เคทีซีเตรียมของขวัญสุดคุ้มรับปีใหม่ให้ขาช้อปออนไลน์ “ยิ่งแลก ยิ่งลด ยิ่งได้คืน”

ทีเอ็มบี พัฒนา ปันบุญ” โซลูชัน เพื่อช่วยการบริหารจัดการแบบครบวงจร (Total Foundation Solution) สำหรับมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล ทั้งด้านการเงินขารับ ขาจ่าย การระดมทุนและการบริหารงานจัดการเอกสารต่างๆ พร้อมเดินหน้าสู่การบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (E-Donation) โดยภายในงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลที่ใช้โซลูชัน ปันบุญ” เข้าใจและสามารถจัดการการบริหารระบบงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากมูลนิธิยุวพัฒน์ มาให้คำแนะนำการใช้เครื่องมือและวิธีการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริจาคในยุคดิจิทัล

 

โดยมี (จากซ้าย) ดรวิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการสดุดี ชลิตเรืองกุล ผู้จัดการฝ่ายงานสื่อสารและพัฒนาสัมพันธ์ มูลนิธิยุวพัฒน์, วีระชัย อมรรัตน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจทหารและลูกค้าองค์กรรัฐ ทีเอ็มบี, ผศ.ลีนา ลิ่มอภิชาต รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ พรรณวลัย อินทราพิเชฐ เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารการตลาด กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี ร่วมงาน ณ ทีเอ็มบี สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

นายระเฑียร ศรีมงคล (กลางซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) รับมอบใบรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001: 2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISMS - Information Security Management System) จากนายอิศรา โล่สุวรรณ (กลางขวา) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ณ ห้องประชุม “เคทีซี” อาคารสมัชชาวาณิช 2

 

“เคทีซี” นับเป็นบริษัทแรกและรายเดียวของสถาบันการเงินในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสำหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001: 2013) ทั่วทั้งองค์กร โดยบริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้มาตรฐานฯ อย่างครบถ้วน และนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังในทุกหน่วยงานและทุกระบบงาน ไม่ว่าจะเป็นระบบงานหลักหรือระบบงานสนับสนุน รวมถึงการบริหารจัดการผู้ให้บริการภายนอกของธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจบริการร้านค้า รวมถึง IT Infrastructure และศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อให้ระบบสารสนเทศและสารสนเทศของบริษัทฯ มีระบบควบคุมภายในที่ดี ได้รับการรักษาความปลอดภัย (Confidentiality) มีความถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ (Integrity) และมีความพร้อมใช้งาน (Availability) ทั้งที่เป็นข้อมูลของบริษัทและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ

 

“มาตรฐาน ISO27001” เกิดขึ้นจากองค์กร ISO - International Organization for Standardization โดยเวอร์ชั่นล่าสุดคือ ISO27001:2013 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.2013 เป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Management Systems : ISMS) จัดทำขึ้นเพื่อให้องค์กรนำข้อกำหนดไปใช้ในการประเมินความเสี่ยง ออกแบบด้านการรักษาความปลอดภัยและการนำไปปฏิบัติ รวมถึงการบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งที่เป็นดิจิทัลและเอกสารได้อย่างปลอดภัย เป็นมาตรฐานสากลเพียงมาตรฐานเดียวที่สามารถตรวจประเมินได้สำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล มาตรฐานนี้จะให้การรับรองว่าองค์กรได้ดำเนินงานสอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับและข้อกำหนดตามสัญญา อันเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลสำคัญ ด้วยเหตุนี้การได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 27001 จึงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าองค์กรได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

