มร. เคน หู รองประธานบริหาร หัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวถึง สถานะปัจจุบันของการพัฒนาเครือข่าย 5G ทั่วโลก ในงาน Global Mobile Broadband Forum ครั้งที่ 10 ซึ่งเปิดฉากขึ้น ณ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม 2562) นอกจากการเน้นย้ำถึงประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ที่มีต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศที่ได้ริเริ่มการใช้โครงข่าย 5G กันแล้ว มร. เคน หู ยังกล่าวถึงความสำคัญของนโยบายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่จะเอื้อต่อการเร่งพัฒนาเครือข่าย 5G ในขั้นต่อไป

“เราได้ขับเคลื่อนจนเกิดความก้าวหน้าไปอย่างมาก แต่เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จาก 5G ได้สูงสุด เราต้องร่วมมือกันเพื่อพิชิตความท้าทายต่างๆ ที่รอเราอยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความถี่ แหล่งทรัพยากรต่างๆ รวมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เครือข่าย 5G ไม่เพียงแต่เร็วกว่า 4G แต่จะมีบทบาทต่อวิถีชีวิตของเราที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ในฐานะผู้ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เราจำเป็นต้องมีวิธีคิดที่สดใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาในอนาคต” มร. เคน หู กล่าว

ทั่วโลกเดินหน้า 5G เต็มกำลัง

เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่ได้มีการกำหนดมาตรฐานขึ้นมาอย่างชัดเจน ได้เกิดการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวาง ซึ่งมีความเร็วกว่า 4G อย่างมาก ผู้ให้บริการเครือข่ายในกว่า 20 ประเทศ ได้เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ รวมกว่า 40 เครือข่าย ภายในปลายปีนี้ คาดว่าจะมีเครือข่ายเพิ่มขึ้นอีกเป็น 60 ราย

5G เปิดประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสความเร็วสูงสุด โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศแรกที่เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ และตอนนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 3.5 ล้านรายสมัครใช้งานเครือข่าย 5G กับผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศ ภายในช่วงเวลาเพียงไม่ถึงหกเดือน อัตราการเติบโตดังกล่าวมีผลมาจากบริการใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น AR/VR ที่ใช้เทคโนโลยี 5G และการถ่ายทอดสดกีฬาด้วยภาพคมชัดระดับเอชดีแบบ 360º บริการทั้ง 3 รูปแบบนี้ทำให้ผู้ใช้งาน 5G กลุ่มแรกเริ่มใช้ปริมาณดาต้าเพิ่มขึ้นถึง 1.3 กิ๊กกะไบท์ต่อเดือน

 

นอกจากปริมาณการใช้ดาต้าที่เติบโตเพิ่มขึ้น ผู้ให้บริการเครือข่ายรายต่างๆ ยังมีช่องทางรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น LG U+ ผู้ให้บริการเครือข่ายในเกาหลีใต้ได้เปิดตัวบริการด้าน VR/AR ซึ่งรวมอยู่ในแพ็กเกจดาต้า 5Gแบบพรีเมียม และในช่วงเวลาเพียงสามเดือนหลังการเปิดให้บริการ 5G สัดส่วนผู้ใช้งานแพ็กเกจดาต้าแบบพรีเมียมเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 3.1% เป็น 5.3%

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอื่นๆ ยังสร้างมูลค่าทางธุรกิจใหม่ๆ จากการเริ่มใช้งาน 5G ในระดับอุตสาหกรรม โดย มร. เคน หู กล่าวว่า “แอพพลิเคชั่น 5G เพื่อช่วยยกระดับทั้งด้านการสื่อสารความเร็วสูงบนโทรศัพท์มือถือ ด้านบันเทิง และด้านการผลิต ซึ่งได้เริ่มใช้งานกันไปบ้างแล้ว แม้เรายังบอกไม่ได้ว่าแอพพลิเคชั่นนี้จะเป็นไปในรูปแบบใด ในอนาคต แต่ขณะนี้เราได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกอุตสาหกรรมต่างได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G”

