FWD ประกันชีวิต แนะนำแพลตฟอร์มดิจิทัล “Mind Strength Support” บริการเพื่อดูแลสุขภาพทางใจเชิงป้องกัน สะดวก ใช้งานง่าย และมีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย ให้บริการผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ อาทิ วิดีโอ ซีรีส์ FWD Mind Master Class ที่ขนทัพนักแสดงชั้นนำร่วมถ่ายทอดเคล็ดลับสร้างความแข็งแกร่งทางใจ พร้อม feature การทำแบบประเมินความแข็งแกร่งทางใจ หรือ เลือกรับคำปรึกษาและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาได้ในที่เดียวสำหรับลูกค้าทื่ถือแบบประกันสุขภาพ “Mind Strength” พร้อมใช้บริการได้แล้ววันนี้ และฟรี 1 เดือน สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจใช้บริการแพลตฟอร์ม “Mind Strength Support”

 

นางสาวอลิสา อารีพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต” หรือ “FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ การดูแลสุขภาพใจจึงถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ FWD ประกันชีวิต เราเข้าถึงและเข้าใจลูกค้า ด้วยหลักการทำงานแบบยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-led) เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเลือกสรรบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในรูปแบบ Total Solution ที่ดูแลลูกค้ามากกว่าการจ่ายเคลม เพื่อส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจให้แข็งแกร่งไปพร้อมกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เราจึงได้มอบบริการ “Mind Strength Support” แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงการบริการสุขภาพทางใจ จากความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท FWD และ ThoughtFull ผู้ให้บริการดิจิทัลด้านการดูแลสุขภาพทางใจ ให้แก่ลูกค้าผู้ถือกรรมธรรม์ “Mind Strength” แบบประกันสุขภาพที่มอบความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้านจิตเวช หนึ่งในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ FWD Modular Series นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจสามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 1 เดือน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“Mind Strength Support” เป็น แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย สะดวก และปลอดภัยในเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมบนแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้บริการ ดังนี้

1) รับชม “เอฟดับบลิวดี มายด์ มาสเตอร์ คลาส” (FWD Mind Master Class) วิดีโอซีรีส์ที่ FWD ได้พัฒนาเนื้อหาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ นำโดย ผศ. นพ.ทรงภูมิ เบญญากร พร้อมนักแสดงชั้นนำ พอลล่า เทเลอร์ เจนสุดา ปานโต สิริสันต์ หน่อง-ธนา ฉัตรบริรักษ์ และคารีสา สปริงเกตต์ มาร่วมถ่ายทอดเคล็ดลับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางใจ

2) ทำแบบประเมินความแข็งแกร่งทางใจ โดยหลังจากตอบแบบประเมินจะได้รับคำแนะนำและวิธีการดูแลสุขภาพใจตามระดับคะแนนของตนเอง

3) ปรึกษาและรับคำแนะนำด้านสุขภาพทางใจออนไลน์ จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือนักจิตวิทยา ผ่านข้อความ หรือวิดีโอคอล โดยลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ Mind Strength สามารถใช้บริการได้ตลอดปีกรมธรรม์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 1 เดือน

ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ Mind Strength รวมถึงลูกค้าเอฟดับบลิวดีและผู้ที่สนใจ สามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม Mind Strength Support เพื่อดูแลสุขภาพทางใจได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสามารถคลิกลิงก์ https://mindstrength.fwd.co.th/

Q-CHANG (คิวช่าง) แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร หนึ่งในธุรกิจที่บ่มเพาะโดย Nexter Incubator เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมช่าง (Q-CHANG ACADEMY) ยกระดับมาตรฐานฝีมือและเพิ่มขีดความสามารถของช่างในแพลตฟอร์ม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ ที่ประทับใจให้กับเจ้าของบ้านตามจุดยืน “แบ็คอัพทุกเรื่องบ้าน” เผยไตรมาสที่ผ่านมา ยอดจองบริการเติบโต 130% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ได้สร้างรายได้ให้ช่างในแพลตฟอร์มไปแล้วกว่า 385 ล้านบาท ด้วยทีมช่างที่มีมากถึง 1,600 ทีมทั่วประเทศ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่างในแพลตฟอร์ม ด้วยงานอีเวนท์ “I AM Q-CHANG: Home’s Calling ภารกิจเรียกรวมตัวคนคิวช่าง” ปีที่ 2 ในคอนเซ็ปต์ “ชีวิตทุกวันช่างง่าย”

