บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ ส่งภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชุดพิเศษ “ปิดทุกความเสี่ยง ด้วยแผนประกันเพื่อผู้หญิง” โดยสื่อโฆษณาออนไลน์ดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเรื่องโรคร้าย ความเสี่ยงที่จะไม่มีคนดูแล และความเสี่ยงด้านการเงิน โดยกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต พร้อมเคียงข้างคุณ ด้วย 2 แผนประกันพิเศษ ได้แก่ 1. แผนประกัน She ชิล ฟีลกู๊ด สำหรับสาวมั่น ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยง ให้คุณหายห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาล พร้อมวางแผนเกษียณอย่างมืออาชีพ และรับเงินบำนาญทุกปี และ 2. แผนประกัน She ชิลเซฟชัวร์ ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง ที่จะช่วยเปลี่ยนเรื่องยุ่งยากของคุณ ลดความกังวลใจ และให้คุณโฟกัสกับงานและครอบครัวที่รักได้อย่างเต็มที่ โดยผลประโยชน์ของผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย ให้ความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง โดยภาพยนตร์โฆษณาได้เล่าเรื่องผ่านพรีเซนเตอร์ของบริษัทฯ คุณหญิง รฐา โพธิ์งาม ในฐานะตัวแทนของผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นดูแลกันตลอดไป

ภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว จะเริ่มสื่อสารในวันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ผ่านสื่อออนไลน์ของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น YouTube Meta Line Instagram Twitter LinkedIn และช่องทาง Tik Tok เพียงพิมพ์ Krungthai-AXA Life หรือ https://ktaxa.live/GBC2023_Ying_Pr และสำหรับผู้ที่สนใจแบบประกัน She ชิล ฟีลกู๊ด และ She ชิลเซฟชัวร์ สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนของบริษัทฯ สำนักงานตัวแทนทั่วประเทศ และที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

ย้ำส่งเสริมการออมด้วยบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมเดินหน้าดูแลลูกค้าสินเชื่อแบบยั่งยืน

ด้วยพลังนวัตกรรม ส่องเส้นทางเติบโตทวีคูณของ “NSL แซนด์วิชอบร้อน-น้ำเต้าหู้ Tofusan”

เคทีซีควงพันธมิตรยูเนี่ยนเพย์ไปต่อ ไม่รอราคาน้ำมันปรับตัว จัดแคมเปญมอบความคุ้มค่าแก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ และบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว ยูเนี่ยนเพย์ รับอีคูปอง (e-Coupon) เครดิตเงินคืนสูงสุด 40 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” เมื่อเติมน้ำมันที่ พีทีที สเตชั่น / บางจาก / เชลล์ / พีที / คาลเท็กซ์ /ซัสโก้ และสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 – 31 มกราคม 2567

นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและยังมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลต่อค่าครองชีพของสมาชิกผู้ใช้รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เคทีซีได้ตระหนักถึงความจำเป็น และต้องการมีส่วนร่วมแบ่งเบาภาระให้กับสมาชิกบัตร จึงได้จัดแคมเปญการตลาดที่เปิดกว้าง “เติมน้ำมันสุดคุ้มกับบัตร KTC UNIONPAY” เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ดีๆ เริ่มต้นจากกลุ่มของผู้ที่เป็นสมาชิกบัตรเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ ทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด และพร้อมจะต่อยอดความคุ้มค่าที่หลากหลายให้กับสมาชิกบัตรทุกประเภทในอนาคตต่อไป”

“สำหรับแคมเปญ “เติมน้ำมันสุดคุ้ม กับบัตร KTC UNIONPAY” สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ยูเนี่ยนเพย์ และบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว ยูเนี่ยนเพย์ จะได้รับ e-Coupon เครดิตเงินคืน 40 บาท ผ่านทางแอปฯ KTC Mobile เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ จากการเติมน้ำมันครบ 1,300 บาทขึ้นไป ต่อครั้งต่อเซลล์ สลิป หรือรับ e-Coupon เครดิตเงินคืนมูลค่า 20 บาทต่อครั้ง เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ จากการการเติมน้ำมันครบ 900 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป โดยไม่ต้องลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 – 31 มกราคม 2567”

