ผสาน Soft Power ผลักดันผู้ประกอบการไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน

ชูกลยุทธ์ปี 2567 เร่งขยายพอร์ตสินเชื่อ SME และลูกค้ารายย่อย พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

มั่นใจปี 67 โตต่อเนื่อง เหตุนักท่องเที่ยวบูมหนุนโปรเจ็กต์เกี่ยวกับสนามบิน พร้อมรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนในบริษัทลูก

ในหัวข้อ “A Financial Approach to Climate Risk” โดยศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอนเกิล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2546

บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART) ผู้นำด้านการบริหารนิติบุคคลเพื่อการอยู่อาศัย ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ร่วมพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทางในสาขาบริหารนิติบุคคลเพื่อการอยู่อาศัย หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต คณะ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เจ้าแรกและที่เดียวในประเทศ ส่งต่อความเชี่ยวชาญด้านการบริหารนิติบุคคลเพื่อการอยู่อาศัย ด้วยมาตรฐานระดับสากล ผ่านการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมของการทำงานจริง พร้อมสัมผัสประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับทีมงานมากประสบการณ์ เพิ่มโอกาสการันตีมีงานทำ 100%  

โอเลย์ (OLAY) แบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในเครือบริษัท พีแอนด์จี (P&G) ร่วมฉลองมหกรรมลดยิ่งใหญ่ครั้งแรกของปี จับมือ ช้อปปี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเบอร์ 1[1] ครองใจนักช้อปชาวไทย ขนทัพไอเทมความงาม พร้อมดีลดีโดนใจการันตีความปังด้วยส่วนลดแบบไม่ยั้งกว่า 80% ในมหกรรม Shopee 3.3 ลดใหญ่ต้นปี ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์5 มีนาคมนี้เท่านั้น

โอเลย์ เตรียมส่งมอบปรากฏการณ์ความคุ้มครั้งยิ่งใหญ่กับหลากไอเทมความงามกว่า 100 รายการ เอาใจนักช้อป ให้ช้อปได้อย่างเพลิดเพลินใน มหกรรม Shopee 3.3 ลดใหญ่ต้นปี ไฮไลท์ด้วยส่วนลดสูงสุด 50% ลดทุกไอเทมจัดเต็มกว่าครั้งไหนๆ 

  • คืนกำไรแบบไม่ยั้งด้วยโค้ดส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,333 บาท[2] และ โค้ดส่งฟรีขั้นต่ำ 200 บาท[3] 
  • กิจกรรม Flash Sale ในวันที่ 3 - 5 มีนาคม 2567
  • ร่วมสนุกลุ้นรับส่วนลดเพิ่มเติมกับกิจกรรม Shopee Live ช้อปสนุกแถมได้โค้ดลับเฉพาะบนไลฟ์ ในวันที่ 3 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 0.00 น.

และเพื่อประสบการณ์การช้อปที่คุ้มค่าสูงสุด ก่อนชำระเงินลูกค้าสามารถกดเก็บโค้ดของ โอเลย์ (OLAY) ได้ที่หน้าร้าน และโค้ดส่วนลดของช้อปปี้จากหน้าแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็นโค้ดส่วนลด โค้ดส่งฟรี หรือโค้ดรับ Shopee Coins คืน นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถใช้ Shopee Coins เป็นส่วนลดเพิ่มเติม โดย 1 Shopee Coin จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท พร้อมเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์มากมายเมื่อชำระผ่าน ShopeePay

แฟนๆ โอเลย์ ห้ามพลาด! กับทัพผลิตภัณฑ์ความงามที่โอเลย์ขนขบวนเอาใจนักช้อป กว่า 100 รายการ พร้อมส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมมาให้คุณโดยเฉพาะใน Shopee 3.3 ลดใหญ่ต้นปี ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2567

ห้ามพลาด!! ติดตามทุกข่าวสารและความเคลื่อนไหว พร้อมโปรดีที่การันตีความคุ้มแบบสุดๆ ตลอดทั้งปี จาก โอเลย์ (OLAY) บน Shopee Mall หรือที่ https://shopee.co.th/olay_official_shop 


