สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดทำ “แพลตฟอร์ม EF ปี 2567: ร่วมด้วยช่วยกันสร้างทักษะสมอง EF เด็กไทย (Platform EF: Building Brains EF Together)” ซึ่งเป็นช่องทางการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจในการพัฒนาเด็กด้วยทักษะสมองอีเอฟ (Executive Functions) โดยมุ่งเน้นให้ครู นักวิชาการสาธารณสุข ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงสื่อการเรียนรู้และการเสวนาจากนักวิขาการผู้ทรงคุณวุฒิของไทย ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเลี้ยงดูบุตรหลานให้เติบโตเป็น ‘คนดี’ และ ‘คนเก่ง’ ขยายผลการพัฒนาพลเมืองคุณภาพที่พร้อมจะขับเคลื่อนประเทศชาติในอนาคต

ทักษะสมองอีเอฟ (Executive Functions) เป็นการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ส่งผลเกี่ยวกับความจำ การเรียนรู้ การทำงาน (Working Memory) การควบคุมตนเอง ยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) ความยืดหยุ่น และปรับตัวแก้ปัญหาได้เอง (Cognitive Flexibility) พัฒนาได้ดีที่สุดในช่วงปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ หากได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเหมาะสมจากครอบครัว จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นเป็น ‘คนดี’ และ ‘คนเก่ง’ ของสังคม มีภูมิต้านทานชีวิต และป้องกันปัญหาสังคมเชิงรุก อาทิ ยาเสพติด ติดเกม ท้องก่อนวัยอันควร ปัญหาความรุนแรงต่างๆ เป็นต้น 

รศ. นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “สถาบันมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความร่วมมือในการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อนำไปสู่สังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน ผ่านการใช้ประโยชน์จากการวิจัยวิชาการ รวมทั้งสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ สุขภาพ และปลอดภัยที่เหมาะสมกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่องค์ความรู้ในวงกว้างและขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่สังคมทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการวางนโยบายการพัฒนาเยาวชนให้เติบโตด้วย EF ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้เด็กมีการควบคุมอารมณ์ ความคิด และการกระทำที่เป็นไปตามเป้าหมาย และมุ่งสู่พฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ เกิดความเข้าใจและการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อเด็กและสังคมในอนาคต”

นางภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow เป็นบริษัทวิทยาศาสตร์ที่มีความเชื่อมั่นในการพัฒนาทักษะสมองของเยาวชนให้เป็นคนดีและคนเก่ง ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันปัญหาสังคมและส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมของคนไทยในอนาคต เราจึงดำเนินโครงการ ดาว-อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อพัฒนาสมองส่วนหน้าของเยาวชนไทยมาตลอด 9 ปี โดยเริ่มต้นที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่ปี 2559 และขยายผลสำเร็จสู่กรุงเทพมหานครในปีที่ผ่านมา เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ EF แบบออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสและขยายองค์ความรู้ในการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานให้เป็นคนดีและคนเก่งตามแนวทาง EF ให้กับผู้ปกครองและคุณครูทั่วประเทศที่สนใจ ซึ่งจะช่วยสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพเพื่อการพัฒนาประเทศไทยต่อไป”

แพลตฟอร์ม EF ปี 2567 ร่วมด้วยช่วยกันสร้างทักษะสมอง EF เด็กไทย จะมีกิจกรรมและการอบรมฟรีจากนักวิขาการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในรูปแบบ online และ on-site เดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 หัวข้อ โดยเน้นไปที่การพัฒนาทักษะ EF สำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 1,000 คนต่อครั้ง หรือตลอดปีไม่น้อยกว่า 12,000 คนทั่วประเทศ ท่านที่สนใจสามารถสมัครเรียนฟรีผ่านระบบสมาชิกเครือข่ายของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวได้ หรือดูงานเสวนาย้อนหลังได้ที่ https://nicfd-member.mahidol.ac.th/course/detail/275  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่ม Line “แพลตฟอร์ม EF

บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด คว้ารางวัล Best of the Best Award Winner 2024 ประเภทรางวัล “Best Bond Manager – Thailand” จาก นิตยสาร Asia Asset Management โดยมี นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง  (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมคณะผู้บริหาร ขึ้นรับรางวัลจาก นาย Tan Lee Hock ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Asia Asset Management สะท้อนถึงความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ (AIA Income Fund)” ซึ่งถือเป็นกองทุนคุณภาพระดับต้น ๆ สำหรับกองทุนประเภทตราสารหนี้ในประเทศ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นเครื่องการันตีที่ตอกย้ำถึงศักยภาพของกระบวนการทำงาน และทีมงานการลงทุนของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) รวมถึงกลุ่มการลงทุนของเอไอเอ (AIA Investments) ที่มีความมุ่งมั่นในการบริหารกองทุนรวมให้ได้ผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอ ยูนิต ลิงก์ ต่อไป โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม Parkroyal Collection Marina Bay ประเทศสิงคโปร์

