Fraction สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ที่มีฐานธุรกิจอยู่ในฮ่องกงและไทย ได้ประกาศว่า

เมื่อ Warren Buffett ถูกถามเกี่ยวกับกฎการลงทุนข้อแรกของเขา คำตอบของเขาคือ “กฎข้อที่ 1 อย่าเสียเงิน กฎข้อที่ 2 อย่าลืมกฎข้อที่ 1” เป็นคำตอบสั้น ๆ แต่ได้ใจความ เรามาเจาะลึกว่าทำไมนักเทรดหลายคนถึงไม่ปฏิบัติตามกฎการลงทุนสองข้อแรกของ Warren Buffett

การลงทุนใน Forex คือ การลงทุนที่มีความเสี่ยง แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการเล็งเห็นโอกาสของผลตอบแทนในระยะยาว  แม้มีความผันผวนแต่หลายคนรับได้ ลองมาดูกันว่าสิ่งที่ทำให้นักเทรดขาดทุนมีอะไรบ้าง พร้อมวิธีรับมือกับอารมณ์ในการซื้อขาย

สิ่งที่ทำให้นักเทรด Forex ขาดทุนในการซื้อขาย

  • ขาดประสบการณ์ แม้ว่าการซื้อขายจะไม่ซับซ้อน แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์กำลังเรียนรู้แบบเรียลไทม์เกี่ยวกับตลาดและวิธีการซื้อขาย การเห็นรูปแบบต่าง ๆ เป็นครั้งแรก และรับมือกับอารมณ์ของตัวเองในการซื้อขาย นักเทรดที่มีประสบการณ์จะเข้าใจดีว่าขั้นตอนนี้เป็นที่ที่พวกเขาพัฒนาประสบการณ์ครั้งแรก เป็นส่วนที่จำเป็นของกระบวนการเพื่อสร้างผลกำไร แม้ว่าจะขาดทุนอยู่บ้าง แต่ถ้านักลงทุนก้าวข้ามผ่านจุดนั้นไปได้อย่างถูกต้อง ก็ถึงเวลาที่จะทำกำไรได้มากขึ้น
  • การศึกษาข้อมูล สิ่งนี้ไปควบคู่กับการขาดประสบการณ์ โดยพื้นฐานแล้ว หากนักเทรดไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำสำเร็จ หากนักเทรดไม่ได้ศึกษาข้อมูลหรือฝึกเทรดมาก่อน ก็เหมือนกับการพยายามขับรถโดยไม่ได้เรียนรู้มาก่อน หากนักเทรดสามารถหาวิธีเริ่มต้นได้ ก็มีแนวโน้มจะล้มเหลวน้อยลง อ่านเยอะ ๆ หรือหานักเทรดดี ๆ สักคนเพื่อขอคำแนะนำก่อนที่จะเริ่มต้นซื้อขาย
  • ความใจร้อนและไม่ควบคุมตัวเอง วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการสูญเสียเงินคือ การเปลี่ยนการซื้อขายเป็นการเดิมพันเนื่องจากการควบคุมที่ไม่ดี หรือความจำเป็นในการซื้อขายด้วยความใจร้อน คิดว่าตัวเองเป็นนักล่าที่มีความอดทน หากคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ คุณจะเริ่มทำการซื้อขายที่ไม่เหมาะสมและจะสูญเสียเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • การจัดการในการขาดทุนที่ไม่ดี การไม่ปิดตำแหน่งไม่ดีเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่นักเทรดหลายคนทำ ยิ่งตำแหน่งถอยหลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปิดยากขึ้นเท่านั้น การซื้อขายที่ยอดเยี่ยมมากมายถูกทำลายโดยอารมณ์กับตำแหน่งที่เคลื่อนไปในทิศทางที่ผิดอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องตัดใจปิดตำแหน่งที่ไม่ดี และหากเป็นไปได้ ให้ตั้งค่าการหยุดการขาดทุนเมื่อเปิดการซื้อขาย การตัดตำแหน่งที่ไม่ดีออกไปจะส่งผลในระยะยาว ทำให้เก็บเงินได้มากกว่าตำแหน่งที่ทำกำไรได้
  • อารมณ์และการกระทำ อารมณ์เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ระบบที่ดีและนักเทรดที่ดีผิดพลาดได้ง่าย ๆ ความกดดันและความเครียดจากความเป็นไปได้นั้นมากเพียงพอที่จะทำให้การซื้อขายหยุดชะงัก การควบคุมอารมณ์อาจดูเหมือนง่าย แต่เอาจริง ๆ แล้วทำได้ยากมาก สิ่งสำคัญคือต้องแยกอารมณ์และการกระทำออกจากกันให้ได้หากต้องการเทรดให้ได้กำไร เราจะพาเจาะลึกถึงเรื่องนี้ในหัวข้อต่อไป