[1] อ้างอิงจากรายงาน Ecommerce in Southeast Asia 2566 ของ Momentum Works

[2] อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติมในหน้าร้านค้า

[3] อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติมในหน้าร้านค้า

โฉมหน้าระบบนิเวศการชำระของเอเชียแปซิฟิกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาลในตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนวิธีการชำระด้วยเงินสดเป็นระบบดิจิทัล และเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ และความสามารถของผู้บริโภคในการจ่ายและรับเงินไปอย่างสิ้นเชิง

ความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นตัวเร่งให้วิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลมีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ แพลตฟอร์มการสมัครสมาชิก การค้าออนไลน์และโซเชียลคอมเมิร์ซ และบริการด้านการเงินแบบ on-demand

ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ในปี 2567 นี้ จังหวะของการเปลี่ยนแปลงยังจะดำเนินอย่างต่อเนื่อง และขับเคลื่อนวิวัฒนาการของการชำระเงินในระบบดิจิทัลต่อไปเพราะทั้งผู้บริโภค และภาคธุรกิจต่างมองหาวิธีการชำระและรับชำระที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และไร้รอยต่อ ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยียังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเราคาดหวังว่าโซลูชันใหม่ ๆ จะถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น”

  1. การชำระไม่ใช่แค่เรื่องของวิธีการ แต่สำคัญที่เมื่อไร

เมื่อผู้บริโภคมีความคุ้นเคยกับการชำระแบบดิจิทัล ความสำเร็จจึงไม่ใช่เพียงแค่หาโซลูชันที่ตรงตามที่ผู้บริโภคต้องการ แต่สำคัญที่การนำเสนอโซลูชันนั้น ๆ ให้กับลูกค้าต้องเกิดขึ้นในเวลาที่ใช่

สิ่งนี้เป็นเสน่ห์ของการเงินแบบฝังตัว (embedded finance) คือการผสานบริการด้านการเงินเข้ากับแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ปัจจุบันแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถเสนอขายประกันแก่ผู้ซื้อที่จุดชำระเงิน ขณะที่บริการ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถแบ่งการชำระเป็นงวดได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าเว็บ หรือแอปชอปปิง

คล้ายคลึงกับเรื่องราวของดิจิทัลวอลเล็ตที่ทำให้ชีวิตของผู้ถือบัตรชำระเงินต่าง ๆ ง่ายดายขึ้นผ่านการชำระแบบดิจิทัล และโซลูชัน Mobile-as-a-Service (MaaS) ที่ผนวกการชำระเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผน จองตั๋ว และจ่ายค่าโดยสารการเดินทางได้ในที่เดียว

โอกาสในลักษณะนี้ยังปรากฏให้เห็นในการชำระแบบ B2B โดยวีซ่าและบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่าง BCG พบว่า ภายในปี 2568 การเงินแบบฝังตัวจะสร้างโอกาสทางการตลาดได้มากกว่า 242 พันล้านเหรียญสหรัฐแก่ผู้ให้บริการด้านการเงินทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB)

  1. โฉมหน้าการชำระเงินแบบ B2B จะถูกปรับให้เข้ากับผู้บริโภคยิ่งขึ้น

อีกไม่นานจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมโลกธุรกิจเมื่อคลื่นลูกใหม่ของผู้นำเจน Z และมิลเลนเนียลก้าวขึ้นมามีบทบาท พวกเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการชำระเงินแบบดิจิทัลที่ใช้งานง่าย และความคาดหวังของพวกเขานั่นเองที่ช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์และบริการการชำระเงิน B2B ให้มีโฉมหน้าและฟังก์ชั่นการใช้งานให้ง่ายต่อการใช้งานของผู้บริโภคยิ่งขึ้น ตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรธุรกิจเท่านั่น

