บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สร้างผลงานยอดเยี่ยมบนโลกโซเชียลมีเดีย ติดอันดับแบรนด์ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด คว้ารางวัล FINALIST สาขา BEST BRAND PERFORMANCE ON SOCIAL MEDIA กลุ่มธุรกิจอาหารและขนมขบเคี้ยว สาขา Food & Snacks ในงาน Thailand Social Award 2024 ครั้งที่ 12 จัดโดย บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียล ด้วยการวัดประสิทธิผลด้านการสื่อสารผ่านช่องทางหลักและช่องทางที่คนอื่นพูดถึงแบรนด์ เก็บคะแนนใน 2 รูปแบบ คือ Online Creators และ Celebrities โดย Online Creator จะทำการเก็บข้อมูลจากสื่อช่องทางของตนเอง (Owned) จาก 5 แพลตฟอร์มหลัก คือ Facebook, Instagram, X, TikTok และ YouTube  และ Celebrities จะทำการเก็บข้อมูล Owned จาก Official Account และช่องทางที่คนพูดถึงแบรนด์หรือสินค้า (Earned) จาก Person Keyword

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้รับรางวัลนี้อีกครั้ง ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของทุกคน ไม่เพียงแค่ช่องทางการสื่อสาร แต่ยังเป็นสิ่งเชื่อมต่อและเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค ทำให้เห็นพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขึ้น นำไปสู่การคิดค้นกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดเชิงรุก ควบคู่ไปกับการพัฒนาคอนเทนต์ต่างๆ และแคมเปญที่ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับแบรนด์

ปี 2566 โครงการ ‘ไก่ไทยจะไปอวกาศ’ สร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ระดับโลก เพียงเปิดตัวสร้างปรากฏการณ์จำนวนของการโพสต์ถึง 1,300 ล้านครั้ง ภายในเวลา 1 เดือน ทำให้แฮชแท็ก #ไก่ไทยจะไปอวกาศกับซีพี #CPMissiontoSpace ทะยานขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ X Thailand อันดับ 3 เทรนด์ X Worldwide ขณะที่หนังโฆษณา 'ครั้งแรกของโลก! ไก่ไทยจะไปอวกาศ กับ ซีพี' มียอดผู้ชมมากกว่า 100 ล้านวิวในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าเพิ่มขึ้นจากการตอบรับสินค้ามากกว่า 1,000 ร้านค้า ภายใน 1 เดือน

ด้าน แคมเปญ ‘ไข่ตุ๋น CP’ ที่ได้ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล พรีเซ็นเตอร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ ด้วยหนังโฆษณาสุดน่ารักชวนพักซอฟต์ใจ พร้อมกลยุทธ์การสื่อสารด้านการตลาด ที่มียอดวิวสูงกว่า 26 ล้านวิวในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และยังนำนวัตกรรม AR สร้างภาพสามมิติให้ทุกคนได้พักใจกับ ไข่ตุ๋น CP เพียงสแกนบนสื่อโฆษณาและสื่อ ณ จุดขาย พร้อมทั้ง แพลตฟอร์มใหม่ อย่าง ZEPETO โดยเลือกไอเท็มสุดพิเศษจากแบรนด์เพียง 30 วัน มีผู้เข้าร่วมเล่นเกม ทุบสถิติมากกว่า 14 ล้านยูสเซอร์ เป็นแคมเปญการตลาดผ่านโฆษณาภายในโลกเสมือนจริง ที่มีการเข้าชมสูงสุด อันดับ 2 ของโลกในปีที่ผ่านมา

ส่วน แคมเปญที่ประสบความสำเร็จ คือ ‘CP โบโลน่า สไปซี่’ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ศิลปินเบอร์ 1 ของยุค ร่วมถ่ายทอดความเผ็ดร้อนและรสชาติแปลกใหม่ของผลิตภัณฑ์ สร้างปรากฏการณ์ #ซีพีโบโลน่าพริกxพีพี ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ X Thailand ภายใน 14 นาที ยอดรีโพสต์มากกว่า 40,000 ครั้ง สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการโฆษณาของไทยอีกด้วย

ซีพีเอฟ มุ่งผลิตและส่งมอบอาหารคุณภาพ ปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก ควบคู่กับการคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ นวัตกรรม (Innovation) สุขภาพ (Wellness) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Planet) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า พร้อมกับศึกษาความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อนำมาต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งออกแบบการสื่อสารและสร้างสรรค์แคมเปญที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและเทรนด์ต่างๆ

“แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์” แนะ 5 ปัจจัยในการเลือกซื้อห้องชุดเพื่อปล่อยเช่าตอบโจทย์พฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ที่นิยมเช่ามากกว่าซื้อ

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการเป็นเลิศ  จัดงาน “Best Garage & Surveyor Awards 2023” มอบรางวัลอู่ซ่อมรถยนต์และบริษัทสำรวจภัยที่สร้างผลงานคุณภาพในด้านการบริการลูกค้ายอดเยี่ยม โดยยึดหลักการบริการเป็นเลิศ รวดเร็ว มุ่งสะท้อนคุณภาพของการให้บริการภายใต้ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ เชิดชูอู่ซ่อมรถยนต์และบริษัทสำรวจภัย เพื่อพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นไป

นายลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า “หัวใจของการดำเนินธุรกิจของเราคือ การให้บริการลูกค้าที่เหนือความคาดหมาย เรามุ่งพัฒนาการทำงานในทุกด้านเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ง่ายและรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น เรายังส่งเสริมและผลักดันพันธมิตรของเราให้ส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าบนมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่เรามีพันธมิตรหลักในการให้บริการลูกค้าเป็นอู่ซ่อมรถและบริษัทสำรวจภัย จำนวนมากกว่า 800 อู่/บริษัทซึ่งให้บริการลูกค้าทั่วถึงภาคประเทศไทย การจัดงานมอบรางวัล “Best Garage & Surveyor Awards” ถือเป็นการมอบการขอบคุณและเพื่อเป็นกำลังใจให้กับบริษัทและคนทำงานของบริษัทสำรวจภัยและอู่รถยนต์ที่ส่งมอบบริการที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น นำประโยชน์สูงสุดมาสู่ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ประกันรถยนต์ของเรา”

พิธีมอบรางวัล “Best Garage & Surveyor Awards 2023” แบ่งรางวัลออกเป็น 2 ประเภท คือ รางวัลมอบให้กับอู่ซ่อมรถยนต์ ยอดเยี่ยม โดยมีเกณฑ์การตัดสิน ได้แก่ ค่าซ่อมที่เหมาะสม ยุติธรรม มีการจัดซ่อมอย่างรวดเร็ว ภายในกำหนดนัดหมายกับลูกค้า มีการให้บริการพิเศษ บริการเปิดเคลม ขัดสีรอบคัน รับประกันงานซ่อม 1 ปี การซ่อมตามมาตรฐานและมีคุณภาพที่ดีเยี่ยม ไม่มีเรื่องร้องเรียนการบริการ และรางวัลมอบให้กับบริษัท สำรวจภัย ยอดเยี่ยม โดยมีเกณฑ์การตัดสิน ได้แก่  การเดินทางถึงสถานที่เกิดเหตุภายใน 25 นาที (นับจากได้รับแจ้ง) ช่วยรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า และอยู่เคียงข้างลูกค้าเสมอ ปฏิบัติตามข้อกำหนดการทำงานอย่างครบถ้วน แนะนำขั้นตอนและอู่ซ่อม ตรวจสอบเคลมตามเงื่อนไขกรมธรรม์อย่างถูกต้อง ให้บริการที่ดีเยี่ยม ไม่มีเรื่องร้องเรียนการบริการโดยทั้ง 2 รางวัล แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มตามภูมิภาค พื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก และภาคใต้

รายชื่ออู่ซ่อมรถและบริษัทสำรวจที่ได้รับรางวัลมีดังนี้

สำหรับอู่ซ่อมรถยนต์ ที่ได้รับรางวัล อู่ซ่อมรถยนต์ ยอดเยี่ยม ได้แก่

  • ภาคกลาง ได้แก่

อันดับ 1 บริษัท เจ.เค. รุ่งเรือง จำกัด

อันดับ 2 บริษัท ส.รุ่งเจริญกลการ จำกัด

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชอบ การาจ

  • ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ได้แก่

อันดับ 1 รุ่งอนันต์ เซอร์วิส

อันดับ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ตราดเจริญยนต์ เซอร์วิส

