MBA ผลิตผู้บริหารสู่ธุรกิจบริการ

July 31, 2019 5280

ดร.วิลาสินี ยนต์วิกัย คณบดี บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยดุสิตธานี กล่าวถึงหลักสูตรปริญญาโทของวิทยาลัยดุสิตธานีว่า เปิดขึ้นมาปีนี้เป็นปีที่ 15 แล้ว โดยผู้ที่เข้ามาเรียนแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ผู้บริหารในอุตสาหกรรมทั้งทางด้านโรงแรม ร้านอาหาร และอีกกลุ่มคือทายาทธุรกิจ

สิ่งที่หลักสูตรเตรียมไว้รองรับคนทั้งสองกลุ่มจึงเป็นการตอบโจทย์ความต้องการผู้เรียนที่อยากได้ความรู้ที่ต่อยอดจากระดับปริญญาตรีเพื่อนำไปใช้บริหารธุรกิจของตนเอง และการทำให้ผู้บริหารได้เห็นภาพธุรกิจชัดเจนขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงประจักษ์ ดังนั้นวิชาสำคัญที่ผู้เรียนทุกคนจะได้รับจากหลักสูตรคือการทำวิจัย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ เพื่อหาช่องว่างที่สามารถปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้

"มาเรียนที่นี่จะต้องเห็นภาพว่าเขากลับไปแล้วจะเอาสิ่งที่เป็นจุดแข็งที่มี บวกโอกาสที่มีในธุรกิจปัจจุบันทำให้เป็นกลยุทธ์บางอย่างเพื่อนำพาธุรกิจของเขาให้แตกต่างและเป็นที่ต้องการของลูกค้า ในปัจจุบันเราไม่ได้แข่งกันที่ใครเสิร์ฟสวยที่สุด ใครยิ้มสวยที่สุด เราแข่งกันด้วยการคิดว่าจะทำอย่างไรให้แบรนด์ของคุณเป็นที่ต้องการของลูกค้า แม้บางที่เป็นตลาดเฉพาะที่คุณสามารถสนองตอบให้ลูกค้าได้ คุณเห็นเทรนด์นั้นหรือไม่ สามารถมาสร้างเป็นบริการตอบสนองความต้องการลูกค้าได้หรือไม่" ดร.วิลาสินีกล่าว

เนื้อหาวิชาที่ใช้เรียนในหลักสูตรนี้เริ่มจากกลุ่มวิชาบังคับคือวิชาพื้นฐานที่ประกอบด้วยการจัดการธุรกิจ การจัดการองค์กร การตลาด การเงิน และวิจัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการบริหารธุรกิจทุกประเภท และช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์เพื่อให้มองเห็นและสามารถแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ได้ ตลอดจนสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และมีกลุ่มวิชาเลือกที่เน้นหนักไปในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริการอย่างเช่น การจัดการวิกฤตในธุรกิจการบริการที่จะให้ผู้เรียนเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ผู้มารับบริการเกิดความรู้สึกที่ดี วิชาการบริหารการปฏิบัติงานด้านการบริการ ที่จะช่วยจัดการการบริการให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจกับบริการที่ได้รับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 สร้างความผูกพันระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ วิชาการจัดการธุรกิจบริการที่จะแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการบริการแบบสากลและการนำความเป็นไทยเข้าไปผสมผสาน กลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจได้เปรียบคู่แข่ง วิชากลยุทธ์เพื่อการแข่งขันในธุรกิจการบริการ ที่จะพูดถึงการมองหาความแตกต่าง รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง สามารถนำไปปรับใช้เป็นกลยุทธ์ธุรกิจได้ วิชาการจัดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในธุรกิจการบริการ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบันที่ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การทำเนื้อหาให้โดนใจกลุ่มผู้บริโภค และวิชาการจัดการความหลากหลายทางวัฒนธรรมในธุรกิจการบริการ เพื่อบริหารจัดการทั้งพนักงานในองค์กรและกลุ่มลูกค้าที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมเพื่อสร้างมาตรฐานการบริการที่รองรับความต้องการที่หลากหลายได้

ดร.วิลาสินี กล่าวต่อว่า สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเข้ามาเรียน MBA ที่วิทยาลัยดุสิตธานีนอกจากเครือข่ายผู้เรียนแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่จะได้ไปจากหลักสูตรนี้คือการมาแบ่งปัน Passion Point และ Pain Point ของผู้เรียน โดยกลุ่มนักศึกษามีทั้งผู้บริหารในอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นทายาทธุรกิจ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงสร้างสรรค์แนวคิดทางธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกันได้ ดร.วิลาสินียกตัวอย่างผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมบริการท่านหนึ่งที่เข้ามาเรียนว่า

เขามาในห้องเรียน เขามาแชร์ Pain Point ของตัวเองให้น้องๆ ฟังแล้วน้องก็มาช่วยกันคิดกลยุทธ์ให้เขาด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาแฮปปี้เพราะมี Second Brand ที่จะไว้ลุยตลาดวัยรุ่นเพื่อให้ภาพลักษณ์ดูเด็กลง ถ้าเขาไม่ได้มาเรียนที่นี่ก็อาจจะไม่ได้เข้าใจเข้าถึงหรือไม่ได้คำตอบจากเด็กที่วัยวุฒิอาจจะต่าง แต่ความรู้เท่ากัน เขาเรียนอยู่บนพื้นฐานวิชาเดียวกันแล้วมาแชร์กัน

คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยบอกว่า ผู้ที่เข้ามาเรียนทุกคนล้วนมี Passion และการจะเติมเต็มสิ่งนั้นไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว หากได้รับการช่วยเหลือจากทั้งคณาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็จะช่วยให้แผนงานธุรกิจที่คิดทำขึ้นมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

วิทยาลัยจึงคัดเลือกผู้สอนอย่างเข้มข้น เน้นไปที่การหาผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์จริงในแวดวงอุตสาหกรรม มาแบ่งปันความรู้กับนักศึกษาร่วมกับอาจารย์ประจำที่ให้ความรู้ทางด้านวิชาการ

“อาจารย์ของเราทำหน้าที่เป็นโค้ช เป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) ในการทำให้ผู้เรียนพูดเยอะที่สุด บอกมาว่ามีปัญหาอะไร และจับลงไปในบทเรียนแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่น วิเคราะห์ BCG Matrix ในธุรกิจที่มีอยู่เคยคิดไหมว่า เรากำลังเตี้ยอุ้มค่อมหรือไม่ เราเอาเงินของธุรกิจที่ดีที่สุดไปอุ้มธุรกิจแบรนด์ที่แย่หรือเปล่า และอย่างที่บอกคุณมีหน้าที่เรียนเพื่อตัดสินใจจะทำอย่างไรกับสิ่งที่มีปัญหาอยู่ จะตัดทิ้งหรือไปต่อ ก็เป็นสิ่งที่จะได้เรียนรู้กัน”

หลักสูตรไฮบริดผสานโลกออนไลน์

ดร.วิลาสินีกล่าวถึงรูปแบบการเรียนการสอนว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบที่เรียกว่าไฮบริด นั่นคือการมาเรียนที่ชั้นเรียนในวันเสาร์สัปดาห์ละหนึ่งวันเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและเสริมความรู้วิชาการในเรื่องต่างๆ และมีแพลตฟอร์มดิจิทัลซึ่งเป็นแอปพลิเคชันให้อาจารย์และนักศึกษาสื่อสารกัน สามารถเรียกดูเอกสารประกอบการเรียนต่าง ที่ช่วยให้การเรียนรู้สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านโทรศัพท์มือถือในมือของแต่ละคน

“เช่นเราโยนไปว่า ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น มีคำกล่าวว่าโฆษณากำลังจะตายพีอาร์กำลังจะโต คุณคิดเห็นอย่างไร ให้เลือกหนึ่งบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนหรือขัดแย้งกับความคิดนี้ เขาก็จะเข้ามาตอบกัน แสดงความคิดเห็นกันในระหว่างเรา ทำให้เขาสนุกกับการเห็นสิ่งรอบตัวแล้วเกิดเป็นความรู้”

ดร.วิลาสินีเล่าถึงแผนในอนาคตของหลักสูตรปริญญาโทของสถาบันว่า ปัจจุบันวิทยาลัยดุสิตธานีกำลังเตรียมจัดทำบางรายวิชาให้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้เรียนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สะดวกในการเข้าเรียนในชั้นเรียนให้สามารถเรียนรู้ออนไลน์ได้ สามารถสอบเก็บหน่วยกิตไว้เพื่อเทียบโอนรับปริญญาในอนาคตได้

พร้อมกันนั้นวิทยาลัยดุสิตธานียังจัดให้มีหลักสูตรการเทียบโอนประสบการณ์ เน้นไปที่ผู้บริหารระดับสูงที่ต้องการได้องค์ความรู้หรือปริญญาบัตร โดยสามารถนำประสบการณ์การทำงานที่มีมาเทียบโอนหน่วยกิต โดยจะมีคณะกรรมการพิจารณาว่าสามารถเทียบโอนกับวิชาใดได้และต้องมาเรียนเพิ่มเติมในวิชาใด

ดร.วิลาสินีปิดท้ายด้วยความประทับใจในคำตอบของนักศึกษาปริญญาโทท่านหนึ่งต่อคำถามว่าทำไมต้องเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานีว่า “เขาจะเลือกพักที่โรงแรมดุสิตธานีเท่านั้น ไม่ว่าจะเดินทางไปจังหวัดไหน หรือประเทศไหนที่มีโรงแรมดุสิตตั้งอยู่ เพราะมาตรฐานการดูแลและเอาใจใส่ที่พิเศษและแตกต่าง ทำให้เขาเชื่อมั่นว่ามาตรฐานนี้ก็เข้ามาถึงการเรียนปริญญาโทที่วิทยาลัยดุสิตธานี ด้วยเช่นเดียวกัน”


เรื่อง : กองบรรณาธิการ

ภาพ : ณัฐพงศ์ เปรุนาวิน

Last modified on Thursday, 24 June 2021 09:04
X

Right Click

No right click