มีสองพลังสำคัญที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างแรกคือการทำงานร่วมกัน ระบบที่ต่างกันจะสามารถทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อได้มากน้อยเพียงใด มันจำเป็นต้องมีนักพัฒนา ธุรกิจ และภาครัฐ มาร่วมมือกันและใช้งานการเชื่อมต่อโปรแกรมประยุกต์ APIs แบบเปิดที่สามารถรองรับวิธีการชำระแบบต่าง ๆ ได้ในแพลตฟอร์มเดียว เช่นเดียวกับองค์กรในเอเชียแปซิฟิกที่อีกไม่นานจะสามารถชำระเงินอย่างไร้รอยต่อบนแพลตฟอร์ม SAP ด้วยบัตรวีซ่าเพื่อธุรกิจ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับวิธีการชำระเงินหรือออกจากระบบอีกต่อไป

พลังอย่างที่สอง คือ ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นต่อโซลูชันการชำระเงินแบบ B2B ที่สามารถทำได้หลายอย่างในแพลตฟอร์มเดียว แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กเพราะ รวบรวมบริการต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน อาทิ การชำระเงิน การกู้ยืม และการจัดการใบแจ้งหนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการงานด้านการเงินที่สำคัญให้จบได้ในอินเตอร์เฟซเดียว

  1. ความเสี่ยงมีให้เห็นบ่อยขึ้น แต่จับพิรุธได้ยากขึ้น

การชำระเงินแบบดิจิทัลที่เติบโตขึ้นในเอเชียแปซิฟิกส่งผลให้อาชญากรรมทางไซเบอร์มีเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบ Generative AI ที่สร้างขึ้นบนโมเดลภาษาขนาดใหญ่เริ่มเลียนแบบการตอบสนองที่เหมือนมนุษย์ได้เนียนขึ้น และมิจฉาชีพสามารถใช้ความสามารถของมันไปสร้างอีเมลหลอกลวง และข้อความหลอกลวงแบบฟิชชิ่งโดยการใช้ภาษาที่ดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคจับพิรุธได้ยากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของการฉ้อโกงระบุตัวตน การยึดครองบัญชี และรูปแบบการโกงแบบ “ได้คืบจะเอาศอก” ที่นักต้มตุ๋นมักใช้ล่อเหยื่อด้วยการจ่ายเงินจำนวนไม่มากนักเพื่อซื้อใจเหยื่อ นอกจากนี้ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกมีความเชื่อมต่อกันมากขึ้น ความสุ่มเสี่ยงต่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย

ปัจจุบันวิธีการฉ้อโกงใหม่ ๆ มีหลายร้อยเล่มเกวียน ทำให้วิธีการเดิม ๆ ในการตรวจจับและป้องกันนั้นไม่เพียงพอ ข่าวดีก็คือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็เร่งเครื่องเพื่อตามกลโกงเหล่านี้ให้ทัน เทคโนโลยี Machine learning (ML) และ โซลูชัน AI อย่าง Visa’s Advanced Authorisation (ViAA) ของวีซ่า สามารถขจัดความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการทำธุรกรรมได้โดยการตรวจจับความผิดปกติและภัยคุกคามอย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ไม่มีทรัพยากรในการจัดการเรื่องเหล่านี้ด้วยตนเอง

ข่าวดีอีกเรื่องคือการยอมรับการชำระด้วยบัตรเวอร์ชวล (virtual card) ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้งานได้เหมือนบัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงินทั่ว ๆ ไปในกระเป๋าสตางค์ของคุณ แต่ใช้หมายเลขบัตรแบบใช้ครั้งเดียวและจํากัดเวลาในการชำระเงินแต่ละครั้ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้บัตรเวอร์ชวลแตกต่างจากบัตรทั่วไปคือมันมาพร้อมกับ Dynamic CVV2 (dCVV2)