ตอกย้ำความสำเร็จ ขึ้นแท่นสุดยอดองค์กรให้บริการด้านการเงินดิจิทัลแห่งปี

Dr.TATTOF คลินิกลบรอยสักชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ประกาศชูจุดเด่นและตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการลบรอยสัก ด้วยประสบการณ์และความชำนาญ พร้อมกับการเลือกใช้นวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นการสร้างมาตรฐานอันยิ่งใหญ่และเปิดมิติใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการลบรอยสักอย่างสมบูรณ์แบบ ว่า  “Dr.TATTOF ลบรอยสัก ได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสีไม่มีรอยแผลเป็น”

นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ประธานบริษัท/แพทย์ผิวหนังและเลเซอร์ Dr.TATTOF กล่าวว่า ที่ Dr.TATTOF เลือกใช้โปรแกรม PicoWay Laser ในการลบรอยสัก เนื่องจากโปรแกรม PicoWay Laser นี้ ใช้พลังงานคลื่นแสงที่มีระยะเวลาสั้นมากในระดับ Picosecond (ล้านล้านของวินาที) ทำให้สามารถทำลายหมึกของรอยสักให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายผิวหนังรอบข้าง การใช้โปรแกรมเลเซอร์ดังกล่าว ช่วยทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูง ส่งเสริมการฟื้นฟูของผิวหลังการรักษาให้เร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นอย่างมีนัยสำคัญ

“Dr.TATTOF ใช้โปรแกรม PicoWay Laser ที่ครอบคลุมทุกความยาวคลื่นสำหรับการลบรอยสักสี โดยมี PicoWay Zoom 1064 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีดำ PicoWay Zoom 532 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีแดง สีเหลือง สีส้ม และ PicoWay 785 / 730 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีเขียว สีฟ้า แต่ละความยาวคลื่นมีพลังงานจำเพาะที่ช่วยปรับพลังงานให้เข้ากับสีของรอยสักแต่ละสี ทำให้สามารถขจัดเม็ดสีได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการลบรอยสัก” นพ.นัทธพงศ์ กล่าว

พงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF กล่าวว่า ในปี 2023 Dr.TATTOF ได้ประกาศความสำเร็จบนเส้นทางการเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านการลบรอยสักในเอเชีย-แปซิฟิก โดยได้รับรางวัล “APAC Top Performance for Tattoo Removal Treatment” และ “Top Achievement of 350 Million PicoWay Pulses in Southeast Asia” โดยการใช้ช็อตในการรักษา 350 ล้านช็อต ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  จากบริษัท Candela Medical ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตเลเซอร์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก

คุณพงศยา กล่าวต่อความว่า สำหรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนทางธุรกิจที่นำพา Dr.TATTOF มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการลบรอยสัก ประกอบไปด้วยกลยุทธ์หลักดังต่อไปนี้:

  1. ความเชี่ยวชาญ (The Expert): โดยเน้นที่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทาง Dr.TATTOF มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคคลากรวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ทั้งแพทย์และบุคคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เห็นผล และปลอดภัย
  2. นวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US-FDA Cleared): เป็นการยืนยันเกี่ยวกับความปลอดภัยของนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ที่นำมาใช้ในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ผู้รับบริการมั่นใจในการรักษาที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
  3. การรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล (International Accreditation): Dr.TATTOF ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลอย่าง American Accreditation Commission International (AACI) เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสถานพยาบาลให้แก่ผู้รับบริการ โดยนำร่องที่สาขาเซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต เป็นสาขาแรก
  4. การรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment): Dr.TATTOF ยกระดับการให้บริการ “การรักษาเฉพาะบุคคล” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ลดความเสี่ยงที่ไม่พึงประสงค์ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้รับบริการ

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการลบรอยสักที่เห็นผล มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น ที่ Dr.TATTOF เป็นคำตอบสำหรับคุณครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dr.TATTOF ทั้ง 10 สาขา

สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ 090-546-2424

สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว 095-428-9424

สาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา 097-428-2424

สาขาเอท ทองหล่อ 099-614-2424

สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 083-535-2424

สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า 064-679-2424

สาขาเดอะ พรอมานาด 064-756-2424

สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 064-568-2424

สาขาเซ็นทรัล พระราม2 063-856-2424

สาขาเมกาบางนา 090-895-2424

Inbox: http://m.me/dr.tattof 

Line@: http://line.me/ti/p/~@dr.tattof 

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก รวมภาพบรรยากาศกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ HONOR Magic6 Pro Blue Carpet ที่จัดขึ้นเพื่อส่งมอบสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HONOR Magic6 Pro ให้กับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนและจองล่วงหน้า จำนวน 50 ท่าน โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ณ HONOR Experience Store ชั้น 2 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

