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ซึ่งมีแค่เพียง 17 องค์กรในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าวติดต่อกัน 5 ปี

รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของกรุงศรี โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของพนักงานในองค์กร การให้การยอมรับและเห็นถึงคุณค่าของความแตกต่างของบุคคลากรแต่ละคน สนับสนุนพื้นที่ในการแสดงความสามารถ และการทำงานแบบ Innovative Thinking เพื่อให้บุคคลากรสามารถการเติบโตและก้าวหน้าในสายอาชีพ ควบคู่ไปกับการเติบโตขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุด

เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Be Together Infinite 789 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การวางแผนทางการเงินของลูกค้าให้ทันต่อสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยผลิตภัณฑ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่สามารถสร้าง Passive Income ที่มั่นคงได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลถึงภาวะดอกเบี้ยในตลาด หรือความผันผวนด้านการลงทุน ด้วยการได้รับเงินคืนอย่างสม่ำเสมอไปพร้อม ๆ กับการสร้างความคุ้มครองชีวิต เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีสุขภาพชีวิตและสุขภาพการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นางสาวอรรัตน์ ชุติมิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์เชิงกลยุทธ์ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย และธนาคารกรุงเทพเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับการลงทุนที่มีความท้าทายมากขึ้น รวมถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน และแผนการเงินของลูกค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ลูกค้ามองหาเครื่องมือทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อมาช่วยต่อยอดความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคง รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ซึ่ง Be Together Infinite 789 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางเอไอเอกับธนาคารกรุงเทพ ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า แบบประกันนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยลูกค้าของเราวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ตัวเอง หรือส่งต่อความมั่งคั่งให้แก่ลูกหลาน นอกจากนี้ แบบประกันนี้ยังมีจุดเด่นที่หลากหลาย อาทิ

  • ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี รับความคุ้มครองชีวิตจนถึงวันครบรอบปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยอายุครบ 89 ปี
  • รับเงินคืนรายงวดทุกสิ้นปีกรมธรรม์ 9% หรือ 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เลือกซื้อ[1]
  • รับเงินคืน 789% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่อครบกำหนดสัญญา
  • รับผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญา จำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และเพิ่มขึ้น 100% ทุกปีกรมธรรม์ สูงสุด 789% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 7 เป็นต้นไป
  • รับผลประโยชน์เพิ่มเติมอีก 1 เท่า ของความคุ้มครองชีวิต กรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ (ADB)
  • สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ

นางสาวพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพ มีความตั้งใจที่จะเป็น “เพื่อนคู่คิด” กับลูกค้าทุกกลุ่มด้วยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า รวมถึงพัฒนาช่องทางขายที่ครอบคลุมมากขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ล่าสุดธนาคารได้ร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรหลักด้านประกันชีวิต เปิดตัว “ประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ อินฟินิท 789” (Be Together Infinite 789) ที่สามารถตอบ 3 โจทย์ด้านการบริหารเงินให้ลูกค้าได้ในผลิตภัณฑ์เดียว 1.) ช่วยต่อยอด/ส่งต่อความมั่งคั่ง ด้วยความคุ้มครองชีวิตในระยะยาวสูงสุดถึง 789% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่าอีกด้วย 2.) รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ต่อเนื่องทุกปี 9-10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ปีแรกจนถึงอายุ 88 ปี และรับเงินก้อนใหญ่เมื่ออายุ 89 ปี 3.) ค่าเบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากประกันชีวิตยังได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณภาษี จึงตอบโจทย์ในด้านการวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ในช่วงที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนอยู่ตลอด จึงเป็นความท้าทายสำหรับการดูแลลูกค้าที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและจัดสรรเงินมาไว้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลประโยชน์ที่ดีสม่ำเสมอ คล้ายกับการมี Passive Income ไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยหรือแนวโน้มผลตอบแทนการลงทุนในตลาด ด้วยความเข้าใจลูกค้าเชิงลึก บวกกับความร่วมมือที่แนบแน่นกับ เอไอเอ ประเทศไทย จึงนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ ประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ อินฟินิท 789” ที่เหมาะสำหรับซื้อให้ตนเองหรือคนที่รักเพื่อช่วยต่อยอดความมั่งคั่ง หรือจะใช้วางแผนมรดกเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งไปให้ลูกหลานก็ได้เช่นกัน ออกแบบให้ซื้อได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งธนาคารเริ่มรุกตลาดตั้งแต่ต้นปี และมั่นใจว่าแบบประกันนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่ช่วยลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมให้สามารถวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการเป็น “เพื่อนคู่คิด” ทุกเรื่องการเงินให้แก่ลูกค้า” นางสาวพรพิมล กล่าว

ทั้งนี้ลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต Be Together Infinite 789 สามารถปรึกษาและวางแผนประกันชีวิตได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน 1333 หรือติดต่อเอไอเอ คอลเซ็นเตอร์  02-353-8855 ทุกวัน เวลา 8.00-22.00 น.


