การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 จำนวน 5 สายทาง ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ของประชาชน ดังนี้

วันพุธที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 24.00 น. รวม 7 วัน ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของ

- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี)

- ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี–สุขสวัสดิ์)

วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 เวลา 00.01 น. ถึงวันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2566 เวลา 24.00 น. รวม 3 วัน ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของ

- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่าน

- ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน

- ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน

ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีโดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษได้อีกด้วย

นอกจากนี้ กทพ. ยังได้จัดตั้งหน่วยบริการประชาชน โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด และหน่วยงานเอกชนที่ให้การสนับสนุน เพื่อบริการประชาชนที่ใช้ทางพิเศษ  ในการเดินทางเข้า - ออก กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 จุด ดังนี้ ด่านฯ ขาออกเมือง (วันที่ 11 - 14 เมษายน 2566) ที่ด่านฯ บางแก้ว 1 ด่านฯ ฉิมพลี  ด่านฯ บางปะอิน (ขาออก)  เวลา 07.00 – 21.00 น. และด่านฯ ขาเข้าเมือง (วันที่ 15 - 17 เมษายน 2566) ที่ด่านฯ บางนา ด่านฯ จตุโชติ และด่านฯ บางปะอิน (ขาเข้า) เวลา 07.00 – 21.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 นอกจากนี้ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถดาวน์โหลด Application "EXAT Portal" เพื่อตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและการใช้บัตร Easy Pass รับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ และขอเชิญชวนผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ลงทะเบียนปรับปรุงข้อมูลด้วยตนเองทาง EXAT Portal Application หรือ www.thaieasypass.com เพื่อยกระดับบัตร Easy Pass เป็น Easy Pass Plus เตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) พร้อมทั้งรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม“Easy Pass Plus อัปเดทปั๊บ...ลุ้นรับโชค” ลุ้นขึ้นทางด่วนฟรี ถึง 3 ปี อีกด้วย

จากการที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จัดกิจกรรมชิงโชคแคมเปญ “Easy Pass Plus อัปเดตปั๊บ…ลุ้นรับโชค” ลุ้นขึ้นทางด่วนฟรี ถึง 3 ปี สำหรับผู้ใช้รถ และใช้บริการทางพิเศษที่ชำระค่าผ่านทางด้วยบัตร Easy Pass

ผู้ใช้บัตร Easy Pass สามารถลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมชิงโชค ผ่านช่องทางเวปไซด์ thaieasypass.com และ EXAT Portal Application เริ่มวันที่ 1 เมษายน ถึง วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นี้ โดยการลงทะเบียนรับสิทธิ์สามารถลงทะเบียน 1 หมายเลขเครื่อง OBU ต่อ 1 สิทธิ์ ผู้มีสิทธิ์จะต้องเป็นผู้ที่ใช้บริการทางพิเศษที่ชำระค่าผ่านทางด้วยบัตร Easy Pass และลงทะเบียนปรับปรุงข้อมูลให้เป็นบัตร “Easy Pass Plus +” เพื่อเชื่อมต่อระบบ M-Flow ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม  2565 ถึง 15 พฤษภาคม 2566 และจะต้องเข้าไปกดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ในการเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเวปไซด์ thaieasypass.com และ EXAT Portal Application เพื่อร่วมลุ้นรางวัลขึ้นทางด่วนฟรี ในแคมเปญ “Easy Pass Plus อัปเดตปั๊บ…ลุ้นรับโชค”

โดยของรางวัล คือ บัตรกำนัลเติมเงินในระบบ Easy Pass  รางวัลที่ 1 ใช้ทางพิเศษฟรี 3 ปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 1 รางวัล / รางวัลที่ 2 ใช้ทางพิเศษฟรี 2 ปี แต่ไม่เกิน 70,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 5 รางวัล  / รางวัลที่ 3 ใช้ทางพิเศษฟรี 1 ปี แต่ไม่เกิน 35,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 10 รางวัล / รางวัลที่ 4 ใช้ทางพิเศษฟรี มูลค่า 300 บาท จำนวนทั้งสิ้น 716 รางวัล รวมมูลค่ารางวัลกว่า 1 ล้านบาท จับรางวัลในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลทางเว็บไซต์ www.thaieasypass.com เว็บไซต์ www.exat.co.th และ EXAT Portal Application ในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเร็วๆ นี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคมโดย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงานได้ลงนาม ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding : MOU) ด้านการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา และผลิตบุคลากรทางด้านนวัตกรรมดิจิทัล ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชยกฤต อัศวธิตานนท์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพพล ตั้งจิตพรหม ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมและการแปรรูปทางดิจิทัล ร่วมลงนาม

วิทยาลัยนวัตกรรม เป็นสถาบันการศึกษาด้านนวัตกรรมที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation and Innovation ในระดับประเทศ เป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ที่มีองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ ฉบับนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาความรู้ ของนักศึกษา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์และเข้าใจกระบวนการทำงานของ  กทพ. เพื่อสร้างความร่วมมือและก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรม ด้านดิจิทัล และด้านอื่น ๆ  ที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสถาบันการศึกษาและการดำเนินงานของ กทพ.

ในขณะเดียวกัน ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันจัดทำ Business Model เพื่อให้สามารถสอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผน ITS Next 10 Years ในการรองรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charger Station) ในเขตทางพิเศษ ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับการเดินทางบนทางพิเศษที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ดำเนินการทดสอบปรับเปลี่ยนทิศทางการจราจร

Page 5 of 6
X

Right Click

No right click