เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งสำหรับ วันไหว้ครู หรือ พิธีไหว้ครู ซึ่งการจัดพิธีไหว้ครูนั้นถือเป็นการแสดงความเคารพครูอย่างหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นวันพฤหัสบดีแรกของภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษานั้น ๆ ให้เป็นวันไหว้ครู โดยตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จะกำหนดให้พิธีไหว้ครูจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี
วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดย ดร. อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รักษาการอธิการบดี ร่วมสืบสานจัดงาน “มะฮอกกานีงดงาม สืบสานประเพณีไหว้ครู” ประจำปีการศึกษา 2562 ประเพณีไหว้ครูถือเป็นเอกลักษณ์อันดีงามของชาวไทยที่ศิษย์ได้แสดงความเคารพ เทิดทูนคุณครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาความรู้ให้กับศิษย์ด้วยความรัก ความเมตตา และด้วยความปรารถนาดี ครูบาอาจารย์จึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญที่จะทำให้ศิษย์เรียนจนสำเร็จการศึกษาได้ การไหว้ครูจึงเป็นเสมือนการแสดงความกตัญญู กตเวทิตาคุณ ต่อครูผู้มีพระคุณ
โดยในพิธีเริ่มด้วยนักศึกษานำพานพุ่มดอกไม้มอบให้คณาจารย์ ตามด้วยการมอบประกาศนียบัตรให้กับนักศึกษาที่มีผลการเรียนสูงสุดในแต่ละสาขาของแต่ละชั้นปี นักศึกษาผู้ได้รับทุนการศึกษา นักศึกษาที่สร้างชื่อเสียงให้กับวิทยาลัย และคณะกรรมการสโมสรนักศึกษา เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักศึกษา ให้เกิดความพากเพียรทั้งในด้านการเรียน ด้านกิจกรรม และการแข่งขันที่สร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันต่อไป
วิทยาลัยดุสิตธานี และโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ ร่วมกันจัดงาน “กีฬาสานสัมพันธ์ DTC & DPSB” เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของพนักงาน และเสริมสร้างความสามัคคีในระหว่างองค์กร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดย ดร. อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร (ยืนที่ 7 จากซ้าย) รักษาการอธิการบดี และโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ นำโดย คุณสุปราณี ธรรมปราณี (ยืนที่ 8 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการ ร่วมกันเป็นประธานในการเปิดงาน “กีฬาสานสัมพันธ์ DTC & DPSB” วัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีของพนักงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ให้มีความสามัคคีในการทำงานร่วมกันเป็นทีมระหว่างพนักงานของทั้งสององค์กร
ดุสิตธานี ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนชั้นนำที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ประจำปี 2561 จากสถาบันไทยพัฒน์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 683 แห่ง ขณะที่ผู้บริหารระบุ “ดุสิตธานี” พร้อมสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งการลงทุนในธุรกิจอาหารและการเปิดตัวโรงแรมใหม่ภายใต้แบรนด์ “อาศัย”
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ “ดุสิตธานี” ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ประจำปี 2561 จากสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งได้ดำเนินการประเมินบริษัทจดทะเบียนจากการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศจำนวน 683 แห่ง และบริษัทฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากเนื่องจากในปีนี้ ดุสิตธานีได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับ ESG 100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 หรือนับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นปีแรกที่สถาบันไทยพัฒน์ดำเนินการจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ การเก็บข้อมูลของสถาบันไทยพัฒน์ จะอ้างอิงจากเอกสารรายงานที่บริษัทจดทะเบียนเผยแพร่ไว้ต่อสาธารณะในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีหรือแบบ 56-1 รวมทั้งในรายงานประจำปี รายงานแห่งความยั่งยืน ตลอดจนข้อมูลผลการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท จากแหล่งข้อมูล 6 แหล่ง รวมจำนวนกว่า 12,648 จุดข้อมูล ก่อนจะทำการคัดเลือกบริษัทที่โดดเด่นจำนวน 100 บริษัทแยกตามหมวดอุตสาหกรรม โดย บมจ.ดุสิตธานี ได้รับคัดเลือกในหมวตอุตสาหกรรมบริการ
