มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีมอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นและเกียรติคุณสารสิน ประจำปี 2565

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่ายทั้งภาคการศึกษาและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ จัดเสวนาวิชาการหัวข้อ วิทยาศาสตร์บูรณาการสำหรับอาหารดูแลสุขภาพเชิงรุก : นวัตกรรมเนื้อหมูชีวา มีโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ ตอกย้ำความพรีเมียม ยกระดับมาตรฐานอาหารสุขภาพของไทย

รองศาสตราจารย์ ดร.พัชราณี ภวัตกุล หัวหน้าภาคโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัจจุบันเวชศาสตร์การป้องกันเป็นที่แพร่หลายในทางการแพทย์ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรค NCDs เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการวิจัยและศึกษานวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพเชิงรุก ซึ่งโอเมก้า 3 เป็นอีกสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคนทุกวัย มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง สายตา ระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี รวมถึงลดการอักเสบ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ

 

ดร.อนันตวัฒน์ กุลธนเตชานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า หมูชีวา ถือเป็นนวัตกรรมที่ยกระดับอาหารไทยไปอีกขั้น เริ่มจากการศึกษาและวิจัย ทำให้สามารถคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีที่สุด เลี้ยงด้วยสูตรอาหารธรรมชาติที่เลือกสรรพิเศษที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 สูง อาทิ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) น้ำมันปลาทะเลลึก และสาหร่ายทะเลลึก เป็นต้น รวมถึงมีส่วนผสมของโปรไบโอติก (Probiotic) อยู่ภายในฟาร์มระบบปิดที่มีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ลักษณะคอกขังรวม (Group Pen Gestation) ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ส่งผลให้หมูชีวาอยู่สบาย แข็งแรง ไม่ป่วย ได้การรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF จากประเทศสหรัฐอเมริกา รับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ จึงไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า หมูชีวาเป็นแหล่งโอเมก้า 3 สูง สามารถรับประทานได้ทุกวัน และช่วยดูแลสุขภาพเชิงรุก

ด้าน นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นส่งเสริมให้ประชากรโลกมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการวิจัยและพัฒนาอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพเชิงรุก โดยคำนึงถึง 3 ปัจจัย ได้แก่  นวัตกรรม (Innovation) สุขภาพ (Wellness) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Planet) อย่าง หมูชีวา ถือเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่พัฒนาตั้งแต่สายพันธุ์ อาหารที่เลี้ยง ตลอดจนวิธีการเลี้ยง เพื่อให้มีโอเมก้า 3 สูง โดยได้รับการรับรองจากงานวิจัยต่างๆ รวมถึงมาตรฐานระดับนานาชาติ  เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงความปลอดภัยทางอาหาร พร้อมกับสร้างความมั่นคงทางอาหารและการบริโภคอย่างยั่งยืน

ผลิตภัณฑ์ 'หมูชีวา' เป็นเนื้อหมูคุณภาพพรีเมียม เลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน การันตีด้วยรางวัลสุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก ประจำปี 2023 หรือ Superior Taste Award 2023 ระดับ 1 ดาว โดยเชฟชั้นนำกว่า 200 คน จาก International Taste Institute รางวัล SET Awards 2021 ในกลุ่ม Business Excellence ด้านนวัตกรรมดีเด่น (Outstanding Innovative Company Awards) โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร และรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรมระดับโลก จากงาน THAIFEX – Anuga Asia 2020 วางจำหน่ายแล้วใน ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ The Mall, Tops, Villa Market, Foodland, MaxValu หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ufarmthailand.com/cheeva_pork 

สำหรับ งานสัมมนาวิชาการ The International Conference for Public Health, Environment, and Education for Sustainable Development Goals and Lifelong Learning มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน เป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 ด้านสาธารณสุข สุขภาพ การส่งเสริมและความเป็นอยู่ที่ดี โภชนาการและวิทยาศาสตร์การอาหาร อนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างอนาคตที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สรายุทธ สุภาพรรณชาติ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารสินทรัพย์ เป็นประธานในพิธีเปิด และ รองศาสตราจารย์ ดร.สราวุธ เทพานนท์ คณบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมด้วย

