บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ออกแสดงบูธในงาน “Thailand Mega Fair 2023” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 16 ธันวาคม 2566 ณ ดิ อารีนา ริยาด กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชนไทยจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวม 30 ราย นำโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสด้านการค้า และการลงทุน ระหว่างไทยและซาอุดิอาระเบีย

BDMS ได้ออกบูธแสดงสินค้าร่วมกับโรงพยาบาลในเครือ ฯ ที่มีความพร้อมรองรับกลุ่มลูกค้าจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ BDMS Wellness Clinic พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมบริการด้านสุขภาพและความเป็นเลิศทางการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ดร. มาจิด บิน อับดุลลาห์ อัลกัสซาบี (H.E. Dr. Majid bin Abdullah Alkassabi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าเยี่ยมชม โดยมี นายบุรณัชย์ ลิมจิตติ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ส่วนการตลาดต่างประเทศ โฆษณาและประชาสัมพันธ์ BDMS ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ BDMS ในฐานะที่เป็น Trusted Healthcare Partner หลักของงาน ได้จัดสัมมนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “Wellness Tourism in Thailand” โดย นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานกรรมการผู้บริหาร BDMS Wellness Clinic และ BDMS Wellness Resort และหัวข้อ “Wellness on Holiday” โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ จีรี ดโวชัค ที่ปรึกษาของคลินิกดูแลกล้ามเนื้อและศูนย์ฟื้นฟู BDMS Wellness Clinic เพื่อตอกย้ำศักยภาพด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยให้กับบรรดานักธุรกิจที่เข้าร่วมงาน โดยได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค อีกทั้งยังเน้นย้ำการท่องเที่ยวเพื่อเชิงสุขภาพในประเทศไทย และการใช้วันหยุดพักผ่อนเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ที่ปัจจุบันหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้นด้วย

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอยู่ใน 5 อันดับแรกของโลก ประกอบด้วย 6 กลุ่มโรงพยาบาลหลัก ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล (ประเทศกัมพูชา) บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจด้าน Healthcare แบบครบวงจร อาทิ บริษัท N Health ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ทางการแพทย์ บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด ผู้ผลิตยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โรงงานผลิตยาและเวชภัณฑ์ ANB และร้านขายยา Save Drug เป็นต้น

30 พฤศจิกายน 2566 - บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด มหาชน หรือ BDMS คว้ารางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย” ประจำปี 2566 (Kincentric Best Employer Thailand 2023) พร้อมได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำที่สร้างความผูกพันในองค์กร ประจำปี 2566 (Kincentric Thailand's Engaging Leaders Special Recognition 2023) จัดโดย บริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลชั้นนำระดับโลก ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนี้ แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ดร. ดวงใจ สินธุสังข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการบริหารทรัพยากรบุคคลกลาง BDMS และ แพทย์หญิงเมธินี ไหมแพง ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 BDMS และผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ ร่วมพิธีมอบรางวัล ฯ ในงาน Kincentric Best Employers Learning Conference 2023 ณ ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

รางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2566” เป็นเครื่องยืนยันว่า BDMS ให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลพนักงาน อีกทั้งยังมีการพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ของ BDMS ในการบริหารจัดการองค์กรที่พัฒนาสู่ความยั่งยืน ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการบริหารธุรกิจ นโยบายด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนให้องค์กร อันจะแสดงให้เห็นถึงองค์กรที่มีการบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพ และการดำเนินงานธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ

นอกจากนั้น รางวัลพิเศษด้านการเป็นผู้นำที่สร้างความผูกพันในองค์กร ประจำปี 2566 (Kincentric Thailand's Engaging Leaders Special Recognition 2023) ยังสะท้อนว่าองค์กรสามารถทำให้พนักงานเห็นภาพทิศทางที่จะขับเคลื่อนไปในอนาคต สื่อสาร และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงมีส่วนร่วมในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานส่งต่อการบริการที่ดีต่อไป

 

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการดำเนินธุรกิจ BDMS ให้ความสำคัญกับการดูแลและเอาใจใส่พนักงาน ให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพและทักษะในวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานสามารถส่งต่อการดูแลเอาใจใส่เหล่านี้ไปยังผู้รับบริการอย่างเข้าอกเข้าใจและมีประสิทธิภาพ ในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจด้านสุขภาพและการแพทย์อย่างครบวงจร BDMS ตระหนักอยู่เสมอว่าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วนล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนให้องค์กรให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ BDMS จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำองค์กร อีกทั้งยังได้บรรจุให้ People Strategy เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่ายังไม่มีเครื่องมือ ไม่มี AI หรือเทคโนโลยีใหม่ใด ๆ ที่จะมาทดแทนพลังบุคลากรของเราได้ และ BDMS จะดูแลพนักงานของเราอย่างดีที่สุด”

