เอแบคเปิดหลักสูตร MBA และ PhD Hospitality and Tourism Management

January 21, 2020 4688

ยิ่งการท่องเที่ยวสำคัญ ความรู้เชิงลึกด้านการท่องเที่ยวจึงยิ่งสำคัญ เอแบคจึงเปิดหลักสูตร MBA และ PhD Hospitality and Tourism Management

ทุกประเทศตระหนักดีว่าการพัฒนาการท่องเที่ยวถือเป็นเส้นทางลัดที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และเป็นกลไกสำคัญที่บุกเบิกนำพาผลประโยชน์ทั้งหลายเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ระดับธุรกิจ ไปจนถึงระดับชุมชน สังคม และประเทศชาติ ประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่การท่องเที่ยวมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และประเทศไทยก็อาศัยการท่องเที่ยวมาเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาประเทศ จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก

แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงและความเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ที่กระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก ทำให้ในปัจจุบัน ทั่วโลกมีเมืองท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่มากมาย ขณะที่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวและเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยว เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อีกทั้งยังมีเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ๆ และความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นในวงการการท่องเที่ยวอยู่เสมอ ทำให้การจัดการด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป หลายสถาบันจึงเปิดหลักสูตรด้านการจัดการการท่องเที่ยว และหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการด้านการท่องเที่ยวอย่างมืออาชีพเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)

เมื่อกว่า 10 ปีก่อน เอแบคถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดหลักสูตรสากลในระดับปริญญาโท (MBA) ทางด้าน Hospitality and Tourism Management ตามมาด้วยหลักสูตรปริญญาเอก (PhD) ด้าน Hospitality and Tourism Management ซึ่งถือเป็นหลักสูตรสากลระดับปริญญาเอกทางด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวแห่งแรกในเมืองไทยอีกเช่นกัน ทั้งนี้ จุดเด่นของทั้งสองหลักสูตรที่แตกต่างจากสถาบันอื่นมีหลายประเด็น

 

MBA in Hospitality and Tourism Management

“หลักสูตรนี้มุ่งพัฒนาผู้เรียนทั้งที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยตรง อย่างผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ และโดยอ้อม อย่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม รวมถึงนักวิชาการ ให้จบไปเป็น “นักกลยุทธ์” ที่สามารถวางแผนและพัฒนาการจัดการด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนและอย่างเป็นมืออาชีพ ทัดเทียมนานาประเทศ” ดร.ภัครา เรืองสิรเดโช ผู้อำนวยการฝ่าย Strategy and Business Development หลักสูตร Hospitality and Tourism Management (HTM) บัณฑิตวิทยาลัยบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

ดร.ภัครา ขยายความว่า หลักสูตรนี้ทำให้ผู้เรียนได้รับองค์ความรู้และความเข้าใจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ตั้งแต่คอนเซปต์และทฤษฎีจากผู้เชี่ยวชาญในวงการการท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนได้เรียนรู้จากตัวอย่างธุรกิจและเมืองท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จจากทั่วโลก และพัฒนาและบูรณาการทักษะการบริหารจัดการที่หลากหลาย

สำหรับไฮไลท์รายวิชาที่น่าสนใจมีมากมาย อาทิ การบริหารบุคลากร การบัญชี และการตลาด สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว, การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน, การท่องเที่ยวระหว่างประเทศและสิ่งแวดล้อม, จริยธรรมในการบริหารธุรกิจท่องเที่ยว การวางนโยบายการท่องเที่ยวและวางแผนสาธารณะ ตลอดจนการบริหารจัดการวิกฤตในการท่องเที่ยว (Crisis Management in Tourism)

นอกจากนี้ ผู้เรียนยังจะได้เรียนรู้ประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม (Niche Market), การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและ e-Commerce มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, การเขียนและการสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่, การบริหารผลตอบแทน (Yield Management) ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนการศึกษาเปรียบเทียบนโยบายการท่องเที่ยวในอาเซียนและประเทศอื่น เป็นต้น

“การเรียนการสอนที่นี่มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการธุรกิจท่องเที่ยว อย่างสร้างสรรค์ อย่างมีนวัตกรรม และนำสมัย (in-trend) โดยเน้นการเรียนในห้องให้น้อยลง แต่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยว การไปดูงาน (Field Trip) ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการที่ดีในระดับสากล และการทดลองปฏิบัติจริงผ่านโปรเจ็กต์งานกลุ่ม ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้ลองเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งจากทฤษฎี ทั้งจากวิทยากรหลากหลายประเทศ และจากประสบการณ์ดูงานและการท่องเที่ยว มาประยุกต์กับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างสนุกสนานและมีหลักการ”

ดร.ภัครา ย้ำว่า หลักสูตรนี้เปิดรับทุกคนที่สนใจใคร่รู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งที่อาจจะกำลังงานทำอยู่ในธุรกิจด้านการท่องเที่ยว หรือไม่เคยมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้เลยก็ตาม แต่อยากเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งจากจุดแข็งของมหาวิทยาลัยเอแบค ที่เน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากนักศึกษาในต่างประเทศ ทำให้มีผู้เรียนที่มาจากหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียและกลุ่มอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักธุรกิจชั้นนำ หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้มิติใหม่ๆ ทางด้านการท่องเที่ยวจากผู้เรียนที่มาจากประเทศเหล่านั้นแล้ว ยังมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะเกิดการต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว หรือความร่วมมือในทางธุรกิจ ตลอดจนเกิดการสร้างธุรกิจใหม่ร่วมกัน

