AIS โดย เอไอเอส คอนแท็ค เซ็นเตอร์ เดินหน้าสร้างอาชีพแก่ผู้พิการอย่างต่อเนื่องกับโครงการ “เอไอเอส สร้างอาชีพ คอลล์ เซ็นเตอร์ แด่ผู้พิการ”

 

เมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวพิชามน  จิตรเป็นธรรม  ผู้อำนวยการ ธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเวทีสัมมนาแบ่งปันความรู้ทางการเงินให้กับสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” และประชาชนที่สนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในหัวข้อ “เครดิตดีไม่มีขาย เคล็ดลับสร้างเครดิตใน ชั่วโมง” โดยวิทยากรรับเชิญ นายธฤต ศรีอรุโณทัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครติตแห่งชาติ จำกัด ภายในงานมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาเกินคาด พร้อมรับคำแนะนำในการอ่านข้อมูลเครดิตบูโรด้วยตนเอง และรับฟรีหนังสือเกี่ยวกับความรู้ทางการเงิน เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการจัดสรรชีวิตทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น B1 อาคารสมัชชาวาณิช สุขุมวิท 33

--------------------------------------------------------------------------

ถือเป็นปีที่วงการอีสปอร์ตของไทยคึกคักอย่างมาก เมื่อ เอไอเอส ผู้นำเครือข่ายอันดับ 1 ของประเทศ เข้ามาร่วมพัฒนาวงการอีสปอร์ตของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายให้มีความเสถียรมากที่สุดและมีค่า Latency ต่ำที่สุด

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เดินหน้ากลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ในฐานะผู้สนับสนุนหลักให้กับสโมสรวอลเลย์บอลหญิง “เจนเนอราลี่ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค” เจ้าของฉายา “โลมาสีชมพู” ต่อเนื่องปีที่2

โรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School -DBS) ตอกย้ำพันธกิจในการสร้างนักเรียนที่มีความสามารถป้อนเข้าสู่มหาวิทยาลัยระดับโลก ด้วยการมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการแก่นักเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งการสอบ IGCSE และ A Level ซึ่งถือเป็นใบเบิกทางของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษสู่เวทีการศึกษาเล่าเรียน ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยระดับโลกได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข ด้วย The University Pathways เคล็ด (ไม่ลับ ในการปูเส้นทางสู่มหาวิทยาลัยโดย Mr. James Lyng Vice Principal โรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School - DBS) ผู้มีประสบการณ์ที่คร่ำหวอดด้าน IGCSE และ A Level มากว่า 20 ปี

 

Mr James Lyng มีประสบการณ์ด้าน GCSCE และ A Level ทั้งในฐานะอาจารย์ผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนและติวนักเรียนอย่างเข้มข้นในการสอบ GCSCE และ A Level โดยอาจารย์ James ได้เน้นย้ำว่าหลักสูตรการเรียนการสอนแบบ Enhanced British Curriculum จากโรงเรียนเอกชนอังกฤษเป็นหลักสูตรอังกฤษที่ดีที่สุดในโลก และ นักเรียนที่จบการศึกษาจากหลักสูตร Enhanced British Curriculum พร้อมผลการสอบ A-Level ที่ยอดเยี่ยม ส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นในการเรียนปีหนึ่งของการศึกษาที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา เพราะรากฐานการศึกษาของนักเรียนที่จบหลักสูตรนี้มีความแข็งแกร่งมาก ดังนั้นหลักสูตร Enhanced British Curriculum จึงเป็นใบเบิกทางสำหรับการเรียนต่อที่ประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ยุโรป และแคนาดา

 

อาจารย์ James ได้นำเทคนิคขั้นตอนระดับสูง The University Pathways มาแบ่งปัน เพื่อปูเส้นทางสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ซึ่งประกอบด้วย ประเด็น ดังนี้

 