นายศรัณย์วิศว์ ภักดีนอก ผู้บริหาร Q-CHANG (คิวช่าง) แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร เผยว่า Q-CHANG (คิวช่าง) เติบโตแบบก้าวกระโดดนับจากปี 2562 ด้วยยอดจองบริการ 6 ล้านบาท สู่ 250 ล้านบาทในปี 2565 และไตรมาสที่ผ่านมายอดจองบริการเติบโต 130% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดย Q-CHANG (คิวช่าง) สร้างรายได้ให้ช่างในแพลตฟอร์มไปแล้วกว่า 385 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าหมาย ยอดจองบริการไว้ที่ 500 ล้านบาทในปี 2566 การเติบโตของ Q-CHANG (คิวช่าง) แบบก้าวกระโดดนี้กลยุทธ์หลักที่เราให้ความสำคัญอย่างมากคือการยกระดับมาตรฐานฝีมือและคุณภาพชีวิตของช่างในแพลตฟอร์ม เพื่อให้ช่างสามารถ ส่งมอบบริการที่ดีมีคุณภาพให้กับเจ้าของบ้าน พร้อมกันนี้ถือเป็นการช่วยลดความเลื่อมล้ำในสังคมตามแนวทาง ของ ESG ด้วย

ในส่วนแผนงานยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของช่างนั้น (Q-CHANG) คิวช่าง มุ่งพัฒนาใน 3 ด้านหลัก ทั้ง Soft Skill , Hard Skill และ Business Skill ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จ จึงได้จัดตั้ง Q-CHANG ACADEMY ศูนย์ฝึกอบรมช่าง ขึ้นที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ช่างในแพลตฟอร์มพร้อม “แบ็คอัพทุกเรื่องบ้าน” ให้กับเจ้าของบ้าน ได้อย่างประทับใจ

สำหรับแนวทางการอบรมของ Q-CHANG ACADEMY นั้นเตรียมเปิดให้ช่างได้เข้ามาเรียนรู้ทั้งช่องทางออนไลน์ (Online) และ ณ ศูนย์ฝึกอบรมช่าง (On-site) เพื่อพัฒนาทักษะและยกระดับอาชีพช่างในด้านต่าง ๆ โดยช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มจัดสอนในช่องทางออนไลน์แล้วกว่า 35 คอร์สเรียน อาทิ คอร์สเสริมความรู้ด้านช่าง เช่น กลุ่มบริการงานแอร์ บริการงานหลังคา บริการติดตั้ง EV Charger คอร์สอบรมความรู้ด้านการทำบัญชี เป็นต้น โดย Q-CHANG (คิวช่าง) ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมสอนอย่างต่อเนื่อง อาทิ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), บริษัทกรี อิเลคทริค ประเทศไทย (ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศแบรนด์ Gree), เพจคุยกับลุงช่าง และ CONTAX (ผู้ให้บริการด้านบัญชีและภาษี) เป็นต้น คาดว่าจะ

สามารถรองรับการอบรมช่างได้ประมาณ 2,000 คนต่อปี ทั้งนี้ในการสร้างศูนย์ฯ ทาง Q-CHANG (คิวช่าง) ได้จ้าง ช้าการช่าง โดยมูลนิธิกระจก ซึ่งเป็นกลุ่มอดีตช่างผู้สูงอายุที่ไร้บ้านหรือเป็นคนจนเมือง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทาสีบางส่วนของศูนย์ฯ เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุ รวมถึง Q-CHANG (คิวช่าง) ได้เปิดโอกาสให้ กลุ่มช้าการช่างนี้เข้ามาอบรมได้ที่ศูนย์ฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โดยในงานเปิดตัว Q-CHANG ACADEMY ศูนย์ฝึกอบรมช่าง ได้รับเกียรติจาก นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มาร่วมแสดงความยินดี ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ร่วมพัฒนาและอบรมเครือข่ายช่างของ Q-CHANG (คิวช่าง) อีกทั้งกิจกรรมอีเวนท์ “I AM Q-CHANG: Home’s Calling ภารกิจเรียกรวมตัวคนคิวช่าง” ปีที่ 2 ด้วยคอนเซ็ปต์ “ชีวิตทุกวันช่างง่าย” ซึ่งมีช่างและแม่บ้านในแพลตฟอร์มเข้าร่วมงานกว่า 300 คน พร้อมมอบทุนการศึกษาให้บุตรของช่าง และประกาศรางวัล Q-CHANG of the Year เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เป้าหมายร่วมกัน ตอกย้ำความเข้มแข็งของเครือข่ายช่างที่มีมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีสปอนเซอร์ต่าง ๆ จาก คอนแทกซ์ คอนซัลติ้ง ,Makita (มากีต้า) และ พร้อมดี ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับงานเหล่าช่างและแม่บ้านผ่านกิจกรรม ต่าง ๆ ภายในงานอีกด้วย โดยงานกิจกรรมอีเวนท์ “I AM Q-CHANG: Home’s Calling ภารกิจเรียกรวมตัวคนคิวช่าง” นี้จะดำเนินการจัดขึ้นทั่วทุกภาคทั่วประเทศหลังจากนี้

