×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 7636

เคทีซีทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน เปิดกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 5,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5%

นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส – คอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค เปิดเวทีเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ “KTC FIT Talks 6: เจาะลึก..อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อมาตรฐาน TFRS9 เข้ามา” โดยเชิญ ดร.ศุภมิตร  เตชะมนตรีกุล  หุ้นส่วนสำนักงานด้านการสอบบัญชี บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เมื่อมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (Thai Financial Reporting Standards: TFRS 9) เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 และการรับมือของสถาบันการเงินไทย ความเปลี่ยนแปลง ความเสี่ยงและผลกระทบที่เกี่ยวข้อง โดยคุณชุติเดชได้ยืนยันว่ามาตรฐาน TFRS9 ทำให้การรายงานตัวเลขทางการเงินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีผลกระทบอย่างใดกับการปฏิบัติงานจริง งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุมใหญ่ “เคทีซี”ชั้น 14 อาคารสมัชชาวาณิช 2 พร้อมออกอากาศสดผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ (Facebook Live) ทางเพจ #KtcCsrClub

 

ดร.ศุภมิตร กล่าวถึงสาระสำคัญของมาตรฐาน TFRS 9 ว่า “TFRS 9 คือ มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : เครื่องมือทางการเงินที่ใช้ลงบัญชีของกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (PAEs: Publicly Accountable Entities) อันได้แก่ บริษัทมหาชน กิจการที่ต้องระดมเงินในวงกว้างโดยการออกตราสารหนี้ ตราสาร ทุน หรือเอกสารแสดงสิทธิ เช่น สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์และกองทุนรวม ฯลฯ รวมถึงกิจการที่กำลังขอจดทะเบียนออกตราสารในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้มีการบังคับใช้มาตรฐาน TFRS9 ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา”  

 

มาตรฐาน TFRS9 ได้ปรับเปลี่ยนหลักการเกี่ยวกับการจัดประเภทและการวัดมูลค่าของเครื่องมือทางการเงิน และการด้อยค่าของเครื่องมือทางการเงิน โดยมีส่วนที่สำคัญคือ การกันเงินสำรองเพื่อรองรับผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากสินทรัพย์และภาระผูกพัน เช่น เงินให้สินเชื่อ เงินลงทุนในตราสารหนี้ สัญญาค้ำประกันทางการเงิน วงเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้ จากแนวคิดเดิมที่กันเงินสำรองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว (Incurred Loss) มาเป็นการกันสำรองเพื่อรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (Expected Loss: EL) เพื่อให้เงินสำรองสะท้อนความเสี่ยงด้านเครดิตตลอดอายุของลูกหนี้ โดยกำหนดให้พิจารณาจากข้อมูลทั้งในอดีต ปัจจุบัน และเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (Forward-looking Information) โดยพิจารณากันเงินสำรองต่างกันตามสถานะหรือชั้น (Stage) ของลูกหนี้

ลูกหนี้ Stage 1 กลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตไม่เปลี่ยนแปลงจากวันแรกของการให้สินเชื่อ ให้กันเงินสำรองเพื่อรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1 ปีข้างหน้า (1-year EL)

ลูกหนี้ Stage 2 กลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ลูกหนี้Stage 3 กลุ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing loan: NPL) ให้กันเงินสำรองรองรับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตลอดอายุของลูกหนี้ (Lifetime EL) ทำให้สถาบันการเงินรับรู้เงินสำรองเร็วขึ้นตามสถานะของลูกหนี้ที่เปลี่ยนแปลงไป และงบการเงินสะท้อนฐานะที่แท้จริงอย่างเป็นปัจจุบัน