“หลักสูตรนี้เหมาะมากทั้งกับคนที่มีธุรกิจอยู่แล้ว หรือทำงานในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว รวมถึงคนที่ยังไม่เคยมีหรือเคยทำธุรกิจทางด้านนี้ แต่อยากเข้ามาทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เพราะจะได้เข้าใจกระบวนการและระบบนิเวศทั้งหมดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนได้พัฒนามุมมองและทักษะต่างๆ เพื่อนำไปสู่การส่งมอบ “คุณค่า” ให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และยั่งยืน”

PhD in Hospitality and Tourism Management

สำหรับหลักสูตรปริญญาเอก ดร.ภัครา กล่าวว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะเฉพาะด้านและวิธีคิดด้านการบริหารจัดการสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งในเชิงลึก (ทางทฤษฎีและเชิงโครงสร้าง) และเชิงมหภาค (การเชื่อมโยงภาพใหญ่ระดับประเทศหรือระดับโลก) ตลอดจนเพื่อเพิ่มพูนความรู้และความสามารถในการพัฒนาความชำนาญเพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว รวมถึงงานสายบริการในทุกสาขาอาชีพ ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับความรู้ความสามารถเพื่อการเลื่อนตำแหน่งในสายงานด้านการท่องเที่ยวและการบริการที่ทำอยู่ หรือต้องการเข้าไปทำ

นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องเป็นเติบโตเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยวในมหาวิทยาลัยภาครัฐและเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงผู้ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพตัวเองเพื่อก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาหรือวิทยากรให้กับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน

“หาก MBA ของเรามุ่งเน้นการสร้าง Tourism Business Strategist หรือนักวางแผนกลยุทธ์ในธุรกิจด้านการท่องเที่ยว PhD ของเราก็มุ่งจะสร้างนักวิเคราะห์และนักวิจัยเชิงโครงสร้างด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงสร้างผู้นำด้านธุรกิจหรือผู้นำองค์กรด้านการท่องเที่ยว ที่มีกระบวนทัศน์ในการวิเคราะห์และวิจัยที่แม่นยำ”

ไฮไลท์รายวิชาที่น่าสนใจ อาทิ การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวชั้นสูง, ประเด็นร่วมสมัยที่เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว, การวางแผนกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวชั้นสูง, ทฤษฎีชั้นสูงเกี่ยวกับองค์กรและการพัฒนา, การบริหารจัดการทุนมนุษย์ (Human Capital) ทางด้านการท่องเที่ยวชั้นสูง, การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมชั้นสูง ตลอดจนการบริหารจัดการและทำความเข้าใจกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยว และเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น

ดร.ภัครา สรุปว่า หลักสูตรปริญญาเอก HTM ของเอแบคได้รับการออกแบบ ให้มุ่งเน้นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้และความเข้าใจเชิงลึกในตัวผู้เรียน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากทฤษฎีและประสบการณ์ของอาจารย์และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก ทั้งที่มาจากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลและองค์กรนอกภาครัฐ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก และตกผลึกทฤษฎีและองค์ความรู้เหล่านั้นผ่านการทำงานวิจัยขั้นสูง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นนักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ คอยให้คำแนะนำและการชี้แนะอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลา 3-5 ปี

หลักสูตรนี้เหมาะมากกับคนที่มีความรู้สึกว่าอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศโดยใช้กลไกทางด้านการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาชุมชน สังคม ประเทศชาติ และเศรษฐกิจ โดยจะได้นำเอาความรู้เชิงลึกและกระบวนทัศน์ใหม่ๆ ไปใช้ต่อยอดพัฒนาทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว ทั้งแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และผู้คนในชุมชนนั้น หรือในประเทศ โดยที่ผู้เรียนอาจจะมาจากหน่วยงานภาครัฐ หรือแม้แต่ภาคธุรกิจ ที่ต้องการตอบโจทย์การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างบูรณาการและอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าให้กับประเทศในระยะยาว

ผู้อำนวยการหลักสูตร HTM ทิ้งท้ายว่า อีกผลพลอยได้ที่ถือเป็นจุดแข็งสำคัญของการเรียนที่เอแบคที่นักศึกษาปริญญาเอกจะได้รับไม่ต่างกัน คือเรื่องของการพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษขั้นสูง และเครือข่ายเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีทั้งระดับผู้นำองค์กรภาครัฐและภาคธุรกิจจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในวงการด้านการท่องเที่ยวทั้งระดับประเทศและระดับโลก


เรื่อง : กองบรรณาธิการ

ภาพ : ภัทรวรรธน์ พงษ์บริพันธ์

Last modified on Thursday, 24 June 2021 08:51
X

Right Click

No right click