ประเดิมกองทุนแรก 10,000 ลบ.  เจาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม อสังหาฯ รองรับท่องเที่ยวไทยเติบโต

Fit Challenge 21 วัน ชิงเงินรวม 400,000

- รางวัลที่1/120,000
- รางวัลที2/ 50,000
- รางวัลที3/ 30,000
- รางวัลที่4/ 15,000
- รางวัลที5/ 10,000
- รางวัลที 6-25 / 5,000
- รางวัลที่26-50/ 3,000

เปิดรับสมัครแล้ว เฉพาะผู้ที่สั่งสินค้าเพียง 1 ชิ้น จึงจะสามารถสมัครได้

  • สมัครวันนี้จนถึงปิดรับสมัครวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024
  • แจกรางวัล 2 มีนาคม 2024
  • ค่าสมัคร 699

ดูแล และลงแข่งทาง AI BOT

- มีตารางอาหาร 21 วัน
- มีตารางออกกำลังกาย 21 วัน
- มี VDO ความรู้ 21 วัน

อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ แข่งขันออนไลน์ วัดผลในเรื่องของ น้ำหนัก สัดส่วน และส่งการบ้าน
มาเปลี่ยนไขมัน เป็นเงินกัน

สมัครติดต่อ Tel.0922629755 หรือ line OA: @Fitfambkk

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เปิดตัว HONOR X9b ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่ม X Series ที่สเปกจัดเต็ม ครบครันทุกการใช้งาน ในราคาคุ้มค่า 10,990 บาท ซึ่งหลังจากการเปิดตัวและจำหน่ายวันแรกในวันที่ 12 มกราคม 2567 มีผู้ให้ความสนใจและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมพิเศษที่หน้าร้านหลากหลายสาขา เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับสมาร์ตโฟน HONOR X9b ด้วยตัวเอง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน อีกทั้งยังมอบโปรโมชันดี ๆ ให้กับผู้ที่ซื้อมือถือด้วยของแถมสุดพรีเมียมมากมายตลอดเดือนมกราคม 2567 นี้

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ HONOR X9b ได้รับความสนใจและขายดี เป็นเพราะฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน รวมถึงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการใช้วัสดุเกรดพรีเมียม โดยตัวเครื่องมีความบางเบา แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและมีความแข็งแรง ทนทาน ส่วนด้านประสิทธิภาพมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับการกระแทกรอบด้าน 360 องศา ผสานกับการใช้งานที่ยาวนานสูงสุดถึง 3 วัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5800mAh ตลอดจนระบบกล้องสามตัวที่ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มีความละเอียด คมชัด สีสันสวยงาม อีกทั้งยังได้พลังจากนักมวยดาวรุ่ง “ตะวันฉาย” พรีเซนเตอร์ของมือถือรุ่นนี้ ช่วยดันภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความพรีเมียมและสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นสมาร์ตโฟนที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน จนผู้บริโภคอยากเป็นเจ้าของ HONOR X9b

ผู้ที่สนใจ สามารถเป็นเจ้าของ HONOR X9b ได้แล้ววันนี้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีส้ม (Sunrise Orange), สีดำ (Midnight Black) และ สีเขียว (Emerald Green) ในราคาสุดคุ้มเพียง 10,990 บาท* พร้อมรับของแถมสุดพิเศษ หูฟังไร้สาย HONOR CHOICE Earbuds X5 Lite มูลค่า 1,290 บาท และ HONOR Designer Case (คละแบบ) มูลค่า 699 บาท สามารถซื้อได้ที่ร้าน BaNANA, AIS Shop, TG Fone, Jaymart และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hihonor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

“นิปปอนเพนต์” เปิดยุทธศาสตร์ 3 ปี ก้าวขึ้นสู่ “ผู้ผลิตสีที่ผลิตและจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย” ด้วยยอดขายกว่า 15,000 ล้านบาท ประเดิมเปิดศักราชใหม่ จัดประชุมตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมเดินเครื่องวางยุทธ์ทางการตลาดสร้าง movement ใหม่ๆให้กับตลาดสี ตอกย้ำแนวคิด Inspired by you มั่นใจแนวรบใหม่ดันยอดขายปี 67 แตะนิวไฮ

มิสเตอร์ จอน ตัน ฮอน ยู รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทนิปปอนเพนต์ มาเลเซีย (M Group) นำทีมแถลงความสำเร็จและนโยบายของกลุ่มบริษัทนิปปอนเพนต์ทั่วโลก รวมถึงความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย พร้อมผลักดันกลยุทธ์และเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับสากล

นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสี “นิปปอนเพนต์” ในประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตสีรายใหญ่อันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ภาพรวมของนิปปอนเพนต์ ประเทศไทย ในปี 2566 มียอดขายรวมกว่า 9,200  ล้านบาท เติบโตกว่า 12% สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจัยหลักมาจาก การปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทแบบรอบด้าน ทั้งในส่วนของกลยุทธ์การทำตลาด โดยเพิ่มการทำตลาดแบบ Push Marketing ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น การปรับโครงสร้างการขาย เพิ่มประสิทธิภาพพนักงานขายให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด  รวมถึงการปรับเซ็กเม้นท์ตลาดเพื่อให้มีความชัดเจนและตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Business-to-Business (B2B), กลุ่ม Business-to-Customer (B2C)  และกลุ่ม Business-to-Government (B2G)

สำหรับยุทธศาสตร์การดำเนินงานของ “นิปปอนเพนต์” ใน 3 ปี นับจากนี้ (ปี 2567-2569)  บริษัทตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของธุรกิจสีและสารเคลือบผิวของตลาดสีในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Inspired by you” โดยแนวคิดในการดำเนินงานเป็นการผนึกรวม 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มสีทาบ้าน อาคารและโรงงาน, กลุ่มสีพ่นรถยนต์ และกลุ่มสีสำหรับงานอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง ความเชื่อมั่น และตอบโจทย์ความต้องการในตลาดเมืองไทยอย่างแท้จริง พร้อมเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องทั้งในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี การพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงการวางกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง   

“ในปี 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่นิปปอนเพนต์ประสบความสำเร็จ เห็นได้จากยอดขายที่เติบโตแบบก้าวกระโดด กว่า 12% ขณะที่ตลาดรวมมีการเติบโตเพียง  5-6%  ถือเป็นการเติบโตมากกว่าตลาดถึง 2 เท่าตัว ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นในการรุกตลาดต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะเห็นการกลับมาลงทุนและการรุกตลาดอย่างหนักของนิปปอนเพนต์ พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะนำยอดขายสูงกว่า 11,000 ล้านบาท ถือเป็นการทำยอดขายนิวไฮในรอบ 57 ปีของนิปปอนเพนต์ประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นสู่ผู้ผลิตสีที่ผลิตและจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย (ผู้ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยไม่นับรวมการส่งออก) ภายในปี 2569 ด้วยยอดขายรวมกว่า 15,000 ล้านบาท”  

ด้าน นายณรงค์ฤทธิ์ มาลัยนวล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นิปปอนเพนต์เดินหน้ากลยุทธ์การทำตลาดแบบ 360 องศา ทั้ง Above The Line และ Below The Line เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มทั้ง B2B, B2C และ B2G โดยเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วย การจัดงาน Dealer Conference Meeting  การรวมตัวครั้งใหญ่ของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และบริษัทพร้อมเดินเครื่องกลยุทธ์การตลาดเต็มสูบ เพื่อที่จะสร้าง movement ใหม่ๆให้กับตลาดสีในประเทศไทย

“นิปปอนเพนต์เดินหน้าธุรกิจภายใต้แนวคิด “Inspired by you” ประกอบไปด้วย “3C” ได้แก่ Customer Centric, Customized Solution และ Concrete Innovation ด้วย วิสัยทัศน์การทำงานที่เน้นลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของนิปปอนเพนต์ คิดและพัฒนาจากความต้องการของลูกค้าและปัญหาที่ลูกค้าพบเจอ โดยนิปปอนเพนต์คิดค้นนวัตกรรมและโซลูชันที่เข้ามาตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นการยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานขายให้ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งในกลุ่มตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) และโมเดิร์นเทรด ขณะเดียวกันบริษัทมุ่งเดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกับพันธมิตรคู่ค้า ในทุกกลุ่ม โดยจะร่วมกันพัฒนาทั้งสินค้าและบริการรวมถึงการวางแผนดำเนินการร่วมกันควบคู่กันไป โดยบริษัทไม่มีนโยบายในการเปิดร้านค้าปลีก หรือจำหน่ายสินค้าเช่นเดียวกับคู่ค้า ทำให้
คู่ค้ามั่นใจได้ว่า นิปปอนเพนต์พร้อมเดินหน้าเคียงข้างร่วมกันอย่างแท้จริง”