โดยในงาน ได้รับเกียรติจาก นายพลภัทร์ สายบัวทอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ออเนอร์ ประเทศไทย มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมของแบรนด์ ความน่าสนใจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ของ HONOR ตลอดจนคุณสมบัติและจุดเด่นของสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ HONOR Magic6 Pro พร้อมด้วย นายเมธาพัฒน์ เดชะเศรษฐ์ศิริ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นิว เลจเจินด์ อินดัสเทรียล จำกัด เป็นตัวแทนส่งต่อเรื่องราวดี ๆ กับกิจกรรมแข่งขันภาพถ่ายระดับโลก HONOR Magic Moments ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพทั่วโลกส่งผลงานผ่านทางเว็บไซต์เข้าร่วมแข่งขันเพื่อชิงรางวัล ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้ได้สร้างสรรค์ความเป็นตัวตนผ่านผลงานภาพถ่ายที่เหนือจินตนาการ อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากพันธมิตร
นางสาววรรณธพร วงค์ไฉไล รีเทลบายเออร์ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ร่วมถ่ายภาพ

นอกจากลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 50 คน จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าจาก HONOR Magic6 Pro ยังพบกับกิจกรรมที่ HONOR ได้จัดเตรียมไว้เพื่อส่งมอบความสุขกับการเล่นเกมและแจกของพรีเมียมสุดพิเศษแบบจัดเต็มมากมาย ซึ่งตลอดการจัดงานตั้งแต่ช่วงเช้าไปถึงช่วงบ่าย บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน คึกคัก และปิดท้ายด้วยการส่งมอบสมาร์ตโฟน HONOR Magic6 Pro

สัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือจินตนาการด้วยเทคโนโลยี AI สุดอัจฉริยะ กับสมาร์ตโฟนเรือธง HONOR Magic6 Pro สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 34,990 บาท เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้! และพิเศษสุด Early Bird Promotion ตั้งแต่วันนี้ - 21 เมษายน 2567 เลือกรับ Trade Up ราคาเครื่องเดิมมูลค่าเท่าไหร่ทางโปรโมชั่นเพิ่มมูลค่าให้อีกถึง 5,000 บาท* หรือ เลือกรับฟรี ลำโพง HARMAN KARDON ONYX STUDIO 7 มูลค่า 5,990 บาท* (โปรโมชั่นรับฟรีลำโพงมีเฉพาะสั่งซื้อทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น) สามารถซื้อได้ที่ HONOR Experience Store ทุกสาขา และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.honor.com/th/ หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก (World Animal Protection) เผยรายงานความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับกิจกรรมล่าโลมาที่เมืองไทจิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งสังหารหมู่โลมาหลายร้อยตัวต่อปี จากข้อมูลพบว่า นอกจากจะมีการนำเนื้อโลมาไปเป็นอาหารแล้ว โลมาบางส่วนยังถูกจับและส่งต่อไปยังสวนน้ำ หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก และที่น่าสนใจคือ มีแพลตฟอร์มท่องเที่ยวเจ้าดังจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ Trip.com, Klook, Traveloka, GetYourGuide, TUI  และ Groupon เปิดขายบัตรท่องเที่ยวไปยังสถานที่เหล่านั้น รายงานฉบับนี้ระบุสถานที่ท่องเที่ยวชมโลมา 107 แห่งใน 17 ประเทศทั่่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลีใต้ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโลมาที่ถูกล่ามาจากเมืองไทจิ นอกจากนี้ยังพบว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลมาทั่วโลกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กระตุ้นให้เกิดการล่าโลมาไทจิจากแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ

ซูซาน มิลทรอป์ หัวหน้าฝ่ายรณรงค์ องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก กล่าวว่า ความโหดร้ายทารุณ และภาพโลมานองเลือดที่ถูกรุมไล่ล่า คือความรับผิดชอบของบรรดาบริษัทท่องเที่ยว ที่ยังเปิดขายบัตรเข้าชมโลมาตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลมาเมืองไทจิ โดยราคาซื้อขายโลมาที่ได้รับการฝึกฝนเรียบร้อย และพร้อมส่งไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ มีมูลค่าถึงตัวละ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ “ตราบใดที่แพลตฟอร์มท่องเที่ยวยังคงขายตั๋วเข้าชมสถานที่เที่ยวชมโลมา ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของความทุกข์ทรมานของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจากมหาสมุทรที่เฉลียวฉลาดเหล่านี้”

