กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ผนึกกำลัง 3 สถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ “พีที พีทีที สเตชั่น และบางจาก” เข้ารับซื้อผลผลิตหอมแดง จ.ศรีสะเกษ กว่า 300 ตัน นำแจกเป็นของสมนาคุณให้กับผู้เติมน้ำมัน ในวันที่ 16-18 ก.พ.นี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 600 สาขา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น  กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เข้ารับซื้อผลผลิตหอมแดงจากพี่น้องเกษตรกร จ.ศรีสะเกษ ในปริมาณ 300 ตัน หรือ 400,000 แพค เพื่อนำมามอบเป็นของสมนาคุณให้กับผู้ใช้บริการ #เติมใจให้หอม ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.2567 รวม 3 วัน หรือจนกว่าของจะหมด

ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับราคาสินค้าเกษตร และเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยได้จัดกิจกรรมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน เชื่อมโยงการรับซื้อผลผลิตพืช 3 หัว ผ่านกลไกเกษตรพันธสัญญาเป็นการล่วงหน้า ในราคานำตลาด ปริมาณรวม 30,175 ตัน ได้แก่ หอมแดง 14,475 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,500 ตัน และกระเทียม 8,200 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรทั้งหมด 21 กลุ่ม 4 จังหวัด 17 อำเภอ 32 ตำบล เพื่อกระจายไปยังโรงงานแปรรูป ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงรถโมบายพาณิชย์

การแจกของสมนาคุณ เติมใจให้หอม โดยคลอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) 600 สาขา จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเข้ามาเติมน้ำมัน “รับหอมแดง” คุณภาพดีฟรี 1 ถุง เมื่อเติมน้ำมันตามเงื่อนไข เพื่อช่วยเกษตรกรไทยกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด “ปัจจุบันผลผลิตหอมแดงของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ มีผลผลิตกว่าร้อยละ 50 ของประเทศ ทยอยออกสู่ตลาดหมดแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่ฤดูกาลผลผลิตหอมแดงในพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน โดยกรมการค้าภายในมีแผนดำเนินการเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความมั่นใจได้ว่าจะมีตลาดรองรับผลผลิต และมีราคาดีขึ้นตลอดฤดูกาล ทั้งนี้ ผลจากการเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ตั้งแต่เดือนช่วงเดือน ม.ค.2567 ซึ่งเป็นต้นฤดูกาลของผลผลิตส่งผลให้ราคาในภาพรวมปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง

โดยหอมแดงสดปีนี้ อยู่ที่ 13-15 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีก่อนที่ราคา 11 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 และหอมแดงแห้งปีนี้ อยู่ที่ 40-50 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีก่อนที่ราคา 30-50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 แวะไป เติมใจให้หอม ได้ 3 สถานีบริการน้ำมันของ 3 ปั๊มใหญ่ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 600สาขา หรือประชาชนท่านใดสนใจอุดหนุนช่วยเหลือเกษตรกรตรงจากจังหวัดศรีสะเกษได้ที่ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่หอมแดง อ.ราษีไศล และ อ.ยางชุมน้อย เบอร์ 097-3355983 หรือเพจเฟสบุ้ค ที่นี่หอมแดงราษี ยางชุม 061-1621498

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวและเผยโฉม HONOR Magic 6 Series และ HONOR Magic V2 RSR ในงาน Mobile World Congress 2024 (MWC2024) อีเวนต์จัดแสดงเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ณ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 29 กุมภาพันธ์ 2567

HONOR ยืนยันเข้าร่วมงาน Mobile World Congress 2024 หรือ MWC2024 โดยภายในงานจะมีการเปิดตัว สมาร์ตโฟนระดับแฟลกชิปทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ HONOR Magic 6 Series และ HONOR Magic V2 RSR พร้อมเผยแนวความคิดและแรงบันดาลใจในการดีไซน์ รวมถึงสเปคต่าง ๆ และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ตลอดจนคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดราคาของสมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นในงานครั้งนี้ด้วย

HONOR ชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอีกก้าวครั้งสำคัญและเป็นครั้งแรกของโลกกับการเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธง HONOR Magic 6 Series และ HONOR Magic V2 RSR ในงาน MWC2024 โดยเป็นการเปิดตัวในฝั่งของ Global ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนรับชมพร้อมกันแบบสด ๆ ในวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ตามเวลาประเทศไทย สามารถรับชมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.hihonor.com/th/events/honor-mwc

