
Address : No.689 ,30th Floor Bhiraj [email protected]
Tel. 02 017 2846
[email protected] : @mbamagazine
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (23 - 27 ก.ย.) ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ ปรับลดลง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ จากความกังวลสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ
หลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศถึงกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง และจากข่าวที่สหรัฐฯเตรียมจำกัดการลงทุนในจีน และปลดบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเช่นกัน จากความกังวลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่อ่อนแอ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้น ในเดือน ก.ย.ปรับลดลงอยู่ต่ำสุดในรอบ 75 เดือน อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ลดช่วงลบลง จากแนวโน้มการออกมาตรการด้านการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน ด้านตลาดหุ้นจีน ปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าววิจารณ์จีนในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN) และ ความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ของภาคเอกชนจีน ขณะที่ ราคาน้ำมันปรับลดลง หลังการฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบียรวดเร็วกว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธข่าวที่ว่า สหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่านเพื่อแลกกับการเจรจา
มุมมองของเราในสัปดาห์นี้
ในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ โดยนักลงทุนรอดูความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีน ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถอดถอนบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยระบุว่า ยังไม่มีแผนการดังกล่าวในขณะนี้ สำหรับการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ คาดว่าตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของหลายประเทศ ยังมีแนวโน้มชะลอตัว ทั้งนี้ นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และเจ้าหน้าที่ Fed สาขาต่างๆ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการดำเนินนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย และช่วยสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งจะส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงทองคำ มีแนวโน้มถูกกดดันจากประเด็นดังกล่าว
เหตุการณ์สำคัญ (KEY EVENTS)
ปัจจัยจับตาสัปดาห์นี้
วิเคราะห์โดย: SCB Chief Investment Office