สำหรับตลาดสีทุกประเภทในปี 2566 มีมูลค่ารวมราว 58,000 ล้านบาท เติบโต 5-6% โดยในปี 2567 คาดว่าจะมีการเติบโตราว 5% ซึ่งการเติบโตหลัก มาจากการกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกและการร่วมกันเป็นพันธมิตรกับกับคู่ค้า บริษัทยังให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานให้มีความเชี่ยวช

ภายในงาน Dealer Conference Meeting ได้รับเกียรติจาก นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ได้กล่าววิสัยทัศน์ทิศทางภาคอสังหาฯที่มุ่งดำเนินธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืน รวมถึงเทรนด์การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2567 ว่า “แสนสิริ  เราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593 ซึ่งแผนงานที่สำคัญในปีนี้ คือ การมุ่งมั่นส่งมอบทุกโครงการใหม่ของแสนสิริด้วยนวัตกรรมบ้านสีเขียว หรือ Green Living Designed Home ภายใต้ 3 แนวคิด เริ่มตั้งแต่การออกแบบ-ก่อสร้าง-จนถึงการส่งมอบบ้านพลังงานสะอาด เพื่อให้ลูกบ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ แสนสิริ ยังให้ความสำคัญกับกระบวนการการคัดเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ขอชื่นชมนิปปอนเพนต์ที่ร่วมเป็นพันธมิตรและคู่ค้ากับแสนสิริมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมเดินหน้าส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดีมีคุณภาพ มีมาตรฐานความปลอดภัยต่อผู้อาศัย และมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการร่วมลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน”

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ส่งสองผลิตภัณฑ์เงินฝาก เพิ่มทางเลือกการออมและโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น ประกอบด้วย “เงินฝากประจำพิเศษ สกุลเงิน USD” แบบระยะเวลาฝาก 6 เดือน และ 9 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุด 5.2% ต่อปี และบัญชีเงินฝาก “กรุงศรี มีแต่ได้ ออนไลน์” ที่ปรับขยายเพดานเงินฝากสูงขึ้นเป็น 2 ล้านบาท รับดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปี

นางสาวกมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานผลิตภัณฑ์การลงทุนและผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กรุงศรีมุ่งเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการออมเงินให้กับลูกค้า โดยสำหรับฝากประจำพิเศษ สกุลเงิน USD เหมาะสำหรับลูกค้าที่รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมา หรือถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอยู่ และมองหาโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูง มีความแน่นอน บัญชีเงินฝากประจำพิเศษประเภท 6 เดือน และ 9 เดือน รับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 5.1% ต่อปี และ 5.2% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่ กรุงศรี มีแต่ได้ ออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อยากได้ผลตอบแทนที่ดีและไม่ต้องการเสี่ยงกับการลงทุนในตลาดที่ยังคงมีความผันผวน การนำเงินมาฝากไว้กับบัญชีมีแต่ได้ ออนไลน์ จะเป็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ดี คิดคำนวณดอกเบี้ยทุกวัน และรับดอกเบี้ยทุกเดือน โดยไม่มีการกำหนดจำนวนเงินฝากขั้นต่ำ”

เงินฝากประจำพิเศษ สกุลเงิน USD ผู้ฝากเงินต้องฝากขั้นต่ำ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ลูกค้าที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากเงินฝากประจำพิเศษ สกุลเงิน USD ได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 17 สาขาที่ร่วมรายการ และสำหรับลูกค้า Krungsri PRIVATE BANKING และ KRUNGSRI EXCLUSIVE สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาทางการเงิน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2567 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ดูรายชื่อสาขา และ รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่  https://bit.ly/currency-deposit-usd-fb

สำหรับ กรุงศรี มีแต่ได้ ออนไลน์ ฝากสูงสุด 2 ล้านบาท รับอัตราดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปี ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีหรือเพิ่มวงเงินเข้ามาบัญชีง่าย ๆ ได้ผ่าน KMA Krungsri app สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2567 รับโปรโมชันพิเศษ Krungsri GIFT จำนวน 4 กิฟท์ และแลกรับ Lazada e-Coupon มูลค่า 100 บาท หรือส่วนลดจากร้านค้ามากมาย ใน Krungsri GIFT ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://bit.ly/meetaedai-online-fb2

