การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม จะทำการปรับปรุงประสิทธิ์ภาพในการส่งข้อมูลของระบบ Easy Pass มีผลทำให้ยอดเงินคงเหลือไม่ตรงกับความเป็นจริง ในระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ บนทางพิเศษฉลองรัช ในวันที่ 31 มีนาคม 2567 ช่วงเวลา 01.00 - 04.00 น. และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในวันที่ 7 เมษายน 2567 ช่วงเวลา 01.00 – 04.00 น.

กทพ. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ กทพ. ขอเชิญชวนผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ลงทะเบียนปรับปรุงข้อมูลด้วยตนเองทาง EXAT Portal Application หรือ www.thaieasypass.com เพื่อยกระดับบัตร Easy Pass เป็น Easy Pass Plus เตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) อีกด้วย

เมื่อเร็วๆนี้ นายพัฒนา ณ สงขลา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานขายและปฏิบัติการลูกค้า 3 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และนายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ENERGY ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาให้กับอาคารของ NT ในพื้นที่ภาคกลาง ณ ห้องประชุม Ability1 อาคารสำนักงานใหญ่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ โดยระบบผลิตไฟฟ้าดังกล่าวจะติดตั้งบนหลังคาอาคาร NT ในพื้นที่ภาคกลางและนำมาใช้ควบคู่กับระบบไฟฟ้าหลักเพื่อช่วย ลดก๊าซเรือนกระจก ดูแลสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน รวมทั้งลดต้นทุนด้านพลังงานในระยะยาวและลด  Carbon Footprint

เลย์สแตคส์ (Lay’s Stax) มันฝรั่งขึ้นรูปทอดกรอบแบบกระป๋อง (Fabricated Potato Chip) โดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด แท็กทีมพระเอกหนุ่มสุดฮอต ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร พรีเซนเตอร์คนล่าสุดของครอบครัวเลย์ ร่วมเปิดโหมดพักฮีลใจชาวออฟฟิศ เพื่อส่งต่อประสบการณ์ใหม่ของการพักเบรกจากการทำงานระหว่างวัน ด้วยกิจกรรม STAX TIME ZONE “เปิดโหมดพัก เปิดเลย์สแตคส์” ที่สุดของแคมเปญแจกชิมสุดยิ่งใหญ่แห่งปีที่เข้าถึงทุกความต้องการของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ โดยมีนางสาวชลกร อภิชาติธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจอาหารและขนมขบเคี้ยว และนางสาวพรรณทิพา พงศ์ชัยฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เลย์ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ให้การต้อนรับ โดยภายในงานมี 3 หนุ่มวง DICE เจย์, อาโป และอเล็กซ์ ร่วมสร้างสีสันและเล่นเกมสุดมันส์กับแฟนคลับผู้โชคดีแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ก่อนปิดท้ายกิจกรรมด้วยการปลดล็อคสกิลหูเคลือบทองคำกับมินิคอนเสิร์ตจาก ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ งานนี้ทำเอาแฟนๆ สนุกสนาน รีเฟรชความสดชื่น และรีแลกซ์กับกิจกรรมผ่อนคลายความเหนื่อยล้าระหว่างวันของคนทำงานได้แบบจัดเต็ม ณ ลานพาร์คสีลม เมื่อวันก่อน

ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร พรีเซนเตอร์คนล่าสุดของครอบครัวเลย์ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเลย์ ซึ่งผมเองก็โตมากับเลย์ ทานมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ส่วนเลย์สแตคส์นี่ผมชอบมากเลย เพราะหยิบทานง่าย สะดวก ไม่เปื้อนมือ และที่สำคัญรสชาติอร่อย กลมกล่อม มีสัมผัสกรุบกรอบเต็มรสมันฝรั่งเต็มๆ เป็นตัวช่วยในการเปิดโหมดพักเบรกระหว่างทำงานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอยากให้ทุกคนได้ลองชิม และลองเปิดใจสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของ ความกรอบที่ใช่ อร่อยเต็มรสชาติ กับเลย์สแตคส์ด้วยกันเยอะๆ นะครับ”

