KBS: Soft Opening อาคารเรียนหลังใหม่ สะท้อนความเป็น International Outlook พร้อมก้าวเข้าสู่ปี 2023

August 15, 2022 1578

ความเป็น International outlook หรือความเป็นสากล สามารถสะท้อนได้ในหลายๆ เรื่อง

ทั้งหลักสูตร การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ จำนวนนักศึกษาต่างชาติ หรือแม้แต่อาคาร ห้องเรียนที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์การศึกษาปี 2022 และก้าวเข้าสู่ปี 2023

ตลอด 4 ปีของการบริหารคณะบริหารธุรกิจ KMITL Business School (KBS) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย รศ.ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดี จะเห็นว่าคณะ KBS มีการเปลี่ยนแปลงในทุกย่างก้าวและมีความเป็น International outlook มากขึ้น ล่าสุดคณะได้ Soft Opening อาคารเรียนหลังใหม่ที่ยิ่งใหญ่และสมกับการรอคอย เพื่อรองรับนักศึกษาไทยและต่างชาติ ภายใต้การเรียนในอาคารหลังใหม่นี้ จะช่วยผลิตบัณฑิตคุณภาพในทุกด้านให้ออกสู่สังคม

40 ปีผลิตผู้บริหารรุ่นใหม่สู่นานาชาติ

รศ.ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดี คณะบริหารธุรกิจ KMITL Business School (KBS) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า คณะบริหารธุรกิจ สจล. หรือ KMITL Business School (KBS) เป็นคณะที่มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 40 ปี และมีศักยภาพโดดเด่นในการสร้างนักบริหารรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับอาเซียนและระดับนานาชาติ

ปัจจุบันคณะ KBS เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรี โท เอก ทั้งโปรแกรมภาษาไทยและอินเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรการอบรมผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น หลักสูตร Smart Supervisor ที่ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม หลักสูตรนักบริหารคิงบริดจ์ระดับสูงและหลักสูตร Post-Doctoral ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ประเทศสหราชอาณาจักร เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนที่มีความเป็นสตาร์ทอัพ เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

เปิดอาคารใหม่ สร้างความเป็นอินเตอร์

รศ.ดร.สุดาพร กล่าวถึงการเปิดอาคารเรียนหลังใหม่ของคณะ KBS ที่ได้มีการ Soft Opening ไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ว่า อาคารเรียนดังกล่าวจะทำให้บรรยากาศการเรียนการสอนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยคณะได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท

จุดแข็งของอาคารดังกล่าว คือ ถูกออกแบบพื้นที่ใช้งานและสถาปัตยกรรมให้มีความเป็น International outlook มากขึ้น ทำให้การมาเรียนที่ KBS เสมือนเรียนอยู่ต่างประเทศ บนเนื้อที่ภายในอาคารกว่า 10,000 ตารางเมตร จำนวน 5 ชั้น ประกอบไปด้วย ที่ทำการสำนักงานคณบดี ห้องทำงานสายวิชาการ สายสนับสนุน ห้องเรียน ห้อง Smart classroom ห้องส่งเสริมการเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการ พื้นที่แสดงผลผลิต สิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ โปรเจกต์จากการวิจัยของคณาจารย์ นักศึกษา ชุมชน ตลอดจนพื้นที่กิจกรรม ชมรมของนักศึกษาและห้องพักของคณาจารย์ นอกจากนี้ ยังมีห้อง Hall of Fame ห้องสร้างผู้ประกอบการ ห้องตลาดหลักทรัพย์ ห้องเรียนภาษา ห้องประชุมวิชาการ ห้องวิจัยทางบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ Co-working Space, Smart Class Room

นอกจากอาคารเรียนแล้ว KBS ยังมีนักศึกษาจากทุกประเทศในอาเซียน และประเทศต่างๆ จากทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ ปากีสถาน บรูไน ออสเตรีย ออสเตรเลีย เป็นต้น ทำให้คณะก้าวเข้าสู่ความเป็น International Outlook เพราะมีความเป็นนานาชาติในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านอาคาร สถานที่ คณาจารย์ บุคลากร สิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งจะส่งผลให้ KBS ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ AACSB กำหนด

 

สร้างบัณฑิตสตาร์ทอัพสู่ธุรกิจจริง

รศ.ดร.สุดาพร กล่าวต่อว่า นอกจากการมุ่งสู่ความเป็น International Outlook แล้วคณะ KBS ยังมุ่งสู่การดูแลชุมชน โดยจับมือกับโรงเรียนมัธยมศึกษาจัดทำหลักสูตรร่วมกัน และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้ามาศึกษาเพื่อเก็บรายวิชาก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยจริง เพื่อเปิดโลกให้นักเรียนได้เรียนรู้ก่อนที่จะเข้ามาศึกษาจริงในรูปแบบ Credit Bank Project

นอกจากการมุ่งให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนแล้ว KBS ยังมุ่งเน้นการสร้างบัณฑิตสตาร์ทอัพออกสู่ตลาดผ่านทุกรายวิชาของคณะ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นตลอดเวลาตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4 ด้วยความพร้อมในการสร้างสตาร์ทอัพทำให้ปี 2565 KBS ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 83 ของโลกด้านบริหารธุรกิจที่ส่งเสริมผู้เรียนให้เป็นผู้ประกอบการ จาก World's Universities with Real Impact: WURI เนื่องจาก KBS ได้ร่วมมือกับหน่วยงานในภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ มากมายจนทำให้มีห้องเรียน ห้องแล็บ พร้อมเครื่องมือการเรียนการสอนที่ทันสมัย ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อรองรับนักศึกษาได้จำนวนมาก

