หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือยุคเริ่มแรก หลายคนคงนึกถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นกระติกน้ำ โนเกีย 3310 สุดฮอต และ iPhone 1 แบบไร้ปุ่มกดที่ปฏิวัติฝั่งฮาร์ดแวร์ของตลาดสื่อสารอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ขณะเดียวกัน ในฝั่งการบริการ คนยุคบูมเมอร์คงเคยได้สัมผัสกับยุคค่าบริการนาทีละ 3 บาทอย่างแน่นอน

แต่นั่นเป็นเพียง “ปฐมบท” ของตลาดโทรคมนาคมไทยที่ปัจจุบันอัตราการเข้าถึงบริการโทรศัพท์มือถือ (Penetration Rates) เกินกว่า 130% กำเงิน 500 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของเครื่องโทรศัพท์มือถือได้

วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในตลาดโทรคมนาคมไทยในแง่ “การเข้าถึง” ส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันทางการตลาดที่มี ณัฏฐา พสุพัฒน์ หัวหน้าสายงานโมบายล์โพสต์เพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งคีย์วูแมนผู้นำมาสู่การเปลี่ยนเแปลงภูมิทัศน์ทางการตลาดแห่งวงการโทรคมนาคมไทย

ในโอกาสแห่งวันสตรีสากล #IWD2024 True Blog ชวนเธอพูดคุยถึงเคล็ดลับความสำเร็จของผู้หญิงที่เรียกได้ว่า “คมในฝัก” คนนี้กัน

พลังของความแตกต่าง คุณค่าแห่งความเท่าเทียม

ณัฏฐาเป็นคนกรุงเทพฯ แต่กำเนิด สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาวิชาการบัญชี จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นเดินทางสู่วิชาชีพนักบัญชี โดยเข้าทำงานที่บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ กรุงไทยธนกิจ แต่เมื่อทำได้ช่วงเวลาหนึ่ง เธอก็ค้นพบว่า นั่นไม่ใช่ตัวเธอเลย เพราะลักษณะงานมีความเป็นกิจวัตร (routine) สูง ซึ่งต่างจากลักษณะนิสัยส่วนตัวที่ชื่นชอบในความคิดสร้างสรรค์ แตกต่าง และนอกกรอบ

เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เธอจึงตัดสินใจบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในสาขา International Business Management ที่ University of Exeter ประเทศอังกฤษ สถานที่แห่งนั้นเปรียบเสมือน Melting Pot ที่รวมผู้คนที่มี “ความแตกต่าง” ทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม และประสบการณ์เข้าไว้ด้วยกัน มาจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฯลฯ ซึ่งนั่น ทำให้เธอได้ขยายมุมมอง เปิดโลกทัศน์ โดยเฉพาะการเรียนรู้และเข้าใจถึงความแตกต่างอย่างแท้จริง ยิ่งสมัยนั้น เทคโนโลยีการสื่อสารยังไม่ก้าวหน้าเหมือนปัจจุบัน ทำให้การรับรู้พื้นเพของแต่ละประเทศมีความจำกัด ซึ่งเธอเองก็ต้อง “ปรับตัว” อยู่ไม่น้อย

หลังใช้ชีวิต​พร้อมดีกรีปริญญาโทจากเมืองผู้ดี เธอได้กลับมายังแผ่นดินเกิด พร้อมตามฝันบนเส้นทางแห่งการทำงานที่แตกต่าง ย้อนไปราว 20 ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมโทรคมนาคมจัดเป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโต ตรงกับความสนใจของณัฏฐา ในเวลานั้น ประเทศไทยมีผู้ให้บริการเพียงรายเดียว นั่นคือ AIS จึงสมัครเข้าทำงานในส่วนงาน SIM Marketing ขณะนั้นสังกัดอยู่ในกลุ่มงานวิศวกรรม ซึ่งเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชายโดยส่วนใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาหรืออุปสรรคสำหรับเธอ ในทางกลับกัน เธอกลับมองเป็นความท้าทายและเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมจากเพื่อนร่วมงานที่เป็นวิศวกร และยังกระตือรือร้นใฝ่หาความรู้ เพื่อเข้าใจโครงสร้างทางเทคนิคให้ลึกขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรได้บ่มเพาะความรู้เฉพาะด้านเพิ่มเติมในคอร์ส Mini Master in Telecoms Management ของมหาวิทยาลัยมหิดลอีกด้วย

