นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวมาอย่างต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 โดยเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ตนได้ลงพื้นที่และร่วมพิธีเปิดจุดตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับรถ (Rest Area) ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงรัตภูมิ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โดยมีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด และมีนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางวงเดือน อัตโสภณวัฒนา ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 9 (สงขลา) นายธนาศักดิ์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ. จังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมด้วย ในการนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้มอบน้ำดื่ม และเครื่องอุปโภค-บริโภคให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อนำไปมอบให้จุดตรวจเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ในจังหวัดสงขลา
ต่อจากนั้น เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2566 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. ร่วมกับนางโชลภา ไชยเพียร ผู้อำนวยการภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และนายยศพล จิตติมานุสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดพิษณุโลก พร้อมทีมงาน ได้มอบน้ำดื่มพร้อมสิ่งของให้แก่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ณ บริเวณสี่แยกเต็งหนาม แยกทางเข้าบริษัท ไทยแอร์โร่ จำกัด ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเป็นเกียรติตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่
สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะช่วงระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – วันที่ 4 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก อาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์จากอุบัติเหตุสูงกว่าช่วงปกติ โดยได้เปิดศูนย์บริการสายด่วน คปภ. 1186 และ LINE @OICConnect อย่างครบวงจร ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่
เมื่อปี 2566 กำลังจะสิ้นสุดลง TikTok ขอชวนทุกคนมองย้อนกลับไปถึงบทบาทสำคัญของแพลตฟอร์มในการส่งเสริมความสำเร็จของแบรนด์และสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดทั้งปี โดยแพลตฟอร์มได้พัฒนาไปสู่การเป็นเครื่องมือแบบไดนามิกที่แบรนด์ไม่เพียงแต่นำมาใช้เพื่อเล่าเรื่องราวของตนเท่านั้น แต่ยังได้พบกับความสำเร็จในแบบที่จับต้องได้ และการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปีนี้จึงถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของ TikTok ในการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ คอมมูนิตี้ และวัฒนธรรมที่ช่วยผลักดันประสบการณ์ที่น่าจดจำและผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่หลากหลายแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปีแห่งแคมเปญสร้างสรรค์และความเจริญทางวัฒนธรรม
ในปีที่ผ่านมา TikTok เป็นผู้นำในการสร้างเทรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่างๆ มากมาย ผ่านแคมเปญที่ช่วยสะท้อนเรื่องราวและสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ด้วยการประยุกต์ใช้พลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ TikTok แบรนด์ต่างๆ จึงสามารถบอกเล่าเรื่องราวของตนเองได้อย่างน่าสนใจผ่านเทรนด์ต่างๆ กิจกรรม และการมีประสบการณ์ร่วมจากผู้ชม
สรุปภาพรวมความสำเร็จแห่งปี 2023
TikTok Unboxed: แกะกล่องเทรนด์และข้อมูลเชิงลึก เพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ
ในปี 2566 TikTok ไม่เพียงแต่ปฏิวัติวงการช้อปปิ้งและความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และการเงินอีกด้วย โดย 'Automotive Unboxed' แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ TikTok ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการซื้อยานพาหนะ สะท้อนการเติบโตกว่า 48% ของยอดดูวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเกี่ยวกับยานยนต์ในประเทศไทยเมื่อเทียบเป็นรายปีซึ่งตอกย้ำการขยายตัวอย่างรวดเร็วของหมวดหมู่นี้ ควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงลึกที่ยังเผยให้เห็นว่าผู้ใช้ TikTok มากกว่า 40% ที่เป็นรวมไปถึงผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับเนื้อหาเกี่ยวกับยานยนต์ ซึ่งหลายคนอาจเป็นผู้ซื้อรถยนต์รายใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากเนื้อหาของ TikTok
อิทธิพลของ TikTok แผ่ขยายไปทั่วเส้นทางของผู้บริโภค โดยผู้ใช้งาน 81% ค้นพบแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ 77% แสดงความสนใจเพิ่มขึ้นหลังจากดูคอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์ และเกือบ 30% ไปเยี่ยมชมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรือเข้าร่วมเวิร์กช็อปหลังการมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์ม ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เน้นย้ำถึงผลกระทบที่สำคัญของ TikTok ต่อผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และกระบวนการตัดสินใจของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน 'Finance Unboxed' ได้เผยให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของ TikTok ในภาคการบริการทางการเงิน โดย TikTok ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับการให้คำแนะนำและคำปรึกษาข้อมูลทางการเงิน เห็นได้จากยอดการดูเนื้อหาในหมวดหมู่การเงินที่เพิ่มขึ้น 132% เมื่อเทียบเป็นรายปี ข้อมูลเชิงลึกยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้ใช้ TikTok 96% ดำเนินการบางอย่างหลังจากเห็นโฆษณาหรือเนื้อหาทางการเงิน ผู้ใช้ TikTok ยังมีการหาคำแนะนำด้านการเงินในเรื่องต่างๆ บนแพลตฟอร์มอย่างกระตือรือร้น ไม่ว่าจะเป็น คำแนะนำในการจัดการค่าใช้จ่าย การเพิ่มรายได้ การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และการจัดการกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ อีกทั้ง พฤติกรรมของผู้ใช้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปริมาณการค้นหาหัวข้อทางการเงินเพิ่มขึ้นกว่า 112% ตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ถึงกันยายน 2023 ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจอย่างมากในการหาความรู้ด้านการเงินและการตัดสินใจ
แบรนด์การเงินต่างๆ ยังได้รับผลลัพธ์ที่น่าประทับใจจากการใช้แนวทางการตลาดแบบครบวงจรและกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์บน TikTok สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่หลากหลายของ TikTok ในประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้ง ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เป็นตัวช่วยตอกย้ำถึงบทบาทความสำคัญของ TikTok ในการกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ทำให้เกิดคอมมูนิตี้ที่มีชีวิตชีวา ทรงความรู้ และมีส่วนร่วม
“พวกเรารู้สึกตื่นเต้นกับความสำเร็จอันเหลือเชื่อในปีที่ผ่านมาอย่างมาก และมีพลังอย่างล้นเหลือในการขับเคลื่อนโมเมนตัมนี้ไปสู่ปี 2567” คุณสิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing – Thailand, TikTok กล่าว "เราขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงต่อคอมมูนิตี้ พันธมิตร และทุกคนที่มีส่วนร่วมในการเดินทางครั้งนี้ มาทำให้ปี 2567 สำเร็จอย่างยิ่งขึ้นด้วยกันเถอะ!"