เฟ้นหาสุดยอดนักรบไซเบอร์รุ่นใหม่จาก 2,323 คน จัดเต็มที่สุดในไทยและอาเซียน

ปัจจุบันพ่อแม่ยุคใหม่มักต้องทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ส่งผลให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีเวลาจำกัด โดยเฉพาะเด็กในช่วงวัย 0-6 ปี ที่จำเป็นต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลานาทีทองที่จะส่งผลต่ออนาคตของเด็กไปตลอดชีวิต และจากความสำคัญดังกล่าว ทำให้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จับมือกันเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลเด็กในช่วงปฐมวัย เพื่อสร้างรากฐานชีวิตที่ดีให้แก่คนในสังคม ผ่านกิจกรรม “เลี้ยงถูก ลูกดี” ที่เปิดโอกาสให้พ่อแม่ยุคใหม่ได้เติมเต็มความรู้ในการเลี้ยงลูกและได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกันในครอบครัว

ความสำคัญของ “นาทีทอง” ที่มีต่อพ่อแม่และเด็ก

.ดร.นุชนาฏ รักษี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงความสำคัญของเด็กในวัย 0-6 ปี ว่า เป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาสูงสุด โดยเด็กในวัยนี้จะเหมือนกับฟองน้ำที่พร้อมดูดซับความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้จากการอบรมเลี้ยงดู ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมอง อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ต่อยอดไปถึงทักษะการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์ และการเข้าสังคมของเด็ก รวมทั้งยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อทัศนคติ บุคลิกภาพ และพฤติกรรมในอนาคตเมื่อเป็นผู้ใหญ่

เลี้ยงลูกให้ “เก่ง ดี มีสุข” ด้วยการสร้างประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมที่ดี

เป้าหมายสูงสุดของพ่อแม่ทุกคน คือการเห็นภาพลูกเติบโตไปอย่างมีคุณภาพ สามารถเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ได้ แก้ปัญหาเป็น รวมทั้งรู้จักแยกแยะถูกผิด มีคุณธรรม และระเบียบวินัย ในขณะที่มีสุขภาพจิตใจมั่นคงแข็งแรง และมีความสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) พันธุกรรม 2) สุขภาพ โภชนาการ และ 3) ประสบการณ์การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม แม้พันธุกรรมจะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่องค์ประกอบอื่นอย่างอาหารการกินเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถคัดสรรให้เพียงพอและถูกต้องตามหลักโภชนาการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องประสบการณ์การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมที่พ่อแม่เป็นส่วนสำคัญในการกำหนดคุณภาพและรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับลูกในแต่ละช่วงวัย ซึ่งองค์ประกอบข้อนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของสมอง ซึ่งถือเป็นกระดุมเม็ดแรกที่จะส่งผลต่อเด็กในด้านอื่น ๆ 

5 หลักการดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ (Nurturing Care Framework)