ในโอกาสนี้ แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ยังได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Culminating Courageous Leaders to Realign People-Centric Commitment” หรือสุดยอดผู้นำที่ต้องปรับตัวจากการเป็นผู้สั่งการไปเป็นผู้สนับสนุน เพื่อให้พนักงานในองค์กรรู้จักถึงพลังในตัวเอง

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ อธิบายถึงแนวคิดในฐานะผู้บริหารว่าการบริหารงานของ BDMS ผู้บริหารทุกกลุ่มจะให้ความสำคัญกับพนักงานทุกส่วน และทำให้การสื่อสารเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนจะต้องเชื่อมั่นในแนวคิด และให้โอกาสพนักงานทุกระดับชั้น เนื่องจากผู้บริหารอาจไม่ทราบถึงปัญหา และข้อเท็จจริงดีเท่ากับพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ซึ่งจะเห็นถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบัน คนรุ่นใหม่นั้นมีศักยภาพในการเรียนรู้มากกว่าอดีต บางท่านมีความสามารถและต้องการโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดทางความคิด ซึ่งหลายไอเดียสามารถนำมาปรับใช้ได้จริงภายในองค์กร ตราบใดที่ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการสื่อสารต่อพนักงาน กระบวนการนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และอยากมีส่วนร่วม (Engagement) กับองค์กรของตัวเองมากยิ่งขึ้น

BDMS เปิดแผนใหญ่ส่งท้ายปี ส่งแอปพลิเคชัน BeDee แอปสุขภาพครบวงจรเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่ต้องการดูแลสุขภาพและพบแพทย์แบบทันท่วงที ดูแลตั้งแต่ยังไม่มีอาการป่วย จนถึงช่วงการรักษา ในรูปแบบ Holistic ครบครัน สะดวกสบาย ในแอปเดียว ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น No.1 Digital Healthcare Ecosystem มุ่งเจาะตลาด 10% ของผู้ใช้งาน Digihealth ที่มีอยู่ 26 ล้านคนทันที หลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม 2566

พันตรี สมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เฮลท์ พลาซ่า จำกัด ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยว่า หลังการระบาดของโรคโควิด 19 วงการ Healthcare มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน มีความต้องการดูแลสุขภาพแบบทันท่วงทีมากขึ้น ต้องการพบแพทย์แบบทันท่วงทีมากขึ้นโดยไม่ต้องรอให้มีอาการป่วยหรือเป็นโรคต่างๆ ดังนั้นใน BDMS ในฐานะที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือกว่า 58 แห่ง และบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเปาโล, BDMS Wellness Clinic, ร้านขายยา Save Drug และศูนย์แลป N Health เป็นต้น จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยเข้าถึง Healthcare คุณภาพจากเครือ BDMS ซึ่งตอบโจทย์ได้ในหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่, คนรักสุขภาพ, ผู้ป่วยโรคทั่วไปและเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวและกลุ่มที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย

หนึ่งในเป้าหมายของ BDMS ที่เปิดแอปพลิเคชัน BeDee เพื่อหวังเจาะเข้าถึงผู้ใช้งานด้าน Wellness ที่ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่คนที่ยังไม่ป่วยจนถึงป่วยแล้วด้วย 3 บริการหลักในแอปเดียว คือ 1.Teleconsultation ให้บริการปรึกษาอาการป่วยจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 สาขาจากเครือ BDMS ที่พร้อมให้คำแนะนำและรักษาอาการป่วยผ่านแอป โดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 240 บาท ในช่วงเปิดตัว 2.Telepharmacy ให้บริการปรึกษาเรื่องยากับเภสัชกรฟรี ในส่วนของยาสามัญทั่วไป (Over-the-Counter Drugs) ยาเฉพาะทาง หรือยาที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์พร้อม

จัดส่งด่วนถึงบ้าน 3. Health Mall ศูนย์รวมสินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค นอกจากบริการหลักที่ช่วยดูแลด้านสุขภาพ แอป BeDee ยังเตรียมเปิดบริการเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้อีก 3 บริการ Health Content, Health Check up และ Health Package ซึ่งจะให้บริการแบบ Holistic เป็น One Stop Service ที่ให้การดูแลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โภชนาการ การออกกำลังกาย และอีกหลายด้าน ทั้ง Curative และ Preventive ซึ่ง BeDee ถือเป็นแอปเจ้าแรกในเมืองไทยที่ให้บริการได้ครบวงจรและรอบด้านที่สุด ภายใต้มาตรฐานระดับสูงจากเครือ BDMS และยังมีบริการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งดูแลได้ตั้งแต่ก่อนเกิดโรค ด้วยแนวคิดเชิง Preventive Healthcare แบบไม่ต้องรอให้ป่วยถึงค่อยมาหาหมอ BeDee จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยให้เรื่องสุขภาพของคนไทยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ใช้ชีวิตทุกวันในรูปแบบที่ส่งเสริมให้ตัวเองมีสุขภาพดี หรือที่เรียกว่า Live with Wellness

พันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ กล่าวว่า “BDMS ได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เกือบ 1 ปี ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ต.ค. 2566 นี้ ช่วงแรกจะใช้งบทำตลาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท พร้อมอัดรายการโปรโมชันให้ส่วนลดเงินสด 100 บาท แบบไม่มีขั้นต่ำ ใช้ได้กับทุกบริการในแอป เพียงใส่โค้ด BDPR01 ก่อนชำระ ตั้งแต่วันนี้ - 30 พ.ย. 2566 และค่าส่งสินค้าราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชันลดสินค้าสุขภาพ On top เพื่อสร้างการรับรู้และทดลองใช้ แอปพลิเคชัน BeDee ในวงกว้างมากขึ้น ตั้งเป้าช่วงเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2566 มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแอป BeDee เป็นจำนวนมากหรือประมาณ 10% จากจำนวนผู้ใช้งานในตลาด Digihealth ที่มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคนในปัจจุบัน และภายในปี 2568 คาดว่า BeDee จะขึ้นมาครองตลาดอันดับ 1 ในเมืองไทย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ BeDee วางแผนเจาะเข้าไปในทุกตลาดทั้ง B2B B2C และต่อยอดให้บริการลูกค้าของ BDMS ที่มีจำนวนคนไข้นอกต่อวัน (OPD visit per day) มากกว่าสามหมื่นคน เป็นคนไทย 85% นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 15%”

“BDMS จะไม่หยุดพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลาย Milestone ที่จะช่วยขยาย service เพื่อให้แอปสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านของ Healthcare Ecosystem และปี 2567 มีเป้าหมายขยายการให้บริการแอปพลิเคชัน BeDee ไปสู่ประเทศในแถบเอเซียด้วย เพราะมีฐานลูกค้าของ BDMS อยู่เป็นจำนวนมากในหลาย ๆ ประเทศแถบเอเชีย และทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ 2 แห่งอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งยังไม่รวมคู่ค้าที่เป็นโรงพยาบาล และคลินิกอีกเป็นจำนวนมาก” พันตรี สมิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

3 พันธมิตร “ทีเอ็มบีธนชาต - พรูเด็นเชียล ประเทศไทย - BDMS” ผนึกกำลังเปิดตัว “ประกันกองกลาง สำหรับครอบครัวทุกรูปแบบ” ครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพที่สามารถแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าใครจะป่วย ก็สามารถเคลมจากวงเงินกองกลางได้ ตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้า ฉบับเดียวเหมาจบ เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง แชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 5 ท่าน ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามแผนที่ต้องการ เพื่อสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อดูแลสุขภาพของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าอายุยังน้อย อยู่ในครอบครัวที่เคยมีประสบการณ์การรักษาที่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองเป็นจำนวนมากเนื่องจากไม่ครอบคลุม จึงต้องวางแผนซื้อประกันล่วงหน้าเพราะไม่อยากเจอปัญหาเรื่องค่ารักษาอีก แต่สุดท้ายไม่ได้เคลม ก็เหมือนเป็นการจ่ายเบี้ยประกันทิ้ง หรือสำหรับคนที่เริ่มมีอายุ เมื่อรู้สึกว่าต้องซื้อ แต่ก็สายเกินไป เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพโดยไม่รู้ตัว  หรือสำหรับการเลือกซื้อประกันสุขภาพให้คนในครอบครัวที่คาดว่าจะมีการใช้ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ เพราะคนที่ไม่ได้ซื้อกลับต้องใช้ ทำให้รู้สึกว่าขาด ๆ เกิน ๆ  อยากจะแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลกันก็ทำไม่ได้

ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้ง 3 พันธมิตร รับรู้จากประสบการณ์ที่ให้บริการ ทั้งด้านการเงินและการรักษาพยาบาล จึงได้ผนึกความร่วมมือเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามปัญหา และสามารถวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ลูกค้าสามารถแชร์ความคุ้มครองกันได้ทั้งครอบครัว โดยเคลมจากวงเงินประกันกองกลางได้ โดยไม่ต้องขอสิทธิ์จากคนในครอบครัว ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก และในอนาคตจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการพาณิชย์ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งหมายที่ต้องการช่วยเหลือคนไทยให้ไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นออกแบบแผนประกันภัยด้านต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับทุกครอบครัว ด้วยเล็งเห็นว่าแต่ละครอบครัว ต่างมีสมาชิกที่ถือกรมธรรม์มากกว่า 1 ฉบับ ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์การดูแลสมาชิกทั้งครอบครัวครบจบในกรมธรรม์เดียว เราจึงได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพจาก “ทีทีบี อีซี่ แคร์ พลัส” มาเป็น “ทีทีบี ประกันเหมาจบ ๆ @BDMS สำหรับครอบครัว” และ “ทีทีบี อีซี่ แคร์ พลัส สำหรับครอบครัว” โดยผนึกกำลังร่วมกับทีเอ็มบีธนชาต และ BDMS ในการออกแบบแผนประกันภัย ที่ให้สมาชิกในครอบครัวสามารถแชร์วงเงินความคุ้มครองสุขภาพกับคนในครอบครัวสูงสุดถึง 5 ท่าน / 1 กรมธรรม์ โดยวงเงินที่แชร์กันนี้ ไม่จำกัดเฉพาะพ่อแม่ลูกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่ผูกพันเสมือนครอบครัว เช่น คู่สมรส ญาติ รวมทั้งคู่ชีวิตที่นิยามถึง LGBTQ+ อีกด้วย เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้จะช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงแผนประกันชีวิตและสุขภาพที่ง่ายขึ้น และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วยความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละครอบครัว”

ผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบถูกพัฒนาผ่านแนวคิด

  1. เน้นลูกค้าที่ต้องการการรักษาพยาบาลแบบพรีเมียมโดยเฉพาะการรักษาในเครือโรงพยาบาล BDMS เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาล BNH โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่ารักษาพยาบาลและยา บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินมายังโรงพยาบาลในเครือ BDMS โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการพิเศษอื่น ๆ  เช่น การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ฟรี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/press-bdms

  1. เน้นลูกค้าทั่วไปที่ไม่เจาะจงโรงพยาบาล

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก  https://www.ttbbank.com/press-fam

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถแชร์ความคุ้มครองได้ดังนี้

  • แชร์กองกลางครอบครัว กรมธรรม์เดียวคุ้มครองทั้งครอบครัวในทุกรูปแบบของครอบครัว (สมาชิกครอบครัว สูงสุด 5 ท่าน)
  • แชร์กองกลางแบบยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนสมาชิกได้ตามความต้องการ
  • แชร์กองกลางที่คุ้มค่าและครอบคลุม ด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย ทั้งค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน โดยให้เลือกแผนได้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท

นายแพทย์ มนต์สรร อัศวนพเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และโครงสร้างราคา บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า BDMS มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพนี้ ทางเครือฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลสุขภาพของคนไทยในทุกช่วงวัยอย่างครบวงจร ความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็นประโยชน์ที่ให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาและดูแลสุขภาพจากแพทย์ผู้ชำนาญการ ณ โรงพยาบาลในเครือ BDMS กว่า 50 แห่งทั่วประเทศได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

BDMS คือ เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในเครือข่ายโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยกลุ่มโรงพยาบาลหลักในเครือข่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ จำนวน 6 กลุ่ม รวม 57 แห่ง ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาล BNH, กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท, กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัลในประเทศกัมพูชา รวมทั้งบีดีเอ็มเอสเวลเนสคลินิก

ทั้งนี้ BDMS กำหนดให้โรงพยาบาลในเครือ 15 แห่งเป็น “ศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ” (Center of Excellence) ครอบคลุม 5 ความเชี่ยวชาญในการรักษา ได้แก่ ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์มะเร็ง ศูนย์หัวใจ และศูนย์อุบัติเหตุ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ยังรวมถึงผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานการให้บริการดูแลสุขภาพ จากสถาบันที่ให้การรับรองมาตรฐานชั้นนำระดับโลกอีกด้วย โดยโรงพยาบาล 11 แห่งจากทั้งหมด 57 แห่งในเครือ BDMS ได้รับการรับรองจาก JCI (Joint Commission International) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการรับรองมาตรฐานการดูแลรักษาทางการแพทย์ระดับสากล โดยเรามุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสามารถดูแลผู้ป่วยได้ทุกช่วงวัยอย่างมืออาชีพเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อประกันกองกลาง สำหรับครอบครัว นอกจากได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าแบบเหมาจ่าย และได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการแล้ว ยังได้รับโปรโมชันสุดพิเศษอีก 3 ต่อ ได้แก่

ต่อที่ 1 : รับเงินคืน 20% ของค่าเบี้ยฯ ปีแรก

ต่อที่ 2 : รับเงินคืนเพิ่มสูงสุด 6% ของค่าเบี้ยฯ ปีแรก ตามค่าเบี้ยฯ ที่ชำระ

ต่อที่ 3 : รับเพิ่มบัตรกำนัลเครือ BDMS มูลค่าสูงสุด 7,500 บาทต่อครอบครัว

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา

  • รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น
  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

BDMS ร่วมกับ วิริยะประกันภัยส่งเสริมสุขภาพคนไทยอีกครั้ง ด้วยการนำศักยภาพมาตรฐานการรักษาพยาบาลในระดับสากลของโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ

Page 2 of 3
X

Right Click

No right click