---------------------------------------------------------------

กรุงเทพ, XX ธันวาคม 2562 -- ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมเคียงข้างลูกค้าธุรกิจให้ได้มากกว่า (Get MORE with TMB) และเป็นมากกว่าคู่คิดทางการเงิน พัฒนาโซลูชันที่ออกแบบจากปัญหาหรืออุปสรรคของลูกค้ากลุ่มธุรกิจอย่างแท้จริง TMB Business CLICK คือหนึ่งในนวัตกรรมดิจิทัล แบงก์กิ้ง แพลตฟอร์ม ที่เพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์ครบครันเพื่อลูกค้าธุรกิจทุกขนาด ใช้งานง่าย ไร้รอยต่อ อุ่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ผู้ใช้สามารถเข้าทำรายการได้ทุกรูปแบบ

 

นายรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารนวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า กระแสดิจิทัล ดิสรัปชันผลักดันให้ธุรกิจทุกขนาดต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก ซึ่งแต่ละขนาดก็จะเจออุปสรรคที่แตกต่างกันไป จากการศึกษาของ ทีเอ็มบี พบว่าปัญหาขององค์กรขนาดใหญ่มีเงินทุนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คนในองค์กรกลับไม่สามารถปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะการใช้งานเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กแม้จะตื่นตัวต่อกระแสดิจิทัล มีความเข้าใจและพร้อมจะปรับตัว แต่ก็จะขาดเงินทุนในการเข้าถึงเทคโนโลยีหรือโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจ เพื่อช่วยลดขั้นตอนในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

 

ด้วยเหตุนี้ ทีเอ็มบี ธนาคารที่ Make THE Difference ให้กับวงการธนาคารอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้มากกว่า จึงไม่เคยหยุดยั้งที่จะต่อยอดและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ TMB Business CLICK สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจทุกขนาดอย่างสมบูรณ์แบบในแพลตฟอร์มเดียว

 

นายรัชกร กล่าวว่า TMB Business CLICK เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพื่อลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ และมีโซลูชันที่แก้ปัญหาให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจได้อย่างครอบคลุม ลูกค้าธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลทางการเงิน และบริหารธุรกรรมการเงินแบบครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมการเงินทั้งในและต่างประเทศ เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงาน การจ่ายเงินซัพพลายเออร์ การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การส่งคำสั่งเบิกเงินกู้ หรือแม้แต่การตั้งค่าเตือนต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เพื่อสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างเต็มกำลัง

 

“จากนี้ผมเชื่อว่าเราจะเห็นการเติบโตของการทำธุรกรรมบนดิจิทัล แบงก์กิ้ง แพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ จากในอดีตที่ทุกธุรกรรมเกิดขึ้นที่สาขาทั้งหมด มาสู่อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้งในปัจจุบันและก้าวไปสู่ดิจิทัล ดิสรัปชันอีกมากมาย เพราะต้นทุนของเทคโนโลยีและโซลูชันที่ต่ำลงแต่ครบวงจรมากขึ้น ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี

ได้อย่างง่ายขึ้น ซึ่งในปีนี้มีการเติบโตของธุรกรรมดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจทีเอ็มบีเอง สูงขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ TMB Business CLICK ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นายรัชกร อธิบายต่อว่า ในปีหน้า ทีเอ็มบี มีแผนเดินเกมรุกเพื่อพัฒนาบริการด้านดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจให้แตกต่าง โดยคำนึงถึงหลักการสำคัญ 3 ข้อ ดังนี้

 

1. ต้องมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้าธุรกิจ เพราะลูกค้าธุรกิจมีความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อน ทีเอ็มบีจึงต้องทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าธุรกิจทุกขนาดเห็นว่าการบริหารธุรกรรมทางการเงินด้วยดิจิทัล แบงก์กิ้ง แพลตฟอร์ม ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เช่น การล็อกอินครั้งเดียวก็สามารถใช้งาน TMB Business CLICK ได้ทุกแพลตฟอร์ม

2. ต้องเป็นมากกว่าผู้ให้บริการทางการเงิน TMB Business CLICK พร้อมนำเสนอบริการใหม่ๆ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่สามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าธุรกิจทุกขนาดที่มากกว่าความรวดเร็ว เพราะเพียงแค่ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม (ฝาก/ ถอน/ โอน/ รับ/ จ่าย) ไม่เพียงพออีกต่อไป และได้กลายเป็นมาตรฐานของผู้ให้บริการด้านการเงินไปแล้ว