“การเพิ่มทักษะความรู้ใหม่ ๆ จะทำให้ช่างสามารถรับงานได้หลายประเภทมากขึ้นและสามารถเพิ่มโอกาส ในการมีรายได้ที่มากขึ้นด้วย ทั้งที่เป็น Soft Skill การสนทนาและเจรจากับลูกค้า, Hard Skill มาตรฐานฝีมือช่าง และ Business Skill เช่น ความเข้าใจด้านบัญชีภาษี ซึ่งช่วยยกระดับฝีมือช่างให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ส่งผลต่อ ความพึงพอใจและการใช้บริการซ้ำของลูกค้า ซึ่งจะทำให้ช่างมีรายได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง”

ในส่วนของการพัฒนาช่องทางการให้บริการ นายศรัณย์วิศว์ กล่าวว่า ในปัจจุบันเรามี Q-CHANG Shop Service หรือจุดให้บริการคิวช่างในร้านวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ แล้วกว่า 80 สาขา และมีแผนขยายสาขา Q-CHANG Shop Service ให้ครบ 100 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2566 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ Q-CHANG (คิวช่าง) เติบโตได้แบบก้าวกระโดด พร้อมตั้งเป้ายอดจองบริการกว่า 600 ล้านบาท ในปี 2566

ผู้ที่สนใจใช้บริการ Q-CHANG (คิวช่าง) แพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร ครอบคลุมทุกบริการเรื่องบ้าน...ครบจบในที่เดียว “ล้าง ซ่อม ติดตั้ง ต่อเติม” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายจองใช้บริการ Q-CHANG (คิวช่าง) ได้ทางเว็บไซต์ www.q-chang.com โทร. 02-821-6545 หรือ Line : @q-chang หรือติดต่อทาง Q-CHANG Shop Service ทั่วประเทศ

· 51Talk นำเสนอคลาสเรียนภาษาอังกฤษบนแพลตฟอร์มออนไลน์สอนสด เปิดเป็นพื้นที่กว้างให้เด็กและวัยรุ่นอายุ 3 – 15 ปี ได้ฝึกฝนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติมากประสบการณ์ พร้อมคลาสเรียนหลากหลายที่ดีไซน์ได้ตามความต้องการ

51Talk (ไฟฟ์วันทอล์ก)  ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ชั้นนำที่โดดเด่นในด้านคลาสเรียนแบบสอนสด เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มุ่งต่อยอดเป้าหมายของบริษัทเพื่อเสริมสร้างทักษะด้านภาษาให้กับผู้ที่ต้องการจะสื่อสารพูดคุยกับโลกกว้าง โดยหลักสูตรของ 51Talk เปิดโอกาสให้ผู้เรียนในประเทศไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนานและได้สื่อสารโต้ตอบโดยตรง แบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนชาวต่างชาติ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ 51Talk ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีให้ใช้งานง่ายและส่งเสริมการเรียนภาษาสำหรับเด็กและเยาวชน

51Talk ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2011 และต่อมาได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE:COE) จวบจนปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษให้แก่เด็ก ๆ กว่า 40 ล้านคนในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง อเมริกา และยุโรป และสอนนักเรียนไปแล้วมากกว่า 100 ล้านบทเรียน