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงศรียังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมุ่งเน้นส่งเสริมวินัยการออมเพื่อเป้าหมายในอนาคต ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ 7 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.80% ต่อปี และเงินฝากประจำ 14 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.20% ต่อปี  รวมถึงเงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.90% ต่อปี เหมาะสำหรับลูกค้าที่เริ่มต้นออม ซึ่งลูกค้าต้องฝากเงินเป็นรายเดือน เดือนละเท่าๆ กัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 24 งวด โดยดอกเบี้ยที่ได้รับทั้งหมดจะได้รับการยกเว้นภาษี อีกทั้งธนาคารออกแคมเปญเพื่อช่วยให้ลูกค้าฝากครบระยะเวลาที่กำหนด โดยแนะนำให้ลูกค้าตั้งบริการโอนเงินล่วงหน้าผ่าน KMA krungsri app เพื่อความสะดวดสบายและไม่พลาดการฝากในแต่ละเดือน

ชี้ภาพรวมการลงทุนยังคงมีความผันผวนสูง คาด SET Index อยู่ที่ 1,650-1,700 จุด

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ EnCo และ พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT  ร่วมลงนามใน บันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือเพื่อให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมและบริการอื่น ๆ ภายในอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอาคาร EnTer ให้กลายเป็นอาคารต้นแบบโดยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของไลฟ์สไตล์การทำงานคนทำงานรุ่นใหม่ โดยพิธีลงนามดังกล่าวได้ถูกจัดขึ้น ณ ห้องประชุม 9 (Theater) ชั้น 8 อาคาร 3 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) กล่าวว่า EnCo เป็นบริษัทพัฒนา และบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) 2.ธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง (Facility Management) และ 3.ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) และเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา EnCo ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกอบรมหลักสี่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็น EnCo Terminal  หรือ EnTer เพื่อพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานล้ำสมัยที่ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจนวัตกรรมกลุ่ม New S-curve ทั้งด้านธุรกิจ Life science  ธุรกิจ EV หรือ Future-Tech  Startup ต่าง ๆ และในส่วนของการจับมือร่วมกับ เอ็นที (NT) ในครั้งนี้นั้น EnCo มีความมั่นใจว่า ด้วยศักยภาพ องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญ ตลอดจนทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัยของ NT จะช่วยยกระดับอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ให้กลายเป็นอาคารสำนักงานที่พร้อมไปด้วยนวัตกรรมสำนักงานที่ทันสมัยซึ่งจะสามารถรองรับไลฟ์สไตล์การทำงานในยุคดิจิตอลได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า “ความร่วมมือกับบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. นั้น เกิดขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะช่วยยกระดับ และเพิ่มศักยภาพในการบริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องภายในอาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ให้มีศักยภาพรองรับการใช้งานเทคโนโลยีสื่อสารแก่ลูกค้าและผู้เช่าพื้นที่สำนักงาน โดยมุ่งตอบสนองความต้องการอันเป็นการยกระดับไลฟ์สไตล์การทำงานในโลกอนาคต โดยระบบเทคโนโลยีสื่อสารที่ NT จะนำไปติดตั้งและให้บริการ อาทิ  ระบบโทรคมนาคมทางสาย IP Phone, SIP Trunk, Cloud PBX, NT Mobile (4G/5G) เป็นต้น  ยิ่งไปกว่านั้นยังจะนำบริการประเภทดิจิทัลอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นบริการกล้องวงจรปิด CCTV, บริการ E-Logistic  รวมไปถึงระบบเคเบิลใยแก้ว, ระบบท่อร้อยสาย, ระบบเสาโทรคมนาคม เพื่อเป็นเครื่องมือให้สามารถมุ่งเน้นการพัฒนา Application ต่อยอดและการให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ แจ็คแอนด์จิล (Jack’n Jill) เปิดศักราชใหม่ ทุ่มงบกว่า 200 ล้าน เสริมความแข็งแกร่งเบอร์หนึ่ง 1 ในตลาดคุกกี้ และเวเฟอร์ อัดแคมเปญแจกหนัก จัดเต็ม กิจกรรมชิงโชคลุ้นรางวัลครั้งยิ่งใหญ่ คืนความสุขและเป็นของขวัญแก่ผู้บริโภคต้อนรับปีใหม่ กับ 2 แบรนด์ 2 แคมเปญ “ฟันโอ รวยเรียกพี่ คุกกี้ทองคำ ลุ้นทองกว่า 3 ล้านบาท” และ “ทิวลี่ ทวิน ฟินเป็นคู่ แจกโชค จัดหนัก” พร้อมเปิดตัว 2 พรีเซนเตอร์ใหม่ล่าสุด เบิ้ล ปทุมราช พรีเซนเตอร์ แบรนด์ฟันโอ และ โจอี้ ภูวศิษฐ์ พรีเซนเตอร์แบรนด์ทิวลี่ ที่มาร่วมเสิร์ฟความม่วนแบบ “Life is Fun” ตอกย้ำการเป็นแบรนด์คุกกี้ และเวเฟอร์ขวัญใจมหาชน