อันดับ 3 บริษัท เจ.ซี เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ 

อันดับ 1 บริษัท มิตรอารีย์ขอนแก่น(2009) จำกัด

อันดับ 2 อู่ ยนต์ไพศาล

อันดับ 3 บริษัท ค.การยนต์ ขอนแก่น จำกัด

  • ภาคเหนือ ได้แก่

อันดับ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด หมื่นการช่าง

อันดับ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด อู่ เจ.พี เซอร์วิส

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนัทยนตรกิจ

  • ภาคใต้ ได้แก่

อันดับ 1 อู่ มนัสการาจ

อันดับ 2 บริษัท ภูเก็ตค้าสี จำกัด

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็น.เค.ยนตรกิจ

 

สำหรับบริษัท สำรวจประกันภัย ที่ได้รับรางวัล บริษัท สำรวจประกันภัย ยอดเยี่ยม ได้แก่

  • ภาคกลาง ได้แก่

อันดับ 1 บริษัท เซ็นเตอร์เคลม แอนด์ ลอว์ จำกัด

อันดับ 2 บริษัท สยามเอ็กซ์เพรส เซอร์เวร์ จำกัด

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค เคลม 2019 แอนด์ เซอร์เวเยอร์

  • ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ได้แก่

อันดับ 1 บริษัท พัทยาเคลม แอนด์ เซอร์วิส จำกัด

อันดับ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีราชาเคลม เซอร์วิส

อันดับ 3 บริษัท เค.พี.เอ็น.เซอร์เวย์ จำกัด

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ 

อันดับ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด โสภณอินเตอร์เคลม (2015)

อันดับ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมบูรณ์ทรัยพ์กฎหมายและสำราจภัย

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด กสิณเซอร์วิส

  • ภาคเหนือ ได้แก่

อันดับ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เซอร์เวย์ฮับ

อันดับ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุโลก ออโต้เคลม

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด อยุธยาไทยอินเตอร์เคลม

  • ภาคใต้ ได้แก่

อันดับ 1 ห้างหุ้นส่วนจำกัด หาดใหญ่มาสเตอร์เคลม

อันดับ 2 บริษัท สำรวจภัยสุราษฎร์ธานี (2548) จำกัด

อันดับ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมืองสุราษฎร์ เซอร์เวย์

อู่ซ่อมรถยนต์ ที่ได้รับรางวัลจะได้รับโล่เกียรติยศ และป้ายโครงการ อู่ Best Garage Allianz Ayudhya และ บริษัทสำรวจภัยได้รับรางวัลจะได้รับ โล่เกียรติยศ และรางวัลอันทรงคุณค่า พร้อมประกาศนียบัตรโดยจะมอบให้พนักงานเซอร์เวย์ที่ให้ความร่วมมือในบริการดีมากด้านงานบริการ

บริษัทฯ หวังว่าการมอบรางวัล Best Garage and Surveyor Awards  2023 ให้กับอู่ซ่อมรถยนต์และบริษัทสำรวจภัยในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างสัมพันธภาพในการทำงานร่วมกัน สร้างกำลังใจและแรงผลักดันในการพัฒนาการบริการให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับความสะดวก รวดเร็วเหนือความคาดหมายให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ณ งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส บาร์เซโลนา ประจำปี 2567 (Mobile World Congress 2024 – MWC) หัวเว่ยคว้ารางวัล GSMA Foundry Excellence Awards 2024 ในสาขาผู้ประสานงานในภาคอุตสาหกรรม (Industry Collaborator Award) จากคุณริชาร์ด ค็อกเคิล ผู้นำคนปัจจุบันของ GSMA Foundry โดยรางวัลบนเวทีระดับสากลครั้งนี้สะท้อนความร่วมมือของหัวเว่ยในนวัตกรรมหลากหลายด้านในปีที่ผ่านมา อาทิ เครือข่ายโทรคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี 5G New Calling ตลอดจนร่วมสนับสนุนการผนึกกำลังระหว่างพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรม โดยมีดร. ฟิลิป ซอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย และนายลีโอ หม่า ประธานการตลาดคลาวด์คอร์เน็ตเวิร์กเป็นตัวแทนจากหัวเว่ยเพื่อขึ้นรับรางวัล