สมัยก่อน สังคมอาจมีมายาคติทางเพศที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพ อย่างวิศวกร คนมักคิดว่าเป็นอาชีพของผู้ชาย แต่เราต้องคิดใหม่ว่างานวิศวกรเป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการ การวางแผน ดังนั้น เรื่องเพศจึงไม่มีผลกับอาชีพ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคคลมากกว่า

“ที่ผ่านมาในชีวิตการทำงาน เรื่องเพศไม่ได้นำมาซึ่งความยากลำบากแต่อย่างใด จะแตกต่างกันแค่เรื่องสรีระและพละกำลัง แต่เรื่องอื่นแล้ว ไม่ด้อยกว่ากัน และทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี” เธอกล่าวว่า “ในอดีต สังคมเคยมีคติความเชื่อที่ว่า ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ลูกผู้หญิงอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน สมาชิกในสังคมอาจต้องหันมาทบทวนว่า คติความเชื่อนี้ยังคงใช้ได้ในบริบทของสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่ส่วนตัวพี่เชื่อว่า สังคมต้องเปลี่ยนทัศนคติความเชื่อที่ล้าสมัย ให้คุณค่ากับความเท่าเทียม พิจารณาที่ศักยภาพ ความสามารถ และผลลัพธ์ของการกระทำมากกว่าเรื่องเพศ”

หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในธุรกิจโทรคมนาคมอยู่ 4 ปี จึงถึงเวลาที่เธอตัดสินใจไปหาความท้าทายใหม่ๆ ที่ Orange ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งในเวลานั้นเป็นที่จับตามองอย่างมากในอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการต่างชาติรายแรกที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยเธอทำหน้าที่ดูแลด้าน Tariff Management ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผนราคาแพ็คเกจบริการโทรศัพท์มือถือ

ตลาดเปลี่่ยน-โอกาสเปิด

ณัฏฐาเล่าถึงตลาดโทรคมนาคมตอนนั้นว่า ภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานที่ Orange เป็นแบบบริษัท “อินเตอร์” มีผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ได้นำแนวคิดการทำแพ็กเกจโทรศัพท์มือถือ พร้อมสัญญาการใช้บริการโทรคมนาคมแบบที่ใช้ในต่างประเทศมาใช้ในการทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งขณะนั้นการเข้าถึงบริการโทรศัพท์มือถือยังต่ำอยู่ เนื่องจากมือถือยังมีราคาสูงและความเข้าใจในความแตกต่างของตลาดผู้บริโภคคนไทยยังน้อย มีการทำโปรโมชั่นแจกโทรศัพท์มือถือสุดฮิต Nokia 3310 ที่มาพร้อมสัญญาการใช้บริการ 12 เดือน ซึ่งถือว่าใหม่มากสำหรับคนไทยในเวลานั้น มีคนเหมารถกันมาเป็นคันรถเพื่อมาเอามือถือฟรี แม้อาจจะไม่ตอบโจทย์ในแง่ความคุ้มทุน แต่ก็สร้างความจดจำแบรนด์ในฐานะ Newcomer เรียกว่าปฏิวัติการตลาดวงการโทรคมในเวลานั้นเลยทีเดียว”

ต่อมา หลังจากที่ Orange ได้ควบรวมกับทรู ภายใต้แบรนด์ Truemove โทรศัพท์มือถือมีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น และเป็นในช่วงที่ทรูกำลังเปิดให้บริการ 3G เป็นครั้งแรก ทรูได้นำ iPhone รุ่นแรกเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเข้าผลิตภัณฑ์จาก Apple เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่ง ณัฏฐา ก็เป็นหนึ่งในคีย์วูแมนที่ร่วมสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในครั้งนั้นด้วย

จากผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ปัจจุบัน ณัฏฐาได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้บริหารให้มาดูแลตลาด “รายเดือน” หรือโพสต์เพย์ พร้อมกับการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของบริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ หรือ Clearing House เพื่อพัฒนาระบบการย้ายค่ายเบอร์เดิมระหว่างโอเปอร์เรเตอร์ให้ราบรื่นอีกด้วย

“Postpaid เป็นธุรกิจหลักของทรู มีสัดส่วนรายได้สูงที่สุด ทำให้เราเองมีความกดดันที่สูงมาก ทุกวันมีปัญหาให้แก้ไข ขณะเดียวกัน เราต้องมองมุมบวก มั่นใจในศักยภาพของเราและทีม พี่คิดเสมอว่าถ้าเราไม่ไหว ทีมงานข้างหลังก็ไม่ไหว ดังนั้น เราจึงต้องปรับที่ mindset ตัวเองก่อน ทำให้เราสามารถจัดการกับความกดดันที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่” เธอ อธิบาย

ครอบครัว เบื้องหลังของความสำเร็จ

กว่าจะก้าวมาถึงวันนี้ อะไรคือเคล็ดลับของความสำเร็จ True Blog ถาม?