 นโยบายที่เอื้อต่อการพัฒนาคลื่นความถี่และไซท์กระจายสัญญาณ

มร. เคน หู ให้ข้อสังเกตว่า แหล่งจ่ายและต้นทุนของคลื่นความถี่เป็นสองความท้าทายหลักที่เรากำลังเผชิญ “เราหวังว่าภาครัฐจะสามารถจัดสรรทรัพยากรคลื่นความถี่ให้มากขึ้นและพิจารณารูปแบบการตั้งราคาที่มีความยืดหยุ่นกว่าเดิม เพราะจะช่วยลดภาระรายจ่ายลงทุนเบื้องต้นให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายได้”

นอกจากนี้ มร. เคน หู ยังเสนอแนะให้รัฐบาลในประเทศต่างๆ เริ่มวางแผนที่จะตอบรับความต้องการในคลื่นความถี่ใหม่ให้ครอบคลุมภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้ พร้อมชี้ว่า คลื่นความถี่ในช่วง 6GHz เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

“อุตสาหกรรมของเราต้องการการสนับสนุนด้านทรัพยากรของไซท์สัญญาณเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจุบัน ต้นทุนยังสูงอยู่มาก ในขณะที่ไซท์สัญญาณไม่เพียงพอกับความต้องการเสมอ หน่วยงานกำกับดูแลควรริเริ่มและส่งเสริมให้มีการเปิดให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานสาธารณะในรูปแบบของการแบ่งปัน รวมถึงออกแนวทางสำหรับการก่อสร้างไซท์สัญญาณ” มร. เคน หู กล่าวต่อ

 มหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองตัวอย่างที่รัฐบาลได้สร้างเสาไฟฟ้าอเนกประสงค์มาตรฐานใหม่ ภายในปี 2020 เซี่ยงไฮ้จะติดตั้งเสาไฟฟ้ารูปแบบใหม่นี้ตลอดระยะทาง 500 กิโลเมตรของถนนสาธารณะ เพื่อเพิ่มแหล่งจ่ายสัญญาณ 5G อีก 30,000 แห่ง คิดเป็น 75% ของสถานีกระจายสัญญาณไร้สายทั่วเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ส่วนในยุโรป กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโดยตรง เพื่อกำหนดความต้องการและระบุข้อบังคับในการใช้แหล่งจ่าย 5G และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะร่วมกัน (เช่น ไฟจราจร ป้ายจราจร และป้ายรถเมล์) เพื่อลดต้นทุนให้ทุกภาคส่วนด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้ร่วมกันได้

ขยายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน

มร. เคน หู กล่าวปิดท้ายด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เรายังมีความท้าทายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองก์ความรู้ของภาคอุตสาหกรรมแบบเดียวกันในแนวดิ่ง กรณีศึกษาตัวอย่าง และการพัฒนาให้สามารถทำเป็นธุรกิจได้ เราจึงจำเป็นต้องร่วมมือร่วมแรงกัน ด้วยการเปิดใจ ทำงานร่วมกันกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อหาปัญหาที่แท้จริงและค้นหาว่าอะไรที่ได้ผลหรือไม่ได้ผล ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถใช้ศักยภาพของ 5G ได้สูงสุด”

ในการส่งเสริมนวัตกรรมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนและความร่วมมือในระดับภูมิภาคที่กว้างขวางขึ้น หัวเว่ยได้เปิดศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือ 5G สำหรับยุโรปเป็นแห่งแรกในเมืองซูริค ศูนย์นี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและซันไรส์ ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่ช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถทำงานร่วมกันและพัฒนาโซลูชั่น 5G เฉพาะทางสำหรับภาคอุตสาหกรรม

“เห็นได้ชัดว่าแต่ละประเทศมีจุดแข็งทางเศรษฐกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นขอบเขตที่เราสามารถนำเทคโนโลยี 5G เข้าไปเสริมโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อเป็นการต่อยอดความสามารถในการแข่งขันของประเทศนั้นๆ ” มร. เคน หู กล่าวสรุป