TikTok มุ่งมั่นที่จะผลักดันความสำเร็จให้แก่ธุรกิจต่างๆ ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่แบรนด์สามารถสร้างผลกระทบและการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2024 TikTok ยังคงพร้อมที่จะเสริมพร้อมที่จะเสริมศักยภาพธุรกิจด้วยเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่เป็นนวัตกรรมที่มีความจำเป็นสำหรับการบรรลุความสำเร็จใหม่ๆ ในด้านการตลาดดิจิทัลและความสำเร็จเชิงพาณิชย์
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียน พร้อมเดินหน้าเชื่อมโยงเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ผ่านการส่งมอบโซลูชัน บริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่านคิวอาร์ (Cross-border QR payment) ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมข้ามประเทศเป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัย ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าสำหรับนักเดินทางด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดผ่าน KMA krungsri app เพื่อชำระเงินระหว่างประเทศไทยและเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
การประกาศความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นอีกบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นตามแผนธุรกิจระยะกลางปี 2564-2566 ของกรุงศรี ในการเป็นสถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยการส่งมอบนวัตกรรมและโซลูชันด้านการเงินที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้ใช้ชีวิตง่ายได้ทุกวัน
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นวัตกรรมบริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่านคิวอาร์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือการเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนรายย่อยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางอื่นในภูมิภาคเพื่อส่งเสริมการบูรณาการทางการเงิน กรุงศรี ไม่เคยหยุดนิ่งในการนำเสนอบริการทางการเงินที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจให้แก่ลูกค้าและผู้ประกอบการทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการเปิดให้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดชำระเงินระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ธปท. และธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority: HKMA) การประกาศความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นความภูมิใจครั้งสำคัญของกรุงศรี ที่เป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของประเทศไทยในการร่วมพัฒนาโครงการนี้ และยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเราในการส่งมอบบริการทางการเงินที่ได้รับความไว้วางใจ และเชื่อมโยงทุกความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค โดยอาศัยความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายของบริษัทแม่อย่าง MUFG ที่มีความแข็งแกร่งและครอบคลุมทั่วเอเชียและทั่วโลก”
การสแกนคิวอาร์โค้ดผ่าน KMA krungsri app เพื่อชำระเงินระหว่างประเทศไทยและฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมการให้บริการทางการเงินจากกรุงศรี เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลในปัจจุบัน พร้อมยกระดับประสบการณ์การทำธุรกรรมการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้นแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้ากรุงศรีสามารถรู้อัตราแลกเปลี่ยนทันทีด้วยอัตราพิเศษกว่าการชำระด้วยบัตรเครดิต ปลดล็อกให้นักเดินทางไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจจากประเทศไทยและฮ่องกงไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมาก เพราะสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ณ จุดรับชำระที่แสดงสัญลักษณ์ FPS QR Code (ฮ่องกง) และ Thai PromptPay QR Code (ประเทศไทย) ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ นับเป็นการสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของฮ่องกงและประเทศไทยด้วย
กรุงศรี ให้บริการและเชื่อมโยงเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก ให้ลูกค้าสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน KMA krungsri app ที่รองรับทั้งการไปสแกนคิวอาร์โค้ดที่ร้านค้าในต่างแดน หรือแสดง MyPromptQR บน KMA krungsri app ให้ร้านค้าสแกน โดยที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการแล้วในหกประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม และในครั้งนี้ได้ขยายการให้บริการไปยังฮ่องกง