“ครอบครัว” ณัฏฐา ตอบอย่างไม่ลังเล พร้อมเล่าเสริมว่า เธอมีครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ พวกเขาพร้อมสนับสนุนในทุกย่างก้าวการเติบโตของพี่ บางครั้งแม้จะต้องทำงานล่วงเวลาบ้าง วันเสาร์-อาทิตย์บ้าง แต่ก็มีครอบครัวให้กำลังใจ ขณะเดียวกัน เธอเองก็ตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของตนเองต่อครอบครัว รู้จักแบ่งเวลา พูดคุยแลกเปลี่ยน ทำกิจกรรม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการงานและครอบครัวให้พอดี

กรณีของณัฏฐา ภายหลังเธอเข้าพิธีวิวาห์ ตลอดระยะเวลา 5 ปี เธอและสามีมีความพยายามในการมีบุตร แต่เมื่อถึงจุดที่ไม่สามารถมีลูกด้วยวิธีการธรรมชาติได้ เธอและสามีจึงตัดสินใจครองชีวิตคู่ โดยไม่มีบุตร อย่างไรก็ตาม เธอเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ผู้หญิงสามารถมีความก้าวหน้าในอาชีพได้โดยไม่ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวอย่างการมีลูกหากมีความเตรียมพร้อมและการวางแผนที่ดีพอ

“ตอนพยายามที่จะมีลูก พี่มีการเตรียมตัว ปรึกษาหมอ ปรึกษาเพื่อนถึงสิ่งต่างๆ ที่คนเป็นแม่อาจพบเจอ เช่น การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน การฝากครรภ์ การปั๊มนม ฯลฯ การรับมือกับภาวะต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถมีบทบาทความเป็นแม่และคนทำงานได้อย่างสมดุล”

เคล็ดลับนำผู้หญิงสู่ความสำเร็จ

  1. ทัศนคติบวก (Positive Mindset) เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการกระทำทุกอย่าง หากเชื่อมั่นว่าทำได้ เราก็จะทุ่มเทและฝ่าฝันอุปสรรคระหว่างทางได้ โดยไม่พะวงถึงข้อจำกัดจนกีดขวางการเริ่มต้น
  2. เชื่อมันในศักยภาพตัวเอง (Trust in Yourself) ความเชื่อเปรียบได้เป็น NorthStar ที่จะช่วยขยายศักยภาพและความสามารถตนเองออกไปให้มากขึ้น
  3. ถอดบทเรียน (Lesson Learned) มนุษย์จะพัฒนาตัวเองต่อไปได้ เมื่อได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดหรือถอดประสบการณ์ที่พบเจอเป็นบทเรียน โอกาสให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเปิดรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ เรียนรู้ต่อยอดประสบความสำเร็จ

ที่ผ่านมา สังคมไทยมีพัฒนาการด้านสิทธิสตรีอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการเข้าถึงการศึกษา ปัจเจกบุคคล รวมถึงแนวนโยบายต่างๆ ขององค์กรที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิง (Female Inclusion) อย่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มีพื้นฐานความเชื่อและวัฒนธรรมด้าน “ความเท่าเทียม” ซึ่งได้ถูกพัฒนากลายเป็นแพลทฟอร์มที่ใช้ในการ springboard วัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียมในมิติอื่นต่อไปในองค์กร

รองรับลูกค้าที่ถือครองเลขหมายเกินกว่า 6 ซิมขึ้นไป ยืนยันตัวตนที่ทรูช็อป และดีแทคช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ

 ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าพิสูจน์เครือข่ายที่ดีที่สุดทั่วไทยรับเทรนด์ท่องเที่ยว พร้อมนำศักยภาพเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมแกร่งชุมชนทั่วไทย และภาคใต้ พร้อมชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมสัมผัสธรรมชาติและวิถีชุมชนดั้งเดิม เพิ่มเสาสัญญาณใช้พลังงานหมุนเวียน ด้วยการติดตั้งและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทุกภาคทั่วไทยและจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกทั้งเอาใจสายท่องเที่ยวต่างประเทศ ชู GO Beyond Roaming มาพร้อมประสบการณ์ In-Flight Roaming เปิด โรมมิ่งบนเครื่องบิน เชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างไร้ขีดจำกัด และ On Cruise Roaming ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาแม้ท่องมหาสมุทร กับ Cruise Line ชั้นนำระดับโลก

นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วไทยทั้งเรื่องเครือข่ายที่ดีที่สุด และ การให้บริการเหนือระดับแบบไร้รอยต่อ โดยได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลให้ทันสมัยและมีคุณภาพสูง รวมถึงการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน 5G ด้วยการอัปเกรดเทคโนโลยีเครือข่ายอย่างต่อเนื่องสู่มาตรฐานระดับโลก พร้อมทั้งพัฒนาเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย”

การใช้งานดาต้าจังหวัดภาคใต้พุ่งติดเทรนด์เติบโตแถวหน้า

ทรู คอร์ปอเรชั่นนำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย AI อัจฉริยะ BNIC (Business Network Intelligence Center) วิเคราะห์พฤติกรรม แนวโน้มการใช้งานดาต้าทุกจังหวัดทั่วประเทศ พบว่าจังหวัดภาคใต้มีการใช้งานเติบโตสูงติดเทรนด์ โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นอันดับ 1 เติบโตประมาณ 29%, อันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี เติบโตประมาณ 22% และ อันดับ 3 คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เติบโตประมาณ 20% ซึ่งรับกับกระแสท่องเที่ยวภาคใต้ที่เติบโตมากขึ้น

ทั้งนี้ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีเกาะลับที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมเพิ่มขึ้นคือ “เกาะนกเภา” ซึ่งทรูได้เป็นผู้ให้บริการติดตั้งเสาสัญญาณรายแรก เพิ่มโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้กับคนในชุมชนและโรงเรียน โดยเสาสัญญาณดังกล่าวเป็นเสาที่ใช้พลังงานหมุนเวียน ด้วยการติดตั้งและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทำให้ชุมชนในเกาะใช้งานมือถือและเน็ตได้อย่างมีคุณภาพ สามารถออนไลน์โปรโมตโฮมสเตย์ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งทรูยังได้ขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทั่วทั้งบนฝั่ง บนเกาะ กลางทะเล เติมเต็มไลฟ์สไตล์ แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทรูพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Net Zero เพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน สุราษฎร์ใช้เสาโซล่าเซลล์ 6%

ทรู คอร์ปอเรชั่น ผลักดันเส้นทางสู่ Net Zero อย่างเข้มข้น ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันการเชื่อมต่อให้ทันสมัย รวมถึงการอัปเกรดเสาสัญญาณสู่การใช้งาน 5G และ 4G ได้อย่างเต็มที่ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน โดยปี 2566 สามารถลดการใช้พลังงานได้กว่า 10,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงและลดก๊าซเรือนกระจกได้ 4,400 ตัน การใช้ AI และ Machine Learning เพื่อตรวจจับและแก้ไขปัญหาเครือข่ายอย่างรวดเร็ว นับเป็นกุญแจสำคัญในการลดการใช้พลังงานและก๊าซเรือนกระจก สำหรับปีที่ผ่านมา ทรูได้ติดตั้งแผงโซล่า  เซลล์ที่เสาสัญญาณกว่า 7,800 แห่งและดาต้าเซ็นเตอร์ 1 แห่ง ทำให้สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 45,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยในปี 2567 มีแผนที่จะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่เสาสัญญาณรวมเป็น 11,200 แห่ง และดาต้า เซ็นเตอร์อีก 6 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 64,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 28,800 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ทั้งนี้ สุราษฎร์ธานีได้ติดตั้งใช้เสาสัญญาณโซล่าเซลล์ จำนวน 6% ของเสาทั้งหมด

นอกจากนี้ ทรูยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน อาทิ ระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผ่านแอปพลิเคชัน หมอดี (MorDee) ที่เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ สามารถปรึกษาปัญหาสุขภาพกับหมอออนไลน์ได้ทุกที่ทั่วไทย ซึ่งมีหมอมากกว่า 500 ท่าน 20 กว่าสาขา ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล โทร หรือแชท กับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ จากสถาบันชั้นนำแบบเป็นส่วนตัว ด้วยการออนไลน์ผ่านแอปจากที่ไหนก็ได้ ในเวลาที่สะดวก ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่ต้องรอนานอีกด้วย