Nurturing Care Framework (NCF) เป็นหลักการดูแลเอาใจใส่เด็กทั้ง 5 ด้าน ที่องค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟได้จัดการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพื่อวางกรอบการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้สามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. สุขภาพที่ดี หมายถึงสุขภาพที่ดีทั้งของเด็กและของผู้ดูแล ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น การตรวจสุขภาพเด็กเป็นประจำ การฉีดวัคซีน และการส่งเสริมให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อเป็นการออกกำลังกาย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย จะช่วยให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมเรียนรู้และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
  2. โภชนาการที่เพียงพอ ทั้งร่างกายและสมองต่างต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและพอเหมาะ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการเติบโต หากเด็กได้รับสารอาหารน้อยหรือมากเกินไป อาจมีภาวะทุพโภชนาการได้ เช่น โรคขาดสารอาหาร หรือ โรคอ้วน ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในระยะยาว รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ
  3. คุ้มครองให้ความปลอดภัยและมั่นคง หมายถึงสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและครอบครัว เพราะเด็กเล็กไม่สามารถป้องกันตนเองได้และมีความเปราะบางต่ออันตรายต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงการเลี้ยงดูเด็กโดยไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งจะช่วยให้เด็กรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย เพราะการปกป้องให้ลูกรู้สึกปลอดภัยเพียงพอ รับรู้ถึงความรัก ความผูกพันมั่นคง เน้นการให้กำลังใจ จะสร้างความพร้อมให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ดีในอนาคต
  4. ให้โอกาสในการเรียนรู้ ในขวบปีแรกๆ เด็กจะเรียนรู้และได้รับทักษะและความสามารถจากการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นผ่านรอยยิ้ม การสบตา การพูดคุย ร้องเพลง การเลียนแบบ และการละเล่นง่าย ๆ เช่น โบกมือบ้ายบายหรือจ๊ะเอ๋ เมื่อเด็กโตขึ้น ควรมีกิจกรรมและการเล่นกับลูก อย่างการอ่านนิทาน การปั้นดินน้ำมัน หรือการวิ่งเล่น ที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ กระตุ้นพัฒนาการ และจุดประกายความใคร่รู้ รวมทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น
  5. มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก การที่พ่อแม่คอยตอบสนองลูกอย่างเอาใจใส่ และรับฟังความต้องการของลูกอย่างใกล้ชิด เปรียบเสมือนการวางรากฐานชีวิตที่มั่นคงแข็งแรงให้กับลูก ทำให้พัฒนาการด้านต่าง ๆ ตามวัยสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหนคือ ความมั่นคงทางอารมณ์และจิตใจที่จะหลอมรวมกันจนกลายเป็นตัวตนของเด็ก และติดตัวจนโตเป็นผู้ใหญ่ไปตลอดชีวิต

เปลี่ยนพลังเป็นโอกาสด้านสุขภาพ โภชนาการ และการเรียนรู้ให้น้อง

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ พัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าของอลิอันซ์ อยุธยา  ง่าย ๆ สำหรับลูกค้าประกันชีวิต กดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่น My Allianz หรือ Healthy Living และลูกค้าประกันภัย กดรับสิทธ์ผ่านเว็บไซต์ www.azay.co.th  เพื่อรับฟรี...ชุดคอมโบ้เซ็ท 1 ชุด มูลค่า 235 บาท

ประกอบด้วย ป๊อปคอร์นขนาด 64 ออนซ์ 1 กล่อง พร้อมเครื่องดื่มขนาด 32 ออนซ์ 1 แก้ว ไปอร่อยกันทันที สามารถเข้าไปกดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2566 จำนวนจำกัด 5,000 สิทธิ์ หรือจนกว่าสิทธิ์หมด (ลูกค้าประกันกลุ่มไม่สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวได้) โดยนำรหัสที่ได้ไปแลกรับชุดคอมโบ้เซ็ทได้ที่ จุดจำหน่ายป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม (Concession) โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขาทั่วประเทศ

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้รับการประกาศรายชื่อเป็น “Best Practice” หน่วยงานที่มีการดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดีเลิศ (PDPA) ภายใต้โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) โดยรวมถึงใช้งานแพลตฟอร์มภาครัฐฯ GPPC ได้ถูกต้องครบถ้วนตามกำหนด เป็นไปตามแนวนโยบายของ EXIM BANK ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้กรอบของกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ รวมถึงการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและการตลาดที่เป็นธรรม คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า คู่ค้า คู่ความร่วมมือ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ทุกกลุ่ม

ราคาเพียง 17,990 บาท พร้อมขยายโปรแจกของแถมถึง 31 ตุลาคม 2566

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ประกาศเตรียมเปิดตัว HUAWEI WATCH GT 4 Series ในประเทศไทยในวันที่ 5 ตุลาคม 2566 หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวล่าสุดในยุโรปและประเทศจีน สำหรับสมาร์ทวอทช์เรือธงอย่าง WATCH GT Series เจเนอเรชันใหม่นี้ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ "Fashion Forward " แสดงถึงวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการรวมเทคโนโลยีและแฟชั่นเข้าด้วยกัน นับเป็นการประกาศสู่ยุคใหม่ของแฟชั่นสมาร์ทวอทช์ตอบโจทย์ทั้งการดูแลสุขภาพ การเล่นกีฬา ที่ยังคงมีดีไซน์แมทช์เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้อย่างลงตัว