3. ต้องสามารถนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในอดีตการเก็บข้อมูลไม่เป็นระบบและเก็บในรูปแบบเอกสาร จึงไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ด้วย TMB Business CLICK จึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เพราะถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัล เช่น สถานะทางการเงิน สภาพคล่องของธุรกิจ ในอนาคตอาจต่อยอดไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ถึงแนวโน้มของธุรกิจในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร และเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ธุรกิจของคุณอยู่ในเกณฑ์ใด

 

"ทีเอ็มบี ไม่มองว่าดิจิทัลเป็นคำตอบของทุกอย่าง แต่การเข้าใจความต้องการของลูกค้าธุรกิจอย่างแท้จริงและมองว่าดิจิทัลจะเข้ามาเติมเต็ม มาช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างไรต่างหากที่สำคัญที่สุด” นายรัชกร กล่าวทิ้งท้าย

 

ความมุ่งมั่นทั้งหมดนี้เอง ทำให้ผลงานด้านดิจิทัล แบงก์กิ้งของ ทีเอ็มบี เป็นที่ประจักษ์ และนำมาซึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจมากมาย อาทิ รางวัล Customer Focus Award จากเวทีมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย หรือ Thailand Top Company Awards 2019 และ รางวัล Digital Bank of the Year Award 2018 ในงาน The Asset Triple A Digital Awards 2018 ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของทีเอ็มบีในการ Make THE Difference ให้กับวงการธนาคารอยู่เสมออย่างแท้จริง

นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) และทีมงาน เข้าเยี่ยมชมโครงการเจดีย์ Kyaikthanlan ของบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (RT) ที่รัฐมอญ ประเทศเมียนมาร์ โดยมีนายไชยา วงศ์ลาภพานิช รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารและการเงิน ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆนี้

บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ยืนยันถึงความพร้อมในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยนักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปี ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมจากประชาชนและนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยได้กำหนดราคาขายสุดท้ายที่ 17.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดจากช่วงราคาเสนอขายที่ 15.50-17.50 บาท ผู้บริหารเตรียมยกทีมเดินหน้านำหุ้นเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก หรือ 1st Trading Day ในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมนี้

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความมั่นใจในการระดมทุนผ่านหุ้น BAM ในครั้งนี้ว่า “การเข้าจดทะเบียนพร้อมทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (1st Trading Day) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 นี้ เป็นก้าวแห่งความสำเร็จที่บุคคลากรของ BAM ทุกคนภาคภูมิใจ เพราะจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานให้เทียบเท่าบริษัทเอกชน เพิ่มแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต และลดภาระหนี้ของบริษัทฯ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน”

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นโอกาสสำหรับประชาชนและนักลงทุนที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีเครือข่ายสาขาและสำนักงานมากที่สุดครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค พร้อมศักยภาพในการสร้างโอกาสในทุกภาวะเศรษฐกิจ และการเติบโตจาก NPLs และ NPAs ในระบบธนาคารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดําเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2562 BAM มีรายได้รวม 9,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.4% จากงวดเดียวกันของปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 4,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.5 % จากงวดเดียวกันของปี 2561

นางทองอุไร กล่าวถึงความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนของ BAM ว่า “การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ BAM เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานให้เทียบเท่าบริษัทเอกชน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตอบสนองต่อสถานการณ์และสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการศึกษาถึงผลกระทบทางภาษี และ

 

มาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ (TFRS 9) และได้เตรียมความพร้อมในการรับมือถึงปัจจัยดังกล่าว โดยยังมั่นใจถึงผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้จากกระแสเงินสดของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่งและมั่นคง เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ BAM ยังคงเป็นกลไกที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการแก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และทรัพย์สินรอการขายจากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อช่วยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้กลับมาเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ และหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดย นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ จนถึง 30 กันยายน 2562 BAM สามารถปิดบัญชีเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ NPLs ซึ่งคำนวณจากมูลค่าต้นทุนการซื้อไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 90,000 ล้านบาท” นางทองอุไรกล่าว

นักลงทุนที่สนใจ โปรดติดตามการเข้าจดทะเบียนพร้อมทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (1st Trading Day) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 นี้ และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนในการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทที่เว็ปไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.bam.co.th และที่ www.set.or.th หรือติดต่อโทรศัพท์หมายเลข 02 630 0700

 

โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน”

หมายเหตุ :

“เอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือในประเทศอื่น โดยหลักทรัพย์ดังกล่าวจะไม่ถูกเสนอขายหรือขายในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยปราศจากการจดทะเบียนหรือการได้รับยกเว้นการจดทะเบียน ทั้งนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ มิได้ประสงค์จะจดทะเบียนการเสนอขายครั้งนี้ หรือเสนอขายหลักทรัพย์ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดแก่ประชาชนเป็นการทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกา การเสนอขายหลักทรัพย์ใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาจะทำได้ผ่านหนังสือชี้ชวน (prospectus) ที่อาจขอได้รับจากบริษัทฯ ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ ผู้บริหาร และงบการเงินของบริษัทฯ

 

เอกสารฉบับนี้จะต้องไม่ถูกนำไปใช้อ้างอิงเพื่อการจัดทำบทความเพื่อเผยแพร่ในประเทศสหรัฐอเมริกาการเผยแพร่เอกสารฉบับนี้อาจถือเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในบางประเทศ ห้ามมิให้เผยแพร่เอกสารนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย หรือประเทศญี่ปุ่น ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย หรือประเทศญี่ปุ่น”

เคทีซีจัดหนักจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์รับสิทธิ์เข้ามิราเคิล เลาจน์ ผ่านแอป KTC Mobile

 

“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญเด็ด “จองตั๋วออนไลน์ เข้ามิราเคิล เลาจน์ฟรี” เอาใจสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ชื่นชอบการเดินทางแบบเอ็กซ์คลูซีฟ มอบสิทธิพิเศษ ต่อที่ 1 เมื่อใช้จ่ายบัตรเครดิตเคทีซีในการจองตั๋วเครื่องบินแบบ Full Service ผ่านเว็ปไซต์สายการบินเอเอ็นเอ (ANA) / คาเธ่ย์ แปซิฟิก (Cathay Pacific) / ไชน่า แอร์ไลน์ (China Airlines) / เอมิเรตส์ (Emirates) / โคเรียน แอร์ (Korean Air) / โอมาน แอร์ (Oman Air) และ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (Singapore Airlines) ครบทุก 35,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ในการเข้า Miracle Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิมูลค่า 1,200 บาท (สูงสุด 5 สิทธิ์/เซลส์สลิป) โดยสมาชิกต้องทำการลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่ เว็บไซต์ www.ktc.co.th/miracleexperience หรือแอป “KTC Mobile” ในวันที่ทำการจองตั๋วเครื่องบิน โดยเคทีซีจะส่งรหัสเข้าใช้บริการผ่านทาง KTC Mobile ภายใน 60 วัน ต่อที่ 2 สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถใช้คะแนนสะสม KTC FOREVER 5,500 คะแนน แลกรับสิทธิ์เข้ามิราเคิล เลาจน์ โดยสามารถแลกรับสทธิ์ได้ที่เค้าท์เตอร์มิราเคิล เลาจน์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิทุกสาขา ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 31 มกราคม 2563