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับประโยชน์จากโครงข่ายดิจิทัลและการพัฒนา 5G เพื่อที่จะทำให้การท่องเที่ยวมีความสนุกสนาน เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งทรูได้ออกแบบเครือข่ายให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานแต่ละพื้นที่โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้ ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเปิดประตูสู่การให้บริการใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มคุณภาพและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างยั่งยืน เราวางแผนปรับปรุงเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) ทั่วประเทศและรวมถึงภาคใต้ นอกจากนี้ ทรูยังมีแผนในการรวมโครงข่ายเป็นหนึ่งเดียว (One Integrated Network) และใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ทุกย่านอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานบนเครือข่ายที่ครอบคลุมและเร็วยิ่งขึ้น

จากดาต้าการใช้งานที่แหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ของทรู คอร์ปอเรชั่น พบว่าจุดหมายท่องเที่ยวภาคใต้ 5 อันดับแรกที่มีปริมาณดาต้าสูงสุด ประจำมีนาคม 2567 ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาสัญญาณเพื่อนักท่องเที่ยว ดังนี้

1. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

2. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

3. เกาะพีพี จ.กระบี่

4. อ่าวนาง จ.กระบี่

5. เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

นายชารัด กล่าวเสริมว่า “ทรูและดีแทคให้ความสำคัญกับการออกแบบแพ็กเกจและสิทธิประโยชน์ที่ตรงความต้องการนักท่องเที่ยว รวมถึงนำจุดเด่นของการตลาดแต่ละพื้นที่มาใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรองรับการเดินทางท่องเที่ยวไทย ขณะเดียวกัน มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทรูและดีแทค ทั้งการท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศ

สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศ แบรนด์ทรูและดีแทคพร้อมมอบสิทธิพิเศษมากมายสำหรับทุกการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถยนต์ รวมถึงการพักผ่อนในโรงแรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งยังมั่นใจได้ด้วยประกันอุบัติเหตุและการเดินทางที่ครอบคลุมเพื่อความมั่นใจให้ลูกค้า

เดินทางด้วยเครื่องบิน

· ลูกค้าสามารถแลกเงินอัตราพิเศษกับ Twelve Victory ใช้บริการรถรับส่งไปสนามบินผ่านแอป Maxim หรือ The Black Tie Limousine

· เสิร์ฟสุขสุดพิเศษ ก่อนเดินทาง ทุกเที่ยวบินสามารถอิ่มอร่อยได้ที่ 9 สนามบินภายในประเทศ พร้อมสิทธิพิเศษในการช็อป duty free และรถกอล์ฟรับส่งจากเครื่องบินสู่จุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สำหรับลูกค้าทรูแบล็คการ์ด

เดินทางด้วยรถยนต์

· มีบริการเช็กอัปสุขภาพรถที่ Cockpit, Autobac และชาร์จรถที่ EA anywhere

· บริการรถเช่าจาก TrueLeasing, DriveHub และอีกมากมาย รวมถึงสถานีบริการน้ำมันชั้นนำอย่าง PT, Susco

· Cafehopping ไม่พลาดสำหรับคอกาแฟตลอดเส้นทาง ทั้ง Cafe Amazon, D'Oro และร้านกาแฟสุดฮิป

โรงแรมที่พักตอบโจทย์ลูกค้า

· บริการจองห้องพักทั้งจาก Ascend Travel, Agoda และจองผ่าน Personal Assistance สำหรับลูกค้าทรูแบล็ค/ดีแทคแพลทินัมบลู พร้อมสิทธิพิเศษจากเครือโรงแรมชั้นนำ

ปลอดภัยทุกการเดินทาง

· ได้รับความคุ้มครองจากประกันอุบัติเหตุ/การเดินทางจาก AIA, FWD ทิพยประกันภัย และไทยวิวัฒน์

ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปต่างประเทศ ทรู คอร์ปอเรชั่นได้เปิดตัว "GO Travel" แพ็คเกจเน็ตและซิมต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกของบริการใหม่ระดับพรีเมียมสำหรับการท่องเที่ยวเหนือกว่าการโรมมิ่งทั่วไป เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสให้แก่ลูกค้าทั้งทรูและดีแทค ทำให้สามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นทั่วโลกผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรมากกว่า 700 รายทั่วโลก

 

ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 28,800 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปีนี้

X

Right Click

No right click