 

เรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์และการกระทำ เพื่อผลกำไรในการซื้อขาย

แม้ว่าการเลือกระบบหรือกลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญในการซื้อขาย แต่สิ่งนี้ไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ ความสำเร็จในการซื้อขาย Forex คือ แนวคิดของนักเทรดเป็นหลัก การวิเคราะห์ตลาด Forex และแนวคิดต่าง ๆ มีมากเกินไปในโลกอินเทอร์เน็ต มีเว็บไซต์มากมายที่ให้ความคิดเห็นและการประมาณการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในตลาด ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังนำเสนอหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าทำไมการปฏิบัติตามกลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขาจึงเป็นก้าวที่ถูกต้อง การรับข่าวสารล่าสุดไม่ได้ทำให้คุณเป็นนักเทรดที่ทำกำไรได้มากมาย การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลตลาดในปัจจุบันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการตัดสินใจในการทำกำไรเท่านั้น

สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาใช้ข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้คือ นักเทรดจะกระตือรือร้นที่จะลองใช้มันในทางปฏิบัติ ขั้นตอนนี้มักจะมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นและความไม่แน่ใจผสมกัน สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นักเทรดจะประสบความสำเร็จในการซื้อขาย ทำให้ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น การเทรดจะตามมามากขึ้น และอาจมีการใช้ทัศนคติเชิงรุกมากขึ้น ทำให้เกิดความผิดพลาดและขาดทุนตามมา การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จหมายถึง การมีวินัยในระดับสูงและเรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์ ความล้มเหลวของนักเทรดในเรื่องอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ทำให้ขัดขวางการตัดสินใจของพวกเขา

จนกระทั่งในที่สุด นักประสาทวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ที่มีแนวโน้มในความเสี่ยงต่าง ๆ (เช่น นักเทรด) ในเครื่องสแกนสมอง การค้นพบนี้เปิดเผยว่าการตัดสินใจของเราขึ้นอยู่กับอารมณ์ในปัจจุบัน วิธีที่เรารู้สึกมีผลโดยตรงต่อสิ่งที่เราคิด รวมทั้งการตัดสินใจของเราด้วย สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งในการพิจารณาว่านักเทรดใช้การคิดที่มีเหตุผลหรือสัญชาตญาณของตนหรือไม่ พวกเขาวิเคราะห์รูปภาพสมองของอาสาสมัครถูกถ่ายในขณะที่พวกเขากำลังประเมินการซื้อขาย ผลการวิจัยพบว่าในกรณีส่วนใหญ่ นักเทรดพึ่งพาความรู้สึกของตนโดยไม่คำนึงถึงเวลาที่พวกเขาใช้ไปกับการค้นคว้าและการวิเคราะห์ตลาด

การวิจัยระบุว่ามีการตัดสินใจที่ใช้หลักเหตุผลเพียงไม่กี่ครั้ง (ไม่เกิน 2 ครั้ง) เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าการใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดูแผนภูมิและดูการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจะไม่เป็นประโยชน์ต่อความพยายามในการซื้อขายของนักเทรดให้ลองเปลี่ยนไปเป็นการขยับสายตาไปรอบ ๆ เปลี่ยนท่านั่งเป็นประจำเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัส หรือใช้เทคนิคการหายใจเพื่อเพิ่มออกซิเจนในสมองและจัดการระดับความเครียด กิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขณะที่หยุดพักการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น ไปจนถึงการออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นสภาวะจิตใจของคุณ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในการทำกำไรได้

กระบวนการตัดสินใจมีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับร่างกาย ความรู้สึก และสภาวะทางอารมณ์ของเรา ดังนั้น แนวคิดในการควบคุมอารมณ์จึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด การพัฒนาความตระหนักรู้และการควบคุมการกระทำอย่างเต็มรูปแบบเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ทุกสิ่งที่เรารู้สึกและประสบในระดับอารมณ์ควรถูกมองว่าเป็นข้อมูล อย่าเพิกเฉยปัจจัยนี้และใช้มันเพื่อประโยชน์ของเราเพื่อพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณ แต่อย่าละเลยการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์ด้วย การเทรด Forex ไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการลงทุนเพื่อเก็งผลกำไร ข่าวสารเศรษฐกิจและตลาดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน

 ข้อมูลจาก Global Web Index บริษัทชั้นนำด้านวิเคราะห์ตลาดพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ ระบุว่า 8 ใน 9 คนไทยบนทวิตเตอร์มีความสนใจในเรื่องการออมเงินและการลงทุนและมีหลากหลายกลุ่ม ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น #WhatsHappening ในโลกของการเงิน การธนาคาร การออม การลงทุน คริปโตเคอร์เรนซี NFTs และอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์

คนไทยที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินจะใช้ทวิตเตอร์เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้น เศรษฐกิจ และเทรนด์ล่าสุดของการออมและการลงทุน ตลอดจนสนใจและมีความรู้ในเรื่องการเงินต่างๆ และมักเข้าไปมีส่วนร่วมใน บทสนทนาหัวข้อนี้อย่างต่อเนื่อง โดย 74% ของชาวทวิตภพเข้ามาใช้ทวิตเตอร์ทุกวัน และ 42% ใช้ทวิตเตอร์ วันละหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแบรนด์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อช่วยตัดสินใจเรื่องของการออมและการลงทุน

 

 บทสนทนาที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินบนทวิตเตอร์ประเทศไทยเป็นอย่างไร

การออมและการลงทุน คือเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย โดยข้อมูลจาก Brandwatch 2020-2021 ระบุว่า ชาวทวิตภพทวีตเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า 70,000 ครั้งต่อวัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเข้ามาปรึกษาพูดคุยในเรื่องของการลงทุนในหุ้น รวมถึงสนับสนุนให้คนอื่นลองเริ่มลงทุนด้วย ชาวทวิตภพที่บริหารเงินได้อย่างเชี่ยวชาญ 41% อยากเห็น #WhatsHappening สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเข้ามาค้นหาข้อเสนอและคำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการวางแผนการออม การลงทุนในหุ้น และความเสี่ยงในการลงทุน ตลอดจนแบ่งปันเคล็ดลับและความสำเร็จของตัวเองบนทวิตเตอร์

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/sunandrain9/status/1379018562942070788

 ข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่า แบรนด์ควรให้ความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการและอยากได้จากบทสนทนาบนทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์พบว่าบรรดาผู้ที่มีความสนใจในเรื่องการออมและการลงทุนบนทวิตเตอร์ประเทศไทยนั้น 73% สนใจเรื่องดนตรี 68% สนใจเทคโนโลยี 67% สนใจการทำอาหาร และ 67% สนใจอาหารและเครื่องดื่ม จากข้อมูลเชิงลึกนี้เป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนากับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างสร้างสรรค์

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/firstchoice_TH/status/1418247069756579840

คนไทยกำลังคาดหวังนวัตกรรมจากแบรนด์

การดิสรัปชั่นกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมทางการเงินและบทสนทนาเหล่านี้เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ซึ่งแสดงถึงความต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จาก 94% คนไทยบนทวิตเตอร์อยากเห็นข้อมูลใหม่ๆ จากแบรนด์ทางการเงิน และผู้บริโภคชาวไทย มากกว่า 2 ใน 3 อยากเห็นผลิตภัณฑ์ บริการ และแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ โดย 34% อยากจะเห็นแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ทั้งนี้เหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้คนเข้ามาใช้ทวิตเตอร์คือ “การได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ” เพราะฉะนั้นแบรนด์ที่เน้นเรื่องนวัตกรรมจะได้พบกับโอกาสใหม่ๆ ในการคอนเน็คกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/KBank_Live/status/1443440468541456389

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/Krungthai_Care/status/1445600056472530951

