นายสรรเพชร นิลรัตน์ (ซ้ายสุด) กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ถ่ายภาพร่วมกับ มร.ทากาชิ ฮาเซกาว่า (ที่ 3 จากขวา) ผู้บริจาคทุนการศึกษาภายใต้กองทุน "ฮาเซกาว่า เรียว” (HASEGAWA Ryo Fund) แก่นักเรียนไทยระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยากจนภายใต้การดูแลของมูลนิธิตั้งแต่ปีการศึกษา 2565-2571 จำนวน 231 คน ในโอกาสเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นมาร่วมประชุมและดูการดำเนินงานของมูลนิธิ

โอกาสนี้นายธัญญากร รัตนประสิทธิ์ (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ทุนการศึกษา และนายอนุชาติ คงมา (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายกิจการฝ่ายต่างประเทศมูลนิธิ EDF ร่วมถ่ายภาพด้วย

อนึ่งมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลจดทะเบียนลำดับที่ 255 ของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนที่ด้อยโอกาสด้วยการมอบทุนการศึกษาและจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศและได้รับรางวัล เช่น ประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ เงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธินำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทยประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบัน คีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใสจากสมาคมกิฟวิ่ง แบค รางวัลคนดีต้นแบบคุณธรรมไทยจากสมาคมสหพันธ์คนพิการในประเทศไทย และรางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำในฐานะหน่วยงานที่ทำความดีอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผู้สนใจร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาหรือจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ร่วมกับมูลนิธิ EDF สามารถติดต่อสำนักงานมูลนิธิได้ที่โทรศัพท์ (02) 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.) อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ทาง Line: @edfthai เฟสบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/edfthai หรือเว็บไซต์ www.edfthai.org ทั้งนี้การบริจาคหรือทำกิจกรรมร่วมกับมูลนิธิสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ประกาศจัดแคมเปญ “Japan Fruits Festival ~Seasonal Gift from Japan~” ร่วมกับร้านค้าที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter”(*) และบริษัทผู้ส่งออก-นำเข้าผลไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับเสน่ห์และได้ลิ้มรสความอร่อยของผลไม้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นไปที่ผลไม้ตามฤดูกาลยอดนิยม 3 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล มันหวาน และสตรอว์เบอร์รี่

แคมเปญจัดขึ้นระหว่างวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 ถึง วันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 โดยการผนึกกำลังระหว่างร้านค้าปลีก ร้านค้าออนไลน์ และสื่อชั้นนำ ร่วมประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของผลไม้ญี่ปุ่นในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งยังมีกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อผลไม้นำเข้าจากญี่ปุ่น หรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์/เพจโครงการ เพียงตอบแบบสอบถามที่หน้าร้านหรือบนมือถือ รับ “มันหวานญี่ปุ่นแท้ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น 1 กิโลกรัม” มูลค่า 350 บาทจำนวน 20,000 รางวัล

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวถึงแนวคิดที่มาและความคาดหวังต่อการดำเนินโครงการว่า “ก่อนอื่นผมขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งไทยและญี่ปุ่น ที่มีส่วนสำคัญทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น ประเทศญี่ปุ่นส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารมายังประเทศไทยมากเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยในปี 2563 มีมูลค่าถึง 40,100 ล้านเยน (ประมาณ 11,460 ล้านบาท) ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ชาวไทยจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและได้ลิ้มลองเพลิดเพลินไปกับรสชาติอาหาร ผลไม้ ขนมต่างๆ แบบฉบับต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ส่งผลให้กระแสความนิยมอาหารญี่ปุ่นของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารมายังประเทศไทยกลับเติบโตสูงขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา แคมเปญนี้มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยได้มีประสบการณ์และมีโอกาสรู้จักกับผลไม้ญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ความอร่อยตามแต่ละฤดูกาล และกลายมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของผลไม้ญี่ปุ่นในอนาคต ผมหวังว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปด้วย”

นายโทชิฮิโระ คุโด Chief Executive Officer สหกรณ์การเกษตร ทสึการุ มิไร ผู้ส่งออกแอปเปิ้ลรายใหญ่มายังประเทศไทยกล่าวว่า “ผมอยากให้คนไทยได้ลองชิมแอปเปิ้ลสดๆ จากสวนแอปเปิ้ลที่จังหวัดอาโอโมริ ที่ได้รับการปลูกอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนด้วยความใส่ใจจากเกษตรกรของเรา” นอกจากนี้ นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ผู้อำนวยการใหญ่บริหารซุปเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนร้านค้าจากกูร์เมต์ มาร์เก็ต กล่าวเสริมว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมโปรโมทผลไม้ญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียมในครั้งนี้ ซึ่งตรงตามคอนเซ็ปต์ของเราที่บรรจงคัดสรรสินค้าคุณภาพส่งตรงถึงมือผู้บริโภค เราหวังว่าจะช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้”