นายฐานันท์ สุวรรณรักษ์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย ลาว และ กัมพูชา บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ยูอาร์ซี ให้ความสำคัญกับการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตอบรับกระแสหรือเทรนด์ของตลาด เพื่อให้โดนใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ผ่านกิจกรรมการตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง และในปีนี้เราเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา พร้อมสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ขนมขบเคี้ยวยอดนิยมที่ครองใจคนไทย โดยในปี 2567 นี้ ยูอาร์ซี ทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 200 ล้านบาท จัดแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ต้อนรับปีใหม่ แจกใหญ่แจกจริง กับ 2 แบรนด์ที่ทำยอดขายสูงสุด อย่างแบรนด์ “ฟันโอ” ด้วยแคมเปญ “ฟันโอ รวยเรียกพี่ คุกกี้ทองคำ” ลุ้นรางวัลใหญ่คุกกี้ทองคำหนัก 20 บาท ทุกเดือน และสร้อยคอทองคำ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และแบรนด์ “ทิวลี่” กับแคมเปญ “แจกโชค จัดหนัก ทิวลี่ทวิน ฟินเป็นคู่” ลุ้นโชคกว่า 1.3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมเดินหน้ารุกขยายตลาด โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Generation ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่อย่าง “เบิ้ล ปทุมราช” นักร้องระดับไอคอนดนตรีสไตล์อีสาน เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ฟันโอ และ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” นักร้องสายร็อคเจ้าของเพลงดัง 100 ล้านวิว เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ทิวลี่ ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นนักร้องตัวท็อปมากความสามารถ และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี รวมถึงมีคาแรกเตอร์ สนุกสนาน จริงใจ เป็นกันเอง และเข้าถึงง่าย เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พรีเซนเตอร์ทั้งสองท่าน จึงเป็นตัวแทนสำคัญที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ในฐานะผู้นำตลาดคุกกี้และเวเฟอร์อันดับหนึ่งของไทยได้เป็นอย่างดี”

สำหรับกิจกรรม “ฟันโอ รวยเรียกพี่ คุกกี้ทองคำ” สามารถร่วมลุ้นรางวัลชิงโชค รางวัลใหญ่คุกกี้ทองคำหนัก 20 บาท จำนวน 3 รางวัล และสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 10 รางวัล แจกหนัก 130 เส้น รวมทั้งสิ้น 133 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท โดยร่วมสนุกได้ผ่านช่องทางที่ 1 : สแกน QR code  ตามสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือเพิ่มเพื่อนทางไลน์ไอดี @fun-o หลังจากนั้น ลงทะเบียน พร้อมส่งรูปถ่ายใบเสร็จ ซึ่งทุกมูลค่า 20 บาท ของผลิตภัณฑ์ จะถือเป็น 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรางวัลชิงโชค ( ใบเสร็จที่สั่งซื้อสินค้าที่ร่วมรายการจากช่องทาง เซเว่นอีเลเว่น และ Makro online จะได้รับสิทธิเพิ่มเติมเป็น 2สิทธิ์ เพื่อลุ้นรางวัลชิงโชค) ช่องทางที่ 2 : ส่งซองเปล่าขนม และเขียนหรือพิมพ์ชื่อ- นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ พร้อมแนบกระดาษที่กับ ชิ้นส่วนขนม แล้วส่งมาที่ ตู้ ปณ.20 ปณศ. คลองจั่น กรุงเทพฯ 10240 ส่งชิ้นส่วนหรือใบเสร็จของผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการตามที่กำหนดในช่องทางการเข้าร่วมกิจกรรม ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567 – วันที่ 21 เมษายน 2567 พร้อมเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของแคมเปญ “ฟันโอ รวยเรียกพี่ คุกกี้ทองคำ” ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก "Fun-O ฟันโอ" ทาง https://www.facebook.com/FunOFanClub 