ในปีพ.ศ. 2566 หัวเว่ยได้ร่วมมือกับพันธมิตรอุตสาหกรรมชั้นนำหลายสิบรายเพื่อสนับสนุน GSMA Foundry ในหลากหลายโครงการที่มีนวัตกรรม ซึ่งรวมถึงโครงการ ‘ก้าวสู่โลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: สร้างผลลัพธ์มากขึ้นจากการทำงานที่น้อยลง’ (Towards Green: Doing More with Less) และโครงการ ‘5G New Calling’ โดยโครงการดังกล่าวจะผนึกกำลังระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรมชั้นนำเพื่อร่วมเผยแพร่กรณีศึกษาและสมุดปกขาวในหลายหัวข้อ โดย GSMA Foundry จัดการประชุมสุดยอดผู้นำหลายครั้งผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเร่งรับมือกับความท้าทายที่ภาคอุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญ

หนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดที่ประสบความสำเร็จในโครงการ GSMA Foundry คือโซลูชันการพัฒนาด้านกรีน 1-2-3 หรือเครือข่ายการสื่อสารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมอบ “1” หนึ่งดัชนีให้กับลูกค้าต่อ “2” สองสถานการณ์ประหยัดพลังงาน (ระหว่างสถานะการทำงานและสถานะหยุดนิ่ง) และโซลูชันสถาปัตยกรรม “3” สามระดับ (ครอบคลุมเรื่องการดำเนินงาน, เครือข่ายและไซต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) โดยโซลูชันดังกล่าวได้เพิ่มศักยภาพผู้ให้บริการ เพื่อส่งมอบเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสามารถขยายเครือข่ายและข้อเสนอการบริการที่ครอบคลุมไปพร้อม ๆ กัน นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมบรรลุเป้าหมายด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

โซลูชัน 1+3+N สำหรับบริการโทรออกหรือรับสายด้วยเสียงของหัวเว่ย ถือเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์สำคัญจากการผนึกกำลังกับ GSMA Foundry โดยได้มอบศักยภาพการใช้งานเครือข่ายที่รองรับการใช้งานด้านเสียงและมัลติมีเดีย (IP Multimedia Subsystem - IMS) รวมถึงแพลตฟอร์ม New Calling (NCP), ฟังก์ชันด้านสื่อที่มีการควบรวม (Unified Media Function - UMF) และฟังก์ชันการสื่อสารหลากหลายช่องทาง (Multimodal Communications Function - MCF) โดยศักยภาพการใช้งานดังกล่าวสามารถรองรับบริการ New Calling ได้หลายรูปแบบ อาทิ การโทรด้วยเสียงหรือวิดีโอความละเอียดสูง, ประสบการณ์ใช้งานแบบมีส่วนร่วม, และการดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ โดยแพลตฟอร์มการใช้งานดังกล่าวสามารถมอบศักยภาพเหนือระดับของเครือข่าย, รองรับการสื่อสารในหลากหลายสถานการณ์ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแนวดิ่งเพื่อพัฒนาบริการใหม่ที่ตอบโจทย์เรื่องการแปลแบบเรียลไทม์, ความบันเทิงระหว่างการโทร (fun calling), การโทรพร้อมวิดีโอ และการถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบอัตโนมัติ

ด้วยเครือข่ายเหล่านี้ ผู้ใช้งานทั่วไปจะสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การโทรติดต่อด้วยเสียงและวิดีโอที่เหนือระดับ ในขณะที่ผู้ใช้งานระดับองค์กรจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าทางธุรกิจและสังคมให้เพิ่มขึ้นได้

GSMA Foundry คือแพลตฟอร์มส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาธุรกิจ ที่มุ่งปลดล็อกศักยภาพเครือข่ายการเชื่อมต่อ โดยสมาชิกสมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และผู้เล่นในอุตสาหกรรมสามารถร่วมระดมความคิดเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ใช้งานได้จริง เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที, บ่มเพาะแนวคิดสดใหม่ผ่านการทดลองเชิงพาณิชย์, และขยายโซลูชันที่เปี่ยมประสิทธิภาพทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพื่อปูทางให้แก่อนาคตทางดิจิทัล

หัวเว่ยให้การสนับสนุนแพลตฟอร์ม GSMA Foundry มาอย่างยาวนาน สืบเนื่องจากการมุ่งส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ของ 5G หัวเว่ยมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและผู้ให้บริการเครือข่าย ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไอซีทีในสถานการณ์การใช้งานและภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมที่เพิ่มขึ้น

โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส บาร์เซโลนา ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 กุมภาพันธ์ ณ เมืองบาร์เซโลนา, ประเทศสเปน, โดยหัวเว่ยจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันสุดล้ำที่บูธ 1H50 ใน Fira Gran Via ฮอลล์ 1

เพื่อรองรับการเปิดตัว 5.5G เชิงพาณิชย์ในปีพ.ศ. 2567 หัวเว่ยจับมือผู้ให้บริการและพาร์ทเนอร์ทั่วโลกเพื่อค้นหานวัตกรรมใหม่ด้านเครือข่าย, เทคโนโลยีคลาวด์, และระบบอัจฉริยะ เราจะร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ 5G และส่งเสริมอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2024

กระทรวงดีอี - ดีป้า พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตร ในนาม TH.ai จัดงาน TH.ai Forum EP01: AI Trend in Agriculture เดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเอไอในทุกมิติ โดยเริ่มต้นจากภาคเกษตรกรรม คาดกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศสามารถเข้าถึงและเข้าใจเทคโนโลยีเอไอ ก่อนนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศ

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดและส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของทุกประเทศ ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้เทคโนโลยีเอไอในภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไทยมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกัน ประเทศไทยยังขาดแคลนเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Technology) ที่เกิดจากการพัฒนาโดยฝีมือคนไทย ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศ

ดังนั้นประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องขับเคลื่อน 5 องค์ประกอบสำคัญเพื่อให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดังกล่าว และรองรับความต้องการของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเอไอจากนอกประเทศ (AI Importer) การส่งเสริมการพัฒนาเอไอภายในประเทศ (AI Provider) การประยุกต์ใช้เอไอเพื่อพัฒนาบริการดิจิทัล (AI Distributor) การยกระดับกำลังคนดิจิทัลสาขาเอไอ (AI Manpower) การสร้างความตระหนักรู้แก่คนไทยเพื่อประยุกต์ใช้เอไออย่างปลอดภัย (AI User) และควรวางแนวทางการประยุกต์ใช้เอไอในด้านต่าง ๆ เช่น Generative AI Guideline, Responsible AI Guideline, AI Ethics Guideline Synthesis AI Guideline และ AI Algorithms Guideline

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) โดย ดีป้า จึงได้ร่วมกับ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย หอการค้าไทย บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ในนาม TH.ai (Thailand Artificial Intelligence) จัดงาน TH.ai Forum EP01: AI Trend in Agriculture เพื่อเปิดมุมมอง พร้อมขับเคลื่อนแนวทางส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีเอไอมาประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในทุกอุตสาหกรรม โดย EP01 เริ่มต้นกับอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร.กษิติธร ภูภราดัย รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเอไอของประเทศร่วมงานโดยพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ ภายในงานดังกล่าวมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘AI Trends in Agriculture Industry’ โดย นายพิชัย องค์วาสิฏฐ์ Data Platform Director บริษัท ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด (AXONS) และ การเสวนาในหัวข้อ ‘AI Startup Revolutionizing Agriculture’ โดย ดร.รัสรินทร์ ชินโชติธีรนันท์ ซีอีโอ บริษัท ลิสเซินฟิลด์ จำกัด (ListenField) นายสมพล สุนทระศานติก Head of Hardware Engineering บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด (HiveGround) และ นายภูวินทร์ คงสวัสดิ์ ซีอีโอ บริษัท อีซีไรซ์ ดิจิทัล เทคโนโลยี จำกัด (EASYRICE)

เครือข่าย TH.ai เป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยีเอไอของประเทศในทุกมิติผ่านแผนการส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาที่ชัดเจน ซึ่ง TH.ai หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมภายใต้เครือข่ายที่จัดขึ้นจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศสามารถเข้าถึงและเข้าใจเทคโนโลยีเอไอ ก่อนนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องและตรงจุด อีกทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศในอนาคตผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