ภายในงานโดดเด่นด้วยกระป๋องเลย์สแตคส์ไซส์ยักษ์ที่รอคอยต้อนรับทุกคนที่อยากจะฮีลใจที่เหนื่อยล้าไปกับความอร่อยเต็มรสชาติ พร้อมอัดแน่นด้วยกิจกรรมเปิดโหมดพักที่เลย์สแตคส์ขนขบวนมาให้ชาวออฟฟิศย่านสีลมได้ผ่อนคลายกันแบบชิลๆ มากมาย ตั้งแต่วันที่ 25 – 28 มีนาคม 2567 อาทิ ปลดปล่อยความเครียด พร้อมระบายอารมณ์ไปกับเกมตีตุ่น, เกม Air Hockey และเกมปากระป๋อง ที่ถ้าเธอทุบฉันก็ทุบ, นั่งพักทำเล็บชิลๆ กับช่างทำเล็บที่คัดมาแล้วว่าจึ้ง, ฮีลร่างแก้เส้นยึด ลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สไตล์ออฟฟิศซินโดรมแบบทำถึงด้วยเซ็ตเก้าอี้นวดไฟฟ้าแบบฟลูออฟชัน รวมถึงเสริมจริตความมั่นใจแก้อาการนอยด์ด้วยการเสี่ยงเซียมซีตามแบบฉบับสายมูตัวแม่ และจุดถ่ายรูปเช็คอินแบบทัชใจ ตลอดจนกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพรีเซนเตอร์สุดหล่อ ต่อ ธนภพ และแขกรับเชิญคนพิเศษอย่าง 3 หนุ่มวง DICE ได้แก่ อเล็กซ์-อเล็กซานเดอร์ บัคแลนด์, เจย์-กาญจน์โสภณ วิรุณนิติพนธ์ และอาโป-วชิรากร รักษาสุวรรณ ที่ขยันเรียกเสียงกรี๊ดไม่มีแผ่วจากเหล่าแฟนคลับผู้โชคดีกว่า 30 คนที่ได้ร่วมเปิดโหมดพักแบบใกล้ชิดติดขอบเวที กับกิจกรรม Lucky Fans ที่สุ่มเลือกผู้โชคดีมาเล่นเกมกับ 4 หนุ่มแบบฟินเวอร์ ก่อนจะปิดท้ายกิจกรรมฮีลร่าง ฮีลใจแบบหูเคลือบทองคำด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก ตู่ ภพธร ที่มาร้องเพลงเพราะๆ ให้ฟังกันแบบจัดเต็ม

แล้วมาร่วมชิมความกรอบที่ใช่ อร่อยเต็มรสชาติของเลย์สแตคส์กันแบบต่อเนื่อง กับกิจกรรม “เปิดโหมดพัก มาทำเล็บชิลๆ กับเลย์สแตคส์” ที่ชวนชาวออฟฟิศย่านพร้อมพงษ์มานั่งทำเล็บกันสวยๆ แบบแฮปปี้เวอร์ เพื่อให้ช่วงเวลาพักเบรกของคุณพิเศษมากกว่าเดิม ในระหว่างวันที่ 2 – 4 เมษายน 2567 ณ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ พร้อมชิมเลย์สแตคส์โฉมใหม่สุดพรีเมียมที่บิ้วความจอยให้ยิ่งฟินเวอร์ ซึ่งวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI รับรางวัลอันทรงเกียรติ Thailand Top Company Awards ประเภทอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ซึ่งได้รับรางวัลติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากงานมอบรางวัล Thailand Top Company Awards 2024 จัดโดยนิตยสาร Business+ ในเครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อยกย่ององค์กรที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ นางสาวปวีณา จูชวน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

โดยรางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกรุงเทพประกันภัยในการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและยอดเยี่ยม ตลอดจนมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและนวัตกรรมการบริการที่เข้าถึงตรงใจลูกค้าและคู่ค้า อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลควบคู่กับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567

พฤกษา ใช้กลยุทธ์ Green to Great ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ประกาศจัดอีเวนต์ Live well Stay well  by PSH ในรูปแบบ Eco-Friendly Event ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้ทรัพยากร ลดขยะ ประเดิมจัดครั้งแรกที่ PRUKSA Avenue ศรีนครินทร์ – หนามแดง หวังจุดประกายให้ผู้จัดงานต่าง ๆ ร่วมใจกันใช้คอนเซปต์การจัดอีเวนต์อย่างยั่งยืน เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้โลกน่าอยู่ สานต่อแนวคิด ESG

นางสาวจิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤกษา มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็น “ผู้นําในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” และได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว ด้วยการผสานแนวคิดทั้งสามด้านไม่ว่าจะเป็นความใส่ใจสภาพแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance)  หรือ ESG เข้าไปในแนวนโยบายและการดำเนินงานทุกส่วน พร้อมกำหนดกลยุทธ์หลักเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืนของพฤกษา คือ Green to Great ที่มุ่งให้ความสำคัญในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมไปถึงการจัดกิจกรรม และงานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่จะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

“การจัดอีเวนต์ในแต่ละครั้งล้วนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่มากก็น้อย ทั้งก่อให้เกิดขยะ และใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ที่ผ่านมา พฤกษาได้จัดงาน Live well Stay well by PSH ให้กับลูกบ้านตลอดทั้งปี เรื่องนี้จึงกลายเป็นโจทย์สำคัญของเรา ปีนี้เราจึงมีนโยบายจัดงาน Live well Stay well by PSH ในลักษณะ Eco-Friendly Event ซึ่งทุกคนยังคงสนุกสนานไปกับกิจกรรมภายในงานได้เหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย” นางสาวจิตชญา กล่าว

โดยรูปแบบการจัดงาน Live well Stay well  by PSH แบบรักษ์โลก จะเริ่มตั้งแต่สถานที่จัดงาน ซึ่งพฤกษาจะ จัดในชุมชนของลูกบ้าน เพื่อไม่ให้ลูกบ้านต้องเดินทาง เพื่อลดการใช้รถยนต์ และลดการปล่อยมลพิษ จัดงานในพื้นที่เปิด เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และ จัดงานช่วงเวลากลางวัน เพื่ออาศัยแสงสว่างจากธรรมชาติเป็นหลัก รวมทั้ง เลือกใช้อุปกรณ์ในการสร้างบูธที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ มีการ ลงทะเบียนออนไลน์ และ ใช้คิวอาร์โค้ดแทนการแจกใบปลิว เพื่อลดการใช้กระดาษ

นอกจากนี้ ภายในงานจะ ทำอาหารเป็น 2 ขนาด คือ ขนาดปกติและขนาดเล็ก เพื่อให้คนที่กินน้อยสามารถเลือกขนาดเล็กเพื่อไม่ให้มีเศษอาหารเหลือทิ้ง และ ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายหรือรีไซเคิลได้ รวมทั้งมีระบบ การจ่ายเงินแบบ Cashless เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตเงิน และยังเตรียมจุดแยกขยะ และมีกิจกรรมที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ และเข้าใจวิธีการแยกขยะรีไซเคิลแต่ละชนิดให้ถูกต้องด้วย 

ขณะเดียวกัน พฤกษาจะประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชน นำเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาบริจาค ให้วัดสวนแก้ว และรณรงค์ให้ลูกบ้าน นำถุงผ้าและแก้วน้ำส่วนตัวมาใช้ เพื่อลดปริมาณขยะ

งาน Live well Stay well by PSH แบบรักษ์โลก จัดขึ้นครั้งแรกที่ PRUKSA Avenue ศรีนครินทร์ – หนามแดง นำความ “อยู่ดี มีสุข” พร้อมบรรยากาศสดใสแบบเป็นกันเองไปส่งมอบให้ลูกบ้านถึงโครงการ ซึ่งเป็นไปตามจุดหมายขององค์กรตามกรอบแนวคิด “ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต อยู่ดี มีสุข” โดยภายในงานมีผลิตภัณฑ์และบริการจากกลุ่มพฤกษา โฮลดิ้ง รวมถึงพันธมิตรมากมาย  พร้อมด้วยบูธร้านอาหาร Food Truck ที่มาให้บริการ  และเปิดให้ลูกบ้านเลือกซื้อได้อย่างเพลิดเพลิน

“การจัดงาน Live well Stay well by PSH แบบรักษ์โลก อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนงานต่าง ๆ ให้กลายเป็นอีเวนต์ที่สร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม หากบรรดาผู้จัดงานหลาย ๆ รายพร้อมใจกัน เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการจัดงานอย่างยั่งยืนไปทีละน้อย ในอนาคตก็จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้อยู่กับโลกของเราไปนาน ๆ” นางสาวจิตชญา กล่าวในตอนท้าย