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย คุณศรัณยา เทียนถาวร (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล รับรางวัล Top Employer Thailand 2020 จากสถาบันท็อป เอ็มพลอยเยอร์ส (Top Employers Institute) ซึ่งมี คุณเดวิด พลิงค์ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันท็อป เอ็มพลอยเยอร์ส เป็นตัวแทนมอบรางวัล ทั้งนี้ เอไอเอ ประเทศไทย เป็นบริษัทประกันชีวิตไทยรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าว จากการคัดเลือกองค์กรต่างๆ ใน 118 ประเทศ 5 ทวีปทั่วโลก รางวัลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมของเอไอเอ ประเทศไทย ในการดูแลพนักงานและการบริหารสภาพแวดล้อมการทำงาน โดยยึดแนวทางการจัดการทรัพยากรบุคคลเชิงรุกที่มุ่งเน้น “การให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นอันดับแรก” ทั้งในแง่วัฒนธรรมองค์กร ตลอดจนการดูแลชีวิตพนักงานอย่างรอบด้านตลอดระยะเวลาของการทำงานที่เอไอเอ ประเทศไทย ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเอไอเอ ประเทศไทยเป็นองค์กรนายจ้างชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในแวดวงธุรกิจทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล โดยงานมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา

 

-จบ-

กรุงเทพฯ (4 ธันวาคม 2562) ทวิตเตอร์ เปิดผลการวิจัยจาก 500,000 ทวีตโดย Twitter ร่วมกับ Circus Social ต้นปี 62 สะท้อนภาพผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชาวไทยมีการรับชมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ไทยมากกว่าต่างประเทศ และพบว่าคนไทย ทวีตข้อความเกี่ยวกับละครมากกว่าภาพยนตร์ในสัดส่วน 77% และ 23% ตามลำดับ สวนกระแสเทรนด์ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ที่มีบทสนทนาเกี่ยวกับภาพยนตร์ 64% และซีรีส์ 36%

Image preview

 

มิสเตอร์มาร์ติน ยูเรน หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า งานวิจัยล่าสุดได้ผลลัพธ์เป็นข้อมูล เชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ทวิตเตอร์ในประเทศไทย ผู้ใช้งานชาวไทยนิยมรับชมละครโทรทัศน์และภาพยนตร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ นิยมละครไทยและภาพยนตร์ไทยมากกว่าของต่างประเทศ โดยจะมีการทวีตแสดงความคิดเห็นแบบเรียลไทม์ขณะรับชมรายการนั้นๆ ซึ่งการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับที่สูงมาก นับเป็นการสร้างโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการเข้าถึงผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่เป็นกลุ่มที่มีความ สนใจในเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์มากได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลการวิจัย Twitter และ Circus Social (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2562) พบว่ามี 4 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

1. กลุ่มคนที่สนใจมาก และไม่สนใจเลย

ข้อมูลจากการวิเคราะห์คุณภาพของการทวีตเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ในประเทศไทยนั้น กลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีความสนใจมาก และ กลุ่มที่ไม่มีความสนใจเลย โดยกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์นั้นจะเลือกชมสิ่งที่สนใจและมีส่วนร่วมในชุมชนที่มีความสนใจเดียวกัน 3 กลุ่มที่มีความสนใจที่โดดเด่น คือ แฟนละครโทรทัศน์ไทย, แฟน Netflix และแฟนบันเทิงเกาหลี ในส่วนของกลุ่มที่

ไม่มีความสนใจในเรืองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เลย ในทางกลับกันจะมองหาความบันเทิงในยามว่างจากการทำงานหรือ เรียนหนังสือ หรือในช่วงระหว่างวันหยุดพักผ่อน

 

2. โทรทัศน์ยังเป็นที่นิยมเพราะคอนเท้นต์ ท่ามกลางการเติบโตของแพลตฟอร์มทีวีออนไลน์และสตรีมมิ่งต่างๆ แต่โทรทัศน์ยังคงมีความต้องการสูงเมื่อเปรียบเทียบ กับแพลตฟอร์มที่ต้องมีการจ่ายเงินหรือแพลตฟอร์มที่ผิดกฎหมาย เมื่อดูจากทวีต และจำนวนการเสิร์ทบน Google พบว่าความสนใจในคอนเท้นท์บนแพลตฟอร์มมีการจ่ายเงินและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ผิดกฎหมายนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่าโทรทัศน์