“การได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับ ESG 100 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของดุสิตธานี ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบที่เราวางไว้ 3 แนวทาง นั่นคือ การสร้างความสมดุลให้กับธุรกิจ การกระจายความเสี่ยง และการสร้างเป้าหมายในการเติบโต ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อจะสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ที่ผ่านมา เราสามารถเดินตามแผนการขยายการลงทุนได้ตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายไปสู่ธุรกิจอาหารด้วยการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด เพื่อลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (NRIP)
รวมทั้งการเปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ “อาศัย” หรือ ASAI เพื่อตอบโจทย์การขยายตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่ครึ่งหลังของปีนี้ จากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในส่วนของการท่องเที่ยวและบริการ ทำให้เชื่อว่า ดุสิตธานีจะมองเห็นโอกาสใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น” นางศุภจีกล่าว
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศขยายระยะเวลาการเปิดให้บริการของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ไปตลอดปี 2561 โดยจะให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น. เลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 16 เมษายน 2561 ระบุเพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้เวลากับการลงรายละเอียดของการออกแบบและพัฒนาโครงการ Mixed-Use หรืออสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมได้อย่างเต็มที่
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ตามที่ ดุสิตธานี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์-ยู (Mixed-Use Development) นั้น
หลังจากได้พิจารณาปัจจัยแวดล้อม และพิจารณาถึงความสำคัญในการให้เวลากับการลงรายละเอียดทั้งการออกแบบและการพัฒนาโครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จึงตัดสินใจเลื่อนการปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ออกไปจากกำหนดเดิม เป็นให้บริการวันสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 14.00 น.
ดังนั้น ในปี 2561 นี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะยังคงเปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมโครงการนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาท
นับว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มดุสิตธานี ที่ต้องการจะพัฒนาและยกระดับพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมที่ประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยในส่วนของโรงแรม คือ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่นั่นเอง
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล วางแผนที่จะสร้างโครงการนี้ ให้มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ เหมือนดังเช่นที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เคยสร้างประวัติศาสตร์ไว้เมื่อ 48 ปีที่แล้ว ด้วยการยกระดับโครงสร้างของโครงการให้สามารถอำนวยความสะดวกและบรรเทาการจราจรบริเวณนี้
รวมถึงสร้างโอกาสและความเชื่อมโยงทางธุรกิจมาสู่ชุมชน เพื่อให้โครงการนี้ เป็นตัวแทนของกลุ่มธุรกิจไทยที่จะเผยแพร่ชื่อเสียงและวัฒนธรรมไทย และยกระดับแบรนด์ไทยไปสู่ตลาดโลก
“ตั้งแต่ที่เราประกาศการเรื่องโครงการนี้ไปเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว เราก็ได้รับเสียงตอบรับและความคิดเห็นที่เป็นบวกมากมายจากลูกค้า ในขณะเดียวกัน ลูกค้าเองก็แสดงออกถึงความเสียดายและยังสอบถามมาว่า เรามีแผนการที่จะนำเอกลักษณ์และความโดดเด่นของโรงแรมในปัจจุบันไปสู่โรงแรมแห่งใหม่ได้อย่างไร
จุดนี้เองที่เราทำให้ตัดสินใจให้เวลากับการออกแบบโครงการให้มากขึ้น เนื่องจากเราต้องทำด้วยความรอบคอบ ใส่ใจ และพิถีพิถันในรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้การออกแบบโครงการนี้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านงานอนุรักษ์และการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำพื้นที่สีเขียวรอบโครงการเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวของสวนลุมพินี การเชื่อมจราจรทุกระนาบไม่ว่าจะเป็นใต้ดิน บนดิน หรือลอยฟ้า เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นในย่านนี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเชื่อด้วยว่า การขยายระยะเวลาออกไปยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีโอกาสมาสัมผัสกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมายที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ได้เตรียมไว้ต้อนรับลูกค้าและแขกผู้เข้าพักตลอดทั้งปี เพื่อเป็นการส่งท้ายโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ก่อนจะเข้าสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่อีกด้วย