บริษัท ดาว ประเทศไทย ( Dow) ได้จัดงาน in-cosmetic asia ซึ่งเป็นงานแสดงด้านส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พร้อมเปิดตัว 7 นวัตกรรมที่ผ่านการวิจัย และพัฒนาเพื่อมุ่งตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนความพร้อมแนะนำสู่ตลาดผู้ผลิตเครื่องสำอางค์  โดยปีนี้ มีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมความงามเข้าร่วมงานมากกว่า  500 ราย โดยประกอบด้วยกลุ่มผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ และผู้สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ให้ความสนใจและมาร่วมงาน ณ ไบเทค บางนา

จิรวเรศ พึ่งสุจริต ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ Home & Personal Care, Dow Consumer Solutions ASEAN, and Australia & New Zealand กล่าวถึงภาพรวมของนวัตกรรมที่ดาวนำมาเปิดตัวในครั้งนี้ว่า “นโยบายหลักของ Dow คือสร้างการเติบโตทางธุรกิจและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม และการร่วมมือกับคู่ค้า ลูกค้า โดยแนวโน้มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะต้องมีความยั่งยืนและมาจากธรรมชาติมากขึ้น โดยในปี 2022 นี้ Dow ได้ออกผลิตภัณฑ์เป็นนวัตกรรมใหม่ 7 ตัว ซึ่งแต่ละตัวเป็น Bio Base หรือสารตั้งต้นจากธรรมชาติ และสามารถย่อยสลายได้หลังใช้โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม”

กลยุทธ์นี้สอดคล้องกับกระแสของโลกในปัจจุบันโดยสถาบันวิจัยชื่อดังของอเมริกาที่คาดการณ์ว่าการเติบโตของตลาดในกลุ่มของ Natural Cosmetic กำลังกลายมาเป็นเทรนด์อับดับหนึ่งของโลก ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 5.2 % เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องสำอางทั่วไปที่โตเพียงปีละ 3-4 % และผลวิจัยยังระบุว่า 56 % ของผู้บริโภคยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ โดยคาดว่าในปี 2030 ตลาด Natural Cosmetic จะเติบโตเกินครึ่งหนึ่งของตลาด รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคจะหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สำหรับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ Dow ที่นำมาเสนอในงาน in-cosmetic asia  อาทิ

• MaizeCare™ Clarity Polymer สารจัดแต่งทรงผม ผลิตจากแป้งข้าวโพด non GMO ที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจุดเด่นคือช่วยให้การจัดแต่งผมที่เงางาม จัดทรงได้ง่ายไม่เหนียวแหนะหนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังผ่านกระบวนการผลิตที่ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการหาส่วนผสมใหม่ที่มาแทนโพลิเมอร์สังเคราะห์เดิมในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่รักสิ่งแวดล้อมเพราะสามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้ ล่าสุด MaizeCare™ Clarity Polymer ได้รับรางวัลระดับโลกถึง 2 รางวัลคือรางวัล 2022 R&D 100 Awards และได้รับเสนอชื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์นวัตกรรมใหม่เพื่อความยั่งยืนแห่งปี ในโครงการ 2022 Sustainability Awards ของ The Business Intelligence Group (BIG™)

• EcoSmooth™ Rice Husk เป็นซิลิก้าผงสีขาว ซึ่งได้จากการ upcycle เปลือกข้าวจากแหล่งธรรมชาติที่เป็นข้าว non GMO ผงซิลิกาสีขาวนี้เมื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแป้งแต่งหน้าหรือ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จะช่วยให้ผิวเนียน ปกปิดจุดด่างดำและรูขุมขน อีกทั้งช่วยให้ผิวลื่นสบาย

• DEXCARE™ CD-1 Polymer ตัวช่วยให้ สารบำรุง conditioning agent (silicones or natural oils) ในแชมพูและครีมอาบน้ำเคลือบบนผมหรือผิวได้ดีขึ้น ผมหวีง่าย เส้นผมไม่พันกัน นอกจากนี้ยังมาจากธรรมชาติ เป็น by product ที่ได้จากการผลิตน้ำตาล และมาผ่านกระบวนการ bio fermentation ที่ low carbon footprint เมื่อล้างออกสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ไม่มีสารพิษตกค้าง

• EcoSmooth™ Universal Fluid 1100 เป็นสารที่ Dow นำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่ใช้เติมลงในสูตรเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันและได้ผลิตภัณฑ์ที่ให้เนื้อสัมผัสที่ดี ใช้กับสูตร color cosmetics, skincare, hair care, and deodorant ทำมาจาก upcycled plant-based ที่เหลือจากกระบวนการเก็บเกี่ยวข้าวโพดและอ้อย เมื่อล้างออกสามารถย่อยสลายได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

• SunSpheres™ BIO SPF Booster สารเพิ่มประสิทธิภาพครีมกันแดดสูตร bio-base ทำให้ค่า SPF สูงขึ้น และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายทางชีวภาพได้อย่างรวดเร็ว เป็นมิตรกับท้องทะเลและปะการัง เหมาะสำหรับครีมกันแดดรุ่นใหม่ที่ใส่ใจชีวิตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การันตีคุณภาพด้วยรางวัลชั้นนำระดับโลก อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนประจำปี พ.ศ. 2563 จากรางวัลความยั่งยืนของ Business Intelligence Group (BIG) และได้รับรางวัลเหรียญเงินจาก In-cosmetics Global Award 2020