สำหรับงาน Global Mobile Broadband Forum ในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,500 คน จากผู้ให้บริการเครือข่าย อุตสาหกรรมแบบเดียวกันในแนวดิ่ง บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ องค์กรที่กำหนดมาตรฐานต่างๆ หน่วยงานวิเคราะห์การตลาด และสื่อมวลชน โดยมีการจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G โซลูชั่นเชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้ 5G ในระดับผู้บริโภค ภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ ซึ่งครอบคลุมบริการคลาวด์ AR/VR ผ่าน 5G การถ่ายทอดสัญญาณภาพบนความละเอียด 8K การเล่นเกมผ่านคลาวด์ แมชชีนวิชั่น และโซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยี 5G เพื่อการควบคุมทางไกล

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ (ที่ 6 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures) บริษัทในกลุ่มเจมาร์ท จับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชน (Blockchain) ภายใต้ความร่วมมือของ J Ventures พร้อมด้วย I AM Consulting , Dome Cloud , Atomic Pay และ Satang เปิดตัว Thailand Blockchain Working Group (TBWG) เป็นการรวมตัวของนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อเป็นอีกหน่วยงานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนในประเทศไทย (Blockchain Ecosystem) พร้อมสนับสนุนด้านการลงทุน ขับเคลื่อนองค์กรด้านบล็อกเชนสตาร์ทอัพสายเลือดไทยให้เติบโตแข็งแกร่ง โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหาร Brand Protocol และนายวิชัย ทองแตง (กลาง) Investment Specialist ร่วมให้ข้อมูลการลงทุน ณ ห้อง Auditorium ชั้น 7 The Knowledge Exchange เมื่อเร็วๆ นี้

 

 “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกที่มีแอป “KTC Mobile” เมื่อเติมน้ำมันผ่านบัตรเครดิตเคทีซีครบ 800 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป ที่ปั๊มน้ำมันพีที สเตชั่น ทั่วประเทศ รับทันทีโดยไม่ต้องลงทะเบียน ส่วนลด 15 บาท สำหรับเมนูเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น (ไม่รวมเมนูปั่น) ที่ร้านพันธุ์ไทย ในรูปแบบของ e - Coupon ผ่านแอป “KTC Mobile” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 15 มกราคม 2563 พร้อมรับเพิ่ม ส่วนลดน้ำมัน 50 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต “KTC UNIONPAY” โดยลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านโทรศัพท์มือถือพิมพ์ *793*180* ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต KTC UNIONPAY 8 หลักแรก และ 4 หลักสุดท้าย ตามด้วยเครื่องหมาย # แล้วกดโทรออก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 31 มีนาคม 2563

สำหรับการใช้สิทธิ์ e-Coupon เริ่มจากเปิดแอป “KTC Mobile” กดเลือกเมนู “คูปองของฉัน” ที่อยู่ด้านล่าง คลิ๊กคูปองที่ต้องการและตรวจสอบรายละเอียดคูปอง กดปุ่ม “เพื่อใช้คูปองรายการ” จะมีหมายเลขคูปองแสดงขึ้นมา ยื่นให้พนักงานเพื่อรับสิทธิ ถือว่าดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ (คูปองนี้จะไปแสดงที่แถบเมนู “คูปองที่ใช้แล้ว”)

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000  หรือติดตามโปรโมชั่นอื่นๆ ของเคทีซีได้ที่ www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/2uPcS19 หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

ศิลธรรม ที่เขาพิจารณากันนี้ ไม่ใช่ศิลห้า ศิลแปด หรือหลักศาสนาใด ๆ ในที่นี้ท่านเสนอความคิดเชิงศิลธรรม ที่เป็น “ศิลธรรมทางแพ่ง” หรือ ศิลธรรมแบบอาณาจักร ไม่ใช่ข้อศิลธรรมของศาสนจักร

WMS Asia 2019

October 15, 2019

บริษัท แบรนดิ คอร์ปอเรชัน จำกัด (BRANDi) จัดงาน WMS ASIA 2019 (WORGD MARKETING SUMMIT ASIA 2019) ครั้งแรกในประเทศไทย บนความร่วมมือของ KOTGER IMPACT (KI) สมาคมการ จัดการแห่งประเทศไทย (TMA) และ THE STANDARD เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ จากความตั้งใจที่อยากให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงการพัฒนาเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในฉบับ ของตนเอง โดยคำนึงถึงมิติทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันนำไปสู่เป้าหมายในการพัฒนาโลกที่ ดีกว่า