คอนเท้นท์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทางเลือกใช้แพลตฟอร์มของคนไทย มีจำนวนของผู้ใช้งานจำนวนหนึ่ง ได้เปลี่ยนไปรับชมคอนเท้นท์จากแฟลตฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่ง ตามความสนใจในคอนเท้นท์ เช่น ความสนใจและติดตาม รายการประเทศเกาหลี รวมถึงเฉพาะกลุ่มเช่น เรื่องสยองขวัญ หรือ แนวแฟนตาซี

3. ละครหรือภาพยนตร์ของไทยได้รับความนิยมมากกว่าของต่างประเทศ

ในเรื่องของภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนไทยนิยมทวีตเกี่ยวกับภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ของไทย มากกว่าของต่างประเทศ แม้ในความเป็นจริงจำนวนของภาพยนตร์ไทยจะน้อยกว่าภาพยนตร์ของต่างประเทศ แต่มีบท สนทนาจำนวนมากกว่า ภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในปี 2561 คือ BNK48 Girls Don’t Cry และ น้อง.พี่.ที่รัก Brother of the Year ซึ่งได้มีการพูดถึงมากกว่าภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด บล็อกบัสเตอร์ อย่าง Avengers: Infinity War และ Black Panther

เลยทีเดียว และเมือมีการทวีตเกี่ยวกับภาพยนตร์ของไทยจะเป็นในเชิงบวกกว่าภาพยนตร์จากต่างประเทศ

 

Image preview

 

Image preview

 

ละครโทรทัศน์นับว่าเป็นประเภทรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย โดยละครโทรทัศน์ไทยที่มีการพูดถึงมากที่สุด คือ บุพเพสันนิวาส และฮิตติดอันดับหนึ่งของหัวข้อเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ที่มีการพูดถึงมากที่สุดในปี 2018 เช่นเดียวกับ ภาพยนตร์ไทยซึ่งทวีตเกี่ยวกับละครโทรทัศน์ไทยจะเป็นในเชิงบวกกว่าละครโทรทัศน์จากต่างประเทศ

 

 

Image preview

 

Image preview

 

ขณะที่การสนทนาบนทวิตเตอร์ประเทศไทยมีอัตราการสนทนาเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ไทยสูงที่สุด ซึ่งเป็นเทรนด์เดียวกันทั้ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการทวีตถึงละครโทรทัศน์ไทย 77% เมื่อเทียบกับทวีตที่พูดถึงซีรีส์ต่างประเทศ 23%

 

4. การทวีตถึงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์มีความแตกต่างกัน

ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชาวไทยทวีตถึงละครและภาพยนตร์ด้วยแนวทางที่แตกต่างกัน แฟนๆ ละครที่กระตือรือร้นจะเข้าไปมีส่วนร่วม ในการพูดคุยโดยเขียนถึงพล็อตเรื่องและเนื้อหาของบทละคร และหากว่าละครเรื่องนั้นอิงประวัติศาสตร์ การพูดคุยก็จะเป็นการ ถกเถียงถึงเรื่องความถูกต้องทางประวัติศาสตร์

 

 

นางวรรธนา มงคลศรี (แถวหน้า ที่ 3 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) มอบประกาศนียบัตรและแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จหลักสูตรโครงการเสริมความเป็นเลิศด้านการค้าเพื่อผู้ประกอบการส่งออก จัดโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าของ EXIM BANK (EXIM Excellence Academy : EXAC) เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านกระบวนการส่งออก การจัดทำแผนธุรกิจ การจัดการโลจิสติกส์ การสร้างมาตรฐานสินค้า และการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทยพร้อมเริ่มต้นส่งออกได้ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้

Page 3 of 5
X

Right Click

No right click