และปีนี้ Dow ยังเสนอแนวคิด ECOllaboration จากคำว่า Eco และ Collaboration โดย Eco คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีส่วนประกอบที่มาจากธรรมชาติ มากกว่า 90% และ Collaboration คือการร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค โดย Dow ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบรวมทั้งส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ Dow ยังวาง positioning เป็น “คู่คิด” ที่จะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์ หรือผู้สนใจจะสร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง ตั้งแต่ต้นทางไปจนสามารถแข่งขันในตลาดได้ 

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิดเป็นตัว disruption ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเจ้าของแบรนด์จะต้องปรับตัวให้ทันและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต คือวัตถุดิบที่จะนำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จะต้องมีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อหาจุดแข็งของตัวเอง โดยมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรงใจลูกค้า อีกทั้งควรนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำตลาดและการเข้าถึงผู้บริโภค” จิรวเรศกล่าวแนะนำทิ้งท้าย

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ระยอง – 26 ตุลาคม 2565 - กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “Dow ชวนเที่ยว ป่าชายเลนระยอง” ภายใต้โครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance เชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมถ่ายทอดความงดงามของป่าชายเลนต่าง ๆ ในจังหวัดระยองให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายผ่านภาพถ่าย ชิงรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณรวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลทั่วไป และภาพถ่ายมุมสูงจากโดรน (ติดต่อขออนุญาตล่วงหน้าจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 โทร. 038-020-070) หวังสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพิทักษ์ป่าชายเลนซึ่งช่วยต้านโลกร้อนและลดขยะทะเล ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้โดยสแกน QR Code หรือติดต่อคุณดวงสิทธิ์ ประดิษฐค่าย โทร. 090-9623193 อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 ธันวาคม 2565 และติดตามการประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลทาง Dow Thailand Facebook ในเดือนธันวาคมนี้

 โครงงาน “ผลของวัสดุครอบต่อการกระตุ้นการสร้างท่อเข้ารังของชันโรงดินเพื่อการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์” ของโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ได้รับรางวัลชนะเลิศ Special Award for Prime Minister’s Science Award 2022 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งประยุกต์ใช้องค์ความรู้วิทยาศาสตร์ในการต่อยอดเกษตรอินทรีย์ในท้องถิ่น ช่วยให้ชุมชนเข้าถึงนวัตกรรมได้ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีนางสาวกาญจนา อุ่นอารมณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมและประกันคุณภาพ และศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) มอบรางวัลทุนการศึกษาจำนวน 30,000 บาท ให้ทีมชนะเลิศในงานซึ่งจัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ณ ห้องแสงเดือน แสงเทียน ชั้น 2 อาคารพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. คลองห้า ปทุมธานี

ชันโรงดิน (Tetragonilla collina) เป็นผึ้งจิ๋วที่ทำรังและอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดิน โดยสร้างปากทางเข้ารังเป็นท่อกลมยาวจากยางไม้หรือยางชันที่มีสมบัติเป็นพรอพอลิสซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย โครงงานจึงได้ศึกษาผลของวัสดุที่นำมาใช้ครอบปากทางเข้ารังของชันโรงต่อการกระตุ้นการสร้างท่อเข้ารังของชันโรง ศึกษาและเปรียบเทียบสมบัติของยางชัน โดยใช้กระถางพลาสติกโปร่งแสง กระถางพลาสติกทึบแสง และกระถางดินเผาเป็นวัสดุครอบ พบว่ากระถางดินเผาที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร ความสูงของกระถาง 20 เซนติเมตร มีความเหมาะสมที่สุดในการปกป้องชันโรง และให้ปริมาณพรอพอลิสมากที่สุด และยังพบว่าพรอพอลิสที่ได้มีคุณสมบัติการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราเขียวมากกว่าท่อเข้ารังธรรมชาติ

พรอพอลิสจากธรรมชาติที่ได้สามารถนำไปใช้แทนแว็กซ์เคมีที่ใช้เคลือบผลส้มเพื่อเพิ่มความเงางาม จึงปลอดภัยกับผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อรายได้ในชุมชนและเป็นแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากชันโรงดินอย่างยั่งยืนตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG

 

 

10 ตุลาคม 2565 - กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตร เปิดรับสมัครผู้ท้าชิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1-ม.6 หรือเทียบเท่า ร่วมสร้างทีมจำนวน 4-10 คน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ FIRST® Tech Challenge Thailand ครั้งที่ 4 มุ่งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ STEM Education พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา การออกแบบ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพิชิตภารกิจในหัวข้อ “#FIRSTENERGIZE #POWERPLAY” ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2565 ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สหรัฐอเมริกา ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถดูรายละเอียดการสมัครได้ที่ www.ftcthailand.org/start-a-team/

 

ทั้งนี้ โครงการปิดรับสมัครวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขันได้ที่www.ftcthailand.org/ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Inbox ของ www.facebook.com/FIRSTTechChallengeTHAILAND

Page 6 of 7
X

Right Click

No right click