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ HONOR สามารถสอบถามข้อมูลและซื้อสินค้าได้ที่ HONOR Experience Store ทุกสาขา, BaNANA, AIS Shop, TG Fone, Jaymart และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hihonor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จัดการแสดงสุดยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ผสานสองมรดกที่ขึ้นทะเบียนรับรองโดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) “โขน - มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” และ “วัดไชยวัฒนาราม – โบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขตมรดกโลก” กับการแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 เพื่อสืบสานและเชิดชูวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า สอดคล้องกับปณิธานในการดำเนินงานของทั้งสองหน่วยงานที่มุ่งหมายในการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย รวมถึงในระดับนานาชาติ

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองนโยบายซอฟท์พาวเวอร์ของรัฐบาล และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการ "ราตรีนี้ที่วัดไชยวัฒนาราม" ตั้งแต่พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ดีจึงได้สานต่อโครงการไปถึงสิ้นเดือนเมษายน 2567 นี้ ภายใต้ชื่องาน "ยามค่ำอยุธยา ๒๕๖๗ - Ayutthaya Sundown 2024" เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความงดงามของโบราณสถานยามราตรี และร่วมกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นคือการจัดแสดงโขนประกอบแสงสี โดยสำนักการสังคีต ร่วมกับมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ถือเป็นการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราขอขอบคุณมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ที่ตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย มีความตั้งใจสืบสานและอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าไว้ให้คนรุ่นต่อ ๆ ไป ที่นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนด้านวัฒนธรรมของชาติให้เป็นที่ประจักษ์ทั้งคนในประเทศ และนานาประเทศ จึงขอเชิญชวนให้มาร่วมชมการแสดงครั้งสำคัญนี้ด้วยกันครับ”

นายลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต กล่าวว่า “สำนักการสังคีต ให้ความสำคัญในการดำเนินงานโครงการจัดการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีสัญจรไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย เสมือนเรา “ยกโรงละครแห่งชาติออกไปหาประชาชน” โดยสร้างสรรค์และปรับองค์ประกอบการแสดง เล่าเรื่องให้กระชับและชวนติดตาม รวมทั้งผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยมาเพิ่มอรรถรสในการชม ที่ไม่เพียงให้ถูกใจผู้ที่ติดตามการแสดงของเราเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เรายังหวังให้คนรุ่นใหม่ รวมทั้งประชาชนนอกกรุงเทพฯ ได้มีโอกาสชมการแสดงที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น  การแสดงชุด “สัจจะพาลี” ที่จัดขึ้นที่วัดไชยวัฒนารามครั้งนี้ ถือเป็นอีกตอนที่มีความสำคัญของเรื่องรามเกียรติ์  ไม่เพียงมีเนื้อหาที่สนุกสนาน ยังเป็นตอนที่รวบรวมตัวละครเอกของเรื่องเอาไว้มากมาย  รับรองได้ว่าผู้ชมจะได้รับชมอย่างมีความสุขแน่นอน”

นายสมคิด รุจีปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา กล่าวว่า “มูลนิธิฯ ก่อตั้งมากว่า 20 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างยั่งยืนแก่คนในสังคมไทย หนึ่งในแนวทางหลักของการดำเนินงาน เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพราะเป็นสิ่งที่แสดงถึงอัตลักษณ์ที่ดีงามของชาติไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่เราอยากให้พวกเขาได้สัมผัส เรียนรู้ และร่วมสืบสานสิ่งอันมีค่าเหล่านี้ ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ร่วมมือกับกรมศิลปากรเพื่อดำเนินการโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาศักยภาพทักษะด้านช่างเพื่อบูรณะจิตรกรรม ประติมากรรมไทย โครงการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในพื้นที่จริงนอกโรงเรียนให้กับคุณครู เพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตร ผ่านเส้นทางทัศนศึกษาโบราณสถาน รวมถึงโครงการบูรณะโบราณสถานของไทย และครั้งนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจัดงานแสดงโขนซึ่งถือเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่รวมศิลปะ หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เราหวังว่านอกจากจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มีโอกาสได้มาชมแล้ว ยังถือเป็นการช่วยสืบสานวัฒนธรรมไทยที่เป็นมรดกอันล้ำค่าให้ดำรงสืบไปอย่างงดงาม”

การจัดแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี เป็นการแสดงสุดตระการตาครั้งประวัติศาสตร์ ที่ผสมผสานสองสุดยอดแห่งศิลปะไทยซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างการแสดงโขน ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากองค์การยูเนสโก โดยมีฉากหลังเป็น วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในโบราณสถานแห่งสำคัญของไทย ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกด้วยเช่นกัน ครั้งนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้สัมผัสกับการแสดงสุดยิ่งใหญ่ พร้อมเทคนิกแสง สี เสียงอันทันสมัย รวมถึงการออกแบบเวทีการแสดงที่วิจิตรบรรจงและกลมกลืนกับสถานที่ในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังมีการบรรเลงวงออร์เคสตรา โดยวงดุริยางค์สากล สำนักการสังคีต กรมศิลปากร จัดแสดงก่อนการแสดงโขนให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง ในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย

การแสดงโขนประกอบแสงสี เรื่องรามเกียรติ์ ชุด สัจจะพาลี จัดแสดงในวันที่ 9 – 10 มีนาคม 2567 เวลา 17:30 น. ณ วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถเข้าชมได้ฟรี โดยผู้ชมเพียงชำระค่าเข้าโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามเพียง 10 บาทต่อท่าน ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ทางโบราณสถานจะนำไปบำรุงสถานที่ต่อไป

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ รับรางวัล EASE 2.0 Awards 2023 จากกลุ่มบริษัทเอไอเอ โดยเอไอเอ ประเทศไทย กวาดรางวัลมาได้มากที่สุดถึง 8 รางวัล นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นรางวัลเกียรติยศซึ่งจัดการแข่งขันในกลุ่มบริษัทเอไอเอทั้งสิ้น 16 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยพิจารณาจากความสำเร็จของฝ่ายปฎิบัติการที่เน้นหลักการทำงาน 4 ประการ ได้แก่ การเข้าใจลูกค้า การทำงานแบบอัตโนมัติ การทำได้ง่าย และการมีส่วนร่วม สำหรับเอไอเอ ประเทศไทยในปีนี้ ได้แสดงผลงานด้านการบริการที่โดดเด่น โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งสามารถสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้อย่างก้าวกระโดดอีกด้วย ซึ่งรางวัลที่ได้รับในหมวดต่าง ๆ มีดังนี้

  • 3 Clicks Award: พัฒนาระบบพิจารณารับประกันภัยอัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้าเดิมสามารถซื้อกรมธรรม์ใหม่ได้สะดวกรวดเร็วที่สุด
  • Call to Click Award: นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาปรับใช้และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ส่งผลให้ปริมาณสายที่ติดต่อเข้ามายังเจ้าหน้าที่ Call Center ลดลงสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
  • Quick Pass Auto-UW Award: พัฒนาให้ระบบสามารถพิจารณารับประกันภัยแบบอัตโนมัติได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยมีอัตราการพิจารณางานแบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นสูงสุด
  • Straight-to-ToP Buy Award: เพิ่มความสามารถในการพิจารณารับประกันภัยแบบอัตโนมัติทั้งกระบวนการ โดยมีอัตราการพิจารณาอนุมัติกรมธรรม์แบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นสูงสุด
  • Straight-to-ToP Overall Award: พัฒนาระบบและปรับปรุงกระบวนการบริหารกรมธรรม์ตั้งแต่การรับประกันภัย การบริการ จนถึงกระบวนการจ่ายสินไหม โดยมีอัตราการดำเนินงานแบบอัตโนมัติ (Straight Through Processing) เพิ่มขึ้นสูงสุด และเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มบริษัท เอไอเอ
  • Persistency Pioneers Award: คิดค้นและพัฒนากระบวนการเพื่อเพิ่มอัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์ได้สูงที่สุด
  • Mountain Mover Award - Best Business Unit:  ประเทศที่ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานอย่างโดดเด่นที่สุด และได้รับรางวัลในหลายมาตรวัดมากที่สุดของกลุ่มบริษัทเอไอเอ