กิจกรรม “แจกโชค จัดหนัก ทิวลี่ทวิน ฟินเป็นคู่” ลุ้นโชคกว่า 1.3 ล้านบาท ได้แก่ รางวัลใหญ่ รถยนต์ไฟฟ้า NETA V 1 รางวัล, มอเตอร์ไซค์ Honda PCS160 พร้อมบัตรน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท รวม 4 รางวัล, iPad 10 64gb แจกเป็นคู่ รางวัลละ 2 เครื่อง รวม 7 รางวัล, สร้อยคอทองคำ 1 สลึง แจกเป็นคู่ รางวัลละ 2 เส้น รวม 14 รางวัล และบัตรเติมเงินทรูมันนี่มูลค่า 500 บาท แจกเป็นคู่ รางวัลละ 2 ใบ รวม 70 รางวัล รวมทั้งสิ้น 96 รางวัล สามารถร่วมสนุกผ่านช่องทางที่ 1 : ส่งซองเปล่าทิวลี่ รสใดขนาดใดก็ได้  5 ซอง เขียนชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ส่งมาที่ตู้ปณ.99 ปณศ. นนทบุรี 11000 ช่องทางที่ 2 : ซื้อสินค้าทิวลี่ (รสใดขนาดใดก็ได้) มูลค่า 20 บาท เท่ากับ 1 สิทธิ์ สแกน QR code ตามสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @TivoliTH ลงทะเบียน และแนบรูปถ่ายใบเสร็จเพื่อยืนยันรับสิทธิ์ลุ้นโชค สามารถส่งชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์มาร่วมสนุกได้ตามช่องทางการเข้าร่วมกิจกรรม และแลกแต้มเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลได้ตั้งแต่วันที่15 มกราคม 2567 – วันที่ 22 เมษายน 2567 นี้ ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของแคมเปญ “แจกโชค จัดหนัก ทิวลี่ทวิน ฟินเป็นคู่” ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก "Tivoli ทิวลี่" ทาง https://www.facebook.com/TivoliThailand 

ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นฐานรากของ “ความมั่นคงทางอาหาร”

SCG HOME Online เปิดยอดขาย ‘โซลูชันปรับคุณภาพอากาศภายในบ้านจากเอสซีจี’ ได้แก่ SCG Active AirFlow System ระบบถ่ายเทและระบายอากาศ ช่วยให้บ้านเย็นลง 2-5 องศาเซลเซียส และ SCG Active Air Quality นวัตกรรมป้องกันมลพิษและเชื้อโรคไม่ให้เข้าบ้านตั้งแต่ต้น กรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 99% ซึ่งยอดขายเติบโตถึง 100% ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจากวิกฤตโลกร้อน ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทำให้การติดตั้งโซลูชันดังกล่าวเพื่อสร้างคุณภาพการอยู่อาศัยและสุขอนามัยที่ดีภายในบ้าน ได้รับความนิยมมากขึ้น มั่นใจว่ายอดขายทั้ง 2 โซลูชันผ่านช่องทาง SCG HOME Online ยังโตต่อเนื่องในปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการจับจ่ายให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท

SCG HOME Online ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องบ้าน ช้อปง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยมียอดสั่งซื้อแล้วกว่า 250,000 รายการ มีสินค้าให้เลือกตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง หลังคา ฝา ฝ้า พื้นกระเบื้อง พื้นไวนิล SPC เครื่องมือช่าง รวมไปถึงสินค้าที่ช่วยให้ชีวิตสะดวก สบาย และห่วงใยสิ่งแวดล้อม อาทิ เครื่องย่อยเศษอาหาร และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) เสริมความครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังมีสินค้าพร้อมบริการติดตั้งคุณภาพดี มีรับประกัน อย่างชุดครัวสำเร็จรูป สำหรับสินค้าและบริการที่ขายดีนอกจากโซลูชันปรับคุณภาพอากาศภายในบ้านแล้ว ยังมี SCG Solar Roof Solutions ระบบหลังคาโซลาร์ ช่วยประหยัดค่าไฟได้สูงสุดถึง 60% ที่ให้บริการติดตั้งทั่วประเทศแล้วกว่า 1,500 หลังคาเรือน มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 40% และ SCG Roof Renovations บริการติดตั้ง ซ่อมแซม ปรับปรุงหลังคา ซึ่งมียอดขายโตขึ้นกว่า 50%  

ทั้งนี้ SCG HOME Online มีบริการตอบคำถามโดยทีม SCG HOME Contact Center ทุกวัน (8.30-20.00 น.) ทางโทรศัพท์ 02-586-1222  Line: @scghome และ Facebook Page: SCG Home

X

Right Click

No right click