ซึ่งในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ (PHILIP KOTLER) บิดาแห่งการตลาดยุค ใหม่ มาเป็นผู้บรรยายหลัก ภายใต้ธีมการจัดงาน “FORGET EX-GROWTH. FOCUS NEXT-GROWTH.” โดย ได้นิยามและกำหนดกลยุทธ์การเติบโตรูปแบบใหม่ให้กับภาคธุรกิจ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ ปกติ “Unconventional Growth in Unusual World” จากสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ ที่แสวงหา ผลกำไรที่มากขึ้น

โดยการพยายามลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น สู่การทำธุรกิจรูปแบบใหม่ในโลกที่ ผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อสินค้าและการให้บริการ จากการคำนึงถึงราคาเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสนใจกับธุรกิจ ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อพวกเขา

โดยหนึ่งในช่วง Highlight พิเศษของงาน คือ การเปิดตัวดัชนีชี้วัดโลกที่ดีกว่า (BETTER WORLD INDEX: BWi) ซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกับระหว่าง ศาสตราจารย์ ฟิลิป คอตเลอร์ และ บริษัท BRANDi เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาองค์กรในแบบฉบับของตนเอง โดยยกระดับการวัดเป้าความสำเร็จจาก Single Bottom Line สูU Triple Bottom Line จึงกล่าวได้ว่า BWi นับเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงความสำเร็จ ผ่านความร่วมมือทั้งจากภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาชน สู่การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ (Economic Growth) สังคม (Well-being) และสิ่งแวดล้อม (Environmental Enhancement) ควบคู่กันไปแบบไม่ทิ้ง ใครไว้ข้างหลัง

 

การจัดงาน WMS ASIA 2019 ในครั้งงนี้ได้รับความสนใจจากบุคคลสำคัญทั้งในระดับประเทศ และ ระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรร่วม อาทิ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี), คุณซาตู ซุยก์การี เคลฟเวน (เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรฟินแลนด์ประจำประเทศไทย), คุณเบอร์กิท ฮานส์ล (ผู้จัดการธนาคารโลกประเทศไทย), คุณวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโก), คุณพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา (กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธาน

เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด), คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ (ประธานสมาคมการจัดการ ธุรกิจแห่งประเทศไทย) และผู้ร่วมงานที่ล้วนนั่งแท่นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำกว่า 300 คน โดยได้ร่วมกันนิยาม “Better Thailand index” หรือดัชนีชี้วัดประเทศไทยที่ดีกว่าร่วมกัน  จึงนับเป็นก้าวสำคัญของ การปรับกระบวนทัศน์ใหม่ ทางด้านกลยุทธ์การเติบโตในศตวรรษที่ 21 ของประเทศไทย ที่แสดงจุดยืนของการ ดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยมีแบรนด์เป็นศูนย์กลางเพื่อสร้าง “โลกที่ดีขึ้น” ในแบบที่สามารถนำไปปฏิบัติจริง และวัดผลได้จริง

เครือข่ายระดับโลกมุ่งหวังให้ประเทศไทยก้าวสู่การบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชเพื่อการเกษตรยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมการผลิตอาหารจากธรรมชาติ เพื่อความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีขึ้น

โพลีเฮอร์บ เติบโตท่ามกลางกระแสการแข่งขัน ล่าสุดจัดงานฉลองครบรอบ 8 ปี อย่างคึกคัก ตอกย้ำความพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่เคียงข้างสมาชิกชนิดเต็มร้อย เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน

คีย์เวิร์ดสำคัญของยุคสมัยในช่วงเวลานี้คงหนีไม่พ้นคำว่า ‘ดิสรัปชั่น’ คำสำคัญที่สืบเนื่องจากพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และสร้างความท้าทายต่อการตัดตอนความสำเร็จของอดีตที่เคยมีมา

“หิวกันแล้วใช่ไหมครับ ออนไลน์กันดีกว่าว่ามื้อนี้จะกินอะไรดี” คำพูดนี้คงไม่ใช่สิ่งใหม่อีกต่อไปแล้วสำหรับ พ.ศ. นี้

X

Right Click

No right click