บนบัตรพลาสติกเพื่อการชำระแบบมาตรฐานทั่วไปจะมีตัวเลข CVV2 จำนวน 3 หลักพิมพ์ลงบนด้านหลังของบัตร หากตัวเลขดังกล่าวถูกมิจฉาชีพล่วงรู้ ก็จะสามารถใช้บัตรและนำเลขกลับมาใช้ใหม่เพื่อทำธุรกรรมที่ฉ้อโกงได้ แต่ด้วย Dynamic CVV2 ค่าตัวเลขจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยระหว่างการชำระเงินออนไลน์ผู้ถือบัตรจะกรอกเลข Dynamic CVV2 (dCVV2) ปัจจุบัน แล้วหลังจากนั้นระบบ VisaNet จะทำการตรวจสอบรหัสด้วยฟังก์ชันการตรวจสอบสิทธิ์ dCVV2 Authenticate เพื่อยืนยันตัวตน โดยเทคโนโลยี dCVV2 นอกจากจะช่วยป้องกันการใช้ซ้ำของบัตรที่ถูกมิจฉาชีพล้วงข้อมูลแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันการโจรกรรมและลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องก้บการฉ้อโกงต่าง ๆ ได้อีกด้วย

  1. ธุรกิจ SMB มองไปยังอนาคต แต่ต้องการตัวช่วยสู่ความสำเร็จ

ในปี 2567 และปีต่อ ๆ ไป ภาคธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB) ในเอเชียแปซิฟิกจะยังประสบกับความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลได้สร้างการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจแบบเท่าเทียม ที่เจ้าของธุรกิจรายย่อยก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลกได้

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจใหม่ และธุรกิจ SMB เหล่านี้ในภาคอื่น ๆ อาจต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ ด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องรับเอาเทคโนโลยีที่ฉลาดและคุ้มค่าต่อการลงทุนมากขึ้นมาใช้งานด้วยเช่นกัน

หมายความว่า SMB จะช่างเลือกมากขึ้นในการยอมรับโซลูชันการชำระเงินในปี 2567 นี้ พวกเขาต้องการการชำระเงินแบบดิจิทัลที่สะดวก เชื่อถือได้ และไร้รอยต่อ ควบคู่ไปกับการขยายการทำธุรกิจไปต่างประเทศเติบโตขึ้น ส่งผลให้ SMB จะให้ความสำคัญกับโซลูชันที่ช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้นเป็นอันดับแรก

“โซลูชันการชำระเงินที่ใช้งานได้จริงและเหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจ SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ คือ บัตรเวอร์ชวล ซึ่งบัตรเวอร์ชวลเพื่อธุรกิจไม่จำเป็นต้องผลิต ถือเป็นความคุ้มทุนเพราะผู้ประกอบการสามารถขอบัตรเวอร์ชวลได้มากตามที่ต้องการ และลูกจ้างไม่จำเป็นต้องรอให้บัตรพลาสติกจัดส่งมาให้ บัตรเวอร์ชวลยังสามารถตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วและกำหนดวงเงินได้ตามต้องการ ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับธุรกิจ SME เพราะการชำระเงินไม่จำเป็นต้องรวมที่ศูนย์กลางและลูกจ้างสามารถทำการชำระได้อย่างอิสระ ขณะที่บริษัทยังคงควบคุมกระแสเงินสดได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย” ปุณณมาศ กล่าวเสริม

นอกจากนี้เรายังจะเห็นธุรกิจ SMB หันไปหาแหล่งเงินทุนที่คล่องตัวและยืดหยุ่นกันมากขึ้น เช่น บัตรที่เหมาะกับความต้องการของธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่น

เมื่อนวัตกรรมและการพัฒนาการชำระเงินยังคงขับเคลื่อนต่อไปในเอเชียแปซิฟิก สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือระบบนิเวศการชำระจะต้องอยู่ต้นแถว เพราะความรวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย ถือเป็นเรื่องสำคัญ เราหวังจะได้ทำงานร่วมกันทั่วทั้งระบบนิเวศทางการเงินเพื่อสร้างโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะช่วยพัฒนาภูมิทัศน์ของเอเชียแปซิฟิกไปด้วยกัน

