BDMS เปิดแผนใหญ่ส่งท้ายปี ส่งแอปพลิเคชัน BeDee แอปสุขภาพครบวงจรเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่ต้องการดูแลสุขภาพและพบแพทย์แบบทันท่วงที ดูแลตั้งแต่ยังไม่มีอาการป่วย จนถึงช่วงการรักษา ในรูปแบบ Holistic ครบครัน สะดวกสบาย ในแอปเดียว ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น No.1 Digital Healthcare Ecosystem มุ่งเจาะตลาด 10% ของผู้ใช้งาน Digihealth ที่มีอยู่ 26 ล้านคนทันที หลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม 2566

พันตรี สมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เฮลท์ พลาซ่า จำกัด ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยว่า หลังการระบาดของโรคโควิด 19 วงการ Healthcare มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยน มีความต้องการดูแลสุขภาพแบบทันท่วงทีมากขึ้น ต้องการพบแพทย์แบบทันท่วงทีมากขึ้นโดยไม่ต้องรอให้มีอาการป่วยหรือเป็นโรคต่างๆ ดังนั้นใน BDMS ในฐานะที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือกว่า 58 แห่ง และบริการด้านสุขภาพต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเปาโล, BDMS Wellness Clinic, ร้านขายยา Save Drug และศูนย์แลป N Health เป็นต้น จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee ขึ้นมา เพื่อให้คนไทยเข้าถึง Healthcare คุณภาพจากเครือ BDMS ซึ่งตอบโจทย์ได้ในหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่, คนรักสุขภาพ, ผู้ป่วยโรคทั่วไปและเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งนักท่องเที่ยวและกลุ่มที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย

หนึ่งในเป้าหมายของ BDMS ที่เปิดแอปพลิเคชัน BeDee เพื่อหวังเจาะเข้าถึงผู้ใช้งานด้าน Wellness ที่ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่คนที่ยังไม่ป่วยจนถึงป่วยแล้วด้วย 3 บริการหลักในแอปเดียว คือ 1.Teleconsultation ให้บริการปรึกษาอาการป่วยจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 สาขาจากเครือ BDMS ที่พร้อมให้คำแนะนำและรักษาอาการป่วยผ่านแอป โดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง 240 บาท ในช่วงเปิดตัว 2.Telepharmacy ให้บริการปรึกษาเรื่องยากับเภสัชกรฟรี ในส่วนของยาสามัญทั่วไป (Over-the-Counter Drugs) ยาเฉพาะทาง หรือยาที่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์พร้อม

จัดส่งด่วนถึงบ้าน 3. Health Mall ศูนย์รวมสินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้าเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค นอกจากบริการหลักที่ช่วยดูแลด้านสุขภาพ แอป BeDee ยังเตรียมเปิดบริการเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้อีก 3 บริการ Health Content, Health Check up และ Health Package ซึ่งจะให้บริการแบบ Holistic เป็น One Stop Service ที่ให้การดูแลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โภชนาการ การออกกำลังกาย และอีกหลายด้าน ทั้ง Curative และ Preventive ซึ่ง BeDee ถือเป็นแอปเจ้าแรกในเมืองไทยที่ให้บริการได้ครบวงจรและรอบด้านที่สุด ภายใต้มาตรฐานระดับสูงจากเครือ BDMS และยังมีบริการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งดูแลได้ตั้งแต่ก่อนเกิดโรค ด้วยแนวคิดเชิง Preventive Healthcare แบบไม่ต้องรอให้ป่วยถึงค่อยมาหาหมอ BeDee จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยให้เรื่องสุขภาพของคนไทยเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ใช้ชีวิตทุกวันในรูปแบบที่ส่งเสริมให้ตัวเองมีสุขภาพดี หรือที่เรียกว่า Live with Wellness

พันตรีสมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ กล่าวว่า “BDMS ได้ใช้เวลาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เกือบ 1 ปี ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ต.ค. 2566 นี้ ช่วงแรกจะใช้งบทำตลาดไม่น้อยกว่า 25 ล้านบาท พร้อมอัดรายการโปรโมชันให้ส่วนลดเงินสด 100 บาท แบบไม่มีขั้นต่ำ ใช้ได้กับทุกบริการในแอป เพียงใส่โค้ด BDPR01 ก่อนชำระ ตั้งแต่วันนี้ - 30 พ.ย. 2566 และค่าส่งสินค้าราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชันลดสินค้าสุขภาพ On top เพื่อสร้างการรับรู้และทดลองใช้ แอปพลิเคชัน BeDee ในวงกว้างมากขึ้น ตั้งเป้าช่วงเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2566 มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแอป BeDee เป็นจำนวนมากหรือประมาณ 10% จากจำนวนผู้ใช้งานในตลาด Digihealth ที่มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคนในปัจจุบัน และภายในปี 2568 คาดว่า BeDee จะขึ้นมาครองตลาดอันดับ 1 ในเมืองไทย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ BeDee วางแผนเจาะเข้าไปในทุกตลาดทั้ง B2B B2C และต่อยอดให้บริการลูกค้าของ BDMS ที่มีจำนวนคนไข้นอกต่อวัน (OPD visit per day) มากกว่าสามหมื่นคน เป็นคนไทย 85% นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 15%”