นอกจากงาน TH.ai Forum ที่จัดขึ้นในวันนี้ ก่อนหน้านี้ เครือข่าย TH.ai ได้จัดกิจกรรมระดมความคิดเพื่อค้นหาความต้องการใช้เอไอของภาคเอกชน และหลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมภายใต้เครือข่ายอีก 3 ครั้ง โดยเนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพและการดูแลสุขภาพ (Health and Wellness) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ (Tourism and Services) และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์พาวเวอร์ (Digital Content and Soft Power) ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดของกิจกรรมได้ทาง Facebook Page: depa Thailand และ LINE OA: @depaThailand

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงดีอี โดย ดีป้า อยู่ระหว่างเสนอให้มีการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) และร่วมจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานด้านเอไออย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมเผยโฉม HONOR Magic 6 Pro และ AI PC HONOR MagicBook Pro 16 ครั้งแรกของโลกที่งาน Mobile World Congress 2024 ณ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ด้วยการทำงานร่วมกันของ Intent-based UI และ Cross-OS ตลอดจนนำเสนอฟีเจอร์ที่เปิดใช้งาน AI อาทิ Magic Portal และ MagicRing ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากสื่อทั่วโลกจนสามารถคว้า 45 รางวัลในหลากหลายสาขาในงานครั้งนี้

งาน Mobile World Congress 2024 หรือ MWC2024 ที่จัดโดยสมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) เป็นอีเวนต์ด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยปีนี้ HONOR คว้า 45 รางวัลจากสื่อชั้นนำระดับโลก พร้อมประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ HONOR Magic 6 Pro เป็นครั้งแรก และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากสื่ออย่างล้นหลาม โดย HONOR Magic 6 Pro ได้รับรางวัล Best of MWC 2024 จากสื่อสายเทคโนโลยีอย่าง Android Headlines ซึ่งตัวแทนของสื่อได้ให้ความคิดเห็นว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ล้ำหน้าไปอีกขั้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงและการใช้งานที่ครบครันในทุกด้าน อีกทั้งยังยกระดับเกมฮาร์ดแวร์เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด นอกจากนี้สื่อสายเทคโนโลยีอย่าง CNET ยังกล่าวว่า HONOR Magic 6 Pro เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์รุ่นเรือธงที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ และสื่อสายแฟชั่นชื่อดังอย่าง GQ Spain เผยว่ารู้สึกประทับใจในศักยภาพของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ และซีรีส์ Magic Pro ของ HONOR เป็นซีรีส์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดของแบรนด์ ซึ่งโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุด

สำหรับ AI PC อย่าง HONOR MagicBook Pro 16 ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหม่ของแบรนด์ HONOR และเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในงานที่จัดขึ้นครั้งนี้ พร้อมได้รับการรับรองจากสื่อระดับโลกอย่าง Mashable ในสาขารางวัล Best Laptops of MWC 2024 และ Best of MWC 2024 โดยสื่อแสดงความคิดเห็นว่า HONOR MagicBook 16 Pro เป็นแล็ปท็อปที่ทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ยุคแห่ง AI อย่างแท้จริง นอกจากนี้ Trusted Reviews ยังมอบรางวัล Best in Show ให้กับ HONOR MagicBook Pro 16 พร้อมกล่าวว่า ฟีเจอร์ต่าง ๆ ในแล็ปท็อปรุ่นนี้ อาทิ Smart Picture Search, Smart Document Summary, Text Comprehension, AI Subtitle และ Magic Text ได้แสดงให้เห็นถึงอนาคตและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ที่สามารถเข้ามาช่วยทำให้ชีวิตประจำวันของทุกคนง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น  

นอกจากนี้ HONOR ยังได้เผยถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ล้ำสมัย อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและแสดงให้เห็นถึงความพรีเมียมด้วย Honor Magic V2 RSR Porsche Design สมาร์ตโฟนจอพับที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากสื่อทั่วโลก พร้อมรับรางวัลด้านอุตสาหกรรมอันทรงเกียรติ GLOMO Best in Show ด้วยการตัดสินให้เป็นสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดแห่งปี อีกทั้งสื่อสายแฟชั่นระดับโลกอย่าง COSMOPOLITION ยังได้รวบรวมสมาร์ตโฟนแบบพับได้นี้ไว้ในทิปของบรรณาธิการใน London Fashion Week โดยกล่าวว่า Honor Magic V2 RSR Porsche Design เป็นสมาร์ตโฟนที่สามารถพลิกวงการแฟชั่นได้อย่างแท้จริง