เพิ่มความปลอดภัย อุ่นใจแก่ร้านค้าและผู้ใช้บริการอยู่เสมอ สำหรับค่าย 2C2P ผู้นำในการให้บริการระบบการชำระเงินออนไลน์ครบวงจรในประเทศไทยและอาเซียน โดยบอสใหญ่ พี่เต้ - ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด 2C2P เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริการชำระเงินออนไลน์ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลการชำระเงินผ่านบัตร PCI DSS version 4.0 (เวอร์ชั่นล่าสุด Level 1 สูงสุด) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่กำหนดขึ้นโดยบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินผ่านบัตรรายใหญ่ เวอร์ชั่นล่าสุด ระดับสูงสุด เน้นความเข้มข้นในควบคุมความเสี่ยงจากการฉ้อโกง รวมถึงป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในการรับชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์

“ตลอด 20 ปีในวงการรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทูซีทูพี ได้รับการรับรองมาตรฐาน PCI DSS (Level 1 สูงสุด) อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัย เช่น PCI-3DS, ISO27001, ISO27701, SOC2 Type2 and CSA STAR Level 2 Attestation สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์องค์กร 2C2P ที่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยสูงสุดในการเก็บรักษาข้อมูล การป้องกันการเข้าถึงข้อมูล และการควบคุมความเสี่ยงจากการฉ้อโกงในการใช้บัตรเครดิต และบัตรเดบิตที่ลูกค้าทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบของ 2C2P เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับร้านค้าผู้ใช้บริการ และลูกค้าจากทั่วโลก ว่าข้อมูลสำคัญจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย มีการควบคุม และป้องกันไม่รั่วไหลอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้สำหรับพันธมิตรรวมทั้งลูกค้าผู้ใช้บริการต่างมั่นใจใน 2C2P มาอย่างยาวนาน” นายปิยชาติ กล่าว

อนึ่ง PCI DSS หรือ The Payment Card Industry Data Security Standard (PCI DSS) คือมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ออกแบบมาสำหรับทุกองค์กรที่ รับ ประมวลผล จัดเก็บ และส่งต่อข้อมูลบัตรเครดิต เพื่อให้มั่นใจว่า หากได้ทำตามมาตรฐานแล้วจะทำให้ระบบขององค์กรมีความมั่นคงปลอดภัยและจะช่วยลดโอกาสในการรั่วไหลของข้อมูลบัตรเครดิต  

PCI DSS บริหารโดย PCI SSC หรือ สภามาตรฐานความปลอดภัยอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน PCI DSS Service Provider Level 1 ถือเป็นมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสูงสุดของข้อมูลของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน โดยมาตรฐาน PCI-DSS เวอร์ชั่น 4.0 ล่าสุด จะบังคับใช้ตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2024 เป็นต้นไป 

หลายคนกำลังสนใจปัญหาสุขภาพที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 แต่จะมีใครรู้ไหมว่าอันตรายจาก “ฝุ่นใยหิน” มีความรุนแรงที่มากกว่า และแฝงมาในการใช้ชีวิตประจำวันของเราอย่างคาดไม่ถึง

“ฝุ่นใยหิน” มาจากสิ่งต่าง ๆ รอบกาย ที่มีส่วนผสมจากแร่ใยหินในการผลิต โดยอุตสาหกรรมที่มีการใช้แร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องทนความร้อน ท่อซีเมนต์ใยหิน และท่อน้ำประปา, ผลิตภัณฑ์พลาสติก กระเบื้องปูพื้นไวนิล, พลาสติกขึ้นรูปต่าง ๆ และกล่องพลาสติกบรรจุแบตเตอรี่, กระดาษแร่ใยหิน และผลิตภัณฑ์เส้นใยอัดแน่น, ผ้าเบรค คลัทช์ สิ่งทอที่ทำด้วยแร่ใยหิน เช่น ชุดป้องกันไฟ, ฉนวนกันความร้อน เช่น ท่อน้ำร้อน หม้อไอน้ำ และฉนวนหุ้มคานเหล็ก ในอาคารสูง เพื่อป้องกันการขยายตัวของเหล็ก ในกรณีเกิดเพลิงไหม้, ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น สารยึดในยางมะตอย วัตถุดิบในการทำหินเจียร และปะเก็น

