LINE ได้พัฒนาเครือข่ายบล็อกเชนเมนเน็ตของตัวเองขึ้นในปี 2018 และสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนผ่านการนําเสนอบริการต่างๆ อาทิ LINK ซึ่งเป็นสินทรัพย์คริปโตของบริษัทฯ บริการซื้อขายสินทรัพย์คริปโต กระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับสินทรัพย์คริปโต ไปจนถึงตลาดซื้อขาย NFT และล่าสุดกับการเปิดตัว Finschia เมนเน็ตบล็อกเชนใหม่ล่าสุด

โดย LINE ตั้งเป้าที่จะเป็นระบบนิเวศบล็อกเชนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากฟังก์ชันการทํางานและความเสถียรขั้นสูงของเครือข่าย โดยถือเป็นก้าวแรกในระบบนิเวศบล็อกเชนของ LINE ที่ขานรับศักยภาพที่แท้จริงของการใช้งาน Web3 ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้าง แลกเปลี่ยนซื้อขาย และรับรางวัลได้อย่างง่ายดายและอิสระ

ทั้งนี้ Finschia เป็นการตั้งชื่อตามต้นไม้ในเขตร้อน Finschia (ฟินส์เชีย) ได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์มากมายเพื่อปรับปรุงฟังก์ชันการทํางาน ความเร็วและเสถียรภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้ Ostracon ซึ่งเป็นอัลกอริทึมระบบฉันทามติ (Consensus Algorithm) ของเครือข่ายเองซึ่งมีการเพิ่มฟังก์ชัน VRF (Verifiable Random Function) ลงในอัลกอริทึมฉันทามติของ Cosmos ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ Finschia มาพร้อมกับความเร็วในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสูงขึ้นถึง 400 เท่า และช่วยลดต้นทุนลงถึง 98% เมื่อเทียบกับ Ethereum นอกจากนี้ Finschia ยังได้เปิดตัวโปรแกรมรีวอร์ดซึ่งเป็นการให้รางวัลตามการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานและนักพัฒนา โดยทุกคนสามารถได้รับรางวัลจากการเข้ามาร่วมสนับสนุนการขยายตัวของระบบนิเวศบล็อกเชนบนเครือข่าย

และการเปิดตัวครั้งนี้ LINE ตั้งเป้าหมายให้บริการเครือข่ายแก่นักพัฒนาระบบโดยไม่คํานึงถึงข้อจำกัดด้านประสบการณ์ของพวกเขาที่เกี่ยวกับบริการบล็อกเชน โดย LINE จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่พวกเขาสามารถเข้ามาพัฒนา dApps ได้อย่างง่ายดายด้วย Full Node บนเครือข่าย Finschia หรือบน LINE Blockchain Developers ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้นักพัฒนาระบบสามารถเข้ามาทำงานร่วมกับบริการต่างๆ ของ LINE และใช้องค์ความรู้ของ LINE ในการพัฒนาบริการบล็อกเชนที่ใช้งานได้อย่างสะดวกง่ายดายผ่านเครือข่าย Finschia ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Finschia บนเว็บไซต์ LINE Blockchain: https://blockchain.line.me

ยองซู โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LINE NEXT กล่าว “เรามีความยินดีที่จะนำเสนอ Finschia โดยเป็นแพลตฟอร์มที่เราสามารถสร้างความร่วมมือกับนักพัฒนารายอื่นๆ เพื่อปลดล็อกความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ บนเครือข่ายบล็อกเชนของเรา โดยเรามุ่งมั่นสร้างสรรค์ระบบนิเวศบล็อกเชนในรูปแบบใหม่และขยายตลาดโทเคน LINK ซึ่งเป็นสินทรัพย์คริปโตของ LINE”

ทั้งนี้ LINE ยังวางแผนที่จะรวมเครือข่ายเมนเน็ตปัจจุบันที่มีชื่อว่า Daphne เข้ากับ Finschia โดยเป็นการรวมเครือข่ายบล็อกเชนเมนเน็ตที่ให้บริการด้านบล็อกเชนทั้งหมดที่มีอยู่ นอกจากนี้ LINE ยังเตรียมเปิดตัว DOSI Vault ซึ่งเป็นดิจิทัลวอลเล็ตแบบ Non-Custodial เร็วๆนี้ โดยพัฒนาขึ้นมาเพื่อการจัดการสินทรัพย์คริปโตบน LINK โดยเฉพาะ ผู้ใช้งานจะสามารถควบคุมกระเป๋าเงินดิจิทัลนี้ด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ ให้การจัดการสินทรัพย์บน LINK เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมด้วยค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ลดลง ด้วยการเปิดตัวของทั้ง Finschia และ DOSI Vault นี้ LINE ตั้งเป้าที่จะขยายตลาดโทเค็นให้เติบโตขึ้น โดยเชิญชวนให้ผู้ใช้งานที่ยังไม่คุ้นเคยกับระบบบล็อกเชนเข้ามาร่วมสัมผัสบริการที่ให้การใช้งานที่ง่ายด้าย พร้อมความเสถียรและความปลอดภัยที่มั่นใจได้ยิ่งขึ้น

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ตอกย้ำภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการสร้างและบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Web 3.0 และอุตสาหกรรมบล็อกเชน ล่าสุด เปิดตัว “SCB 10X DISTRICTX” พื้นที่แห่งใหม่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนานวัตกรรมและพันธมิตรจากบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกด้าน Web 3.0 และ บล็อกเชนเข้ามามีส่วนร่วมในชุมชน สร้างเครือข่ายและต่อยอดไอเดียทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด มุ่งหวังผลักดันให้เกิดศูนย์กลางคอมมูนิตี้ด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 ระดับโลกในประเทศไทย