ตรวจสอบความคุ้มครองหลังซื้อได้ทันที (Realtime) พร้อมเชิญชวนทำประกันภัย พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ระยะยาว 3 ถึง 5 ปี ลดเบี้ยประกันภัยและลดปัญหาประกันภัย พ.ร.บ. ขาดต่ออายุ

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ มีส่วนในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และบริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว พร้อมวางกลยุทธ์สร้างพันธกิจ เพื่อผลักดันให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในระยะยาว สู่การเป็นองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายระยะกลาง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 โดยวางแผนรองรับที่สามารถทำได้จริง ซึ่งการผลักดันการใช้พลังงานสะอาดสำหรับที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในแผนดำเนินงาน เพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุพันธกิจและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเห็นผลในระดับมหภาค พร้อมหนุนให้ลูกบ้านศุภาลัยได้อยู่อาศัยในบ้านประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง พร้อมติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ตั้งเป้าเพื่อพิชิตยอด 15,000 หลัง ภายในปี 2571 โดยปัจจุบันได้อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่จะดำเนินการติดตั้งไปแล้วกว่า 30 % ครอบคลุมกว่า 29 จังหวัด ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสามารถคำนวณยอดผลิตกระแสไฟฟ้ารวมได้ 82,300 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เสมือนการปลูกต้นไม้ทดแทน 3.2 ล้านต้น และลูกบ้านศุภาลัยสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20,000-30,000 บาทต่อปี และในอนาคต บริษัทฯ มีแผนพัฒนาเพิ่มช่องทางการ Tracking ติดตามพร้อมควบคุมการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่าน Application : SABAI สามารถใช้งานได้อย่างครบวงจรมากขึ้น

นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความเข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ตระหนักและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับคุณภาพชีวิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงพร้อมคิดค้นนวัตกรรมด้านการก่อสร้าง การออกแบบ รวมถึงการพัฒนาวัสดุก่อสร้างร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าที่อยู่อาศัยของศุภาลัยในทุกประเภทเป็น “บ้านรักษ์โลก” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ผ่าน 5 แกนหลักของลูกค้า ดังนี้

  1. นวัตกรรมเพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ “Supalai Self-Provedเชิญชวนพิสูจน์ผลลัพธ์ของนวัตกรรมการก่อสร้างอย่างรักษ์โลก ผ่าน Supalai Waste Meter มาตรวัดปริมาณขยะจากการก่อสร้างโดยให้น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และนวัตกรรมด้านต่าง ๆ อาทิ การออกแบบบ้าน/อาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การออกแบบเพื่อลดเศษวัสดุเหลือใช้ การออกแบบเพื่อลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งในนวัตกรรมบางอย่างที่ต้องอาศัยการผลิตขึ้นมาใหม่ ศุภาลัยจึงได้ร่วมหารือ คิดค้นและพัฒนาร่วมกับคู่ค้าทางธุรกิจ เช่น SCG TOA DOS CPAC เป็นต้น เพื่อผลิตวัสดุที่ตอบโจทย์ลูกค้าของบริษัทฯ และยังสามารถนำไปจัดจำหน่ายให้กับคนทั่วไปได้อีกด้วย
  2. การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน มีการออกแบบวางผังตัวบ้าน/ตัวอาคารให้อยู่ในแนวเหนือใต้เพื่อหลบแดดและรับลม เน้นการออกแบบช่องเปิดประตูหน้าต่างหลายทิศทางเพื่อการระบายอากาศที่ดี และมีการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยระบายความร้อน จนได้รางวัลการันตีด้านการออกแบบประหยัดพลังงานอีกทั้งเลือกใช้เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 
  3. การออกแบบเพื่อคนทุกวัย(Universal Design)  โดยบริษัทฯ คำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชันภายในบ้าน และการใช้งานต่างๆ เพื่อรองรับทุกเพศ ทุกวัยให้ได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ออกแบบห้องนอนในชั้นล่าง พร้อมใช้วัสดุปูพื้นที่ช่วยลดการลื่นและการกระแทก ออกแบบบานประตูเลื่อน ไม่มีธรณีประตู ลดความต่างระดับ สำหรับกรณีการใช้รถเข็นได้สะดวกยิ่งขึ้น
  4. การปฏิวัติใช้พลังงานสะอาด นอกจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และจุดติดตั้งEV Charger ให้กับลูกบ้านศุภาลัยกว่า 15,000 หลังทั่วประเทศแล้ว ศุภาลัยมีความมุ่งมั่น และจริงจังเพื่อพิชิตเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2030  และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดย อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ ติดตั้งโซลาร์ เซลล์ 450 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 330,397 กิโลวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 198 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี และยังมีการติดตั้ง ณ สำนักงานขายทั่วประเทศ และสโมสรส่วนกลาง สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าส่วนกลางให้กับลูกบ้านได้อีกด้วย
  5. กิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทฯ พร้อมสนับสนุนนโยบายระดับประเทศด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการให้ความสำคัญและส่งเสริมงานด้านความยั่งยืนในมิติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในทุกภาคส่วนขององค์กร อาทิ การปลูกต้นไม้บนที่ดินของบริษัทฯเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์,เปลี่ยนการใช้ปุ๋ยเคมี สู่ปุ๋ยอินทรีไบโอฯ,กิจกรรมร่วมแบ่งปันเสื้อผ้า และสิ่งของส่งต่อให้คนงานก่อสร้าง, สนับสนุนสินเชื่อ Green Loan

เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอสังหาฯ ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เชิญชวนพันธมิตรธุรกิจด้านเทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมผนึกความแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นสู่การเป็น No.1 “บ้านติดโซลาร์” โดยเฟสแรกได้ดำเนินแผนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกบ้านศุภาลัย ประเดิม 1,500 หลังทั่วประเทศ พร้อมดูแลระบบติดตั้ง บำรุงรักษา รวมถึงความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งาน และร่วมกันผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าให้กับลูกค้า ยังเป็นวิธีที่ช่วยไม่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดภาระให้แก่โลกโดยทุกคนสามารถทำได้และเข้าถึงได้ง่าย ๆ

นายโลแกน ยู ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ผู้ออกแบบโซลูชันอุปกรณ์แปลงผันกำลังไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน ตลอดจนระบบการจัดการและแสดงผลอัจฉริยะด้านดิจิทัลพาวเวอร์สำหรับทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน  หัวเว่ยจะดำเนินตามเป้าหมายเรื่องการส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนในประเทศไทย ร่วมติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายสำคัญของเราในประเทศไทย โดยหัวเว่ยจะสนับสนุนองค์ความรู้ทางด้านวิชาการและเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยพัฒนาโมเดลธุรกิจและการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านโปรแกรม Smart Design 2.0 สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจของ บมจ.ศุภาลัย โดยร่วมกับไอออน เอเนอร์ยี่ ในการสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อโปรโมทโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทย” 

หัวเว่ย ศุภาลัย และไอออน เอนเนอร์ยี่ ต่างมีวิสัยทัศน์ตรงกันในการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานที่ยั่งยืนเพื่อรองรับเทรนด์โลกในอนาคต จึงมีจุดมุ่งหมายที่จะร่วมมือกันศึกษาและพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด ลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยทดแทนด้วยพลังงานสะอาดในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของศุภาลัย เพื่อใช้เป็นต้นแบบเรื่องการบริหารจัดการพลังงานที่ยั่งยืน อันจะนำไปสู่การต่อยอดและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะที่ไอออน เอเนอร์ยี่ จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการต่าง ๆ

โดยหัวเว่ย ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลในระดับโลก และมีบริการรวมถึงโซลูชันต่าง ๆ ที่ได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในตลาดมากกว่า 170 ประเทศ ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บพลังงาน การนำไปใช้งาน และความปลอดภัยในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ หัวเว่ยส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ตามเป้าหมายเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ และตามพันธกิจของหัวเว่ยที่ต้องการ 'เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย' และ ‘การปลดปล่อยขุมพลังแห่งดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ดีกว่า’

นายพงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ION ผู้นำธุรกิจจัดหาโซลูชั่นพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา และติดตั้ง รวมถึงการดูแลบริการหลังการขายสำหรับภาคครัวเรือน อสังหาริมทรัพย์ และองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อลุยภารกิจพิชิต Net Zero สู่อนาคตที่ยั่งยืน เทรนด์ติดตั้ง Solar Roof มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัย (Residential) ด้วยเหตุผลภาระค่าไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันแปรของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและการซื้อไฟฟ้า ส่งผลให้ค่า FT มีการปรับตัวสูงขึ้น หากมีพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ก็จะทำให้ภาพรวมภาระค่าไฟฟ้าต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้งานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรร่วมมือกันผลักดันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วนของสังคมและสิ่งแวดล้อม