“การประกาศเปิดให้บริการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงบทบาทของกรุงศรีในการสนับสนุนนโยบายภาพใหญ่ระดับประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการบรรลุเป้าหมายอีกขั้นสำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของแผนงานกลยุทธ์ธุรกิจระยะกลางปี 2564-2566 และเป็นการกรุยทางสู่ความท้าทายบทใหม่ที่กรุงศรีพร้อมจะส่งเสริมและขับเคลื่อนภูมิทัศน์ทางการเงินและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและภูมิภาคให้มีความมั่นคงและยั่งยืน” นายไพโรจน์ กล่าวปิดท้าย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คว้ารางวัลการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ยอดเยี่ยม ประเภทหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2566 ในงาน Prime Minister Awards : Thailand Cybersecurity Excellence Award 2023 ตอกย้ำความสามารถในการรับมือด้านความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 ได้เข้ารับรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ซึ่งกรมฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับ รางวัลการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ยอดเยี่ยม ประเภทหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สร้างความภูมิใจ และเกียรติยศให้แก่องค์กรเป็นอย่างมาก เป็นการตอกย้ำการเป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำที่มีความสามารถในการป้องกันรับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงเป็นการสร้างความตระหนักและการรับรู้ถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์
ที่ผ่านมากรมฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการให้บริการดิจิทัล และจะยังคงรักษามาตรฐานการทำงานพร้อมทั้งพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการจากภาครัฐ ที่มีคุณภาพ และมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการ ส่งผลให้การลงทุนและระบบเศรษฐกิจของประเทศสามารถเติบโตและเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่นยืน
โอกาสนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่พิจารณาคัดเลือกและมอบรางวัลอันทรงคุณค่าให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และพันธมิตรทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมฯ ด้วยดีเสมอมา ตลอดจนประชาชนผู้ใช้บริการทุกท่านที่มั่นใจใช้บริการดิจิทัลของกรมฯ และขอให้คำมั่นว่ากรมฯ จะสร้างสรรค์นวัตกรรมการให้บริการแก่ภาคธุรกิจ และประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือตามมาตรฐานสากล และพ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒ สอดคล้องกับ พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ที่ให้หน่วยงานรัฐต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของหน่วยงานราชการให้ทันสมัย โดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น อธิบดีกล่าวในท้ายที่สุด
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดกิจกรรม “เก็บ...เซฟ...โลก ลดขยะ พิทักษ์ป่าชายเลน” ภายใต้โครงการ ดาวและภาคีป่าชายเลนประเทศไทย หรือ Dow & Thailand Mangrove Alliance ผนึกกำลังภาครัฐ พนักงาน และประชาชนจิตอาสา ในการอนุรักษ์ป่าชายเลนจังหวัดระยองอย่างมีส่วนร่วม ช่วยลดปริมาณขยะตกค้างกว่า 2,750 กิโลกรัม สร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศป่าชายเลนและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อแก้วิกฤตโลกร้อนและลดปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน
กิจกรรม “เก็บ...เซฟ...โลก กำจัดขยะ พิทักษ์ป่าชายเลน” จัดขึ้นเป็นปีแรก และมีผู้สนใจเข้าร่วมมากกว่า 360 คน ตลอดเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน 2566 รวม 5 ครั้ง โดยจิตอาสาสามารถป้องกันขยะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม ณ ป่าชายเลนปากน้ำประแส อำเภอแกลง และป่าชายเลนบริเวณกลุ่มประมงเก้ายอด หาดแหลมเจริญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ได้กว่า 2,750 กิโลกรัม โดยขยะที่เก็บได้โดยเฉพาะพลาสติกและวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ได้จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรืออัปไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าและรายได้ให้กับชุมชน และขยะที่เหลือจะถูกนำไปกำจัดตามกระบวนการอย่างเหมาะสมต่อไป
นายเดชา พาณิชยพิเชฐ ผู้อำนวยการโรงงาน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow มีการปลูกป่าชายเลนทุก ๆ ปีอย่างต่อเนื่องมากว่า 15 ปี เพราะป่าชายเลนสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าป่าบกหลายเท่า และยังเป็นปราการในการดักกรองขยะพลาสติกไม่ให้รั่วไหลลงสู่ทะเล”
“เมื่อเวลาผ่านไป ป่าชายเลนจะมีขยะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เราจึงจัดกิจกรรมเก็บขยะที่ตกค้างในป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับทั้งพนักงาน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ของ Dow น้อง ๆ นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์ และช่วยลดปริมาณขยะในธรรมชาติ ยังช่วยสร้างทัศนียภาพที่สวยงามซึ่งจะนำรายได้จากการท่องเที่ยวมาสู่ชุมชนต่อไป ตอบโจทย์เป้าหมายประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” นายเดชาสรุป
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2552 จวบจนปัจจุบัน พนักงานดาวอาสา ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และประชาชนในจังหวัดระยองได้ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามแนวชายฝั่งด้วยการปลูกและดูแลป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องมาตลอด 15 ปี เพื่อเป็นการตอกย้ำพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และยังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการต้านโลกร้อนอย่างต่อเนื่องตามเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนขององค์กร