พิเศษสำหรับลูกเพจ MatchLink ลงทะเบียน คลิก >>> https://bit.ly/MatchLink_UOBBiz.
เปิดบัญชีออมทรัพย์ "UOB BizSuper" เพื่อผู้ประกอบการ SME
- รับดอกเบี้ยเงินฝาก 1% ต่อปี
- ไม่มีค่าธรรมเนียมจ่ายเงินเดือนพนักงาน (Payroll)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมโอนเงินระหว่างบัญชีธนาคารยูโอบี
- ไม่มีค่าธรรมเนียมโอนเงินระหว่างธนาคารแบบส่งรายการภายในวัน (สำหรับยอดการโอนตั้งแต่ 1 บาท จนถึง 500,000 บาทแรก)
- ไม่มีค่าธรรมเนียมผูกคู่โอนอัตโนมัติ (Fund Sweeping) ระหว่างบัญชีออมทรัพย์ BizSuper และบัญชีกระแสรายวัน BizSuper
- ไม่มีค่าธรรมเนียม UOB eAlerts! บริการแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของบัญชีผ่านทางอีเมล
- ไม่มีค่าบริการสำหรับสมุดเช็คเดือนละ 1 เล่ม และส่วนลด 50% สำหรับเล่มถัดไป

*รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดงานสัมมนา Mid-Year Investment Outlook ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้นักลงทุนทราบถึงกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนที่แข็งแกร่งท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก เพื่อรับมือในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

ไฮไลท์สำคัญ: · อิหร่านเปิดฉากการโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 · ผลกระทบคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง · นักลงทุนควรมุ่งเน้นไปยังเป้าหมายทางการเงินระยะยาวด้วยการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งด้วย ผ่านการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-asset) และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment grade bond)

จากเหตุการณ์ที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้อิหร่านตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบิน ขีปนาวุธนำวิถี ขีปนาวุธร่อน ตลอดจนโดรนโจมตีรวมมากกว่า 300 ครั้ง ในวันที่ 14 เมษายน 2567 แม้ว่าอิสราเอลและพันธมิตรจะสามารถสกัดกั้นการโจมตี ส่วนใหญ่ได้และแม้ว่าจะมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งจะขยายวงกว้างไปทั่วทั้งตะวันออกกลาง นายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อการลงทุนดังนี้

สถานการณ์เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย

สหรัฐฯคาดการณ์ถึงการตอบโต้ของอิหร่านเอาไว้ล่วงหน้า โดย Wall Street Journal รายงานถึงการประท้วงที่ใกล้จะเกิดขึ้น ด้วยคำเตือนล่วงหน้านี้ ทำให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย เนื่องจากอิสราเอลและพันธมิตรสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีของข้าศึกได้

• อิหร่านส่งสัญญาณว่าไม่ต้องการยกระดับความขัดแย้ง โดยกล่าวว่า “ ปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลถือว่ายุติลงแล้ว” หลังการโจมตี แต่ยังได้เตือนสหรัฐฯ ให้อยู่ห่างจากความขัดแย้งนี้

สถานการณ์ตึงเครียดจะเลวร้ายลงหรือไม่?

• ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของอิสราเอล แต่สัญญาณเบื้องต้นคบ่งชี้ว่าอิหร่านไม่ต้องการยกระดับความตึงเครียด

• มีรายงานว่าสหรัฐฯ จะไม่เข้าร่วมหรือสนับสนุนปฏิบัติการตอบโต้อิหร่าน แต่จะยังป้องกันเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการปกป้องฐานทัพของอิสราเอล

ผลกระทบต่อการลงทุน

• นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้นและคาดว่าตลาดจะยังผันผวนในระยะสั้น

~ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง

~ หากอิหร่านปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซ อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ 21 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 21% ของการบริโภคทั่วโลก

~ ความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (UST) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

• การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันอาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อและทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป

• อย่างไรก็ตาม ภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และความเชื่อมั่นของตลาดก็คาดว่าจะกลับมามีเสถียรภาพได้อีกครั้ง หากความขัดแย้งไม่บานปลาย

คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

• ทบทวนพอร์ตการลงทุน เพื่อพิจารณาความเสี่ยงว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่กระจุกตัวมากเกินไปหรือไม่

• มุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวโดยการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่ง ผ่านสินทรัพย์กลุ่ม Core Investment

• แนะนำกลยุทธ์กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ที่มีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ , ภูมิภาค และอุตสาหกรรม เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

• พิจารณากองทุนตราสารหนี้และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน ตราสารหนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีโอกาสได้กำไรด้านราคา หากธนาคารกลางเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้

• สำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ลองพิจารณาธีมการลงทุนด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก (Global Healthcare) , เอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และอาเซียน และสามารถทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีการเติบโต (quality growth) และหุ้นปันผล ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง

• นักลงทุนสามารถใช้ฟีเจอร์ Wealth ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน UOB TMRW จะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถจัดการความมั่งคั่งผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2567 เป็นต้นไป นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง อาทิ Blackrock, PIMCO, JPMorgan และ Fidelity สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมผ่านแอป UOB TMRW ได้ที่นี่

เมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยได้รับรางวัลด้านตราสารหนี้ยอดเยี่ยมจากเวทีระดับประเทศและระดับภูมิภาครวม 7 รางวัล จากการบริการทางการเงินที่โดดเด่นและหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทย

นายพิศาล ขัตติโยทัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Investment Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลที่ครอบคลุมความสำเร็จด้านตราสารหนี้ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในตลาดการเงินในปีนี้ รางวัลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของธนาคารในการนำเสนอโซลูชันทางการเงิน และบริการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้ออกตราสารหนี้ ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่  ธนาคารมีองค์ความรู้ มีความสามารถในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ มีความเชี่ยวชาญ และสามารถนำเสนอวิธีการระดมทุนด้วยการกู้ยืม (debt financing) รวมถึงโซลูชันในการระดมทุนต่างๆที่มีประสิทธิภาพ พร้อมตอบสนองต่อความต้องการในการระดมทุนของลูกค้า เรายืนหยัดที่จะสนับสนุนการให้บริการและโซลูชันทางการเงินที่มีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการสร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับลูกค้า เพื่อผลักดันให้ลูกค้าของเราเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จและเป็นไปตามแผนการเติบโตในอนาคต” 

จากผลงานในปี 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยคว้า 4 รางวัลอันทรงเกียรติจากองค์กรในตลาดทุนระดับประเทศ และนิตยสารทางเงินชั้นนำระดับนานาชาติจากบทบาทอันโดดเด่นในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้แต่เพียงรายเดียวสำหรับการออกหุ้นกู้ขนาดใหญ่ 2 รายการ ได้แก่

  • Best Sustainability-Linked Bond Thailand จากนิตยสาร The Asset และBest Corporate ESG Bond of the Year in Thailand จากสมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) จากการจำหน่ายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ชุด ที่มูลค่าเสนอขายรวม 1,000 ล้านบาท ถือเป็นหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มที่มีธุรกิจทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงานของประเทศไทย
  • Best Corporate Bond - Thailand by The Asset และBest Property Deal in Southeast Asia จากนิตยสาร Finance Asia – จากการจำหน่ายหุ้นกู้ของ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มหาชน (จำกัด) จำนวน 2 ชุด ที่มูลค่าการเสนอขายรวม 8,000 ล้านบาท ถือเป็นธุรกรรมการออกหุ้นกู้ขนาดใหญ่ที่สุดของธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปี 2566

นอกจากนี้ยูโอบีได้รับรางวัลจาการนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในด้านตราสารหนี้รวมอีก 3 รางวัล ประกอบด้วย   Best New Bond – Thailand จากนิตยสารThe Asset กับ Best Inaugural Bond Deal in Southeast Asia และ Best Local Currency Bond Deal of the Year in Thailand  จากนิตยสาร The Alpha Southeast Asia จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ร่วมของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ที่มีมูลค่าการเสนอขายรวม 15,000 ล้านบาท และ Best Bond Deal for Retail Investor in Southeast Asia จากนิตยสาร The Alpha Southeast Asia จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ร่วมของบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ที่มีมูลค่าการเสนอขายรวม 31,500 ล้านบาท   

Page 1 of 9
X

Right Click

No right click