 

DISTRICTX ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้พื้นที่ในการสร้างศูนย์กลางคอมมูนิตี้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับทำงานร่วมกันทางธุรกิจ ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ที่ได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับใช้ประชุม (Town Hall), ห้องประชุมแบบปฏิบัติการ (Operational War Room), ห้องบันทึกเสียงสำหรับ Podcast และพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารที่ให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มฟรี โดยพื้นที่ของ DISTRICTX จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.Hacker House: พื้นที่แบบเปิดโล่งสำหรับนักพัฒนานวัตกรรมทั่วโลกด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 สามารถเข้ามามีส่วนร่วม พบปะและพูดคุยกัน รวมถึงทำงานร่วมกับทีม SCB 10X และพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้ที่เข้าร่วมโครงการ DISTRICTX Hacker House Incubation Program 2. Exponential Hub: พื้นที่ทำงานร่วมกัน (co-working space) สำหรับพันธมิตรระดับโลกของ SCB 10X รวมถึงบริษัทชั้นนำด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 อาทิ Axelar, Fireblocks, Nansen, The Sandbox, Nebula, Token Unlocks และ RakkaR Digital

 

นางมุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “DISTRICTX จะเป็นพื้นที่ที่เราเห็นถึงศักยภาพสำหรับการทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงเป็นพื้นที่ในการสร้างเครือข่าย และการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งการทำงานร่วมกันนั้นจะเป็นกุญแจสำคัญในช่วงตลาดซบเซา (Bear Market) และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เชื่อมเหล่าสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง ผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่น กลุ่มพันธมิตรในอนาคต และนักพัฒนารุ่นใหม่ไฟแรง มาสู่กรุงเทพฯ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนระดับโลกด้านบล็อกเชนและ Web 3.0”

ด้าน สตีเฟน ริชาร์ดสัน (Stephen Richardson) Head of APAC and SVP of Financial Markets, Fireblocks กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ประเมินค่าไม่ได้ต่อการสร้างการเติบโตที่แข็งแรงให้กับอุตสาหกรรม โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปิดรับด้านสินทรัพย์ดิจิทัลสูงที่สุดแห่งหนึ่ง DISTRICTX จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับพวกเรา ในการยกระดับนวัตกรรมด้านบล็อกเชน พร้อมช่วยให้สถาบันการเงินต่างๆ และภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

โครงการ “DISTRICTX Hacker House Incubation Program” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยบ่มเพาะประสบการณ์อย่างเข้มข้นเพื่อนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดย SCB 10X จะเฟ้นหานักพัฒนาที่มีความสามารถโดดเด่นและผู้ประกอบการไฟแรงเพื่อเข้าร่วมคิดค้นและสร้างสตาร์ทอัพแถวหน้าด้าน Disruptive Technology โดยโครงการนี้จะให้การสนับสนุนตั้งแต่ต้นจนจบจากทีม Venture Builder ของ SCB 10X เริ่มตั้งแต่การทดสอบผลิตภัณฑ์และการออกแบบ การให้คำปรึกษาโดยคนเก่งในระบบ

นิเวศ รวมถึงการระดมทุนจากภายนอกและขยายการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณ Hacker House ของ DISTRICTX ตลอดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการ

นอกจากบทบาทในการลงทุนร่วมสร้างแล้ว SCB 10X จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนทั่วไปเกี่ยวกับโลกของเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web 3.0 ผ่านการจัดงาน “Moonshot Meetup" ที่ DISTRICTX ในรูปแบบเวิร์คช็อปสองเดือนครั้งเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพาร์ทเนอร์ นักพัฒนา และ community ด้วยการแบ่งปันความรู้และสร้างสรรค์โปรเจคร่วมกัน DISTRICTX จะเป็นศูนย์รวมของการจัดกิจกรรมต่างๆ ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เช่น DISTRICTX Hacker House Program, Hackathons และอื่นๆ อีกมากมาย

“เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน ecosystem ของ SCB 10X และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยผลักดันบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลให้เกิดในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังตั้งตารอความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายบนพื้นที่ DISTRICTX แห่งนี้” อเล็กซ์ สวาเนวิก (Alex Svanevik) CEO แห่ง Nansen กล่าวเสริม

โดยการเปิดตัว DISTRICTX ครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุนทั่วโลกใน disruptive บล็อกเชน Web 3.0 และเทคโนโลยีการเงิน (Fin Tech) ตลอดจนบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต เพื่อผลักดันให้เกิดยูนิคอร์นด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไป

รายละเอียดเพิ่มเติม www.districtx.space สมัครเข้าร่วมโครงการ “DISTRICTX Hacker House Incubation Program” ได้ที่ www.districtx.space รับชม VDO แนะนำ DISTRICTX ได้ที่ https://youtu.be/-oEGdXy2qJk

 

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพด้วยเทคโนโลยี 

 

บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็น “Tokenization Success Partner” ร่วมสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้าองค์กร ล่าสุดโชว์ Use-Case ความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเคนดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมบันเทิง เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทย กับผลการโหวต “BNK48 12th Single Senbatsu General Election” หรือ GE ครั้งที่ 3 ค้นหาเซ็มบัตสึสำหรับซิงเกิลที่ 12 ของศิลปินวงไอดอลหญิงวง BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต) และศิลปินวงไอดอลหญิงวง CGM48 (ซีจีเอ็มโฟร์ตีเอต)

Gala Games และ Endless AI ร่วมต้อนรับการเปิดตัวครั้งใหม่ของ AI Overlords

Page 1 of 8
X

Right Click

No right click