ดีไซน์เด่น มีสไตล์สะกดทุกสายตา

หัวใจสำคัญของปรัชญาการออกแบบของหัวเว่ยคือความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการ “ออกแบบที่มีจุดมุ่งหมาย” ซึ่งมีรากฐานและแนวทางที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง HUAWEI WATCH GT 4 เป็นตัวแทนของผู้นำด้านแฟชั่นที่โดดเด่น ยกระดับการดีไซน์จาก GT Series แบบคลาสสิก เน้นองค์ประกอบการออกแบบที่สร้างสรรค์ในขณะที่ยังคงรักษาความสวยงามทางเรขาคณิตสมัยใหม่จากดีไซน์ของรุ่นก่อน

อุปกรณ์สวมใส่แต่ละชิ้นกลายเป็นไอเทมที่โดดเด่นเติมเต็มสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ใช้  หัวเว่ยพัฒนาประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทวอทช์อย่างต่อเนื่องผ่านการใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ทนทาน และการเพิ่มตัวเลือกให้เหมาะกับสไตล์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น

ตอบสนองทุกความต้องการด้านแฟชั่น

HUAWEI WATCH GT 4 Series มาพร้อมขนาด 46 มม. และ 41 มม. สะท้อนถึงงานฝีมือที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่รวบรวมความสง่างามและศิลปะทางเรขาคณิต โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายสูงสุดของผู้สวมใส่ อีกทั้งผลิตด้วยวัสดุระดับพรีเมียมและรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นโลหะอย่างมีสไตล์ การออกแบบนี้เน้นย้ำถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยผสานสมาร์ทวอทช์เข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น สะท้อนหลักการของความสมดุล ความกลมกลืน และการออกแบบที่สร้างสรรค์

ประสบการณ์ผู้ใช้ได้รับการยกระดับด้วยหน้าจอแบบ Always-On Display (AOD) ที่ได้รับการพัฒนาช่วยเพิ่มความสวยงามของการมองเห็น พร้อมด้วยหน้าปัดนาฬิกาที่มีสไตล์และปรับแต่งได้หลากหลายสำหรับการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ ด้วยตัวเลือกจากดีไซน์ใหม่ 12 แบบ และตัวเลือกจากนักพัฒนาบุคคลที่สามกว่า 25,000 แบบ บน HUAWEI Watch Face Store เปิดประตูสู่ความสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะจับคู่กับชุดสูทธุรกิจที่หรือชุดลำลองสำหรับการไปเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ สมาร์ทวอทช์เรือนนี้สามารถปรับได้อย่างง่ายดาย ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์โดยรวมของผู้สวมใส่ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 46 มม. เท่ไม่เหมือนใครกับตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยม

ด้วยแรงบันดาลใจจากความแม่นยำของการเจียระไนเพชรที่แวววาวและไดนามิกของการออกตามหลักแอโรไดนามิกที่พบในรถยนต์สมรรถนะสูง ทำให้ HUAWEI WATCH GT 4 ในดีไซน์ขนาด 46 มม. ก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ทวอทช์แบบเดิมๆ

HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 46 มม. นำเสนอการออกแบบรูปทรงเรขาคณิตโดยใช้ตัวเรือนนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมซึ่งเป็นรูปทรงที่นำความชัดเจนทางเรขาคณิตและความสมมาตรมาสู่นาฬิกา ขณะเดียวกันก็สร้างรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา การออกแบบหน้าปัด “แปดเหลี่ยม” อันเป็นเอกลักษณ์นี้เพิ่มสัมผัสถึงความแข็งแกร่งนอกเหนือจากดีไซน์ทรงกลมคลาสสิก ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งและทนทาน ทำให้นาฬิกาเป็นที่จดจำได้ทันทีและเป็นสัญลักษณ์ซึ่งบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่

HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 41 มม. รูปทรงจี้เครื่องประดับอันหรูหรา