โดยปีนี้ HONOR ยังได้วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ พร้อมตั้งเป้าขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขึ้น ด้วยการเตรียมพร้อมประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นใหม่ โดยผู้บริหารของบริษัทฯ กล่าวว่า การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการนำเสนอเทคโลยีรูปแบบใหม่และเป็นการรุกตลาดสมาร์ตโฟนฝาพับแนวตั้งเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นสมาร์ตโฟนที่มีจอแสดงผลที่พับได้สองสไตล์ ได้แก่ สมาร์ตโฟนที่พับเหมือนหนังสือ และ สมาร์ตโฟนที่พับในแนวตั้งเหมือนโทรศัพท์ฝาพับรุ่นเก่า และคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัว MagicRing สมาร์ตริงอัจฉริยะที่ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ที่ทาง HONOR มุ่งมั่นศึกษาและพัฒนาอย่างเต็มที่ เพื่อนำมาใช้เป็นตัวช่วยในด้านสุขภาพให้กับผู้บริโภคทุกคน พร้อมตอบโจทย์เทรนด์การดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ HONOR สามารถสอบถามข้อมูลและซื้อสินค้าได้ที่ HONOR Experience Store ทุกสาขา, BaNANA, AIS Shop, TG Fone, Jaymart และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hihonor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

สนับสนุนให้ทุกชีวิต..ไม่มีทางตัน ผนึกกำลังกองทัพนักขาย โดย DKSH ประเทศไทย บุกตลาด TT ทั่วประเทศ ผลักดันสู่เป้าหมาย 300 ล้านบาท

ตอกย้ำบทบาทบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“พฤกษา” จับมือธนาคารพันธมิตรใหญ่ 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารทหารไทยธนชาต แบ่งเบาภาระลูกค้า สนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อและเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ตามแนวคิด “อยู่ดี มีสุข Live well Stay well”  พฤกษามอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าพฤกษาที่ซื้อบ้านในโครงการของพฤกษา ด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ คงที่ เพียง 1.99% ต่อปี ผ่อนต่อเดือนแบบเบา ๆ  นานถึง 3 ปี

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567  พบว่า ยังมีหลายปัจจัยที่กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ รายได้ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ความกดดันจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงติดต่อกันหลายไตรมาสที่ผ่านมา โดยลูกค้าในกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเฉพาะในตลาดทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม รวมถึงกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ถูกกดดันจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้า และความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มนี้เป็นความต้องการซื้ออย่างแท้จริง (Real Demand) และยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

“นอกจากการสร้างความเติบโตทางธุรกิจแล้ว พฤกษายังมุ่งสนับสนุนคนไทยให้สามารถเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดี มีชีวิตที่ดีขึ้นในเรื่องของที่อยู่อาศัยและสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น พฤกษาจึงได้ดึงสถาบันการเงินพันธมิตร 3 ธนาคาร ร่วมกันแบ่งเบาภาระให้ลูกค้า ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารทหารไทยธนชาต ผนึกกำลังมอบสินเชื่อในเงื่อนไขสุดพิเศษเฉพาะลูกค้าของพฤกษาเท่านั้น สำหรับผู้จอง หรือทำสัญญา บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งโครงการใหม่ และโครงการพร้อมเข้าอยู่ในเครือพฤกษาทั่วประเทศ ด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำเพียง 1.99% ต่อปี นาน 3 ปี***” นายปิยะกล่าว

นายสักวัฏ อิทธิสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Direct Sales Channels  ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เปิดเผยว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ มุ่งมั่นนำขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อและเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของ ธปท. พร้อมตระหนักถึงความสำคัญในการให้ข้อมูลกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว โดยความร่วมมือกับพฤกษาในครั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น”

(***หมายเหตุ: ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบข้อเสนอสุดพิเศษ ผ่อนต่ำล้านละ 2,500 บาท/เดือน (คำนวณจากเงินต้น  1,000,000 บาท)  อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ดอกเบี้ยทั้งสัญญา 568,000 บาท ผ่อนนาน 30 ปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.54%-4.79% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR ) ปัจจุบันเท่ากับ 7.30% ต่อปี (มีผลวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร) ศึกษารายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/scb-new-loan.html )