 

น.ส. ขวัญรตา โสภณพนา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เผยว่า “ในขณะที่เราเผชิญกับความท้าทายของภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยูเนี่ยนเพย์ยังคงมุ่งมั่นในการรังสรรค์สิทธิประโยชน์ต่างๆเพื่อลูกค้าของเรา เราเข้าใจดีว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันนี้อาจส่งผลต่องบประมาณของครัวเรือน ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิมในการรับฟัง ปรับเปลี่ยน และนำเสนอทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ถือบัตรของเรา เราหวังว่าแคมเปญการตลาดที่ร่วมกับเคทีซีจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ถือบัตรได้เป็นอย่างดี”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชัน ของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อํานวยการ สํานักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจํานงค์ ผู้อํานวยการ สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รองศาสตราจารย์ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายวีระเดช เตชะไพบูลย์ นายกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย และ ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการ มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่องการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะและรถรับ-ส่งพนักงานในพื้นที่ EEC ณ สำนักงาน EEC เมื่อเร็วๆ นี้

EXIM BANK ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี การถ่ายทอดองค์ความรู้ และการใช้ระบบขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ นำไปสู่การบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero​​ Emissions) ภายในปี 2608

ตัวช่วยในการจัดระเบียบพื้นที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของบ้านคุณ

กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดโรงแรมแห่งที่ 11 ในจีน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาคที่มุ่งเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนซ้าย) และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนขวา) คว้า 2 รางวัลใหญ่ระดับโลก 3 ปีซ้อน จาก World Business Outlook ในสาขา Best Life Insurance Company Thailand 2023 และ Best Brand in Insurance Thailand 2023 ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอันทรงเกียรติของบริษัทฯ ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่น และความสำเร็จด้านพัฒนาประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า การให้บริการที่ครบครัน รวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า รวมถึงการเป็นผู้นำในด้านแบรนด์ของธุรกิจประกันชีวิต ที่มีความโดดเด่น และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของทุกคน โดยผ่านการนำเสนอเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

บมจ.ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) หรือ CFARM ยื่นแบบ Filing ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เสนอขายไอพีโอ 149 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) พร้อมแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 เรียบร้อยแล้ว

“ปัจจุบัน ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) หรือ CFARM มีทุนจดทะเบียน 431 ล้านบาท เตรียมเพิ่มทุนอีก 149 ล้านบาท ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 580 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 149.00 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 25.69% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai” นายสมศักดิ์กล่าว

นายสุริยา ธรรมธีระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะเพิ่มศักยภาพ ขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจให้มีความมั่นคง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้น สร้างความยั่งยืนให้องค์กรในระยะยาว

สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการระดมทุน เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ นอกจากนี้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ

ด้านนายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM เปิดเผยว่าบริษัทดำเนินธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาชั้นนำในประเทศไทยในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา เลี้ยงไก่เนื้อในโรงเรือนด้วยระบบปิดปรับอากาศ(Evaporative Cooling System : EVAP) ทุกโรงเรือนเลี้ยงไก่เนื้อมีคุณภาพตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมาตรฐานที่กำหนดโดยคู่สัญญา อีกทั้งบริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (เลี้ยงไก่) ด้านประกอบกิจการเลี้ยงไก่เนื้อ ที่ออกโดยองค์การบริหารส่วนตำบลท้องถิ่นที่โรงเรือนตั้งอยู่ ปัจจุบันบริษัทได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2015 (ระบบบริหารงานคุณภาพ) , ISO 14001:2015 (ระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม) , ISO 45001:2018 (มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย) 

โดยในปัจจุบันบริษัทมีฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อทั้งสิ้น 8 ฟาร์ม ประกอบด้วยโรงเรือนจำนวน 121 โรงเรือน ตั้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีความสามารถในการเลี้ยงไก่เนื้อประมาณ 3.18 ล้านตัวต่อรอบการเลี้ยง หรือประมาณ 15.88 ล้านตัวต่อปี

X

Right Click

No right click