“สำหรับงบการเงินจะเปลี่ยนแปลงการแสดงรายการแบบใหม่ ตามแนวทางการจัดประเภทและการวัดมูลค่าที่เปลี่ยนแปลง โดยจะเพิ่มบางรายการ เช่น สินทรัพย์ หนี้สินทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน (Fair value through PL: FVTPL) และงบกำไรขาดทุนจะมีการเปลี่ยนแปลงบางรายการ เช่น กำไร (ขาดทุน) จากการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงินประเภทต่างๆ ผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) หรือกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (Fair Value through Other Comprehensive Income: FVOCI) และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งบการเงินทราบถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจ และวัตถุประสงค์ในการถือครองสินทรัพย์ของกิจการ หากมีวัตถุประสงค์ในการถือครองสินทรัพย์เพื่อมุ่งหวังกำไรระยะสั้น จะรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเข้างบกำไรขาดทุน (FVTPL) แต่หากถือเพื่อมุ่งหวังกระแสเงินสดและขายในอนาคต จะรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเข้างบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (FVOCI) แต่หากถือเพื่อมุ่งหวังเพียงกระแสเงินสดตามสัญญา จะวัดมูลค่าด้วยวิธีราคาทุนตัดจำหน่ายและมีการกันสำรองตามที่กล่าวข้างต้น สำหรับอัตราส่วนทางการเงินบางรายการก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เช่น เงินให้สินเชื่อใน Stage 2 ratio อาจมากกว่า Special Mention (SM) ratio เดิม เนื่องจากขอบเขตการนับลูกหนี้ที่กว้างกว่า ในขณะที่ Net Interest Margin (NIM) อาจกว้างขึ้นแต่ไม่มาก เนื่องจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากส่วนที่คาดว่าจะได้รับคืนของลูกหนี้ NPL”

นายชุติเดช กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับเคทีซีบนมาตรฐาน TFRS 9 ว่า “การนำมาตรฐานบัญชี TFRS9 มาใช้สำหรับงบการเงินเคทีซีที่มีรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไปนั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในการรายงานตัวเลขทางการเงินมากกว่าที่จะเป็นผลกระทบต่อการปฏิบัติงานจริง ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดจะมาจากแนวทางการตัดหนี้สูญที่เข้มข้นกว่ามาตรฐานเดิม โดยรายงานตัวเลขทางการเงินตาม TFRS9 จะแตกต่างไปจากเดิม 5 เรื่องด้วยกัน ดังนี้

  1. การเปลี่ยนแปลงการตัดหนี้สูญ (Write off) กับการบันทึกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) หรือลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระเกินกว่า 90 วัน โดยการตัดหนี้สูญจะทำได้ช้าลง เนื่องจากหนี้สูญที่ตัดออกเพื่อการใช้สิทธิทางภาษี จะยังไม่ถูกตัดออกจากรายงานจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้น หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บนมาตรฐานใหม่ TFRS9 จะเทียบเคียงได้กับ Write off + NPL ตามมาตรฐานเดิม เช่น เดิมบริษัท A ตัดหนี้สูญปีละประมาณ 7-8% คงเหลือ NPL ประมาณ 1% แต่ภายใต้ TFRS9 จะรายงานประมาณ 8-9% ทำให้เห็นว่าตัวเลข NPL ตามมาตรฐานใหม่ดูสูงขึ้น 
  2. การเปลี่ยนแปลงการบันทึก NPL กับตัวชี้วัดสำคัญทางการเงิน ด้วย NPL ที่รายงานภายใต้ TFRS9 มีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราส่วนที่เกี่ยวข้องมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้รวม (Allowance/Port) ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อลูกหนี้ที่อายุเกิน 90 วัน (NPL Coverage)  เช่น ภายใต้มาตรฐานใหม่อัตราส่วนของ Allowance/Port ตามตัวเลขฐานใหม่อาจจะอยู่ประมาณ 9%-11% และ NPL Coverage อาจจะเป็นประมาณ 100%-200% ทั้งนี้ เมื่อมีการนำ TFRS9 มาใช้เต็มรูปแบบ จะทำให้สามารถประมาณการอัตราส่วนดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้น
  3. การเปลี่ยนแปลงการบันทึกรายได้ ภายใต้มาตรฐานใหม่ TFRS9 ที่กำหนดให้บริษัทยังคงต้องรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจาก NPL ไปจนกว่า NPL ดังกล่าวจะถูกตัดเป็นหนี้สูญ แม้ว่าจะอยู่ใน Stage 3 แล้วก็ตาม
  4. การบันทึกกำไรทางบัญชีเพิ่มขึ้น มาตรฐาน TFRS9 กำหนดให้บริษัทต้องตั้งสำรองสำหรับ NPL ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ตามจำนวนที่ได้จากการคำนวณตาม ECL Model (Expected Credit Loss Model) ซึ่งจะไม่ใช่การตั้งสำรองเต็ม 100% เหมือนเดิม และด้วยมาตรฐาน TFRS9 ที่กำหนดไว้ ในกรณีที่มีส่วนต่างของรายได้ดอกเบี้ยและสำรองในส่วนของดอกเบี้ยที่น้อยกว่า 100% ให้รับรู้ผลต่างนั้นในงบกำไรขาดทุนด้วย ซึ่งมีผลให้กำไรทางบัญชีเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยจำนวนของสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เคทีซีมีอยู่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เมื่อได้คำนวณตาม ECL Model แล้ว มีส่วนที่เกินอยู่จำนวนหนึ่ง ฝ่ายจัดการของบริษัทฯ จึงพิจารณา Management Overlay จำนวนหนึ่งเพิ่มเติมตามกำหนดในมาตรฐาน TFRS9 จึงทำให้เมื่อเข้าสู่ TFRS9 จะไม่มีสำรองส่วนเกิน”

เคทีซีมีผลประกอบการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ดังนี้ กำไรสุทธิ 5,524 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 85,834 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็นธุรกิจบัตรเครดิต 2,510,914 บัตร พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 56,653 ล้านบาท NPL รวม 1.06% NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 0.93% ธุรกิจสินเชื่อบุคคลมีจำนวนทั้งสิ้น 888,342 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 28,933 ล้านบาท NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.92%

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักพิมพ์วงกลม และสถานทูตตุรกี เอาใจสมาชิกบัตรนักเดินทาง จัดกิจกรรมเสวนา “ทอล์คถอดรหัสเที่ยวครั้งที่ 8: Turkey Mosaic of Wonders ตุรกีชุมนุมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก” ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ณ “เคทีซี ป๊อป” ชั้น B1 อาคารสมัชชา-วาณิช 2 สุขุมวิท 33 แนะนำข้อมูลท่องเที่ยวตุรกี ดินแดน 2 ทวีป ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ชาวไทย ภายในงานพบกับ 2 นักเดินทางตัวจริง อาจารย์ต้น - คุณากร วาณิชย์วิรุฬห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์โลก และคุณโก๋ - ภทร ภทรภานุ ไชยเชียงของ บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเดินทาง พร้อมเปิดตัวหนังสือคู่มือท่องเที่ยวตุรกี “KTC Guidezine x Wongklom Journey” ฉบับล่าสุด เจาะลึกมุมน่าเที่ยวใน อิสตันบูล และชี้เป้าเมืองรองที่ทรงเสน่ห์ รวมทั้งให้คำปรึกษาการเดินทางท่องเที่ยวตุรกี พร้อมรับสิทธิ์เข้าร่วม Workshop “ร้อยหินร้อยพลังแห่งการเดินทาง" ร้อยหินสีต่างๆ และ หิน Evil's Eye เครื่องรางจากตุรกี สอนโดย ครูชัย ศักดิ์ชัย ศรีวัฒนาปิติกุล นักศิลปะบำบัด พร้อมลิ้มรส Turkish Ice Cream และขนม Turkish Delight โดยสมาชิก เคทีซีสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ “KTC World Travel Service” โทรศัพท์ 02 123 5050 หรือเว็บไซต์ www.ktcworld.co.th