เราสัมผัสแร่ใยหินได้อย่างไร

โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักได้รับสัมผัสแร่ใยหินจากการสูดดมที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศเข้าไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังอาจจะได้รับสารปนเปื้อนจากการสลายตัวของใยหินตามธรรมชาติ แหล่งทิ้งขยะใยหิน หรือท่อซีเมนต์ใยหินที่มีการเสื่อมสภาพ และที่น่ากังวลที่สุดก็คือ บุคคลที่ต้องทำงานในอุตสาหกรรมที่ใช้แร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ เช่น คนงานเหมืองแร่ใยหิน คนงานโรงงานผลิตใยหิน คนงานอุตสาหกรรมที่ใช้ใยหินเป็นวัตถุดิบ คนงานก่อสร้างที่ต้องตัดเจียรกระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องปูพื้น หรือรื้อถอนอาคารที่มีวัสดุที่มีใยหินเป็นส่วนประกอบ คนงานอุตสาหกรรมรถยนต์ ช่างยนต์ในขณะเปลี่ยนผ้าเบรคหรือคลัทช์ คนงานที่ทำหน้าที่จัดการขยะที่มีใยหินเป็นส่วนประกอบ เป็นต้น ที่สำคัญบุคคลเหล่านี้สามารถนำสารปนเปื้อนของแร่ใยหินกลับมาสู่ครอบครัวและบุคคลในบ้านได้อีกด้วย

ภัยมืดจากแร่ใยหิน

หากบอกว่าการสัมผัสแร่ใยหิน มีผลทำให้ผู้สัมผัสในระยะเวลานาน ๆ อาจกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดได้ คงทำให้หลาย ๆ คนเริ่มเกิดความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากแร่ใยหิน

“ใยหินทุกประเภทเป็นสารก่อมะเร็งในคน” นี่คือ ข้อสรุปของสถาบันวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (The International Agency for Research on Cancer, IARC) จากการศึกษาทบทวนงานวิจัยของนักวิชาการจากทั่วโลก ทั้งการศึกษาทางระบาดวิทยาในคน และการศึกษาในสัตว์ทดลองสถาบันวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติจัดแร่ใยหินทุกกลุ่มย่อยเป็นสารก่อมะเร็ง เพื่อสรุปว่าใยหินทุกประเภทเป็นสารก่อมะเร็งในคน รวมถึงใยหินไครโซไทล์ที่ยังมีการใช้ในประเทศไทยในขณะนี้ด้วย

แร่ใยหินก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพหลากหลาย ได้แก่ โรคปอดอักเสบจากใยหินหรือแอสเบสโตซิส (asbestosis) โรคหรือความผิดปกติของเยื่อหุ้มปอด (pleural thickening, pleural plague) โรคมะเร็งปอด (lung cancer) และโรคมะเร็งของเยื่อหุ้มปอด (mesothelioma) เป็นจุดหรือก้อนในปอด และโรคมะเร็งกล่องเสียง

จากการศึกษาดังกล่าวพบว่าคนงานกลุ่มที่ทำงานสัมผัสใยหินไครโซไทล์ดังกล่าวเกิด/เสียชีวิตจากมะเร็งประเภทต่าง ๆ รวมถึง มะเร็งปอด และมะเร็งเยื่อหุ้มปอดมากกว่าคนทั่วไป ข้อมูลดังกล่าวทำให้สถาบันวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติสรุปว่าใยหินทุกประเภทเป็นสารก่อมะเร็งในคนในปี พ.ศ. 2555