ในขณะเดียวกัน HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 41 มม. เป็นตัวอย่างการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแฟชั่นและความสง่างาม ด้วยรูปทรงจี้ที่ออกแบบเพื่อยกระดับให้กลายเป็นเครื่องประดับที่โดดเด่น ความงดงามที่โฉบเฉี่ยวและประณีตเป็นผลจากงานฝีมือที่พิถีพิถันซึ่งปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์เฉพาะตัวของผู้สวมใส่ได้อย่างลงตัว

การออกแบบลักษณะคล้าย “จี้” อันหรูหราตรงขานาฬิกาเสริมด้วยพื้นผิวส่วนโค้งรับเข้ากับดีไซน์ปุ่มควบคุม สายนาฬิกา และตัวเรือนนาฬิกาได้อย่างงดงาม การออกแบบนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการผสมผสานรูปแบบและฟังก์ชันที่ไร้รอยต่อสะท้อนถึงสไตล์ที่เหนือกาลเวลา

นอกจากนี้การออกแบบจี้บนกรอบด้านนอกยังช่วยเพิ่มสัมผัสพิเศษของความซับซ้อนและความแวววาว ไม่เพียงแต่เสริมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยของนาฬิกาแต่ยังให้รูปลักษณ์ระดับไฮเอนด์ที่ทันสมัยอีกด้วย

สีสันอันเป็นเอกลักษณ์ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดสายตา

HUAWEI WATCH GT 4 series ขนาด 46 มม. และ 41 มม. มาพร้อมตัวเลือกสีที่แตกต่างกัน รวมทั้งตัวเรือนสเตนเลสสตีลอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีตด้วยความใส่ใจในรายละเอียด เพื่อมอบนาฬิกาเฉพาะบุคคลที่เหมาะกับรสนิยมและความชอบที่หลากหลาย

HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 46 มม. มีให้เลือก 4 สี  ได้แก่ สีเทาพร้อมสายสแตนเลสในตัว สีเขียวพร้อมสายแบบทอสีเขียว สีน้ำตาลพร้อมสายหนังสีน้ำตาล และสีดำพร้อมสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์สีดำ ในขณะที่ HUAWEI WATCH GT 4 ขนาด 41 มม. มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงินพร้อมสายข้อมือเปียโนคีย์ทูโทน สีขาวพร้อมสายหนังสีขาว และสีดำพร้อมสายรัดฟลูออโรอีลาสโตเมอร์สีดำ โดย HUAWEI WATCH GT 4 แต่ละรุ่นนำเสนอการผสมผสานที่หรูหราระหว่างสไตล์ ความสะดวกสบาย และนวัตกรรม

HUAWEI WATCH GT 4 series มีให้เลือกมากมายเพื่อให้เหมาะกับทุกโอกาสและกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ตั้งแคมป์ดูดาว เดินป่าบนยอดเขา ไปจนถึงดินเนอร์สุดหรูก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์องคุณได้อย่างลงตัว

การบูรณาการรูปแบบและฟังก์ชันอย่างกลมกลืน

เสน่ห์ของ HUAWEI WATCH GT 4 series มีมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งรวบรวมจิตวิญญาณของนาฬิกาคลาสสิกไปพร้อมๆ กับการมอบฟังก์ชันการทำงานที่ล้ำสมัย อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 14 วัน[1]ในรุ่น 46 มม. และ 7 วัน[2]ในรุ่น 41 มม.  HUAWEI WATCH GT 4 ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทนทานและความยืดหยุ่น ไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดของอายุการใช้งานแบตเตอรี่อีกต่อไป แต่ยังช่วยให้ผู้สวมใส่ได้ใช้งานต่อเนื่องเดินทางออกไปทำกิจกรรมที่จะปลดปล่อยความเป็นคุณได้อย่างเต็มที่

อีกทั้งพัฒนาด้านคำแนะนำทางกีฬาและคุณสมบัติด้านสุขภาพแบบมืออาชีพ โดยอัปเกรดเทคโนโลยีการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย TruSeen™ 5.5+ ให้มีการอ่านค่าที่แม่นยำยิ่งขึ้นและการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการวัดทางสรีรวิทยาของผู้สวมใส่