1.     Y9 วัยสำคัญในการเลือกอาชีพ นักเรียน Y9 จะได้รับแบบฟอร์ม Informed Options Choices ให้กรอกเลือกวิชาที่จะเรียนเพื่อเตรียมสอบ IGCSEsซึ่ง มีให้เลือกเรียน 5-11 รายวิชา ก่อนที่จะกรอกแบบฟอร์มนี้ นักเรียนและผู้ปกครองจะต้องร่วมกันปรึกษาหารือกับครูหัวหน้าภาควิชาและทำแบบทดสอบพิเศษ เพื่อใช้การวางแผนการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดย DBS เชื่อว่าเด็กทุกคนคือเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมเจริญเติบโต จากเมล็ดสู่ดอกไม้ นี่คือวิธีที่ DBS ดูแลนักเรียนเพื่อก้าวสู่ผู้นำระดับโลก ซึ่งการเริ่มปูพื้นฐานการสอบจะเริ่มที่ชั้นปี Y9 สำหรับ DBS นักเรียนทุกคนคือเป็นดอกไม้ประเภทต่าง ๆที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญเริ่มแรกคือ อาจารย์แต่ละห้องแต่ละชั้นปีจะต้องรู้จักตัวตนจริงๆของนักเรียนเพื่อส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตอย่างถูกทางในเส้นทางที่ตนเองรักและมีความสามารถอย่างแท้จริง ที่ DBS ความภูมิใจคือเรารู้จักนักเรียนทุกคนว่ามีความสามารถทางด้านใดและมี Passion ด้านใด และเข้าใจว่านักเรียนาต้องการไปยังจุดใดของเส้นทางการศึกษาและวิชาชีพ และเราจะบอกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนทุกคน

 

2. เรียนเข้มเต็มรายวิชาพร้อมค้นหาอาชีพในฝัน : ในชั้นปี Y10 นักเรียนทุกคนจะเริ่มเรียนรายวิชาที่ตนเองได้กรอกข้อมูลไว้จำนวน 5-11 รายวิชา ซึ่งการสอบ IGCSEs มีทั้งวิชาหลักและวิชาเสริม หากนักเรียนมีสัญชาติไทยจะต้องสอบวิชาภาษาไทยด้วย ในส่วนของคำแนะนำด้านอาชีพนั้น ถือว่ามีความสำคัญมาก ที่ DBS จะมีโปรแกรม Career Coach และนักเรียนจำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานจริง โดยโรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองเข้าร่วมโปรแกรมด้วย เพื่อช่วยค้นหาผู้ที่จะเป็นในการติดต่อและเครือข่ายสำหรับการฝึกงานจริง เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสอบเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย

 

3. เรียน Special Courses ใครอยากมีอาชีพอะไร ต้องเจาะลึกวิชาเรียนเพิ่มเติม : มาตรฐานการสอบวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่ระดับ B2 CEFR นี่คือเกณฑ์การวัดที่สำคัญมาก เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลก โดยสำหรับวิชาหลักนักเรียนต้องมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ทาง DBS ได้เตรียมหลักสูตรเฉพาะให้แก่นักเรียนเพิ่มเติม ได้แก่ Oxbridge, BMAT, UKCAT Aptitude Tests, US ACT, SAT สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนในสายของวิศวกรรม กฎหมาย และการแพทย์ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในโปรแกรมการสอนที่เรียกว่า Beacon Programme ทั้งนี้นักเรียนชายที่ต้องฝึกเรียนวิชาทหารรด. (ROTC) จะเรียนเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่กระทบต่อคาบวิชาการเรียนปกติของโรงเรียน

 

4. ช่วงเวลาปิดเทอม คือ นาทีทองของการฝึกงาน : เมื่อผ่านการสอบ IGCSEs ตามระดับแล้ว นักเรียนจะต้องสอบ A Level โดยเทคนิคการเตรียมตัวสอบ A Level คือ การจัดโปรแกรมสำหรับนักเรียนแต่ละคนเป็นรายบุคคล ในช่วงนี้จะเป็นการเรียนที่เข้มข้น และเมื่อถึงสิ้นปีการศึกษา นักเรียนจะต้องหาประสบการณ์การทำงานจริงตามที่เรียนมา เพื่อทำความเข้าใจกับลักษณะของงานทีต้องการจะทำในอนาคต ดังนั้นช่วงปิดเทอมนักเรียนจะต้องฝึกทำงานจริง

 

5. เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย : สำหรับนักเรียนชั้น Y12-Y13 (มัธยมปลาย) ชั้นปีนี้เราจะเรียกว่า “6th Form” เป็นชั้นปีที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วโลกกันอย่างเข้มข้น นักเรียนจะต้องติวเข้มวิชาพิเศษต่างๆ มีการเขียน Personal Statement สำหรับส่งเข้ามหาวิทยาลัย และก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยนั้น ผู้ปกครองจำเป็นต้องเตรียมใจให้พร้อมสำหรับก้าวต่อไปที่สำคัญของนักเรียน ที่ DBS เราจะช่วยเหลือนักเรียนในการเฟ้นหามหาวิทยาลัย กรอกใบสมัครเรียนมหาวิทยาลัย ช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบมากมาย และจัดโปรแกรมฝึกสัมภาษณ์จริง ซึ่งเป็นการติวสัมภาษณ์ในการสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก (Mock Interview)

 

เราเชื่อว่า เด็กทุกคนเป็นอัจฉริยะ แต่ถ้าคุณตัดสินปลาด้วยความสามารถในการปีนต้นไม้แล้วล่ะก็ มันจะถูกปลูกฝังไปตลอดทั้งชีวิตว่าเขาโง่ ดังนั้นหน้าที่ของโรงเรียน DBS คือ ยืนหยัดในการเป็นครูที่เข้าใจนักเรียนแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง ค้นหาความอัจฉริยะในตัวเขา และผลักดันให้ความเก่งหรือความชอบของนักเรียนเปล่งประกาย กลายเป็นพลเมืองโลกที่มีศักยภาพ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จทั้งทางด้านวิชาชีพและการดำเนินชีวิต” Mr James Lyng กล่าวสรุป

 

ด้าน Mr. Mark McVeigh ครูใหญ่โรงเรียน DBS เด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School DBS) กล่าวว่า ในปีการศึกษานี้ DBS ได้เปิดตัว โปรแกรมพิเศษ คือ 1.Beacon Core & Aspire, Cartesian เป็นโปรแกรมคอมมิวนิตี้เด็กหัวกะทิ เพื่อเฟ้นหาและส่งเสริมนักเรียนที่มีความฉลาดและมีส่วนร่วมกับโรงเรียนมากที่สุด นักเรียนจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมโปรแกรมจากผลของการเรียนและทัศนคติต่อการเรียน 2.Comprehensive ESL programme เป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมด้านความเป็นเลิศทางด้านภาษาอังกฤษ เพื่อสร้างความมั่นใจว่านักเรียน DBS ทุกคนสามารถเข้าถึงหลักสูตรภาษาอังกฤษได้และส่งเสริมความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษที่ดีสำหรับทุกคน 3. Accelerated Reader programme คือ โปรแกรมเร่งอ่าน มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการช่วยให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในการอ่านภาษาอังกฤษ โดยครูผู้เชี่ยวชาญจะเลือกหนังสือในระดับที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ซึ่งจะมีการวัดผลความก้าวหน้าทางด้านการอ่านด้วยการตอบคำถามเพื่อแสดงว่านักเรียนเข้าใจแล้ว และสามารถยกระดับการอ่านขึ้นไปในเลเวลที่สูงขึ้น 4. โปรแกรม Y10 และ IGCSEs เป็นการวางแผนการเรียนแบบเข้มข้นเพื่อการสอบ IGCSEs ที่สำคัญหลักสูตรของ DBS จะออกแบบการเรียนการสอนเพื่อเข้าถึงข้อกำหนดในการเรียนแต่ละรายวิชาเพื่อสอบ IGCSEs  โดยเฉพาะ และจะมีการจัดทำแผนเพื่อให้นักเรียนแต่ละคนได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิชาเลือกเพิ่มเติมนอกเหนือจากวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ 5. GL performance ที่ DBS มีการวัดความสามารถของเด็กในวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ที่เรียกว่า GL Assessment เพื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก The Progress Test Series (PT Series) ซึ่งเป็นการวัดความเข้าใจที่แท้จริงของเด็กต่อวิชาหลักต่างๆ เพื่อที่จะสามารถระบุได้ว่าเด็กคนไหนต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใดเป็นพิเศษ และเด็กคนไหนมีสามารถทำอะไรที่ท้าทายได้มากขึ้น ผลจากการวัด GL Assessment ทำให้ครูผู้สอนนำไปประกอบการวางแผนให้เด็กแต่ละคน เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการทำได้แม่นยำขึ้น