ทั้งนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถสั่งซื้อคู่มือท่องเที่ยวตุรกี KTC Guidezine x Wongklom Journey เล่มล่าสุด ผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/ushop หรือที่ KTC TOUCH ทุกสาขา และหากสนใจเดินทางท่องเที่ยวตุรกีสามารถสำรองบัตรโดยสารและที่พัก หรือปรึกษาการเดินทางได้ที่ “KTC World Travel Service” บริการข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยวสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี โทรศัพท์ 02 123 5050 และเว็บไซต์ www.ktcworld.co.th หรือเฟซบุ๊ค KTC WORLD

 

รองศาสตราจารย์นายแพทย์นริศ กิจณรงค์ (กลางขวา) รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รับมอบเงินบริจาคจำนวน 16,336,546 บาท จากนางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช (กลางซ้าย) ผู้อำนวยการ - ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งสมาชิกบัตรเคทีซีได้ร่วมกันบริจาคผ่านช่องทางต่างๆ ของเคทีซี เพื่อสมทบทุนเข้าศิริราชมูลนิธิในการนำไปช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราชต่อไป ณ ตึกอำนวยการ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆ นี้

 

ทั้งนี้ สมาชิกบัตรเคทีซีที่มีคะแนน KTC FOREVER สามารถร่วมบริจาคเข้าศิริราชมูลนิธิได้ โดยทุกๆ 1,000 คะแนน จะแทนเงินบริจาค 100 บาท และเคทีซีจะร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 100 บาท ทุกๆ การบริจาค 1,000 คะแนน ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2563

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ “สกิลเลน” (SkillLane) แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์สำหรับคนทำงานคุณภาพมากกว่า 500 คอร์ส สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญและสถาบันชั้นนำจากประสบการณ์จริงกว่า 400 ท่าน มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี รับส่วนลด 300 บาททันที พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER เมื่อสมัครคอร์สออนไลน์ผ่าน www.SkillLane.com ครบ 2,000 บาทต่อรายการ โดยระบุรหัสส่วนลด “KTCSKL300” ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 31 มกราคม 2563

“SkillLane (สกิลเลน)” หรือ Digital Learning Platform ชั้นนำของไทย เป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้คนทำงานเข้าถึงความรู้ที่เน้นการพัฒนาทักษะตามความต้องการ (on-demand) เพื่อเพิ่มพูนทักษะการทำงานและการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้เองตามใจแม้จะมีเวลาว่างเพียง 15 นาทีในแต่ละวัน ปัจจุบันมีคอร์สเรียนออนไลน์ครอบคลุมมากกว่า 15 หมวดหมู่ ทั้งหมวดการเงินการลงทุน  หมวดอสังหาริมทรัพย์ หมวดธุรกิจ  หมวดการตลาด  หมวดพัฒนาตนเอง  หมวดภาษา  หมวดคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงหมวดไลฟ์สไตล์ อัดแน่นด้วยอาจารย์ผู้สอนที่เชี่ยวชาญและสถาบันชั้นนำ อาทิ ลูกเกด-เมทินี / อาจารย์อดัม แบรดชอว์ / ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ / กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล / ภาววิทย์ กลิ่นประทุม / หยง-ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ / 2Morrow Group, SCBS, SCG, AIS The StartUp ฯลฯ

นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ากับยอดซื้อต่อรายการ และรับคะแนน KTC FOREVER สูงสุด X12 (คะแนนปกติ 1 เท่า + คะแนนพิเศษสูงสุด 11 เท่า) เพียงใช้จ่ายและลงทะเบียนรับสิทธิที่ www.ktc.co.th/shoponline ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เท่านั้น

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชั่นออนไลน์อื่นๆ ของเคทีซีได้ที่ www.ktc.co.th/shoponline แหล่งรวมโค้ดส่วนลดจากพันธมิตรออนไลน์ที่มากที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/2uPcS19  หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ #สุขสุดคุ้ม กับบัตรเคทีซี

X

Right Click

No right click