“BDMS จะไม่หยุดพัฒนาแอปพลิเคชัน BeDee เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลาย Milestone ที่จะช่วยขยาย service เพื่อให้แอปสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านของ Healthcare Ecosystem และปี 2567 มีเป้าหมายขยายการให้บริการแอปพลิเคชัน BeDee ไปสู่ประเทศในแถบเอเซียด้วย เพราะมีฐานลูกค้าของ BDMS อยู่เป็นจำนวนมากในหลาย ๆ ประเทศแถบเอเชีย และทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ 2 แห่งอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งยังไม่รวมคู่ค้าที่เป็นโรงพยาบาล และคลินิกอีกเป็นจำนวนมาก” พันตรี สมิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

3 พันธมิตร “ทีเอ็มบีธนชาต - พรูเด็นเชียล ประเทศไทย - BDMS” ผนึกกำลังเปิดตัว “ประกันกองกลาง สำหรับครอบครัวทุกรูปแบบ” ครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพที่สามารถแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าใครจะป่วย ก็สามารถเคลมจากวงเงินกองกลางได้ ตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้า ฉบับเดียวเหมาจบ เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง แชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 5 ท่าน ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เพิ่มความอุ่นใจให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้ตามแผนที่ต้องการ เพื่อสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

นายชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อดูแลสุขภาพของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าอายุยังน้อย อยู่ในครอบครัวที่เคยมีประสบการณ์การรักษาที่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองเป็นจำนวนมากเนื่องจากไม่ครอบคลุม จึงต้องวางแผนซื้อประกันล่วงหน้าเพราะไม่อยากเจอปัญหาเรื่องค่ารักษาอีก แต่สุดท้ายไม่ได้เคลม ก็เหมือนเป็นการจ่ายเบี้ยประกันทิ้ง หรือสำหรับคนที่เริ่มมีอายุ เมื่อรู้สึกว่าต้องซื้อ แต่ก็สายเกินไป เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพโดยไม่รู้ตัว  หรือสำหรับการเลือกซื้อประกันสุขภาพให้คนในครอบครัวที่คาดว่าจะมีการใช้ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ เพราะคนที่ไม่ได้ซื้อกลับต้องใช้ ทำให้รู้สึกว่าขาด ๆ เกิน ๆ  อยากจะแชร์วงเงินค่ารักษาพยาบาลกันก็ทำไม่ได้

ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้ง 3 พันธมิตร รับรู้จากประสบการณ์ที่ให้บริการ ทั้งด้านการเงินและการรักษาพยาบาล จึงได้ผนึกความร่วมมือเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามปัญหา และสามารถวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ลูกค้าสามารถแชร์ความคุ้มครองกันได้ทั้งครอบครัว โดยเคลมจากวงเงินประกันกองกลางได้ โดยไม่ต้องขอสิทธิ์จากคนในครอบครัว ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก และในอนาคตจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการพาณิชย์ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งหมายที่ต้องการช่วยเหลือคนไทยให้ไปถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นออกแบบแผนประกันภัยด้านต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับทุกครอบครัว ด้วยเล็งเห็นว่าแต่ละครอบครัว ต่างมีสมาชิกที่ถือกรมธรรม์มากกว่า 1 ฉบับ ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์การดูแลสมาชิกทั้งครอบครัวครบจบในกรมธรรม์เดียว เราจึงได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพจาก “ทีทีบี อีซี่ แคร์ พลัส” มาเป็น “ทีทีบี ประกันเหมาจบ ๆ @BDMS สำหรับครอบครัว” และ “ทีทีบี อีซี่ แคร์ พลัส สำหรับครอบครัว” โดยผนึกกำลังร่วมกับทีเอ็มบีธนชาต และ BDMS ในการออกแบบแผนประกันภัย ที่ให้สมาชิกในครอบครัวสามารถแชร์วงเงินความคุ้มครองสุขภาพกับคนในครอบครัวสูงสุดถึง 5 ท่าน / 1 กรมธรรม์ โดยวงเงินที่แชร์กันนี้ ไม่จำกัดเฉพาะพ่อแม่ลูกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่ผูกพันเสมือนครอบครัว เช่น คู่สมรส ญาติ รวมทั้งคู่ชีวิตที่นิยามถึง LGBTQ+ อีกด้วย เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้จะช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงแผนประกันชีวิตและสุขภาพที่ง่ายขึ้น และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วยความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละครอบครัว”

ผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบถูกพัฒนาผ่านแนวคิด

  1. เน้นลูกค้าที่ต้องการการรักษาพยาบาลแบบพรีเมียมโดยเฉพาะการรักษาในเครือโรงพยาบาล BDMS เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาล BNH โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่ารักษาพยาบาลและยา บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินมายังโรงพยาบาลในเครือ BDMS โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการพิเศษอื่น ๆ  เช่น การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ฟรี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.ttbbank.com/press-bdms