เพื่อให้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น HUAWEI WATCH GT 4 series จึงมีมากกว่า 9 หมวดหมู่และแผนการฝึกอบรมทางวิทยาศาสตร์ส่วนบุคคลมากกว่า 200 รายการ ดาวน์โหลดใช้งานได้สะดวกและฟรีผ่านแอป HUAWEI Health App ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับการออกกำลังกายของผู้ใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน โยคะกลางแจ้ง HUAWEI WATCH GT 4 Series มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย เป็นเพื่อนร่วมทางปลุกแรงบันดาลใจให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดและปลดล็อคความนักกีฬาภายในตัวคุณ  อีกทั้งมีโหมดกีฬาที่หลากหลายมากกว่า 100 โหมดและครอบคลุมประเภทการออกกำลังกายมากขึ้น รวมถึงโหมดแบบกำหนดเองที่เพิ่มเข้ามาใหม่ 4 โหมดสำหรับฟุตบอล บาสเก็ตบอล พาเดลเทนนิส และอีสปอร์ต พร้อมด้วยโหมดกีฬามืออาชีพอีก 19 โหมดซึ่งรวมถึงการเดินในร่มและกลางแจ้ง วิ่ง โยคะ ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย HUAWEI WATCH GT 4 Series มาพร้อมกับความสามารถในการพัฒนาการติดตามสุขภาพ เช่น การแจ้งเตือนการออกกำลังกายรายวัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายในการออกกำลังกายและปลูกฝังนิสัยการใช้ชีวิตที่แอคทีฟ คุณสมบัติ วงแหวนกิจกรรม (Activity Rings) ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับการติดตามกิจวัตรประจำวันไปอีกระดับ

การพัฒนาระบบนำทางด้วยดาวเทียม GNSS อัจฉริยะใหม่ล่าสุดใน HUAWEI WATCH GT 4 Series เพื่อวางตำแหน่งที่มีความแม่นยำสูงแบบ Dual-Band รองรับดาวเทียม 5 ระบบ ที่จะติดตามทุกการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานเพื่อเป้าหมายในการมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

รองรับฟีเจอร์ใช้งานใหม่ล่าสุด การส่งข้อความและการตอบกลับอย่างรวดเร็ว รวมถึงแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่เปิดใช้งานเพื่อเข้าถึงเพลง การนำทาง และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้สะดวกและชาญฉลาด ยิ่งไปกว่านั้น HUAWEI WATCH GT 4 สามารถจับคู่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS และ Android ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้แน่ใจว่าความเป็นส่วนตัวและข้อมูลของคุณได้รับการปกป้องตลอดเวลา ทำให้ผู้ใช้อุ่นใจในการเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม

ดึงไอคอนระดับโลกปฏิวัติวงการสมาร์ทวอทช์หัวเว่ย

ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างกีฬาและแฟชั่น Pamela Reif ผู้มีอิทธิพลด้านฟิตเนสและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก รวมถึง Sir Mo Farah ตำนานการวิ่งและผู้ชนะเลิศเหรียญทองหลายรายได้รับการเสนอชื่อให้เป็น HUAWEI Wearable Product Ambassadors

HUAWEI WATCH GT 4 Series เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดที่ยึดหลักการออกแบบเชิงเรขาคณิตระดับพรีเมียม “Classics Evolved” แสดงออกถึงการผสมผสานเสน่ห์แห่งประเพณีเข้ากับความทันสมัยที่ไร้ขีดจำกัดของรูปแบบและฟังก์ชันเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

เตรียมพบกับการเปิดตัวในประเทศไทยพร้อมโปรโมช้นอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ได้ที่นี่  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery และติดตาม  HUAWEI Mobile TH 


[1] อิงตามผลลัพธ์จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Huawei การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความคลาดเคลื่อนระหว่างรุ่น พฤติกรรมการใช้งาน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

[2] อิงตามผลลัพธ์จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Huawei การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความคลาดเคลื่อนระหว่างรุ่น พฤติกรรมการใช้งาน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ เท่ากับประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11

X

Right Click

No right click