นางสาวลัคนา หัตถกา Senior Vice President สินเชื่อบ้าน พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้าบุคคล สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ เผยว่า “ธนาคารกรุงเทพ ให้ความสำคัญและสนับสนุนคนไทยให้มีบ้านเป็นของตนเองสำหรับลูกค้าที่มีความพร้อม จึงผนึกกำลังกับธนาคารพันธมิตร 3 แห่ง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อ พร้อมแบ่งเบาภาระให้ลูกค้าสามารถบริหารค่าใช้จ่ายของตนเอง และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความรู้ และข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าก่อนการขอสินเชื่อทุกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่ดี และพร้อมอยู่เคียงคู่ลูกค้า ตามสโลแกน “ เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” 

(***หมายเหตุ: ธนาคารกรุงเทพ หลังจากครบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-1.50% (=5.80%) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กรณีลูกค้าทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.40% ต่อปี คำนวณจากวงเงินกู้ 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ 20 ปี) อัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 29 กันยายน 2566 = 7.30% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Loan #กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)

นายอธิศ วงศ์ศศิธร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อมีหลักประกัน ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb  เปิดเผยว่า “ธนาคารมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับพฤกษาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้เป็นเจ้าของบ้านคุณภาพ เพื่อความเป็นอยู่และชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยนอกจากอัตราดอกเบี้ยพิเศษดังกล่าวแล้ว ธนาคารยังตั้งใจจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่เลือกใช้สินเชื่อบ้านจากทีทีบี ด้วยข้อเสนอสุดว้าว ฟรี!  ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยตลอดอายุสัญญา ทั้งยังเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 35 ปี โดยสามารถสอบถามรายได้ละเอียดและเงื่อนไขข้อเสนอนี้ได้จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลลูกค้าถึงที่”

(***หมายเหตุ: ธนาคารทหารไทยธนชาต มอบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 1.99% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-2.08% (=5.75%) สำหรับลูกค้าที่สมัครผลิตภัณฑ์เสริมครบทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ 1) สมัครประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้าน 2) สมัครใช้บริการหักบัญชี อัตโนมัติผ่านบัญชีออมทรัพย์ทีทีบีเพื่อผ่อนชาระสินเชื่อบ้าน 3) สมัครบัตรเดบิต ทีทีบี โดยอัตราดอกเบี้ยแท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.39% ต่อปี (คำนวณจากวงเงินกู้ 1,000,000 บาท ระยะเวลากู้ 20 ปี) อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปัจจุบัน ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566 = 7.83% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร ศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/home-loan/home-loan #กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)

“นอกจากพฤกษาฯจะมอบสินเชื่อพิเศษแล้ว เรายังเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่อยากจะมีบ้าน ซึ่งอาจมีความกังวลต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน เราจึงมีทีมที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีบ้านได้ง่ายขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ทีมพนักงานขายที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่พร้อมดูแลและให้คำแนะนำลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนต่าง ๆ ในการกู้บ้าน ช่วงวางแผนการเงิน แนะนำสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรพร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับพฤกษา การเตรียมเอกสารและ Pre-approve สำหรับขออนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนช่วยประสานงานและติดตามผลกับธนาคาร และดูแลไปจนถึงลูกค้าตรวจเช็ครับโอนบ้าน จนกระทั่งพร้อมเข้าอยู่ นอกจากนี้ เรายังมีทีมคลินิกให้คำปรึกษาทางการเงินจากพฤกษา (PRUKSA Financial Clinic) ที่จะช่วยเหลือดูแลลูกค้าที่ติดปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อกับธนาคารด้วย” นายปิยะกล่าวเสริม

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 - 31 มีนาคม 2567 นอกจากจะได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำคงที่ 1.99% ต่อปี แบ่งเบาภาระการผ่อนบ้านนานถึง 3 ปีแล้ว (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทและธนาคารกำหนด) ลูกค้ายังจะได้รับโปรโมชันพิเศษจากแคมเปญ “อั่งเปาหนัก ๆ จัดดอกเบา ๆ” รับอั่งเปาทองคำมูลค่าสูงสุด 2 ล้านบาท และสิทธิ์จากโปรโมชันเพิ่มเติม ฟรีทั้งค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ซึ่งโครงการที่ร่วมแคมเปญนี้ มีทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม รวม 119 โครงการ  ลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันและแคมเปญ ได้ที่ www.pruksa.com หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1739  

X

Right Click

No right click