ทวิตเตอร์คือชุมชนของผู้เชี่ยวชาญ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมากมายมักเข้ามาแบ่งปันความรู้ของตนเองบนทวิตเตอร์ และชาวทวิตภพให้คุณค่ากับความคิดเห็นของผู้อื่น ทวิตเตอร์จึงกลายเป็นสถานที่เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามาเรียนรู้และติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงิน

ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่มีชื่อเสียงในเรื่องนี้ได้ ซึ่งกลุ่มที่สนใจในเรื่องนี้ต่างค้นหารีวิวผลิตภัณฑ์ทางการเงินและมีส่วนร่วมในบทสนทนากับผู้อื่น แชร์ความคิดเห็นและไอเดีย รวมทั้งเสนอความคิดของตัวเองในทุกเรื่อง อาทิ เรื่องตลาดหุ้น ทิปส์ในการออม และคำแนะนำในการลงทุน

เครดิตทวีตจาก:https://twitter.com/TAXBugnoms/status/1430077815550926849

 จากข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่าคนที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินบนทวิตเตอร์ประเทศไทย 42% เชื่อใจการรีวิวผลิตภัณฑ์ออนไลน์ และ 41% ศึกษาความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ แบรนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญจะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์ด้วยการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ และ จะมองหาจุดยืนของตัวเองในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/MuangThaiLife/status/1443032784952516611

ชาวทวิตภพชอบค้นพบสิ่งใหม่

ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ที่มีบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองเกิดขึ้นและแบรนด์ทางการเงินก็สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคซึ่งมีตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่สนใจด้านการเงินส่วนบุคคล คนที่ศึกษาด้านการเงินเป็นงานอดิเรก และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน คนไทยบนทวิตเตอร์มีทัศนคติของการค้นพบสิ่งใหม่ พวกเขาชอบการเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ลองสิ่งใหม่และพูดคุยกันถึงเรื่องนั้น บทสนทนาในเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี NFTs และเทรนด์ล่าสุดในการลงทุนเป็นหัวข้อที่มีการพูดคุยกันบนทวิตเตอร์ในทุกๆ วัน

 แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากบทสนทนาที่เกี่ยวกับการเงินได้อย่างไร

อันดับแรกคือการรับฟัง ทุกวันจะมีบทสนทนาเรื่องการเงินที่หลากหลายจำนวนมากเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ประเทศไทย หากแบรนด์ต่างๆ ยอมรับฟัง ก็จะสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้บริโภคได้มากขึ้น เมื่อแบรนด์เข้าไปร่วมวงสนทนาก็ควรนึกถึงโทนเสียง ภาษาที่ใช้ วิธีการสื่อสารรวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง ชาวทวิตภพไม่ได้เหมือนกันหมด และไม่ใช่ว่าทุกคนต้องการในสิ่งเดียวกัน ภาษาคือสิ่งที่สำคัญในการสื่อสาร หากแบรนด์กระโดดเข้าไปในบทสนทนาของงานศิลปะดิจิทัลอย่าง NFTs โดยที่ไม่สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบทสนทนานั้นๆ ได้ แบรนด์ควรรับฟังผู้คนต่อไป จนกว่าจะมีหัวข้อหรือเรื่องที่เป็นประโยชน์และสามารถเพิ่มลงในบทสนทนานั้นๆ ได้

 

เครดิตทวีตจาก: https://twitter.com/ttbbankofficial/status/1442776094051086338

 ข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่าคนไทยบนทวิตเตอร์กำลังคาดหวังนวัตกรรมใหม่ๆ จากแบรนด์ พวกเขาให้คุณค่ากับความคิดเห็นของผู้อื่นและเชื่อในรีวิวบนทวิตเตอร์ แบรนด์ควรมองให้เป็นโอกาสในการเข้าไปเอ็นเกจกับบทสนทนา ทุ่มเทและสนับสนุนให้ผู้บริโภคแชร์ฟีดแบ็ก แสวงหาความคิดเห็นในเชิงรุก และไม่เพียงแค่สร้างสรรค์ในการทำการตลาด และแคมเปญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอด้วยเช่นกัน

 

การลงทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้สนับสนุนงานด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ประสบการณ์ของผู้ใช้ และการเร่งนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด

Page 3 of 7
X

Right Click

No right click