มุ่งสู่ความเป็น Digital University

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวภายในงาน Soft Opening ถึงแนวทางการบริหารสถาบันฯ ว่า ภายใต้การบริหารของตนในฐานะรักษาอธิการบดีจะมุ่งสู่การบริหารแบบ “รอบด้าน ทุกมุมมอง” เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ The World Master of Innovation หรือผู้นำนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น “สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย” และเพื่อการพัฒนา สจล. ให้รวดเร็วที่สุด โดยได้ผลักดันให้เกิดนโยบาย “22 Quick Win ทำทันที” อาทิ การพัฒนาพื้นที่ออกกำลังกาย การเพิ่มเติมหอพักใหม่ การพัฒนาหลักสูตรให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เพื่อสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่นำไปต่อยอดในการทำงานจริงและสนับสนุนให้เกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพนำไปพัฒนาต่อได้ ซึ่งการเปิดอาคารเรียนหลังใหม่ของคณะ KBS ก็เป็นหนึ่งในแนวทางการบริหารงาน

ปัจจุบันเด็ก Gen Z สนใจที่จะเลือกเรียนคณะ KBS มากขึ้น เพราะเขามีแนวคิดที่จะทำธุรกิจเป็นของตนเอง ไม่ต้องการเป็นลูกจ้างตลอด การเลือกเรียนที่คณะ KBS ของ สจล. เขาจะไม่เพียงได้ความรู้ด้านบริหารธุรกิจ แต่เขาจะได้ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ในมิติต่างๆ เพราะ สจล. เป็นสถาบันแห่งเทคโนโลยี นอกจากนี้ จะเน้นให้น้องๆ ได้ทำ Business Canvas Model ทำให้บัณฑิตที่จบจาก สจล. มีองค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ สถาบันฯ จะมุ่งเน้นสู่ความเป็น Digital University ให้เร็วที่สุดและเป็นการพัฒนาในทุกมิติ ผ่าน Five Global Innovation Index ที่ครอบคลุมพัฒนาทั้งด้านระบบการทำงาน คุณภาพชีวิต ต่อยอดเครือข่าย ส่งเสริมนวัตกรรมและผลักดันด้านการเรียนรู้ ใน 5 มิติ ได้แก่

  1. Global Infrastructure: เพิ่มคุณภาพชีวิตบุคลากรและนักศึกษา มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) เริ่มจากการทำโครงสร้างต่างๆ ให้สวยงาม ให้เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
  2. Global Management: ผลักดันบุคลากรสู่โลกดิจิทัล ด้วยการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันโลกการทำงานยุคดิจิทัล เพื่อให้ก้าวกระโดดแข่งขันบนเวทีระดับโลกได้
  3. Global Citizen: ปั้นบัณฑิตให้พร้อมทำงานทั่วโลก ด้วยการบ่มเพาะบัณฑิตให้เป็นส่วนหนึ่งของประชากรโลก ที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์กรทั่วโลก และพร้อมเดินหน้าพัฒนางานวิจัยชั้นแนวหน้า (Frontier Research)
  4. Global Innovation: รุดพัฒนานวัตกรรมระดับโลกเพื่อลดการนำเข้า ด้วยการเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพื่อผลักดันให้เป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ดีที่สุดของไทย
  5. Global Learning: ขมวดรวมทุกวิทยาเขตเป็นหนึ่งเดียว ผสานองค์ความรู้ระหว่าง 2 วิทยาเขต ได้แก่ สจล. และ สจล. วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

 

กว่าจะเป็นอาคารเพื่อคณะ KBS

ด้าน รศ. สุพจน์ ศรีนิล รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกายภาพ สิ่งแวดล้อมและทรัพย์สิน กล่าวถึงความสำเร็จในการร่วมรีโนเวทอาคารของฝ่ายกายภาพฯ ว่า “ทีมกายภาพได้มีส่วนช่วยในการรีโนเวทอาคารของคณะ KBS ตั้งแต่ก่อนการเข้ามารีโนเวท ทั้งในเรื่องการออกแบบ การตรวจแบบ การควบคุมงาน ฯลฯ ปัจจุบันอาคารของคณะ KBS สามารถเปิดการเรียนการสอนได้แล้วในชั้น 1 และ 2 โดยอาคารนี้จะมีความพร้อมในหลายๆ เรื่องทั้งห้อง Smart classroom ที่ทันสมัย ห้องบรรยาย ห้องนิทรรศการ ห้องพักอาจารย์ ห้องเรียนรู้เรื่องการลงทุน ฯลฯ เป็นการปรับโฉมอาคาร 30 กว่าปีให้ดูทันสมัยที่สุดในขณะนี้ วันนี้เราทำการ Soft Opening แล้ว และสิ้นเดือนกันยายนนี้อาคารนี้พร้อมจะเปิดให้ใช้งานทุกภาคส่วน”

Last modified on Tuesday, 16 August 2022 03:56
X

Right Click

No right click