“ปาร์ตี้” ขนมมันเทศทอดกรอบเคลือบเนยคาราเมล ภายใต้การบริหารของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี เปิดตัวรสชาติ 2 รสชาติใหม่ เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปี ปาร์ตี้ ขนมที่ช่วยเติมความหวานในชีวิต ให้มีมิติขึ้นไปอีกในทุกช่วงเวลา ภายใต้สโลแกน “ฉลองได้ทุกโมเมนต์กับปาร์ตี้” ตอกย้ำความเป็นขนมขึ้นรูปแบบหวาน อันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภคมามาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
ใหม่!! ปาร์ตี้ เบิร์ทเดย์ เค้ก : ครั้งแรกของปาร์ตี้คาราเมลผสานเรนโบว์ป๊อปกรุบๆ บัตเตอร์เค้กโรยตกแต่งด้วยเกล็ดน้ำตาลเรนโบว์หลายสีสุดน่ารัก หอมกลิ่นเนยผสานความหวานของคาราเมล
ใหม่!! ปาร์ตี้ ไอศกรีมวนิลลา : หอมละมุนวนิลลา เย็นติดปลายลิ้น หอมกลิ่นวนิลลาบวกกับความหวานของคาราเมลสุดคลาสิค พิเศษครั้งแรกของปาร์ตี้ที่มี เทคโนโลยี Cooling effect ความเย็นติดปลายลิ้น ที่ยิ่งกินยิ่งเย็น
สำหรับ ปาร์ตี้ 2 รสชาติใหม่ วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ขนาด 12 กรัม ราคา 5 บาท และขนาด 48 กรัม ราคา 20 บาท และติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดีๆ จากปาร์ตี้ ได้ที่ FB Fan page : Party Snack
กรุงเทพประกันชีวิต เดินหน้าผนึกความร่วมมือ ธนาคารกรุงเทพ ตอกย้ำความสำเร็จในบริการวางแผนความคุ้มครองและการออมผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ในช่องทางของธนาคาร พร้อมจัดงาน Age of Happiness: Thank You Event for Our Valued Customers เพื่อแสดงความขอบคุณลูกค้าธนาคารกรุงเทพที่ให้ความไว้วางใจมากกว่า 20 ปี ผ่าน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 1st ทั้ง Gain 1st ประกันสะสมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการออม Credit 1stประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อธุรกิจ และ Home 1stสำหรับลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง โดยมีกรมธรรม์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้าธนาคารกรุงเทพกว่า 1.2 ล้านราย พร้อมส่งมอบความ “ใส่ใจ” พัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ และ ส่งมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ตามไลฟ์สไตล์ภายใต้ BLA Happy Life Club
นายโชน โสภณพนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน Age of Happiness: Thank You Event for Our Valued Customers ว่า นอกจากเป็นการแสดงความขอบคุณลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ ที่ให้ความไว้วางใจในการวางแผนความคุ้มครองและการออมผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมาตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว ยังตอกย้ำถึงพลังความร่วมมือระหว่างสององค์กรที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เหมาะสมให้กับลูกค้าจนเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามาอย่างยาวนาน
นายโชนกล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพประกันชีวิต ได้มอบความคุ้มครองชีวิตและการออมให้กับลูกค้าธนาคารกรุงเทพ ผ่านผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม คือ ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อเพื่อปกป้องความเสี่ยงซึ่งมี 2 แบบคือ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต Credit 1st สำหรับคุ้มครองสินเชื่อธุรกิจ และ ผลิตภัณฑ์ Home 1st คุ้มครองสินเชื่ออยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์ Gain 1st ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และได้รับความไว้วางใจในการทำประกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกรุงเทพประกันชีวิตมีกรมธรรม์ที่ส่งมอบให้กับผู้เอาประกันภัยผ่านธนาคารกรุงเทพจำนวน 1.24 ล้านราย คิดเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้นมากกว่า 500,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Gain 1st ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการออมระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนดี ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งเบี้ยประกันชีวิตที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และผลตอบแทนจากกรมธรรม์ที่ยังได้รับการยกเว้นภาษี และที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง สามารถส่งต่อสู่ทายาทได้ โดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Gain 1st มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย ตั้งแต่ Gain 1st Speed Up ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่กำลังมองหาแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองและผลตอบแทนรายปีสูงถึงปีละ 10% หรือ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Gain 1st 525 (มีเงินปันผล) ที่เหมาะสำหรับผู้ต้องการออมเงินก้อน จนถึง Gain 1st Simple ที่สามารถออมเริ่มต้นเพียงเดือนละ 500 บาท คุ้มครองยาวนาน 15 ปี และล่าสุด ยังได้เปิดตัวแบบประกันใหม่ Gain 1st e-Savings 10/5 ซึ่งมีจุดเด่นที่ชำระเบี้ยสั้น 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี และการันตีผลตอบแทนปีละ 5% เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ลูกค้าธนาคารกรุงเทพที่ต้องการวางแผนความคุ้มครองและการออม
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีความใส่ใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ให้เป็นแบบประกันที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และมีเบี้ยประกันฯ ที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิดประกันชีวิตที่ใส่ใจและให้ความรู้สึกดี โดยธนาคารกรุงเทพมีส่วนสำคัญในการแนะนำเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต หรือ การสนับสนุนลูกค้าสินเชื่อที่ต้องการให้ธุรกิจและสินทรัพย์นั้นยังคงอยู่กับครอบครัวและทายาทได้ และไม่เป็นภาระให้กับคนรุ่นหลัง จึงขอถือโอกาสนี้ขอบคุณลูกค้าและธนาคารกรุงเทพ ที่ไว้วางใจให้กรุงเทพประกันชีวิตส่งมอบความคุ้มครองสู่ลูกค้าของธนาคารกรุงเทพทุกท่าน” นายโชนกล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า
ในปีที่ผ่านมากรุงเทพประกันชีวิตยังได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพในการขยายช่องทางการทำประกัน โดยลูกค้าธนาคารสามารถเลือกทำประกันชีวิตได้ทั้งที่สาขาของธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือ ทำประกันชีวิตด้วยตนเองได้อย่างสะดวกสบายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแอปพลิเคชัน Bualuang mBanking และในปีนี้ กรุงเทพประกันชีวิตยังได้จัดทำสิทธิประโยชน์ใหม่ 5 ด้าน สำหรับลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ ภายใต้ BLA Happy Life Club โดยมีสิทธิประโยชน์ดีๆ ในทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ
ด้านนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ กรุงเทพประกันชีวิต ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “3 Gens Solution” เช่น ผลิตภัณฑ์ Home 1st Extra ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีจุดเด่นในด้านการคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย และการเตรียมความคุ้มครองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่ครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยด้วย 44 โรคร้ายแรง เป็นต้น สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของธนาคารกรุงเทพ ที่จะเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” ของลูกค้าในทุก Generation ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความมั่นคงของครอบครัว การสั่งสมและส่งต่อ Wealth จากรุ่นสู่รุ่น ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการสืบทอดธุรกิจของครอบครัว และเหนืออื่นใด ธนาคารยังมุ่งมั่นดูแลลูกค้าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
“ผมขอขอบคุณ ลูกค้าที่มอบความไว้วางใจให้ธนาคารกรุงเทพและกรุงเทพประกันชีวิต ได้ดูแลความมั่นคงและธุรกิจของครอบครัวของท่านตลอดมา และเราพร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างเพื่อสนับสนุนลูกค้าทุกท่านให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินของครอบครัวและของธุรกิจ รวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยในอนาคต เรายังมีความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและบริการที่ดีเพื่อลูกค้าร่วมกัน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าธนาคารกรุงเทพทุกท่านประสบความสำเร็จในการวางแผนความคุ้มครองและการออมตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชาติศิริ กล่าวในที่สุด
จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อประชาชน บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนายนิยม มูลศรี (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการสาขาอุตรดิตถ์ เป็นผู้แทนบริษัทฯ มอบเครื่องกรองน้ำพกพา จำนวน 25 ชุด และน้ำดื่ม จำนวน 220 แพ็ก ให้แก่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในการป้องกันรักษาป่าและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีนายบทมากร ศรีสุวรรณ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นผู้แทนรับมอบ ณ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่13 (แพร่) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567
เอสซีจี ได้แต่งตั้ง “นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ” ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC คนใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
สำหรับนาย “นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ” คร่ำหวอดในธุรกิจปิโตรเคมีมานานกว่า 35 ปี โดยผ่านตำแหน่งบริหารสำคัญ ๆ ใน เอสซีจี และ SCGC หลายตำแหน่ง อาทิ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพาณิชย์ และรองผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจไวนิล เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC, Country Director – Vietnam, SCG เอสซีจี, กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี เพอร์ฟอร์มานซ์ เคมิคอลส์ จำกัด รวมทั้งตำแหน่งกรรมการในบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทอื่น ๆ ของ SCGC อีกหลายบริษัท
หัวเว่ยจัดงานประจำปีอย่างยิ่งใหญ่ "ไทยแลนด์ พาร์ทเนอร์ ซัมมิต 2024" ภายใต้ธีม “ความร่วมมือเพื่อยุคแห่งการแบ่งปัน (Joining Hands for a Shared Era)” ตอกย้ำความเชื่อมั่นของเหล่าพาร์ทเนอร์ในการจับมือไปพร้อมกันในประเทศไทย พร้อมประกาศเร่งเครื่องตลาด HUAWEI eKit และกลยุทธ์เสริมความแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรม สร้างแรงจูงใจให้พาร์ทเนอร์ เร่งความอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรมดึงเทคโนโลยีองค์กรขั้นสูง เสิร์ฟตลาดองค์กรในทุกระดับ
นายแชนด์ เฉิน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและการจัดการพาร์ทเนอร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ หัวเว่ย ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ อิงค์ ระบุว่าปริมาณยอดการใช้จ่ายด้านไอทีทั่วโลกในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น 6.8% และคาดว่ายอดการใช้จ่ายด้านไอทีในประเทศไทยจะมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก โดยจะมาจากกลุ่มธุรกิจบริการด้านไอทีซึ่งลงทุนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการดำเนินงานในองค์กร ขณะเดียวกัน หัวเว่ยยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่มีความยั่งยืนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสำหรับการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยปัจจุบัน หัวเว่ยมีพาร์ทเนอร์ที่อยู่ในตลาดระดับองค์กรทั่วโลกกว่า 40,000 ราย สำหรับในไทย บริษัทยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพาร์ทเนอร์สำคัญในอุตสาหกรรมไอซีทีทั้ง “วีเอสที อีซีเอส” และ “ซินเน็ค” ซึ่งช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทย ทั้งนี้ หัวเว่ยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและล้ำหน้าในด้านการสื่อสารข้อมูล ออพติคัล พื้นที่จัดเก็บข้อมูล และเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสําเร็จทางธุรกิจ และได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลและยุคอัจฉริยะ โดยหัวเว่ยจะยังคงทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อเร่งขับเคลื่อนระบบอัจฉริยะในภาคอุตสาหกรรม และยังอํานวยความสะดวกในการพัฒนาระบบดิจิทัลและเศรษฐกิจอัจฉริยะให้กับลูกค้าในประเทศไทยอีกด้วย”
นายวิล ชิล รองประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า บริษัทจะเน้นในด้านการทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ในทุกระดับ โดยการส่งเสริมทั้งการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงขั้นสูง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าในการทำงาน รวมถึงสนับสนุนการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกัน เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับองค์กร นอกจากนี้ ในปีนี้หัวเว่ยยังจะเดินหน้าตามแผนการขยายตลาดใหม่ในกลุ่มองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางขึ้นไป หลังได้มีการเปิดตัว "HUAWEI eKit" ซึ่งเป็นแบรนด์ย่อยที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการทำตลาดในกลุ่มเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ
"HUAWEI eKit เป็นอีกหนึ่งในแพลตฟอร์มสำคัญของเราที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของพาร์ทเนอร์ ในการเพิ่มโอกาสและช่องทางการนำเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเรามีรากฐานที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้วในตลาดองค์กรขนาดใหญ่ เป็นการเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เหมาะสมมาประยุกต์และทำราคาในระดับที่ธุรกิจเล็กก็เข้าถึงได้และใช้งานได้ไม่ซับซ้อน ถือเป็นการช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้ดีมากขึ้นด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีที่เทียบชั้นการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ แต่จะมีราคาที่จับต้องได้และใช้งานได้ง่าย" นายชิลกล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำ เปิดเผยว่า ในปีนี้วีเอสทีได้เตรียมพร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และทีมงานพร้อมทั้งออฟฟิศจัดจำหน่าย 11 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรองรับธุรกิจในกลุ่มคอมเมอร์เชียลและเอ็นเตอร์ไพรส์ที่เป็นธุรกิจฐานใหญ่ของบริษัท การขยายตัวของตลาด และการเติบโตขององค์กรขนาดย่อมที่เป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่ในประเทศไทย
สำหรับอุตสาหกรรมไอซีที หัวเว่ยเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ได้รับการยอมรับใช้งานอย่างแพร่หลายอันดับต้น ๆ และได้มีการทำงานร่วมกันกับบริษัทมาอย่างยาวนาน และล่าสุดบริษัทได้เข้าเป็นพาร์ทเนอร์หลักในการผลักดันตลาดดิสทริบิวชัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากในขณะนี้
"เราเป็นพาร์ทเนอร์กับหัวเว่ยมาอย่างยาวนาน ผ่านความท้าทายในธุรกิจมาหลายฤดูกาลกว่า 10 ปี และเราก็ยังมองเห็นสัญญาณที่ดียิ่งขึ้นในปีนี้ โดยหัวเว่ยก็ยังคงให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การพัฒนาทักษะของทีมงาน รวมไปถึงแรงจูงใจในการขายต่าง ๆ จากการเป็นพาร์ทเนอร์ในการผลักดันผลิตภัณฑ์ HUAWEI eKit ทำให้เรามีเครื่องมือและสินค้าที่เหมาะกับธุรกิจรายย่อยมากขึ้น และน่าจะส่งเสริมแผนการเติบโตธุรกิจให้กับเราได้เป็นอย่างดี” นายสมศักดิ์กล่าว
ขณะที่นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับซินเน็คเองในปีนี้มีแผนที่จะเน้นบริหารจัดการกลุ่มสินค้าให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นไปที่สินค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียลที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งหัวเว่ยถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตได้เป็นอย่างดีในกลุ่มสินค้าองค์กรสำหรับซินเน็ค และบริษัทก็จะยังเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยสินค้าและบริการที่ครบวงจร เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ทุกกลุ่ม รวมถึงในระดับองค์กรด้วยเช่นกัน
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับหัวเว่ย และเติบโตไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญของเรา ซึ่งเทคโนโลยีที่ดี ประกอบกับบริการที่ดี จะเป็นแกนหลักในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ภายใต้สโลแกน Trusted by Synnex ” นางสาวสุธิดากล่าว
หัวเว่ย ยึดมั่นที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางด้านดิจิทัลในประเทศไทย เป็นไปตามพันธกิจที่ว่า ‘เติบโตในประเทศไทย สนับสนุนประเทศไทย’ และ ‘นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง’ โดยในอนาคต หัวเว่ยจะยังคงเดินหน้าส่งมอบโซลูชันล้ำสมัยเพื่อช่วยส่งเสริมการเติบโต การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างความได้เปรียบทางด้านการแข่งขันทางธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมการทำงานร่วมกันในระดับท้องถิ่น โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยได้เดินหน้าเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งอาเซียนในอนาคต