กลุ่มบริษัทเอไอเอ ประกาศวันนี้ว่า นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ

เสร็จสิ้นภาระกิจสำคัญที่แสนจะภาคภูมิใจของธนาคารทีเอ็มบี เจ้าของปรัชญา “Make THE Difference” ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของโครงการไฟ-ฟ้า

 นางประณยา  นิถานานนท์ ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จับมือ  นางมณีสุดา ศิลาอ่อน ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษเอาใจสาวกที่หลงใหลเค้กการ์ตูน เค้กการ์ตูนลิขสิทธิ์ดิสนีย์ เค้กสามหมีจอมป่วน We bare Bears ขนาด 1.5 ปอนด์ มูลค่า 595 บาทและ 615 บาท เพียงใช้ 595 คะแนน KTC FOREVER สามารถแลกรับโค้ดส่วนลด 30% ได้ทันทีผ่านแอปฯ “KTC Mobile” ระหว่างวันที่ พฤศจิกายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562

บลูบิค กรุ๊ป” ที่ปรึกษาชั้นนำด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี รุกลงทุนใน KEEPS สตาร์ทอัพดาวรุ่งแห่งวงการสายแฟชั่น ช่วยเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึกและสรรหานวัตกรรมใหม่ช่วยต่อยอดธุรกิจที่ปรึกษาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่น เผย KEEPS มีจุดเด่นเป็นแบรนด์ "ชุดทำงานที่ต้องเป็นมากกว่าชุดทำงาน" ขวัญใจสาวออฟฟิศทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดได้รับคัดเลือกให้เป็น ใน แบรนด์ไทย เปิดตัวสินค้าในงาน SS2020 Wave Showroom Shanghai Fashion Week ณ ประเทศจีน วางแผนรุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ เน้นสร้างประสบการณ์ผ่าน Omni-channel และนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการขาย สู่เป้าหมายสตาร์ทอัพผู้นำด้าน Tech-Fashion ในประเทศไทย

 

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี เปิดเผยว่า บลูบิค กรุ๊ป ได้เข้าไปลงทุนใน KEEPS ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มแฟชั่น ที่มีความมุ่งมั่นในการทำแบรนด์ออกมาให้แตกต่าง ด้วยการฉีกกฎชุดทำงานให้เป็นมากกว่าชุดทำงาน จับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงโดยเฉพาะ นับเป็นสตาร์ทอัพที่มีความโดดเด่นชัดเจนทั้งทางธุรกิจและตัวสินค้า โดยเน้นทำธุรกิจผ่านช่องทาง Omni-channel ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ตรง เร็ว และมัดใจได้ในทันที  

ทั้งนี้ การเข้าไปลงทุน KEEPS ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ บลูบิค กรุ๊ป เพื่อสร้างจุดแข็งและความแตกต่างในธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ด้วยการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม อันจะนำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับธุรกิจของลูกค้าให้แข่งขันในโลกดิจิทัลได้ ซึ่งการร่วมลงทุนใน KEEPS ครั้งนี้จ ะช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริษัทใน ด้านหลัก ๆ ได้แก่

 

1. การเพิ่มองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นให้กับบลูบิค กรุ๊ป ซึ่งการเข้าไปลงทุนใน KEEPS จะเป็นการเพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้แก่พนักงานของบลูบิค กรุ๊ป ใน ด้านใหญ่ ด้านแรก เรียนรู้ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคด้านแฟชั่นในเชิงลึก เพิ่มอินไซด์ในการทำธุรกิจให้เหนือคู่แข่ง ด้านที่สอง เรียนรู้การออกแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการนำองค์ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่น ๆ

 

2. การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ จากการนำคนของทั้งสองบริษัทมาร่วมกันทำงาน ซึ่งบลูบิค กรุ๊ปมองถึงการนำนวัตกรรมที่ใช้ใน KEEPS เช่น การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสไตล์และสรีระของผู้ซื้อแต่ละคนไปต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เนื่องจากเทคนิคในการเลือกสรรสิ่งต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ไม่จำกัดแค่การเลือกเสื้อผ้า แต่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ในอุตสาหกรรมอาหาร อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ เป็นต้น

 

3. ผลตอบแทนที่สดใสและคุ้มค่าต่อการลงทุน เนื่องกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศ AEC ที่นิยมบริโภคสินค้าแฟชั่นจากประเทศไทย ประกอบกับในแง่บิสิเนสโมเดลของ KEEPS เอื้อต่อการใช้ช่องทางออนไลน์ผสานกับการมีหน้าร้าน หรือ Omni-Channel ที่เข้ามาเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งในด้านการขาย จะช่วยให้ KEEPS สามารถเติบโตในแง่ยอดขายได้เป็นอย่างดี

 

นางสาวณัชชา รชตวรภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ KEEPS เปิดเผยว่าแบรนด์ KEEPS กำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 จากความต้องการล้างภาพจำของชุดทำงานแบบเดิม ๆ ของผู้หญิง และทำแบรนด์ออกมาให้แตกต่างด้วยการทำธุรกิจแฟชั่นในมุมมองนักธุรกิจและนักการตลาด บนความเชื่อว่า ชุดทำงาน จะต้องเป็นมากกว่าชุดทำงาน หรือ KEEPS "Formal doesn't have to be boring"  ซึ่งเป็นแนวคิดในการออกแบบเสื้อผ้าของ KEEPS สำหรับสาววัยทำงานที่ดูจริงจัง แต่ไม่น่าเบื่อ ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ เปี่ยมไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา KEEPS ได้รับเลือกให้เป็น ใน แบรนด์ไทย และ ใน 25 แบรนด์จากทั่วโลก ไปเปิดตัวสินค้า Collection SS2020 ที่ Wave Showroom Shanghai Fashion Week ณ ประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพแบรนด์ไทยสู่สากล อีกทั้งยังนับเป็นครั้งแรกของการขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างเป็นทางการ

ด้านนางสาวคัชรียา รชตวรภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ KEEPS กล่าวว่า ภายหลังจาก บลูบิค กรุ๊ป เข้ามาร่วมลงทุนใน KEEPS บลูบิค กรุ๊ป ได้เข้ามาช่วยพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การสร้างภาพลักษณ์ของตราสินค้า (Branding) การส่งเสริมทางการตลาด รวมไปถึงการพัฒนาแนวทางการปฏิบัติการ (Operation) ทำให้ KEEPS สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า เท่า อีกทั้งยังมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 50% ในช่วง เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งมีฐาน Followers จากช่องทางโซเชียลมีเดียที่เติบโตมากขึ้นถึง 3 เท่า จาก 6,000 Followers เป็น 17,800 Followers สำหรับแผนธุรกิจของ KEEPS ประกอบไปด้วย

1ปูพื้นฐานการทำงานด้านการปฏิบัติการ (Operation) ให้แข็งแรง เพื่อเตรียมความพร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

2. แผนที่จะเปิดหน้าร้าน (Offline Store) ราวไตรมาส 2 ของปี พ.ศ.2563 ในพื้นที่ย่านธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์สาวออฟฟิศ และขยายสาขาผ่านร้าน Multi-Brand Store ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พร้อมเน้นสร้างประสบการณ์ Omni-channel ให้กับลูกค้า สามารถลองสินค้าได้ที่หน้าร้าน ขณะเดียวกันก็สามารถซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตราแกรม รวมทั้ง Ecommerce Platform อื่น ๆ

3. โปรเจคพิเศษร่วมกับ Celebrity คนดังทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สินค้าใหม่หรือที่เรียกว่า ‘Collaboration’ กับเหล่า Influencer เพื่อขยายการรับรู้แบรนด์ผ่านกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ในวงกว้างมากขึ้น  

4. เปิดตัวเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าแบบออนไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแนวคิดให้เป็น All-in-one website  ให้ผู้บริโภคเข้ามาเลือกช้อปปิ้งออนไลน์โดยไม่มีขีดจำกัดไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก มีการรวบรวมบทความต่าง ๆ ที่ช่วยผลักดันและเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงวัยทำงานยุคใหม่ รวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแบรนด์อย่างครบถ้วนจากทุก ๆ ช่องทางมาไว้ด้วยกันในเว็บไซต์ www.keeps-design.com ด้วยความพิถีพิถันในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้สวยงาม จุดนี้จะทำให้เว็บไซต์ของ KEEPS โดดเด่นและแตกต่างจากแบรนด์อื่น

5. นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสงเสริมการขาย เพื่อเป็นสตาร์ทอัพผู้นำด้าน Tech-Fashion ในประเทศไทยอย่างแท้จริง เช่น นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เสมือนเป็นผู้ช่วยประจำตัวหรือ Personal stylist ให้คำแนะนำต่าง ๆ อาทิ รูปแบบ สไตล์ ไซส์ สัดส่วน ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนเพื่อตอบโจทย์เทรนด์ Personalization รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาส่งเสริมบริการด้าน Customization เพื่อรองรับรสนิยมและความเหมาะสมในสรีระของแต่ละบุคคลให้เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

-----------------------------------------------

 

 Press Release

 

Bluebik Group proactively invests in “KEEPS”, a raising-star fashion startup, seeking to advance its consulting business and pushing the brand to become a top tech-fashion startup in Thailand.

 

 “Bluebik Group”, a leading consultant specializing in strategy development and technology and innovation management, moved aggressively to invest in KEEPS, a raising-star startup in the fashion industry. The investment helps gain deeper insights into consumers’ behaviors and novel innovations for further advancing the consulting business towards creating new products and services for customers in other industries. One of the key strengths of the KEEPS brand is its concept of “Beyond the traditional workwear”. The brand has gained popularity among female office workers in Thailand and overseas. Recently, KEEPS was selected as 1 of the 3 Thai brands to join in the SS2020 Wave Showroom Shanghai Fashion Week event in China. With the plan to expand its footprint in overseas markets full-scale, the focus on the enhanced customer experiences through the omni-channel approach, and the adoption of technologies to promote sales, KEEPS is aimed at becoming a leading tech-fashion startup in Thailand.   

 

Mr. Pochara Arayakarnkul, Chief Executive Officer (CEO) of Bluebik Group Co., Ltd., a leading consultant specializing in strategy development and technology and innovation management, revealed that Bluebik Group has invested in KEEPS, a fashion startup firm. With its commitment to differentiate its brand from others, KEEPS focuses on creating work outfits that go beyond typical office dresses and its target customers are female. It has been a very outstanding startup in terms of its business and products. The firm mainly conducts business through the omni-channel approach so as to gain broad-based, direct and quick access to consumers and win their hearts instantly.    

 

Investing in KEEPS is one of the strategies employed by Bluebik Group in order to strengthen and differentiate Bluebik Group’s core consulting business. Bluebik Group is looking to equip itself with new facets of knowledge from different industries so as to come up with new innovations and technologies to elevate customer businesses to be able to compete in the digital world. This investment in KEEPS will help enhance the business of Bluebik Group in the following 3 main aspects: 

1. To obtain new areas of knowledge about the fashion industry for Bluebik Group. Investing in KEEPS will help provide Bluebik Group’s employees with new knowledge in the 2 main areas: 1) In-depth insights into consumer desires and behaviors related to fashion, which will help the company earn competitive advantages, and 2) Designs, innovations and technologies for use as business tools in the fashion industry, prompting new opportunities for applying the knowledge gained to customers in other industries.

2. To create new products and services through the collaboration of people from the two companies. Bluebik Group viewed that the innovations applied by KEEPS such as choosing clothes to suit the style and shape of each individual buyer can be used to further develop products for entrepreneurs in other industries because the techniques to choose things that meet user needs are not only confined to the clothing selection but also can be adapted to all industries related to consumption such as food, real estate and automobile. 

3. To give a sound return on the investment. Thanks to the fast-growing fashion industry, especially in the developing countries such as Thailand and the AEC members that appreciate fashion products from Thailand, plus KEEPS’ business model that supports the combined use of online channels and brick-and-mortar branches or the so-called “Omni-Channel” approach which helps fill the gap in and strengthen sales operations; KEEPS will be able to achieve sales growth satisfactorily.   