แพลตฟอร์มของ 51Talk ได้รับการออกแบบมาสำหรับเด็กและวัยรุ่น อายุระหว่าง 3-15 ปี โดยผู้ปกครองสามารถเลือกครูผู้สอนที่มีมากกว่า 20,000 ท่านในระบบได้เอง ซึ่งครูผู้สอนทุกคนของ 51Talk ผ่านการรับรองโดย TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) ตามมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งยังผ่านการอบรมการสอนมากกว่า 100 ชั่วโมง รวมถึงการอบรมด้านจิตวิทยาสำหรับเด็ก เทคนิคและทักษะการสอนภาษาที่สอง ผู้ปกครองจึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความเป็นมืออาชีพในด้านการสอนอย่างแท้จริง

เมื่อเด็ก ๆ เรียนภาษาอังกฤษกับ 51Talk พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนกับครูผู้สอนท่านใด โดยอ้างอิงจากระดับคะแนนที่ประเมินโดยนักเรียนท่านอื่น ข้อมูลเกี่ยวกับสัญชาติ และประสบการณ์ของครูผู้สอนนั้น ๆ นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถเลือกวันและเวลาที่จะเรียนได้ตามความต้องการอีกด้วย บทเรียนทั้งหมดเป็นรูปแบบการเรียนตัวต่อตัวซึ่งมีส่วนอย่างยิ่งในการเสริมสร้างพัฒนาการด้านทักษะภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียน ในทุกคลาสเรียนมีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ในขณะเดียวกันยังสอนให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียนควบคู่กันไป

51Talk มีการออกแบบและพัฒนาแบบเรียนและสื่อการเรียนการสอนให้มีเนื้อหาครอบคลุมเป็นไปตาม Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) มาตรฐานการวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงทำให้นักเรียนทุกคนมั่นใจได้ว่าจะมีพัฒนาการทักษะทางด้านภาษาอังกฤษตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามแนวทางการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติสำหรับเด็ก เพื่อช่วยให้เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนและวัดผลได้สำหรับเด็กนักเรียนแต่ละคน

“ปัจจุบันเด็กนักเรียนในประเทศไทยมีความคุ้นเคยเป็นอย่างมากกับการเรียนออนไลน์ ที่กลายมาเป็นเรื่องปกตินับแต่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ สำหรับ 51Talk เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์พิเศษให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนมืออาชีพที่พวกเขาสามารถเลือกเองได้ว่าจะเรียนกับครูท่านใด รูปแบบการเรียนการสอนเช่นนี้จะทำให้ผู้ปกครองและเด็กมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการเรียนได้ดียิ่งขึ้นว่าจะเรียนตอนไหน ทั้งยังมีโอกาสได้ทดลองเรียนกับผู้สอนคนใหม่ ๆ อีกด้วย หลักสูตรของ 51Talk ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยมทั่วโลก และเราเองก็รู้สึกตื่นเต้นที่ตอนนี้เด็กไทยจะได้ใช้แพลตฟอร์มของ 51Talk เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาได้พูดคุยสื่อสารกับโลกกว้างต่อไป” แจ๊ค ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 51Talk กล่าว

นักเรียนรุ่นเยาว์ของ 51Talk ทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงทักษะด้านภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ และในปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมามีนักเรียนดาวเด่นของ 51Talk ได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (The United Nations Climate Change Conference) และในปี ค.ศ. 2018, 51Talk ได้พัฒนา Air Class ห้องเรียนออนไลน์ที่เชื่อมโยงนักเรียนจากทั่วโลกไว้ในห้องเรียนเดียวกัน ที่ซึ่งพวกเขาสามารถเรียนรู้และสื่อสารถึงกันและกันได้

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน 51Talk เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเปิดโลกกว้างไปกับเรา และทดลองเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนชาวต่างชาติตัวจริงฟรีได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่เว็บไซต์ 51Talk Thailand หรือกด https://bit.ly/3Vpjpvr ได้เลย

ปลดล็อกธุรกิจทั่วประเทศสู่การค้าบนโลกออนไลน์ สมัครใช้งานฟรี

หลังจาก LINE ได้เข้ามาเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว

Page 2 of 3
X

Right Click

No right click