 แคมเปญ “Japan Fruits Festival ~Seasonal Gift from Japan~” เกิดขึ้นจากความร่วมมือของบริษัท วิสเมแทค ฟู้ดส์ จำกัด และบริษัท นิฮง อะกรี จำกัด ผู้ส่งออก-นำเข้าผลไม้รายใหญ่ของญี่ปุ่น รวมทั้งร้านค้าปลีกที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter” ว่าเป็นร้านค้าที่ใช้และจัดจำหน่ายวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 7 แบรนด์ 138 สาขา และร้านค้าออนไลน์อีก 15 แพลตฟอร์ม ในการร่วมประชาสัมพันธ์เสน่ห์ของผลไม้ญี่ปุ่นตามฤดูกาล

แคมเปญประชาสัมพันธ์ผลไม้นำเข้าจากญี่ปุ่น “ฟิน เหมือนบินไปกินที่ญี่ปุ่น” ผนึกกำลังโปรโมทผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่

· ช่องทางที่ 1 ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อชั้นนำรวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์ในหลายรูปแบบ โดยใช้คีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันเพื่อส่งต่อเรื่องราวอันน่าสนใจของผลไม้ญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้และเพื่อเพิ่มจำนวนแฟนพันธุ์แท้ของผลไม้ญี่ปุ่น หน้าเพจหลักของแคมเปญเราได้ร่วมมือกับ Wongnai แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารและโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งผู้ใช้งานประจำกว่า 10 ล้านคนต่อเดือน รวมทั้งยังร่วมมือกับ The Cloud แมกกาซีนออนไลน์นำเสนอเรื่องราวความน่าสนใจของเกษตรกรชาวญี่ปุ่นที่บ่งบอกถึงความใส่ใจในทุกกระบวนการเพาะปลูก และยังร่วมมือกับ 5 อินฟลูเอนเซอร์สายฟู้ดเผยแพร่เคล็ดลับความอร่อยของผลไม้ญี่ปุ่น โดยนำผลไม้มารังสรรค์เป็นเมนูสุขภาพและเมนูสร้างสรรค์ต่างๆ ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลอง

· ช่องทางที่ 2 ประชาสัมพันธ์ผ่านร้านค้าปลีกและร้านค้าออนไลน์ ผ่านทางการแนะนำของพนักงานขายและสื่อประชาสัมพันธ์ที่ติดตั้ง ณ พื้นที่ขาย สามารถตรวจสอบร้านค้าที่ร่วมแคมเปญได้จากหน้าเพจ Wongnai

· ช่องทางที่ 3 กิจกรรมตอบแบบสอบถาม “ส่งต่อความอร่อยของญี่ปุ่น” ตอบแล้วอร่อย! ได้รับแล้วดีใจ! เพียงตอบแบบสอบถามที่หน้าร้านหรือบนมือถือ ท่านจะได้รับรางวัลสุดพรีเมียม “มันหวานญี่ปุ่นแท้ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น 1 กิโลกรัม” มูลค่า 350 บาท จำนวน 20,000 รางวัล สำหรับคนที่คิดว่า “ผลไม้ญี่ปุ่นดูน่ากิน แต่มีราคาแพง …แต่ว่าก็อยากลองชิมดูสักครั้ง” ห้ามพลาดกิจกรรมดีๆ ถึง 31 มกราคม 2565 เท่านั้น

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการดังกล่าว ทางเจโทรฯ ยังมีกำหนดจัดงานเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ JETRO Online Business Matching & Exhibition of Japanese Food Products 2021 ขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งภายในปีงบประมาณนี้ โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งที่ 1 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป คาดการณ์ว่าจะสร้างให้เกิดมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1,100 ล้านเยน (ประมาณ 333 ล้านบาท) ส่วนการเจรจาธุรกิจครั้งที่ 2 จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ถึง 12 พฤศจิกายน คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ซึ่งโครงการทั้งสองจะสร้างให้เกิดโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ส่งออกสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย

 

 

 

ปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยและอีกหลายประเทศกำลังเผชิญหน้าและเร่งระดมสรรพวิธีเพื่อหาทางแก้ไข หนึ่งในนั้นคือปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยจำนวนมากจากครัวเรือนและภาคโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้มีการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมไปถึงการเผาเพื่อทำลายขยะจนทำให้เกิดมลพิษขึ้น

Page 1 of 3
X

Right Click

No right click