 

Ms. Nutchar Rachataworaphon, a co-founder of the KEEPS brand, shared that the KEEPS brand was originated in 2017 with the desire to clear up the old fashion look of office wear for ladies and create the brand that differentiates itself by doing the fashion business through the perspectives of businesspersons and marketers based on the belief that “Formal doesn’t have to be boring”. This is the concept behind KEEPS’ clothes design for working women with a serious but not boring look. The persons wearing the brand’s clothes will feel confident, full of energy and inspired to work, which will help improve their work efficiency. Recentlyin OctoberKEEPS was selected to be 1 of the 3 Thai brands and 1 of the 25 worldwide brands to showcase its new collection at the Wave Showroom Shanghai Fashion Week event in China. This proves the Thai brand’s ability to go global. Also, it is the first time for the brand to expand its business presence overseas officially.

Ms. Cutchareeya Rachataworaphon, another co-founder of the KEEPS brand, stated that after the joint investment of Bluebik group in KEEPS, Bluebik Group has brought in many improvements to the brand including the building of branding, marketing campaigns, and operation guideline development. Thus, the brand was able to achieve over 5 times growth with the average monthly growth rate of up to 50% over the past 5 months. The brand also saw its follower base through social media channels growing up to 3 times, from 6,000 followers to 17,800 followers.  Regarding the business plan of KEEPS, the details are as follows: 

1. To lay down a strong foundation for operations to be ready for the business expansion both in domestic and overseas markets.

2. To schedule to launch offline stores in around the 2nd quarter of 2020 in main business areas to respond to the needs of female office workers and to expand its branches through multi-brand stores to gain access to customers comprehensively. Focus will also be made on the creation of omni-channel experiences for customers where customers can try clothes at the offline stores and make purchases through online channels such as Facebook, Instagram and other e-commerce platforms.   

3. To conduct special projects with Thai and foreign celebrities to jointly create new products or through the so-called “Collaboration” with influencers. This is to help expand the brand recognition among new groups of customers at a wider scale.

4. To open a website for customers to choose products through an online platform at a full-scale level. The concept is the all-in-one website which allows consumers to shop around online without limits from any corner of the world. Motivational and inspirational articles for modern working women as well as information relating to the brand from all channels will be collected and stored at www.keeps-design.com with a detailed and intricately designed look. This will help make the KEEPS’ website outstanding and different from others.

5. To use technologies to promote sales with a view to becoming a top tech-fashion startup in Thailand, for example, through the application of “Personal Stylist” that can provide suggestions in terms of pattern, style, size, body shape, etc. to fit each individual customer to cater to the personalization trend. Technologies to support customization services to accommodate personal tastes and physical appearances would also be adopted to ensure simple and convenient operations.

ดร. รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน (กลาง) อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม และ ผศ. ดร. วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ (ที่ 2 จากขวา) รองอธิการบดี เปิดบ้านแนะนำหลักสูตรวิทยาลัยนานาชาติแห่งใหม่ SPU’s British College ซึ่งพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยวูลฟ์เวอร์แฮมป์ตัน (University of Wolverhampton) จากสหราชอาณาจักร และ Pearson องค์กรชั้นนำด้านการศึกษาระดับโลก เมื่อนักศึกษาสำเร็จการศึกษาจะได้รับ ปริญญา และ 1 ประกาศนียบัตร ซึ่งได้การรับรองมาตรฐานจากประเทศอังกฤษและมหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยมี จันทิมา ฮิรากะ (ซ้าย) ผู้จัดการประจำประเทศไทย จากบริษัท เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น ดร. วีระชัย เตชะวิจิตร (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานกรรมการกลุ่มโรงเรียนและวิทยาลัยนานาชาติเดอะรีเจ้นท์ และ มร. นิติน ดัตตา (ขวา) กรรมการผู้จัดการ การอาชีวศึกษาและธุรกิจระหว่างประเทศ (IVBE) ให้เกียรติร่วมงาน ณ อาคาร 40 ปีศรีปทุม มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อเร็วๆนี้

 

Page 4 of 5
X

Right Click

No right click