  1. เน้นลูกค้าทั่วไปที่ไม่เจาะจงโรงพยาบาล

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก  https://www.ttbbank.com/press-fam

โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถแชร์ความคุ้มครองได้ดังนี้

  • แชร์กองกลางครอบครัว กรมธรรม์เดียวคุ้มครองทั้งครอบครัวในทุกรูปแบบของครอบครัว (สมาชิกครอบครัว สูงสุด 5 ท่าน)
  • แชร์กองกลางแบบยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนสมาชิกได้ตามความต้องการ
  • แชร์กองกลางที่คุ้มค่าและครอบคลุม ด้วยความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย ทั้งค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน โดยให้เลือกแผนได้สูงสุดถึง 5 ล้านบาท

นายแพทย์ มนต์สรร อัศวนพเกียรติ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และโครงสร้างราคา บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS กล่าวว่า BDMS มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพนี้ ทางเครือฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลสุขภาพของคนไทยในทุกช่วงวัยอย่างครบวงจร ความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็นประโยชน์ที่ให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาและดูแลสุขภาพจากแพทย์ผู้ชำนาญการ ณ โรงพยาบาลในเครือ BDMS กว่า 50 แห่งทั่วประเทศได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

BDMS คือ เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในเครือข่ายโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยกลุ่มโรงพยาบาลหลักในเครือข่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ จำนวน 6 กลุ่ม รวม 57 แห่ง ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาล BNH, กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท, กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัลในประเทศกัมพูชา รวมทั้งบีดีเอ็มเอสเวลเนสคลินิก

ทั้งนี้ BDMS กำหนดให้โรงพยาบาลในเครือ 15 แห่งเป็น “ศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ” (Center of Excellence) ครอบคลุม 5 ความเชี่ยวชาญในการรักษา ได้แก่ ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์มะเร็ง ศูนย์หัวใจ และศูนย์อุบัติเหตุ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ยังรวมถึงผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานการให้บริการดูแลสุขภาพ จากสถาบันที่ให้การรับรองมาตรฐานชั้นนำระดับโลกอีกด้วย โดยโรงพยาบาล 11 แห่งจากทั้งหมด 57 แห่งในเครือ BDMS ได้รับการรับรองจาก JCI (Joint Commission International) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการรับรองมาตรฐานการดูแลรักษาทางการแพทย์ระดับสากล โดยเรามุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยแบบครบวงจร ร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสามารถดูแลผู้ป่วยได้ทุกช่วงวัยอย่างมืออาชีพเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อประกันกองกลาง สำหรับครอบครัว นอกจากได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าแบบเหมาจ่าย และได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญการแล้ว ยังได้รับโปรโมชันสุดพิเศษอีก 3 ต่อ ได้แก่

ต่อที่ 1 : รับเงินคืน 20% ของค่าเบี้ยฯ ปีแรก

ต่อที่ 2 : รับเงินคืนเพิ่มสูงสุด 6% ของค่าเบี้ยฯ ปีแรก ตามค่าเบี้ยฯ ที่ชำระ

ต่อที่ 3 : รับเพิ่มบัตรกำนัลเครือ BDMS มูลค่าสูงสุด 7,500 บาทต่อครอบครัว

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา

  • รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น
  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

BDMS ร่วมกับ วิริยะประกันภัยส่งเสริมสุขภาพคนไทยอีกครั้ง ด้วยการนำศักยภาพมาตรฐานการรักษาพยาบาลในระดับสากลของโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ

การประชุมวิชาการ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ประจำปีพุทธศักราช 2562 "ในโลกยุคดิจิตัล ที่มีการพัฒนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ทันสมัยมากมาย และเป็นส่วนนึงของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก ที่สำคัญ คือ เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันนี้ มีการนำมาใช้ในทางการแพทย์ พยาบาล ทันตกรรม และ การสาธารณสุข อันส่งผลให้มีการรักษา การเข้าถึง และ การตอบสนองที่รวดเร็ว ส่งเสริมประสิทธิภาพทางการแพทย์ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ในโลกปัจจุบันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราต้องรับรู้ เรียนรู้ และเข้าใจเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการแพทย์ และสาธารณสุข"

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักกายภาพบำบัด และบุคลากรทางการแพทย์ ได้จัดงานประชุมวิชาการในปีนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความรู้ และเทคโนโลยีทางด้านการดูแลสุขภาพและการแพทย์ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ที่ทันสมัย กอปรกับการใส่ใจดูแลและเอาใจใส่ด้วยจิตใจที่โอบอ้อมอารีและมีคุณธรรม ภายใต้แนวคิดการจัดงานคือ BDMS Academic Annual Meeting 2019 “The Trusted Healthcare Network: The Era of Artificial Intelligence and Advanced Technology” ระหว่างวันที่ 14-16 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงเปิดงานในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 9.00 น.

จึงขอเรียนเชิญ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมประชุมวิชาการและร่วมรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการฯ ในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 09.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


www.bdmsannualmeeting.com
Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

Page 2 of 2
X

Right Click

No right click