จะเห็นได้ว่าฝุ่นใยหินวนเวียนอยู่ใกล้ตัวเราจนบางครั้งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องทำงานสัมผัสกับแร่ใยหินโดยตรง ยิ่งเสี่ยงอันตรายมากที่สุด ดังนั้นจึงควรเร่งดำเนินการให้ยกเลิกการนำเข้า ผลิต และจำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบทุกชนิด โดยไม่ต้องรอให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากใยหินเพิ่มขึ้นมาอีก และนี่คือเหตุผลที่ทำไมทุกคนต้องหันมาป้องกันและรณรงค์ให้เกิดการยกเลิกการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรมต่าง ๆ


ข้อมูลอ้างอิง 

  • บทความ ใยหินไครโซไทล์กับสุขภาพ, แร่ใยหินกับสุขภาพ โดย ศ.นพ.สุรศักดิ์ บูรณตรีเวทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • บทความ โรคปอดเหตุใยหิน โดย รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล

FWD ประกันชีวิต ต่อยอดแบรนด์แคมเปญ ใช้ข้อมูลความสนใจของผู้คน พร้อมชวนเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ส่งต่อเรื่องราวความสุขและความสนุกในวัยเด็ก เป็นแรงบันดาลใจผ่านช่องทางออนไลน์ ชวนทุกคนไปใช้ชีวิตให้เหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้

นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) “FWD ประกันชีวิต เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ FWD PlayGrown สนามผู้ใหญ่เล่น ไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ ซึ่งในครั้งนี้เราสื่อสารความหมายในแบรนด์ของเรา ผ่านการชวนให้ทุกคนก้าวข้ามความกังวล ออกไปเล่นกับสนามผู้ใหญ่เล่น หรือ PlayGrown ซึ่งส่งผลให้ brand awareness เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนที่ผ่านมา”

จากผลตอบรับของการรับรู้แบรนด์ที่เพิ่มขึ้น และการทำงานสื่อสารแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้คน ในครั้งนี้เราได้หยิบผลสำรวจกิจกรรมที่คนไทยช่วงอายุ 20-59 ปี สนใจมากที่สุด มาเป็นเรื่องราวในการสื่อสารให้ตรงใจ ซึ่งพบว่า กิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ การกินบุฟเฟ่ต์ การวิ่งออกกำลังกาย การเต้นรำ และการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว เราจึงได้นำผลมาต่อยอดสร้างเป็นสื่อเพื่อใช้ในการสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์แคมเปญในครั้งนี้

โดยนำเสนอเรื่องราวที่ช่วยสร้าง inspiration จากความสุขในวัยเด็กของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ทั้งสายกีฬา สายไลฟ์สไตล์ สายท่องเที่ยว และสายครอบครัว อาทิ แอม - ชีวิตนอกเส้นของ Ampossible.th (@ampossible.th) ที่มีความฝันอยากโตขึ้นเป็นเจ้าของกิจการจากการเล่นของเล่นที่ชอบ ธนายุทธ เติมประยูร (@pure_taichifit) หนุ่มมวยจีน กล้ามแน่น ที่ฝึกฝนตัวเองทำในสิ่งที่ชอบจากการดูหนังบู๊ และมิวกี้ (@milky_chay) เน็ตไอดอลสาวเมืองเชียงใหม่ ที่ชีวิตวัยเด็กฝันอยากจะออกไปท่องเที่ยว เปิดโลกกว้าง รวมทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์คนอื่นๆ ที่จะมาร่วมแชร์สิ่งที่คิดอยากจะทำและความฝันในวัยเด็ก  และส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตเหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้

เพราะ FWD ประกันชีวิต เป็นแบรนด์ที่แตกต่าง โดยเราเลือกเล่าเรื่องราวของประกันชีวิตในแง่บวก เพื่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ สำหรับแบรนด์แคมเปญตัวใหม่ของปี 2567 จึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ย้อนมองกลับไปในความตั้งใจในวัยเด็ก สนับสนุนให้ทุกคนได้ลองกลับไปใช้ชีวิตให้เหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้”  นางสาวปวริศา กล่าวทิ้งท้าย

X

Right Click

No right click