นอกจากนี้ นางอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Best Chief Life Officer Award ซึ่งแสดงถึงความยอดเยี่ยมในฐานะผู้นำฝ่ายปฎิบัติการของเอไอเอ ที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล เปิดรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมกับไม่หยุดนิ่งที่จะปรับปรุงและพัฒนากระบวนการดำเนินงานให้สอดรับกับสังคม สิ่งแวดล้อม และความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เพื่อมุ่งสนับสนุนให้สังคมและคนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives’

คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้าน ประกาศปี’67 พร้อมเดินหน้าสนับสนุน ส่งเสริม SME ภายใต้ "กลยุทธ์ 3 ให้” ต่อเนื่อง

พร้อมท้าชิงในระดับนานาชาติ สร้างเส้นทางสู่อนาคตแห่งนวัตกรรม

สร้างประสบการณ์พัฒนาเด็กพิเศษทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมหนุนครอบครัวเป็นเซฟโซน

เอสซีจี ผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร เดินหน้าส่งแคมเปญใหญ่แห่งปี “111 ปี เอสซีจี จับแจกแตกทุกเดือน” ในโอกาสฉลองครบรอบ 111 ปี เอสซีจี จับแจกทั่วไทยแจกใหญ่ทุกภาคทั่วประเทศ เริ่ม! 14 กุมภาพันธ์ 2567 - 15 สิงหาคม 2567 ของรางวัลมากกว่า 111 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

คุณไกรฤกษ์ คงคาศรี Chief Marketing Officer ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจีฉลองครบรอบ 111 ปี จึงได้จัดแคมเปญใหญ่ “111 ปี เอสซีจี จับแจกแตกทุกเดือน” ซึ่งถือแคมเปญใหญ่แห่งปีเพื่อตอบแทนผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าและบริการ Housing Product Solutions Business ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของบ้าน ช่างและผู้รับเหมาทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท จำนวนมากกว่า 111 รางวัล สำหรับผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างเอสซีจี ผ่านทางร้าน SCG HOME Experience, SCG HOME บุญถาวร และ SCG Authorized Dealer ทั่วประเทศ รวมถึง SCG HOME Online ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 - 15 สิงหาคม 2567 โดยเอสซีจีมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญดังกล่าวจะสามารถมอบความสุข แทนคำขอบคุณและคืนกำไรให้กับลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเสริมด้านกลยุทธ์ส่งยอดขายให้ถึงเป้าหมายภายในปี 2567 ของกลุ่มสินค้าและบริการ Housing Solutions Business ประกอบด้วย 5 กลุ่มดังนี้

1) กลุ่มระบบหลังคา อาทิ หลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น EXCELLA CRESTA ให้หลังคา...บ่งบอกความเป็นคุณ พลิกนิยามใหม่ของหลังคา สู่จินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด ด้วย DIGITAL PRINTING TECHNOLOGY และ หลังคา เมทัลรูฟ เอสซีจี ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบพิเศษ NoiseTECH ช่วยลดเสียงตกกระทบจากฝน และเสียงสะท้อนบนหลังคาเมทัลชีทได้ถึง 18%

2) กลุ่มฝ้าเพดาน อาทิ ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี สูตรซูเปอร์โมเลกุล ที่มีเนื้อเหนียวขึ้น ตอบโจทย์ช่างและผู้รับเหมา ทำงานและติดตั้งง่าย, ฝ้า สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่น ระบายอากาศ-โพรเทคชั่น มีนวัตกรรมช่วยระบายความร้อนจากโถงหลังคา ทำให้บ้านเย็นทั้งยังมีตาข่ายกันแมลง ทำให้การอยู่อาศัยดีขึ้น

3) กลุ่มผนังตกแต่ง อาทิ ไม้ฝา เอสซีจี หลากหลายสีจากเทคโนโลยีคัลเลอร์ล็อคพลัส ที่ได้ผนังสีสวยทนนาน พร้อมลายไม้เสริมความเป็นธรรมชาติ และยังมีกลุ่มผนังตกแต่ง เอสซีจี เช่น รุ่นโมดิน่า โมดิชยู โมดิชวี ด้วยเทคโนโลยี X-TRUSION เสริมสร้างให้ผนังมีมิติโดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ผนังตกแต่ง ระบบกันเสียง กันร้อน และกันไฟอย่างมีประสิทธิภาพ