หมายเหตุ:

[1] เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย

- ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์

พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

นายพชร วันรัตน์เศรษฐ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สนับสนุนคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์จำนวน 500 เครื่อง ให้กับโรงเรียนภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ด้วยทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลแก่เยาวชน สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาที่ทั่วถึงและเท่าเทียม โดยมี ดร.พัฒนะ พัฒนทวีดล (ที่ 2 จากขวา) รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้แทนรับมอบ

ดันเงินบาทแข็งแกร่ง ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อแผ่วลง  

มาตรฐานความรู้ด้านสายงาน Digital Marketing ครั้งแรกของไทย

จุดประกายการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ช่วยลดปัญหาการบูลลี่ในรั้วโรงเรียน

ครีมอาบน้ำที่ต้านไหวทุกกิจกรรมให้ทุกคน “สะอาดทั้งตัว ชัวร์ทั้งบ้าน”

สร้างเส้นทางใหม่ในการเชื่อมโยงการศึกษา การค้า และการลงทุน

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ครองอันดับหนึ่งธนาคารด้าน ESG ต่อเนื่อง ด้วยการคว้าสองรางวัลทั้งในเวทีระดับประเทศและนานาชาติ หลังต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2567 ด้วยการครองอันดับหนึ่งธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากการประเมินโดย Fair Finance Thailand โดดเด่นในหมวดการคุ้มครองผู้บริโภค และขยายบริการทางการเงิน โดยล่าสุดคว้ารางวัล Best Environmental Sustainability Bank จากเวที International Finance Awards 2023 ตอกย้ำแนวคิดการทำงานแบบ Make REAL Change มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงผสานธุรกิจและความยั่งยืน ตามกรอบ B+ESG ก้าวสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน”  

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยต้องคำนึงเรื่องของ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ซึ่งทีทีบีได้วางกรอบการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตและความยั่งยืนอย่างสมดุลในทุกมิติมาหลายปีแล้ว ด้วยการ Make REAL Change เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอันนำไปสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) สะท้อนความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง จากการครองอันดับ 1 ธนาคารที่มีผลคะแนนด้าน ESG สูงสุดติดต่อกัน 5 ปี ในการประเมินนโยบายด้าน ESG ของธนาคาร โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ถือเป็นหนึ่งรางวัลแห่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจในการผลักดันให้ทุกภาคส่วนในองค์กรร่วมกันผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ทีทีบีใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมายาวนาน ทุกกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของธนาคารอยู่บนพื้นฐานสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (B+ESG) ผ่านการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) และการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน และสังคม ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนมากขึ้น กลายเป็นประเด็นสำคัญของโลก เห็นได้จากการปรับปรุงเกณฑ์ประเมินของ Fair Finance Guide International 2023 หรือ FFGI ที่เข้มข้นกว่าเกณฑ์ชุดเดิมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทีทีบีพร้อมปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองกับทุกบริบทของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น สิ่งที่ธนาคารจะก้าวต่อไปจากนี้คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับการทำให้ทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ ประธานกลุ่มกลยุทธ์องค์กรและดิจิทัล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า “ทีทีบี มีผลคะแนนรวม 39% จากการประเมินนโยบายด้าน ESG ของธนาคาร ปี 2566 โดดเด่นในหมวดการคุ้มครองผู้บริโภคมีคะแนน 66% ที่ธนาคารได้ประกาศนโยบายในการจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ช่องทางการร้องเรียน ระบบการดำเนินการ ระยะเวลาการดำเนินการจัดการ และการรายงานผล พร้อมให้มีการเยียวยาลูกค้า รวมถึงมีโครงการอบรมพนักงานในประเด็นสิทธิผู้บริโภค นโยบายคุ้มครองผู้บริโภค และธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ของพนักงานในการบริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ"

นอกจากนี้ ทีทีบียังมุ่งมั่นขยายบริการทางการเงินให้ครอบคลุม ทำให้มีคะแนนในหมวดนี้ถึง 61% ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้เข้าถึงทางการเงินให้กับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกสบาย รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญในประเด็นสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน นอกจากมีสินเชื่อบ้าน ทีทีบี ที่คู่รักเพศเดียวกันสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้แล้ว ยังมีการประกาศนโยบายที่ครอบคลุมถึงลูกค้าธุรกิจ ที่ต้องทำธุรกิจโดยไม่ยอมรับการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบ ต้องมีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม รวมถึงกำหนดให้มีสภาพพื้นที่การทำงานที่ดี มีมาตรการป้องกันสุขภาพและความปลอดภัยที่เหมาะสมด้วย

และอีกบทพิสูจน์ที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบ B+ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม คือการเป็นที่ยอมรับบนเวทีระดับนานาชาติการันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ Best Environmental Sustainability Bank จากเวที International Finance Awards 2023 จัดโดย International Finance Magazine (IFM) นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ โดยธนาคารได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนทางทะเล หรือตราสารหนี้สีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน รวมถึงการปล่อยสินเชื่อสีเขียวเพื่อสนับสนุนธุรกิจในการอนุรักษ์และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

“ทีทีบีตั้งเป้าหมายเป็นธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น หรือ The Bank of Financial Well-being ให้กับคนไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริงกับลูกค้าทุกกลุ่มในแต่ละช่วงชีวิต ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพราะเชื่อว่าเป็นการสร้างความยั่งยืนได้ในระยะยาว ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรางวัลธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดอันดับ 1 จาก Fair Finance Thailand ติดต่อกัน 5 ปี ซึ่งปีล่าสุดมีการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินให้เข้มข้นขึ้น ถือเป็นเกณฑ์ประเมินธนาคารด้านความยั่งยืนที่ละเอียดและอัปเดตที่สุดชุดหนึ่งในโลก สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” นายปิติกล่าวสรุป

X

Right Click

No right click