ไอออน ได้เล็งเห็นความสำคัญและร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ และภายใต้ความร่วมมือนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทระดับโลกอย่างบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานดิจิทัลมาร่วมออกแบบและติดตั้ง Solar Roof ให้กับบ้านในโครงการของศุภาลัย และเซ็ตมาตรฐานการติดตั้งด้วยอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ระดับ Tier 1 คู่กับ Huawei Inverter และ สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล (BCC) ที่ได้รับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากล โดยผู้ผลิตบริษัท Bangkok Cable เพื่อยกระดับการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้ถูกต้องตรงตามมาตรฐานบ้านศุภาลัยทั้งในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ

สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหา “บ้านประหยัดพลังงาน” หรือ “บ้านพร้อมโซลาร์”  เตรียมพบกับโครงการศุภาลัย ที่พร้อมเปิดขายในปีนี้ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยว บ้านสามชั้น บ้านแฝด โฮมออฟฟิศ รวมถึงคอนโดมิเนียม* ทั่วประเทศ (โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) ซึ่งจะมาพร้อมโปรโมชันหรือข้อเสนอพิเศษมากมาย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1720 หรือติดตามข้อมูลโครงการเปิดใหม่ในช่องทาง www.supalai.com และ Facebook: Supalai

ส่งเสริมอุตสาหกรรมไทยใช้พลังงานสะอาด ยกระดับธุรกิจไทยสู่เศรษฐกิจสีเขียว

เอปสัน ผู้นำด้านการพิมพ์ระดับมืออาชีพ จัดงาน LFP Innovation Day เป็นครั้งแรก ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยงานนี้จัดแสดงเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับนวัตกรรมล่าสุดสำหรับวงการสิ่งทอและค้าปลีก ครบเครื่องด้วยแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในการจับคู่โปรไฟล์สี และการพิมพ์สำเนาภาพถ่ายของช่างภาพมืออาชีพ

งาน LFP Innovation Day 2024 จัดขึ้นในรูปแบบโซลูชั่นให้ผู้ร่วมงานเดินชมผลงานพิมพ์และการสาธิตเครื่อง เพื่อ ให้เข้าใจกระบวนการทำงานของเครื่องพิมพ์และแอปพลิเคชั่นที่ได้การปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทางธุรกิจได้ ด้วยประสิทธิภาพต้นทุนที่เหมาะสมและสามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมผ่านระบบการพิมพ์ผ้าแบบดิจิทัล

“ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับการพิมพ์ผ้า รูป และป้ายโฆษณา เอปสันมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตโลกการพิมพ์ด้วยนวัตกรรม งาน LFP Innovation Day ถือเป็นโอกาสของเราในการนำเสนอโซลูชั่นการพิมพ์ที่ล้ำสมัยพร้อมรองรับองค์กรธุรกิจทุกขนาด โดยที่เราได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับทั้งลูกค้าและพันธมิตร เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทคโนโลยีของเราจะช่วยให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ลดขั้นตอนการทำงานและทำงานได้ง่ายขึ้น” นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

LFP Innovation Day มีการสาธิตผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ อาทิ:

  • นวัตกรรมเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา – โซลูชั่นนี้มาพร้อม Auto Color Chart Reading Portable Table รุ่นใหม่ และเครื่องวัดความทึบแสง SD-10 Spectrophotometer ของเอปสัน ช่วยลดเวลาจัดการงานสี โดยการสาธิตใช้งานโซลูชั่นจะแสดงการปรับแต่งค่าสี และยืนยันค่าสีของเครื่องพิมพ์ ที่เป็นตัวช่วยให้งานพิมพ์มีสีที่สม่ำเสมอและแม่นยำ
  • นวัตกรรมเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล - การสาธิตแสดงความสามารถในการขยายธุรกิจ หรือการปรับ แต่งงานตามความต้องการด้วยเครื่องพิมพ์ระบบ Dye Sublimation ของเอปสัน ครอบคลุมทุกขั้นตอนการพิมพ์รวมถึงขั้นตอนที่เกี่ยวกับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมจากพันธมิตรต่างๆ อาทิ Cricut
  • นวัตกรรมเครื่องพิมพ์ผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจร้านค้า - โซลูชั่น Epson Craft Studio ที่ช่วยให้ผู้ใช้อัปโหลดรูปเพื่อสั่งพิมพ์บนวัสดุหลากหลายชนิดผ่านเครื่องพิมพ์หน้ากว้างของเอปสัน โซลูชั่นนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเริ่มต้นการเสนอสินค้าและบริการได้โดยไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเข้าสู่วงการผลิตสินค้าของที่ระลึก Epson Craft Studio จะเปิดให้ใช้ในรูปแบบสมาชิกรายเดือน ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานภายในร้าน นับตั้งแต่ขั้นตอนสั่งโปสเตอร์และสินค้า ขั้นตอนพิมพ์ หรือขั้นตอนจัดส่ง โดยเอปสันจะเริ่มให้บริการนี้ตั้งแต่ปลายปี 2567 เป็นต้นไป
  • นวัตกรรมเครื่องพิมพ์ภาพถ่ายระดับมืออาชีพ – การสาธิตครอบคลุมตั้งแต่การถ่ายภาพไปถึงขั้นตอนการพิมพ์ เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นงานพิมพ์มีคุณภาพและความแม่นยำสูง เมื่อมี Epson SureColor
    SC-P6530D เป็นตัวช่วย นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่น Minilab มาในรูปแบบสตูดิโอถ่ายรูปและพิมพ์รูปด้วยตนเอง โดยใช้เครื่องพิมพ์ Epson SureLab SL-D530 และ SL-D1030 เพื่องานพิมพ์คุณภาพสูง

ในงาน LFP Innovation Day 2024 เอปสันยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด อาทิ Epson SureColor SC-V1030 เครื่องพิมพ์หมึกยูวี สำหรับงานพิมพ์ขนาด A4 เหมาะกับการผลิตสินค้ารูปแบบใหม่และของขวัญ รวมถึง Epson SureColor SC-F1030 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ผ้าที่มีขนาดเล็กที่สุดของเอปสัน

  • เทคโนโลยีล้ำสมัยที่มาพร้อมรุ่น SC-V103 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้กระบวนการพิมพ์ง่ายดายยิ่งขึ้น แต่ยังให้งานพิมพ์คุณภาพสูงไม่ว่าจะพิมพ์กับวัสดุชนิดใด ทั้งสิ่งทอ ผ้า ไม้ และอะคริลิค ช่วยสร้างความเป็นไปได้มากมายในเชิงธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมีมุมมองที่กว้างขวางยิ่งขึ้นและนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น
  • นอกจากนี้แล้ว พรินเตอร์ระดับนวัตกรรมรุ่นใหม่อย่าง SC-F1030 ยังพร้อมแปลงโฉมร้านขายของขวัญและสินค้าแปลกใหม่เข้าสู่ยุคที่สินค้าและบริการสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยฟีเจอร์อินเตอร์แอคทีฟ พรินเตอร์รุ่นนี้สามารถพิมพ์ลงผ้าได้โดยตรง (เหมาะกับพิมพ์ของชิ้นใหญ่) รวมทั้งสามารถ พิมพ์ลงแผ่นฟิล์มโดยตรงด้วย (เหมาะกับพิมพ์โลโก้ขนาดเล็ก) เจ้าของเครื่องจึงมีความยืดหยุ่นในการสร้าง สรรค์งานให้ลูกค้าพร้อมเติมเต็มความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้แล้ว งาน LFP Innovation Day 2024 ยังจัดแฟชั่นโชว์เพื่อนำเสนอผลงานจากคอลเล็กชันพิเศษเฉพาะที่เอปสันได้ร่วมมือกับ 7 ดีไซเนอร์จากกลุ่ม ASEAN Fashion Designers Showcase (AFDS)  ในการสร้างคอลเล็กชันที่มีชื่อว่า “Sustainability in Asia” ซึ่งออกแบบสะท้อนความมุ่งมั่นทุ่มเทต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ สัตว์ป่า และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยเครื่องแต่งกายทุกชิ้นในคอลเล็กชันดังกล่าว พิมพ์ด้วยพรินเตอร์ระบบ Dye Sublimation ของเอปสัน อาทิ SureColor SC-F6430, SureColor SC-F9430H และ SureColor SC-F10030     

X

Right Click

No right click