4) กลุ่มพื้น อาทิ บล็อกปูพื้น รุ่น Modern Block ทำให้พื้นภายนอกสวยงาม ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และ พื้นไม้ตกแต่ง เอสซีจี รุ่น คัลเลอร์ทรู สีในเนื้อไม้ หมดกังวลเรื่องสีหลุดลอก พร้อมนวัตกรรมใหม่ Color Loc Shield ล็อก 5 ชั้น ทนรอย 2 เท่า กันลื่น 10 เท่า

5) งานโซลูชัน อาทิ DECAAR by SCG ผู้ให้บริการด้านงานโซลูชันฟาซาด (Facade Solution) และงานโซลูชันตกแต่งภูมิทัศน์ภายนอก (Outdoor Living Solution) ที่เปิดโลกงานดีไซน์ให้เป็นจริง ด้วยบริการ ตั้งแต่นำเสนอวัสดุตกแต่งที่เหมาะสม ออกแบบวิธีการติดตั้ง รวมไปถึงการติดตั้ง พร้อมรับประกันให้ลูกค้า ด้วยทีมงานมืออาชีพมาตรฐานเอสซีจี 

“เอสซีจีสามารถตอบโจทย์ได้เหนือความต้องการของผู้บริโภคอย่างตรงจุดและครบถ้วน ทั้งเจ้าของบ้าน ช่างและผู้รับเหมา โดยจะมุ่งเน้นที่จุดแข็งคือให้ความสำคัญต่อการบริการด้วยผู้เชี่ยวชาญเอสซีจี ผู้รับเหมาที่มีความรู้ความสามารถ มีความชำนาญเรื่องบ้าน ให้คำปรึกษาและแนะนำได้ตั้งแต่ต้นจนจบตลอดทั้งกระบวนการ” คุณไกรฤกษ์ กล่าวเสริม

สำหรับแคมเปญ “111 ปี เอสซีจี จับแจกแตกทุกเดือน” ได้จัดเต็มอัดรางวัลให้กับลูกค้าที่จับจ่ายซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างตลอดทั้งแคมเปญ เมื่อซื้อครบ 5,000 บาท สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน QR Code ที่สื่อ ณ จุดขาย และช่องทางออนไลน์ของเอสซีจี โดยทุก ๆ 5,000 บาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ GWM New ORA Good Cat รุ่น PRO จำนวน 1 รางวัล ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรางวัลอีกมากมายให้ได้ลุ้นกันตลอดแคมเปญ ได้แก่ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จำนวน 5 รางวัล, โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S23 FE 5G (8/128GB) จำนวน 3 รางวัล, จี้ทองคำมูลค่า 5,000 บาท จำนวน 50 รางวัล และบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 100 รางวัล

การจับรางวัลจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ครั้ง นำโดยขบวนคาราวานจะเดินสายแจกรางวัลทั่วประเทศ เริ่มต้นจับแจกรางวัลในวันที่ 29 ของทุกเดือน โดยครั้งที่ 1 ในวันที่ 29 เมษายน 2567 และสำหรับรางวัลที่ 1 รางวัลใหญ่ จับแจกในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเว็บไซต์ SCG Building Materials, SCG Brand และ LINE Official ในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป

สำหรับรายละเอียดแคมเปญ “111 ปี เอสซีจี จับแจกแตกทุกเดือน” สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.scgbuildingmaterials.com/ และ https://www.facebook.com/SCGHomeOfficial หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCG Contact Center โทร 02-586-2222

บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บลูพอร์ต หัวหิน จัดงานเทศกาลตรุษจีน 2024 รับปีมังกรทอง กับกิจกรรม “ขอพรรับปีมังกรทอง Presented By Tiplife ” ต้อนรับศักราชใหม่ รับโชคมั่งคั่ง ร่ำรวย เรืองรอง รุ่งโรจน์รับปีมังกรทองมหามงคล พร้อมกิจกรรมเสริมสิริมงคลต่างๆมากมาย โดยมี นายณัฐพล คุณกรสิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นายโชคชัย วงศ์จักรภัชร์ กรรมการผู้จัดการ บลูพอร์ต หัวหิน นายพลกฤษ พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน รวมไปถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนต่างๆ ที่มาร่วมในพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความตื่นตาตื่นใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกันอย่างมาก บริเวณ ลานเดอะสแควร์ ด้านหน้าบลูพอร์ต หัวหิน

X

Right Click

No right click