ฮาน่า เทท ซีอีโอของ Action for Dolphins กล่าวว่า “แพลตฟอร์มท่องเที่ยวเหล่านี้ต้องเร่งออกนโยบายส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ และหยุดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทารุณกรรมสัตว์ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม” จากผลสำรวจขององค์กรพิทักษ์สัตว์โลก เมื่อปี พ.ศ. 2565 เผยว่า 79 เปอร์เซ็นต์ ของนักท่องเที่ยวอยากเห็นโลมาในมหาสมุทรมากกว่าในสภาพที่ถูกกักขัง โดย 82 เปอร์เซ็นต์ กล่าวว่าบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ควรขายทัวร์ที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับสัตว์ป่า ทุกวันนี้มี 22 ประเทศจากทั่วโลกที่แบนการนำเข้าโลมาที่ถูกจับมาจากถิ่นที่อยู่ในธรรมชาติ ส่วนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง Booking.com, Airbnb, Tripadvisor, Expedia ต่างมีนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เข้มแข็ง และไม่ขายบัตรเข้าชมโลมาที่มีความเชื่อมโยงกับการล่าที่เมืองไทจิ 

หทัย ลิ้มประยูรยงค์ ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์สัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า เบื้องหลังผลประโยชน์มหาศาลนี้ต้องแลกมาด้วยชีวิตของโลมาที่ต้องถูกพรากจากมหาสมุทร หลายตัวบาดเจ็บล้มตาย ถ้าโชคดี รอดชีวิตจากการขนส่ง ก็ได้ไปอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกกักขัง และถูกใช้งานจนกว่าจะหมดอายุขัย ดังนั้น ควรยกเลิกกิจกรรมท่องเที่ยวที่ใช้ประโยชน์จากสัตว์ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงปกป้องสวัสดิภาพสัตว์

องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก และ Action for Dolphins ขอเรียกร้องให้แพลตฟอร์มท่องเที่ยวปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ให้เข้มงวด และยุติการส่งเสริมสถานบันเทิงโลมาทั้งหมดโดยเร็วที่สุด เพียงงดซื้อบัตรเข้าชมสถานที่แสดงโลมา นักท่องเที่ยวก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยปกป้องโลมาให้อยู่ในธรรมชาติต่อไป


เครดิตภาพประกอบ: Robert Gilhooly

อ่านรายงาน: https://www.worldanimalprotection.or.th/Taiji-Report/

 ณ สวนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตื การกีฬาแห่งประเทศไทย @สวนเพลินจิต นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นำผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณสวนเพลินจิต ใต้ทางพิเศษสุขุมวิท เพื่อร่วมหารือ ประเด็นการนำพื้นที่ใต้ทางพิเศษ มาพัฒนาเป็นพื้นที่ทำมาหากินของประชาชนผู้มีรายได้น้อย

โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  อาทิ ธนาคารกรุงไทย ฯลฯ เข้าร่วมหารือด้วย

มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สู่การฟื้นฟูยกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรเติบโตแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด คว้ารางวัล Best Official Account In Insurance จากงาน LINE THAILAND AWARDS 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 การได้รับรางวัลในครั้งนี้ตอกย้ำว่า TQM เป็นสุดยอดแบรนด์ผู้นำในการใช้งาน LINE OA ในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ยอดเยี่ยม ด้วยกลยุทธ์การตลาด การสื่อสาร และพัฒนาบริการผ่าน LINE OA ได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทย โดยวัดผลจากยอด Performance และการเติบโตของแบรนด์ผ่าน LINE OA ซึ่งจัดโดยบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จํากัด เพื่อมอบรางวัลแห่งความสำเร็จของแบรนด์และองค์กร ที่ใช้งานแพลตฟอร์มไลน์ในเชิงธุรกิจ ได้อย่างสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ความสำเร็จเชิงการตลาดอันโดดเด่น ซึ่งปีนี้ได้ดำเนินการจัดงานต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 โดยมีการมอบรางวัลรวมทั้งสิ้น 40 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลสุดยอดแบรนด์ผู้สร้างสรรค์ผลงานการตลาดดิจิทัลยอดเยี่ยมแห่งปี 5 รางวัล และรางวัลการใช้งานบน LINE ยอดเยี่ยม ในแต่ละกลุ่มประเภทธุรกิจอีก 35 รางวัล เมื่อเร็วๆนี้

บีเจซี เปิดตัว Cocoa Dutch Kiosk Cafe สาขาแรก ที่ บิ๊กซี สาขาราชดำริ ใจกลางเมือง ชูจุดแข็งโกโก้แท้เกรดพรีเมียมอันดับ 1 พร้อมรังสรรค์เมนูสูตรพิเศษแบบเฉพาะของโกโก้ดัทช์

X

Right Click

No right click